ตอนที่ 3207

War sovereign Soaring The Heavens

หลังผ่านไป 100 ปี ต้วนหลิงเทียนที่กลับเข้ามายังแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงอีกครั้ง รู้สึกห่างเหินไม่คุ้นเคยราวกับมันเปลี่ยนไปคนละโลก

 

เมื่อต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อมาปรากฏตัวในเขตปลอดภัยแห่งหนึ่งในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง แน่นอนว่าย่อมเป็นจุดสนใจทันที และสาเหตุก็ใช่ใดอื่น เป็นฮ่วนเอ๋อ

 

“มารดาเรา…ไฉนนางงดงามได้ถึงเพียงนั้นกัน!!”

 

“อา เกิดมาชั่วชีวิตข้ามิเคพบสตรีเลอโฉมเช่นนางมาก่อน…รูปโฉมนางช่างไร้ที่ใดให้ตำหนิจริงๆ!”

 

“ข้าว่าสตรีนางนี้ ต่อให้เป็นฮ่วนเอ๋อเมี่อร้อยปีก่อน ก็ไม่มีทางงดงามเทียบเท่าได้กระมัง!?”

 

 

นอกจากคนที่อยู่มานานนับหมื่นปีแล้ว บุรุษหลายคนที่อายุไม่กี่พันอดไม่ได้ที่จะให้ความสนใจกับฮ่วนเอ๋อ

 

“นางคือฮ่วนเอ๋อ!!”

 

ตอนนี้เองพลันมีเสียงหนึ่งโพล่งดังขึ้น “เมื่อ100 ปีก่อนข้าถูกนางทุบตีจนต้องทำลายป้ายออกไป ข้าจดจำนางได้ไม่มีววันลืม!”

 

ที่โพล่งออกมาเป็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง สีหน้าแววตาของมันฉายชัดถึงความหวาดกลัว

 

“นั่น เซียวหงคุน!”

 

พริบตาก็มีคนที่จดจำชายวัยกลางคนที่โพล่งดังขึ้นมาได้ จึงเอ่ยนามมันออกมาทันที

 

และนามเซียวหงคุนก็มีชื่อเสียงในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงไม่น้อย อีกฝ่ายมักติดอยู่ใน 30 อันดับแรกเสมอ

 

ตัวตนเช่นนี้ ส่วนใหญ่แล้วผู้คนจะรู้จักชื่อ

 

“ที่แท้นางก็คือฮ่วนเอ๋อคนนั้นนี่เอง!”

 

“ว่าแต่นางไม่ได้ปรากฏตัวออกมาร้อยปีแล้วมิใช่หรือ?”

 

“ข้ายังจำได้ว่าเมื่อร้อยปีก่อน อายุของนางยังไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ แต่นางก็ร้ายกาจขนาดนั้นแล้ว…ตอนนี้พอผ่านไปร้อยปี ไม่ทราบนางจะร้ายกาจขึ้นสักเพียงใด”

 

“บอกตามตรงหากนางไม่เข้ามา ข้าก็หลงคิดว่านางน่าจะทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันอมตะไปแล้ว…แต่ในเมื่อนางเข้ามาแบบนี้ ด่านพลังของนางอยย่างน้อยๆก็ต้องเป็นราชาอมตะ 10 ทิศ!”

 

“ในอดีตตอนนางเป็นราชาอมตะ 6 ผสานนางก็ติดอยู่ในอันดับที่ 15…ตอนนี้นางสมควรกลายเป็นราชาอมตะ 10 ทิศ แถมร้อยปีผ่านไป กฏมิติของนางไม่ทราบเข้าใจไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ข้าเกรงว่าอย่างน้อยๆพลังฝีมือของนางก็ต้องทัดเทียมเหยียนหรูอวี้!”

 

“อาจเป็นได้”

 

 

เนื่องจากผลงานในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงเมื่อ 100 ปีก่อนของฮ่วนเอ๋อมันน่าทึ่งเกินไป หลายคนจึงเชื่อว่านางที่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากผ่านไป 100 ปีต้องทวีความร้ายกาจมากขึ้นแน่นอน!

 

ท่ามกลางสายตาทุกผู้คน ต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อก็ไปหยิบป้ายหยกประจำตัว จากนั้นก็พากันออกนอกเขตปลอดภัยไป

 

ดุจเดียวกับครั้งก่อน ขณะออกจากเขตปลอดภัยทั้งคู่ก็ไม่ได้เปิดใช้อาคมล่องหนในป้ายหยกประจำตัว

 

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครกล้าลงมือจู่โจมทั้งคู่อีกต่อไป ทั้งหมดเพียงจับตามองทั้งคู่เหินร่างจากไปอย่างเงียบงัน เพราะเรื่องราวเมื่อ 100 กว่าปีก่อนเป็นอุทาหรณ์สอนใจอย่างดี จึงไม่มีใครคิดจะเดินซ้ำรอยเดิม

 

ด้านนอกเขตปลอดภัย เหล่าผู้ที่ซุ่มตัวรอลงมือจัดการเหยื่อที่ผ่านไปมา ก็ไม่มีใครลงมือเช่นกัน เพราะสายที่อยู่ในเขตปลอดภัยก็เร่งส่งข้อความแจ้งมาถึงแต่แรก จึงอยู่อย่างเรียบๆร้อยๆไม่กล้าวู่วามลงมือ

 

ด้วยเหตุนี้ การออกจากเขตปลอดภัยของต้วนหลิงเทียนกับอ่วนเอ๋อก็สงบราบรื่น ไม่เห็นแม้แต่เงาของผู้ใด ราวทุกคนหายตัวไปหมด

 

“ฮ่วนเอ๋อ เป้าหมายของพวกเรารอบนี้ก็คือติดอยู่ในอันดับที่ 31 ถึง 100 ก็พอ…เพราะในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงตอนนี้ คงมีแต่แดนลับสมบัติระดับ 3 เท่านั้นที่สร้างแรงกดดันให้เจ้าได้มากพอ”

 

ต้วนหลิงเทียเอ่กับฮ่วนเอ๋อ

 

ด้วยเหตุนี้ ต้วนหลิงเทียนถึงไม่ได้แลดูกังวลอะไรแม้จะไม่พบเจอใครให้เก็บคะแนน

 

ไฉนเขาถึงได้ตัดสินใจเข้าแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงอีกครั้ง ก่อนที่จะไปยังอวี้หวงเทียนนั้น ทั้งหมดเพราะคิดให้ฮ่วนเอ๋อหาโอกาสทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันอมตะ

 

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อกำลังออกเดินทางอย่างสบายๆไม่รีบไม่ร้อนในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง จางจินอี้ในนามตงเยวี่ยก็ได้ออกเข่นฆ่าผู้คนเป็นผักปลา เรียกว่าพบเทพฆ่าเทพพบพระสงฆ์ฆ่าพระสงฆ์!

 

อันดับของมันก็กำลังพุ่งทะยานขึ้นด้วยความรวดเร็ว

 

หลังจากเข้ามาได้เพียงเดือนเดียว มันก็ติดอยู่ในอันดับที่ 39 แล้ว

 

“หืม?”

 

ขณะที่มันกำลังจะค้นหาเป้าหมายต่อไป มันที่ลองตรวจสอบอันดับของตัวเองในป้ายดู ก็พบเจอกับนามอันคุ้นเคยหนึ่ง เป็นนามที่มันเฝ้ารอจะเห็นมาตลอดเวลา 100 ปี

 

ฮ่วนเอ๋อ!

 

อันดับที่ 96!

 

“นางเข้ามาแล้ว!?”

 

ลูกตาจางจินอี้หดเล็กลงแทบปิด ใบหน้าเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจไม่น้อย “ครั้งสุดท้ายที่ข้าคิดเข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงบัดซบนี่ เจ้ากลับปรากฏตัวขึ้นงั้นเหรอ?”

 

“ฮ่าๆๆ…ดูเหมือนว่ากระทั่งทวยเทพยังช่วยเหลือข้า!!”

 

มันเฝ้ารอสตรีนางนี้มาร้อยปีแล้ว!

 

ในที่สุดนางก็ปรากฏตัวขึ้นเสียที!

 

“ข้าไม่อาจรีบไต่อันดับได้อีก…รอให้อันดับของนางกระเตื้องขึ้นมาจนแซงงข้าไปก่อน และข้าค่อยพยายามรักษาอันดับให้อยู่ในช่วงเดียวกับนาง”

 

จางจินอี้ลอบกล่าว

 

ตอนนี้จางจินอี้ไม่ได้รีบร้อนอะไร ทั้งไม่ได้ลืมความตั้งใจเดิม จึงไม่คิดจะไต่อันดับอะไรอีกต่อไป

 

พริบตาวันเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปอีกครึ่งเดือน

 

อันดับของฮ่วนเอ๋อก็กระเตื้องขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 82 แล้ว ขณะเดียวกันด้านต้วนหลิงเทียนก้อยู่ในอันดับที่ 89

 

“ยังอีก…”

 

จางจินอี้ได้มาซ่อนตัวอยู่ในมุมหนึ่งของแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง ที่นี่มักมีผู้คนน้อยคนนแวะเวียนผ่านมา และถึงใครจะผ่านมา จางจินอี้ก็ไม่ฆ่า ทั้งไม่กำจัดคู่ต่อสู้ เพียงทำให้คู่ต่อสู้หวาดกลัวจนรีบหนีไป

 

ด้วยเหตุนี้ในเวลาแค่ครึ่งเดือนอันดับของมันจึงร่วงตกมาจากอันดับที่ 39 มาอยู่ในอันดับที่ 46

 

อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ร้อนรนอะไร เพียงเฝ้ารออย่างเงียบงัน

 

มันรอมาร้อยปีแล้ว กะอีแค่รออีกไม่ถึงปีไฉนจะทำไม่ได้?

 

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

เดือนแล้วเดือนเล่าดุจห้วงเวลาชั่ววพริบตา ไปๆมาๆรู้ตัวอีกทีก็เหลือเวลาอีกแค่ 1 เดือนก่อนที่อันดับในตารางจะถูกล้างใหม่แล้ว

 

“หืม?”

 

บัดนี้จางจินอี้ก็ได้พบว่าอันดับของต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อได้หยุดลงใน 40 อันดับแรกเท่านั้น

 

6 เดือนก่อนทั้งคู่ก็มีอันดับประมาณนี้ และตอนนี้ก็ยังมีอันดับประมาณนี้ไม่เปลี่ยนแปลง

 

ฮ่วนเอ๋ออยู่ในอันดับที่ 35

 

ส่วนต้วนหลิงเทียนอยู่ในอันดับที่ 37

 

“พวกมัน…คงไม่ใช่คนอื่นมาสวมรอยหรอกนะ?”

 

พอคิดถึงุจดนี้ จางจินอี้ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วย่นยู่

 

ร้อยปีที่แล้ว คนที่สามารถติดอยู่ในอันดับที่ 15 ได้…ไฉนวันนี้กลับไม่แม้แต่จะติดอยู่ใน 30 อันดับแรก?

 

“ช่างเถอะ พวกมันจะจริงหรือหลอกเดี๋ยวก็รู้ สุดท้ายอันดับในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงก็ไม่มีความหมายสำหรับข้า เช่นนั้นเข้าไปแดนลับสมบัติระดับ 3 พร้อมพวกมันยังจะนับเป็นอะไร”

 

“หากพวกมันไม่ใช่ต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อตัวจริง…เช่นนั้นก็ให้พวกมันชดใช้ราคาความโง่เขลาครั้งนี้ด้วยชีวิตเสีย!”

 

สองตาจางจินอี้ทอประกายเยยียบเย็นวูบวาบ ใบหน้าฉายชัดถึงเจตนาฆ่าฟัน ราวกับจะกลืนกินเลือดเนื้อผู้คน

 

ฟุ่บ!

 

ขณะเดียวกันจางจินอี้ก็เริ่มพุ่งร่างออกจากที่ซ่อน และคิดไปเข่นฆ่าหาคะแนนในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง

 

เพราะคะแนนสะสมในปัจจุบันของมัน ไม่พอให้ติดอยู่ใน 100 อันดับแรกอีกต่อไปแล้ว…

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยพลังฝีมือของจางจินอี้ แม้จะเหลือเวลาเพียงแค่ 1 เดือน มันก็สามารถเข่นฆ่าจนติดอยู่ใน 100 อันดับแรกได้อย่างง่ายดาย

 

 

นิกายวิถีวายุอัสนี

 

หอคุมกฏ

 

“สตรีนามว่าฮ่วนเอ๋อ ปรากฏตัวขึ้นแล้วรึ?”

 

รองจ้าวหอคุมกฏ จวินฉงซาน พอได้รับข่าวดังกล่าวสองตาก็ทอประกายสว่างจ้าขึ้นมาทันที แต่ไม่นานก็เริ่มหม่นแส คิ้วยังขมวดย่นเป็นปม “แต่อยู่ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงเกือบปีแล้ว แต่อันดับยังอยู่ที่ 30 กว่าๆ?”

 

“ชยหนุ่มนามต้วนหลิงเทียนข้างกาย ก็ติดอยู่ใน 40 อันดับแรกเท่านั้นเหมือนกัน?”

 

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ไฉนร้อยปีผ่านไป…พวกมันไม่ก้าวหน้าแต่กลับถดถอยลง?”

 

สุดท้ายจวินฉงซานก็ได้แต่ตัดสินไปว่า…

 

สิบในสิบสตรีนามฮ่วนเอ๋อที่ปรากฏขึ้นรอบนี้เป็นตัวปลอม

 

“สตรีนามฮ่วนเอ๋อนั่นเมื่อร้อยปีก่อนทั้งๆที่นางยังมีอายุไม่ถึงร้อยปี พลังฝีมือก็ร้ายกาจขนาดนั้นแล้ว…ตอนนี้เวลาผ่านไปอีกร้อยปี พลังฝีมือของนางต้องก้าวหน้าขึ้นครั้งใหญ่แน่นอน กระทั่งเหยียนหรูอวี้อาจจะไม่ใช่คู่มือของนางแล้วด้วยซ้ำ”

 

“เผลอๆตอนนี้นางอาจจะทะลวงไปถึงขอบเขตจอมราชันอมตะไปแล้วก็เป็นได้”

 

“วั่งเฉิน ชิวเหอ…ปู่ไม่เอาไหน ไม่อาจล้างแค้นให้พวกเจ้าได้แล้ว…”

 

ถึงแม้ว่าจวินฉงซานจะยังคงมีความเกลียดชังล้นใจ แต่มันก็รู้ตัวดี…ว่าคงเป็นเรื่องยากสำหรับมัน ที่จะล้างแค้นให้หลานทั้งสองที่ถูกผู้อื่นเข่นฆ่าได้!

 

“เรียนรองจ้าวหอคุมกฏ มีศิษย์หลักคนหนึ่งมาขอเข้าพบท่านขอรับ!”

 

ทว่าทันใดนั้นเองพลันมีเสียงรายงานหนึ่งดังขึ้นปลุกสติของจวินฉงซาน พอกลับมารู้สึกตัวมันก็บอกให้พาตัวศิษย์หลักที่ว่าเข้ามา

 

“คารวะรองจ้าวหอคุมกฏ”

 

ไม่นานศิษย์หลักดังกล่าวก็เข้ามาคารวะทักทายอย่างเรียบๆร้อยๆ

 

“เจ้ามาขอพบข้า มีเรื่องอันใดหรือ?”

 

จวินฉงซานเอ่ยถามเสียงเรียบ ตอนนี้มันได้ขจัดความเศร้าโศกบนใบหน้าอกไปหมดสิ้น แลดูเหมือนคนปกติทั่วไป

 

“เรียนท่านรองจ้าวหอ เมื่อร้อยปีก่อนข้าถูกสตรีนามฮ่วนเอ๋อจัดการ…คราวนี้ข้าถูกต้วนหลิงเทียนที่อยู่ข้างกายนางจัดการ”

 

ศิษย์หลักคนนั้นกล่าวรายงานเสียงดังฉะฉาน “ข้าจึงมารายยงานท่านรองจ้าวหอให้ทราบโดยเฉพาะ…ว่าพวกมันเข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงอีกครั้งแล้ว…”

 

“อันใด!?”

 

จวินฉงซานที่ปักใจไปแล้วว่าต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อตอนนี้สมควรเป็นตัวปลอม พอมาได้ยินวาจาของศิษย์หลักเบื้องหน้า ลูกตามันก็ฉายแสงจ้าทันที “เจ้าแน่ใจหรือว่าพวกมันคือต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อตัวจริง…ไม่ใช่ผู้อื่นปลอมชื่อ?!”

 

“ข้ามั่นใจ”

 

ศิษย์หลักพยักหน้ารับแข็งขัน “เมื่อร้อยปีก่อนข้าถูกพวกมันจัดการ…ไหนเลยข้าจะจำหน้าพวกมันผิดพลาดได้”

 

“แล้วเจ้าไม่เห็นรึ…ว่าตอนนี้อันดับของพวกมันต่ำต้อยยกว่าครั้งก่อนมาก!”

 

จวินฉงซานเอ่ยถามเสียงหนัก

 

“สำหรับเรื่องนี้ข้าก็ไม่แน่ใจ…บางทีพวกมันอาจจะอยากเข้าแดนลับสมบัติระดับ 3 ก็เป็นได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วในประวัติศาสตร์ของแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง ก็มียอดฝีมือขอบเขตราชาอมตะ 10 ทิศที่ทรงพลังมากมาย จงใจลดอันดับของตัวเองเพื่อเข้าสู่แดนลับสมบัติระดับ 3 โดยเฉพาะ”

 

ศิษย์หลักกล่าว

 

และวาจาของมันก็ทำให้สองตาจวินฉงซานสว่งวาบทันที จากนั้นการตัดสินใจอันกล้าหาญและบ้าบิ้นหนึ่งที่มันเคยตัดสินใจไว้นานแล้วพลันปรากฏขึ้นในใจของมันอีกครั้ง

 

“อย่าให้ข้ารู้ภายหลังว่าเจ้าโกหกข้า…หาไม่แล้วข้าไม่มีวันปล่อยเจ้าไปง่ายๆ!”

 

จวินฉงซานมองจ้องศิษย์หลักตาเขม็ง หมายข่มขู่เพื่อดูท่าทีอีกฝ่าย แต่พอพบว่าอีกฝ่ายกล้าสบตามันตรงๆโดยไม่หวาดกลัวใดๆ มันก็ให้ศิษย์หลักดังกล่าวจากไปอย่างพึงพอใจ

 

“นับว่าฟ้ายังเมตตาข้าอยู่…วั่งเฉิน ชิวเหอ ปู่มีหนทางล้างแค้นให้พวกเจ้าแล้ว”

 

จวินวั่งเฉินกล่าวพึมพำกับตัวเบาๆ ในแววตาฉายประกายมุ่งมั่นแน่วแน่ประการหนึ่ง

 

ในเวลาต่อมา มันก็สะบัดมือเรียกหลอดแก้วบรรจุน้ำยาสีดำเปล่งแสงทมิฬสลัวๆออกมาหลอดหนึ่ง จากนั้นมันก็เปิดจุกแล้วกลืนน้ำยาสีดำดังกล่าวลงไปทันที! ทำให้พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดทั่วร่างบังเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พลังอำนาจค่อยๆถดถอยลง!!

 

จากจอมราชันอมตะ 1 ต้นกำเนิด ในเวลาไม่กี่ชั่วยามก็ถดถอยกลับมาอยู่ในขอบเขตราชาอมตะ 10 ทิศ!

 

“นับว่าใช้งานได้จริงๆ…ตอนนี้แม้พลังฝึกปรือของข้าจักเป็นราชาอมตะ 10 ทิศ แต่อย่างไรข้าก็เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งไฟครบทั้ง 9 ประการแถมยังบรรลุความเข้าใจถึงขั้นความสำเร็จเล็กน้อยแล้ว 4 ประการ กระทั่งเหยียนหรูอวี้นั่นก็ยังไม่ใช่คู่มือข้า!”

 

“หากสตรีนามฮ่วนเอ๋อนั่นแข็งแกร่งกว่าข้า เช่นนั้นก็แค่หนีนางออกมาเสีย…แต่หากนางอ่อนด้อยกว่า เช่นนั้นแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงจักเป็นที่ฝังร่างนาง!!”

 

ดวงตาจวินฉงซานทอแสงเย็นวูบวาบไม่หยุด จากนั้นมันก็หยิบจานค่ายกลออกมาเปิดใช้งาน เข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงทันที!