ตึบ!
ร่างของจางไคหยุนนั้นตกลงกับพื้นอย่างหนักหน่วงจนทำให้คนทั้งหลายได้แต่ต้องอ้าปากค้าง
ตาย?
ก่อนนั้นมันช่างมีพลังวิญญาณที่รุนแรงล้ำ!
แต่เวลานี้พวกเขานั้นกลับไม่อาจสัมผัสพลังวิญญาณใดๆ ได้แม้แต่น้อยแต่ตัวจางไคหยุนนั้นกลับตายลง
จักรพรรดิเซียนคนหนึ่งกลับตายลงง่ายๆ เช่นนั้น
ได้ยินว่าเย่หยวนนั้นมีเขาแห่งถงเทียนอยู่ในมือมันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายคิดอยากลองเสี่ยง
แต่เวลานี้พวกเขาต้องหยุดความคิดตัวเองลงสิ้นเชิง
อันตรายเกินไป
วรยุทธวิญญาณของพันธมิตรโอสถนั้นมันจะมาเทียบอะไรกับกำเนิดเทพของเผ่าวิญญาณได้กัน?
ก็จริงที่ว่าเย่หยวนนั้นอ่อนแอลงไปมากแล้วแต่การสังหารคนระดับจางไคหยุนนั้นมันช่างง่ายดายเสียเหลือเกิน
“ไปบอกพันธมิตรโอสถมันเสียว่าข้าเย่หยวน กลับมาแล้ว”
เย่หยวนนั้นมองหน้าคนทั้งหลายครั้งหนึ่งก่อนจะเดินหน้ากลับลงมหาพิภพถงเทียนไป
ไม่นานข่าวเรื่องนี้มันก็ได้แพร่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว
ในห้ายอดแดนสวรรค์นั้นมันเกิดความโกลาหลขึ้นมาทันที!
จักรพรรดิเที่ยงนั้นคือตัวตนที่เป็นได้แค่ตำนานบนทวีปพิรุณใส
แต่ว่าจักรพรรดิเที่ยงคนแรกของทวีปพิรุณใสนั้นกลับถูกเย่หยวนไล่ไปจนหัวซุกหัวซุน!
เย่หยวนเจ้าศาลาโอสถผู้ทำให้เกิดสงครามโอสถขึ้นมาครั้งหนึ่งนั้นมันกลับยังไม่ตายลง!
เขากลับมาแล้ว!
นอกจากนั้นเขายังเติบโตขึ้นไปจนถึงขั้นสังหารจักรพรรดิเซียนลงได้ในอึดใจ!
หลายค่ายสำนักในห้ายอดแดนสวรรค์นั้นต่างรีบเรียกประชุมผู้นำระดับสูงกันทันที
การเป็นหมากใต้เท้าของพันธมิตรโอสถนั้นมันเพียงเพราะว่าอำนาจที่เหนือหัวของพันธมิตรโอสถ เหล่านิกายทั้งหลายต่างย่อมไม่ได้คิดรับใช้เพราะความอยาก
คำพูดที่เย่หยวนประกาศออกมาแก่พันธมิตรโอสถนั้นมันแฝงความหมายไว้ว่า ตัวเย่หยวนนั้นกลับมาเพื่อล้างแค้นแล้ว!
แต่ว่าเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต่างก็ยังรอดูท่าทีไปก่อน
เพราะพวกเขานั้นอยากจะเห็นเสียก่อนว่าเย่หยวนนั้นจะล้างแค้นพันธมิตรโอสถอย่างไร!
…
ณ โถงใหญ่แห่งพันธมิตรโอสถมันมียอดฝีมือมากมายกำลังนั่งประชุมกัน
หลี่ฉางเซิงนั้นนั่งอยู่บนบัลลังก์สูงจ้องมองหน้าจักรพรรดิเซียนคนหนึ่งอย่างเงียบงัน
นั่นทำให้บรรยากาศในห้องโถงมันหนักอึ้งจนแทบไม่อาจหายใจ
จักรพรรดิเซียนผู้ถูกจ้องหน้านั้นเองก็ได้แต่ต้องนั่งเหงื่ออาบกาย
จนสุดท้ายเขาไม่อาจทนสายตานั้นได้ต้องกล่าวขึ้นมา “ท่านผู้นำพันธมิตรหลัก เรื่องนี้… ตอนนั้นข้าได้ต่อยทำลายมิติไปทำให้กฎแห่งห้วงมิติบั่นป่วนไปแล้ว! หากให้พูดแล้วตัวมันย่อมจะไม่มีทางรอดมาได้แน่!”
คนผู้นี้ย่อมจะเป็นผู้นำพันธมิตรโอสถสาขาดินแดนสวรรค์ห้าแสงผู้ที่นำทัพไปจัดการโจมตีนิกายสวรรค์ยุทธมั่น เมื่อวันนั้น นามว่าจ้าวติง!
เมื่อข่าวนี้แพร่ออกมาครั้งแรกเขาย่อมจะไม่คิดเชื่อ!
จะบอกว่านักยุทธพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่คนหนึ่งรอดจากหมัดเขาไปได้หรือ?!
เรื่องนั้นฟังอย่างไรมันก็เรื่องบ้าๆ!
“แต่มันรอดมาได้จริง! นอกจากว่าจะรอดแล้วมันยังบ่มเพาะขึ้นมาถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้แล้วด้วย!” หลี่ฉางเซิงกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“เรื่องนั้น…คือ…ท่านผู้นำพันธมิตรหลัก ท่านให้โอกาสข้าอีกสักครั้งเถอะ ข้าจะไปสังหารมันเอง!” จ้าวติงนั้นกัดฟันกล่าวขึ้น
หลี่ฉางเซิงนั้นหันมามองหน้าเขาก่อนจะถาม “เจ้าสังหารมันได้หรือ? ตอนที่จางไคหยุนไปเผชิญหน้ามันนั้นตัวจางไคหยุนถูกสังหารลงในพริบตาด้วยการโจมตีวิญญาณดั่งเดิม! แม้ว่าเจ้าจะมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นกลางแต่ว่าเจ้าแน่ใจหรือว่าจะรับมือการโจมตีวิญญาณดั่งเดิมของมันได้?”
“ข้า…”
จ้าวติงนั้นได้แต่ต้องผงะไม่รู้จะตอบอย่างไร
เรื่องข่าวนี้มันเหลือเกินกว่าจะเชื่อ!
เย่หยวนที่มีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นต้นนั้นกลับเอาชนะจักรพรรดิเที่ยงลงได้จนอีกฝ่ายต้องหนีไปสุดหล้า มีหรือที่เรื่องเช่นนี้มันจะเป็นความจริงได้?
แต่เรื่องที่ไม่น่าเป็นความจริงมันได้เกิดขึ้นมาต่อเนื่องจนเขาเริ่มไม่มั่นใจแล้ว
ในเวลานั้นเองที่หลี่ฉางเซิงได้โยนแผ่นหยกหนึ่งออกมา “นี่คือศาสตร์ป้องกันตัววิญญาณดั่งเดิม หลังจากฝึกฝนมันสำเร็จแล้วเจ้าก็น่าจะป้องกันการโจมตีในระดับเดียวกันได้ไม่ยาก! ระหว่างนี้เจ้าไม่ต้องสนใจเรื่องอื่นๆ และฝึกฝนมันให้สำเร็จโดยเร็ว! ไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่ไอ้เด็กนั่นมันก็แค่คนผู้เดียว ทำอะไรไม่ได้มากหรอก”
เมื่อคนทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ต้องถอนใจยาวอย่างโล่งอก!
การโจมตีวิญญาณดั่งเดิมนั้นมันยากที่จะปัดป้องไม่เหมือนวรยุทธต่อสู้ทั่วๆ ไป แต่หากมีวิชานี้อยู่ในมือแล้วพวกเขาก็ไม่ต้องกลัวเย่หยวนอีก
จ้าวติงนั้นยิ้มกว้างขึ้นมากล่าว “ขอบพระคุณท่านผู้นำพันธมิตรหลัก! ท่านโปรดวางใจเถอะ หลังจากข้าน้อยสำเร็จวิชานี้แล้วข้าจะไปสังหารมันด้วยมือนี้เอง!”
หลี่ฉางเซิงพยักหน้ารับและไม่กล่าวใดๆ ต่อไปอีก
แค่เย่หยวนน้อยๆ คนเดียวมันย่อมจะไม่ทำให้เขาต้องกังวล
…
ทางด้านพันธมิตรเลือดนั้นมันก็มีชายผู้หนึ่งยืนมือไพล่หลังจ้องมองไปยังทิศของนิกายสวรรค์หยกแท้ “ไอ้น้อง ข้าว่าแล้วว่าเจ้าต้องยังไม่ตายง่ายๆ! ตราบเท่าที่เราอยู่พี่ยังอยู่รอด นิกายสวรรค์ยุทธมั่นเรามันจะไม่มีทางถูกทำลาย! วันหนึ่งเราต้องทำลายพันธมิตรโอสถมันลงได้แน่!”
ผู้นำพันธมิตรเลือดอันเลื่องชื่อนั้นแท้จริงแล้วมันคืออดีตยอดอัจฉริยะแห่งนิกายสวรรค์ยุทธมั่น หลัวหยุนชิงนั่นเอง!
หลายปีมานี้เขานั้นผ่านการฆ่านองเลือดไม่เว้นวันจนสุดท้ายก็บ่มเพาะมาถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวในที่สุด
เพียงแค่ว่าพลังแค่นี้มันคงไม่อาจฝันถึงวันที่จะทำลายพันธมิตรโอสถลงได้
การกลับมาของเย่หยวนนี้มันทำให้ความมั่นใจของเขาพุ่งขึ้นมาอีกครั้งเหมือนได้เห็นแสงแห่งความหวัง
…
ณ มหาพิภพถงเทียนนั้นเมื่อหมี่เทียนได้เห็นหน้าเย่หยวนเขาก็ต้องร้องด่าเป็นชุดออกมาทันที
“ไอ้เด็กเวร ไม่ไปตายให้มันแล้วๆ เสียเล่า! ทำอะไรไม่เคยคิดทำข้าลำบากทุกครั้งไป พ่อเจ้านี้จะได้ตายก่อนกลับถึงบ้านแน่แล้ว! ดูสภาพใกล้ตายของเจ้านี้เถอะ ทำไมไม่ตายๆ ให้มันจบไปเสียเล่า!”
หมี่เทียนนั้นได้สั่งเยวี่ยเมิ่งลี่ให้พาร่างของเย่หยวนลงมายังวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตเพื่อใช้พลังของค่ายกลภายในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตรักษาร่างกายของเย่หยวน
เย่หยวนนั้นก็ยังมีสภาพใกล้ตายอยู่เต็มที
การบ่มเพาะก่อนนั้นเย่หยวนได้ใช้ผลึกสวรรค์ไปจนสิ้นหลังจากนั้นการเดินทางสุดเร่งรีบของเขา มันทำให้เขาต้องใช้โอสถสวรรค์ที่เก็บไว้จนหมดด้วย
เมื่อไม่มีอะไรติดตัวเย่หยวนแล้วหมี่เทียนจึงได้แต่ต้องใช้พลังชีพมังกรของตนนั้นผสานกับค่ายกลเพื่อช่วยรักษาสภาพร่างกายที่เสียหายของเย่หยวน
สุดท้ายตัวเขาจึงต้องเป็นคนลำบากอีกจนได้
แต่ว่าครั้งนี้มันยังดีกว่าครั้งก่อนเพราะว่าเขายังมีสติมาด่าว่าเย่หยวนได้
ได้เห็นวิญญาณดั่งเดิมสุดอ่อนแอของเย่หยวนกลับลงมาเยวี่ยเมิ่งลี่ก็ต้องกล่าวขึ้นอย่างกังวล “พี่หยวน ท่านไม่เป็นไรนะ?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้ภัยร้ายที่ซ่อนในมหาพิภพถงเทียนมันได้ถูกถอดรากขึ้นมาจนหมดสิ้นแล้ว! จากนี้ไปข้าจะช่วยพวกเจ้าทั้งหลายบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์แล้วเราจะขึ้นสามสิบสามสวรรค์ไปด้วยกัน!”
เยวี่ยเมิ่งลี่กล่าวขึ้น “เช่นนั้น…พี่เจอวิธีช่วยพี่หลินเสวียหรือยัง?”
เย่หยวนพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มกว้างทันที “อีกไม่นานข้าคงสามารถหลอมวิญญาณของนางกลับมาได้! จะว่าไปแล้วเรื่องนี้ก็ต้องขอบคุณผู้อาวุโมหมี่เทียนท่านด้วย”
“เฮอะ!”
หมี่เทียนได้แต่ต้องร้องตอบกลับไปอย่างไม่พอใจ
คนทั้งสองแสดงท่าทางขอบคุณกันเช่นนี้ออกมาตัวเขาจะกล่าวด่าเย่หยวนต่อไปมันก็กระไรอยู่
คนเขาด่า กลับมาขอบคุณตอบเสียอย่างนั้น
“จริงหรือ? เยี่ยมเลย! สวรรค์ช่างมีตาจริงๆ ในที่สุดเราก็จะคืนชีพให้พี่หลินเสวียได้!” เยวี่ยเมิ่งลี่กระโดดขึ้นยืนอย่างดีใจ
นางนั้นรู้ดีว่าเย่หยวนรักและห่วงใยมู่หลินเสวียเพียงแค่ไหน นางจึงยินดีกับเย่หยวนอย่างสุดหัวใจ
ส่วนความบาดเจ็บของวิญญาณดั่งเดิมนั้นมันย่อมจะไม่เป็นปัญหากับเย่หยวน
เผ่าวิญญาณนั้นต่อสู้กันเช่นนี้เป็นปกติ แน่นอนว่ามันย่อมจะเกิดความบาดเจ็บเป็นธรรมดา
ในเมื่อกำเนิดเทพนั้นคือสุดยอดวรยุทธบ่มเพาะของเผ่าวิญญาณ มันก็ย่อมจะมีวิธีการคืนสภาพวิญญาณที่เสียหายด้วย
สามเดือนต่อมาเย่หยวนก็กลับมามีสภาพสมบูรณ์พร้อมอีกครั้ง
หลังจากเย่หยวนกลับขึ้นมาถึงสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดสิ่งแรกที่เขาทำนั้นคือการตัดเส้นทางเชื่อมต่อสวรรค์ของมหาพิภพถงเทียนลง ตัดขาดมหาพิภพถงเทียนออกจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดสิ้นเชิง
เท่านี้เขาก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว
เมื่อไม่มีทางเชื่อมแล้วต่อให้จะเป็นจักรพรรดิเซียนเองก็ไม่อาจเดินทางลงไปยังมหาพิภพถงเทียนได้อีก หากใครคิดจะไปมานั้นมันมีแต่ต้องเดินทางผ่านกำแพงเขตแดนเท่านั้น
แต่วินาทีที่เขากลับถึงทวีปพิรุณใสนี้เขาก็ต้องเจอคนผู้หนึ่งมาต้อนรับ แน่นอนว่าย่อมจะเป็นหลัวหยุนชิงแล้ว!
“เย่หยวน! ฮ่าๆ เจอจนได้!”
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นก่อนจะกล่าวขึ้นมาอย่างตกตะลึง “พี่หลัว ท่านกลับยังปลอดภัยดี! เยี่ยมไปเลย!”
หลังจากคุยกันไปอีกเล็กน้อยหลัวหยุนชิงก็ยิ้มกล่าวขึ้นมา “เย่หยวน ในเมื่อเจ้ากลับมาได้แล้วเจ้าก็มาร่วมพันธมิตรเลือดเราเถอะ! หากเราพี่น้องร่วมมือกันแล้วแม้แต่เหล็กกล้าอย่างพันธมิตรโอสถเราก็คงตัดมันลงได้! ไม่ว่าพันธมิตรโอสถมันจะแข็งแกร่งปานใด เราก็คงสามารถทำลายมันลงได้ในสักวัน!”
“พันธมิตรเลือด?” เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องผงะไปเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขึ้น “ที่แท้พันธมิตรเลือดนี้ท่านเป็นคนก่อตั้งขึ้นมา!”
หลัวหยุนชิงหัวเราะลั่นตอบ “ตอนนี้มันมีสามสิบหกค่ายกำลังที่ต่อต้านพันธมิตรโอสถอยู่ในห้ายอดแดนสวรรค์! พันธมิตรเลือดของข้านั้นแข็งแกร่งที่สุดแล้ว! การโค่นพันธมิตรโอสถนั้นเป็นงานยากและต้องใช้เวลา แต่หากเราร่วมมือกันแล้วมันคงทำได้สำเร็จเป็นแน่!”
เย่หยวนได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ ตอบกลับหลัวหยุนชิงไป