ในตอนที่เย่เฉินกำลังกำกับฤทธิ์ยาฉินเอ้าเสวี่ยนอยู่นั้น เขาตั้งใจใช้ปราณทิพย์ ให้ปราณทิพย์เหล่านี้เหมือนฝนในฤดูใบไม้ผลิที่คอยให้ความชุ่มชื้น กับร่างกายของฉินเอ้าเสวี่ยน
ประโยชน์ของปราณทิพย์ มีมากกว่ายาที่ตัวเองกลั่นเมื่อก่อนอย่างมาก มันไม่เพียงทำให้สมรรถภาพร่างกายของฉินเอ้าเสวี่ยนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเท่านั้น แม้แต่กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูกอีกทั้งตับไตไส้พุงของเธอ สมรรถภาพของส่วนนี้ก็ต่างเพิ่มขึ้นมากด้วยเช่นกัน
แม้ฉินเอ้าเสวี่ยนฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาหลายปี แต่ยังไงก็เป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป สำหรับคนทั่วไป ประโยชน์ของปราณทิพย์มหาศาลกว่ายาขนานวิเศษ
ฉินเอ้าเสวี่ยนในตอนนี้ ความสามารถของร่างกายได้เกินกว่าที่คนปกติทั่วไปจะเทียบได้แล้ว
ตอนที่เย่เฉินได้พูดถึงความสำเร็จให้ฉินเอ้าเสวี่ยนฟัง ฉินเอ้าเสวี่ยนถอนหายใจยาวๆ จากนั้นจึงรีบยืนขึ้น เดินไปตรงหน้ากระสอบทรายตั้งท่าชก
แต่ เพราะเธอไม่รู้ว่าเย่เฉินทำให้สมรรถภาพร่างของตัวเองเพิ่มขึ้นมากมายเท่าไหร่ ดังนั้นตอนที่ชกกระสอบทรายนั้นได้ใช้พลังทั้งหมดที่มีอยู่
แต่ พอชกออกไป กระสอบทรายดังปัง แล้วแตกออกทันที!
กระสอบทรายที่ฉินเอ้าเสวี่ยนเป็นตัวท็อป กระสอบทรายประเภทนี้ใช้หนังควายมาทำ เรียบและแกร่ง ต่อให้ใช้ระยะยาวก็ไม่เปลี่ยนรูป และไม่มีทางพังเพราะพลังในการโจมตี
แต่ ฉินเอ้าเสวี่ยนในตอนนี้จะเอามาเปรียบเทียบกับคนทั่วไปไม่ได้อีกแล้ว
สมรรถภาพร่างกายของเธอ เมื่อเทียบกับคนทั่วไป พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
พลังในการชก เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน อย่างน้อยก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า!
ฉินเอ้าเสวี่ยนเห็นกระสอบทรายนั่นถูกตัวเองต่อยจนเป็นรูใหญ่ ทรายที่อยู่ด้านในแตกกระจายออกมาเต็มพื้นไปหมด จึงกล่าวอย่างตกใจ!
จากนั้นไม่นาน เธอรู้สึกตัว หันมองเย่เฉิน แล้วกล่าวอย่างตกใจ “อาจารย์เย่…..ฉัน……หมัดของฉัน ทำไมถึงได้มีพลังมหาศาลขนาดนี้?”
เย่เฉินยิ้ม “แน่นอนว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของยาวิเศษ มันไม่เพียงช่วยชีวิตคนใกล้ตายรักษาคนบาดเจ็บเท่านั้น ยังทำให้ร่างกายแข็งแรง เพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย”
ฉินเอ้าเสวี่ยนกล่าวอย่างดีใจสุดๆ “พระเจ้า!พอกินยานี้ลงไป ได้ผลมากกว่าที่ฉันซ้อมมาอย่างหนักกว่าห้าปีเสียอีก!ยาแบบนี้มันวิเศษเกินไปแล้ว!”
เย่เฉินพยักหน้า “ความแข็งแกร่งของร่างกายในตอนนี้ของคุณมากกว่าคู่แข่งรุ่นราวคราวเดียวกันมากแล้ว ดังนั้นผมเชื่อว่า การแข่งขันต่อจากนี้ไป คุณจะบุกได้อย่างแหลกราบ จนได้แชมป์มาครอง”
ฉินเอ้าเสวี่ยนวิ่งอย่างตื่นเต้นไปที่ข้างๆเย่เฉิน กอดแขนของเขาไว้ กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้า “อาจารย์เย่ ขอบคุณอาจารย์มากจริงๆ……เอ้าเสวี่ยนไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีความสามารถอย่างนี้ได้”
เธอพูดพลาง แล้วเขย่งเท้า แล้วจุ๊บเล่นๆที่บนใบหน้าของเย่เฉิน
เดิมทีจากปฏิกิริยาการไหวตัวของเย่เฉินสามารถหลบหลีกจูบนี้ได้ แต่ไม่รู้ทำไม เมื้อกี้ขาทั้งสองข้างของเขาเหมือนตะกั่วก็มิปราณ ขยับไปไหนไม่ได้
หรือบางทีอาจเป็นเพราะลึกๆภายในใจของเขา ไม่ได้อยากขยับอยู่แล้ว
ตอนนี้ฉินเอ้าเสวี่ยนหน้าแดงไปหมด เธอไม่กล้ามองเย่เฉิน แต่กล่าวด้วยเสียงเบาๆอย่างกระมิดกระเมี้ยน “อาจารย์เย่ อย่าเข้าใจผิดนะคะ เอ้าเสวี่ยนแค่……เอ้าเสวี่ยนแค่อยาก……อยากขอบคุณเท่านั้น……”
เสียงของฉินเอ้าเสวี่ยนยิ่งอยู่ยิ่งเบาลง จนสุดท้าย ก็ไม่ได้ยินอีกเลย
เย่เฉินลูบที่ๆถูกฉินเอ้าเสวี่ยนจุ๊บ แล้วกล่าว “ถ้าคุณตั้งใจฝึกซ้อมไปเรื่อยๆละก็ ผมคิดว่าโอลิมปิกครั้งต่อไป คุณอาจจะได้เป็นตัวแทนของประเทศถึงขั้นนำชัยชนะกลับมาให้กับประเทศ”
“จริงเหรอคะ?” ฉินเอ้าเสวี่ยนดีใจสุดๆ แล้วถามเขาไปว่า “อาจารย์เย่ อาจารย์คิดว่าความสามารถของฉัน อาจจะเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกได้จริงๆเหรอคะ?”
เย่เฉินยิ้ม “สมรรถภาพร่างกายในตอนนี้ของคุณ ได้อยู่บนสุดเหนือคนรุ่นราวคราวเดียวกันแล้ว เพียงแค่ทักษะ การรับรู้และแทคติกสามารถพัฒนาไปได้ละก็ การที่จะกรีธาทัพไปโอลิมปิกนั้นไม่เป็นปัญหาแน่นอน”
ฉินเอ้าเสวี่ยนพยักหน้า แล้วกล่าวอย่างตั้งใจ “ถ้าครั้งนี้ฉันชนะอิโตะนานาโกะได้ ฉันก็มั่นใจว่าจะไปโอลิมปิกได้ค่ะ!”
เย่เฉินยิ้ม “ผมเชื่อว่าคุณทำได้!”
—–