เมื่อเข้ามาถึงเขตแดนของเขาหมื่นอสูรนั้นพวกหลัวหยุนชิงทั้งหลายต่างก็ต้องเกร็งกันสุดตัวทันที เพราะพวกเขานั้นสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังรุนแรงหลายสายระดับชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกมาจากรอบทิศ
พวกเขาทั้งหลายนี้ช่างดูอ่อนแอเหลือเกินต่อหน้าเหล่าภูติแท้
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงมากกว่านั้นก็คือระหว่างทางมันกลับไม่มีเรื่องร้ายใดๆ เกินขึ้นเลย
หลังจากย้ายกำลังออกมาจากฐานหลักพันธมิตรเลือดก็ย่อมจะได้รับข่าวจากกองกำลังอื่นๆ ไปตลอดทาง
กองกำลังทั้งหลายที่ต่อต้านพันธมิตรโอสถในห้ายอดแดนสวรรค์นั้นจากทั้งหมดสามสิบหกกองกำลัง กว่าครึ่งมันได้ถูกทำลายลงในวันนี้!
ที่เหลือรอดมาได้นั้นต่างก็ต้องทิ้งฐานและเสียกำลังไปมาก
ข่าวนี้มันทำให้หลัวหยุนชิงต้องขนลุกทั้งกาย
โจวหยุนเซียงและหยูไห่เจิ้งนั้นยิ่งอับอายจนแทบไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองตาคน
เพราะหากได้ยินข่าวขนาดนี้แล้วพวกเขายังไม่เข้าใจอีกพวกเขาก็คงไม่ถูกยกย่องเลือกขึ้นมาเป็นรองผู้นำพันธมิตร
พวกเขานั้นเข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนนั้นแค่มาได้ผิดที่ผิดเวลา แต่ก็เพราะเช่นนี้ที่ทำให้เย่หยวนได้กลายเป็นผู้กอบกู้ของพันธมิตรเลือด และพวกเขานั้นกลับไปเข้าใจผิดคิดว่าเย่หยวนนั้นทรยศพวกเขา
คนทั้งหลายนั้นเดินทางลึกเข้ามาบนเขาหมื่นอสูรจนถึงเขามารกระทิง
“เจ้าวิหารเย่!”
“สวัสดีอาจารย์เย่!”
“เจ้าวิหารเย่กลับมาแล้ว!”
…
ได้เห็นยอดฝีมือมากมายออกมาต้อนรับเย่หยวนเช่นนี้คนทั้งหลายของพันธมิตรเลือดก็ต้องอ้าปากค้าง
เพราะนี่แสดงให้เห็นว่าเย่หยวนนั้นตั้งหลักปักฐานอยู่บนเขาหมื่นอสูรจริงๆ!
จู่ๆ มันก็มีคลื่นพลังรุนแรงล้ำสายหนึ่งพุ่งเข้ามาทางพวกเขา
พวกหลัวหยุนชิงทั้งสามนั้นต้องหันหน้ามองกันทันทีอย่างตื่นตระหนก
นี่มันคือคลื่นพลังของจักรพรรดิเซียน!
พริบตาต่อมานั้นต้าหวงก็มาถึงหน้าเย่หยวนแล้ว
ต้าหวงที่เห็นหน้าคนทั้งสามต้องหัวเราะขึ้น “พวกเจ้าคือสหายของอาจารย์เย่ใช่หรือไม่? ข้านั้นแค่คนรับใช้ของอาจารย์เย่ท่าน ไม่ต้องเกรงใจกันให้มากหรอก เรียกข้าว่าต้าหวงเถอะ”
“คนใช้?” หลัวหยุนชิงนั้นแทบจะสำลักน้ำลายระหว่างพูดไป
จักรพรรดิเซียนนั้นกลับเป็นคนรับใช้ของเย่หยวน?
หลัวหยุนชิงนั้นแทบอยากจะมุดดินหนีให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
น่าอายเสียแท้!
ตอนที่เขาเพิ่งได้เจอเย่หยวนนั้นเขาเอาแต่โม้ถึงความสำเร็จของตัวเองในช่วงร้อยกว่าปีที่ผ่านมา
ใครจะไปคิดว่าเย่หยวนนั้นกลับได้จักรพรรดิเซียนมาเป็นคนรับใช้ไปแล้ว!
เทียบกันแล้วพันธมิตรเลือดมันจะมีค่าใด!
แค่ฝ่ามือเดียวของต้าหวงนั้นก็คงทำลายพันธมิตรเลือดลงได้สิ้น!
พวกโจวหยุนเซียงนั้นยิ่งอับอายจนสุดขั้วหัวใจ ก่อนหน้านี้พวกเขานั้นเอาแต่จะขัดเรื่องให้เย่หยวนขึ้นเป็นผู้นำพันธมิตรจนแทบทำให้ต้องปะทะกับหลังหยุนชิงไปแล้ว
ตอนที่เย่หยวนบอกว่าตนเองก็ไม่ได้คิดจะเป็นผู้นำพันธมิตรเลือดด้วยนั้น โจวหยุนเซียงยังมีหน้าไปว่าเย่หยวนอีกว่าตอแหล
สุดท้ายพวกเขานั้นช่างไร้ค่าจริงๆ!
แต่ต้าหวงนั้นไม่สนใจท่าทางของคนทั้งหลายและหันมาพูดกับเย่หยวน “อาจารย์เย่ ท่านกลับมาจนได้! ต้าหวงกังวลมากช่วงหลายปีมานี้! หลังจากกลับมาถึงเขาหมื่นอสูรรอบแรกข้าก็เดินทางกลับไปทันทีแต่กลับไม่เจอทั้งท่านและคนผู้นั้นแล้ว ข้าจึงได้แต่ต้องกลับมา”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เสี่ยงไม่น้อยแต่ก็ไม่ถึงขั้นอันตราย เรื่องมันจบแล้ว การเตรียมการของฝั่งนี้เล่าเป็นอย่างไรบ้าง?”
ต้าหวงนั้นยิ้มกว้างขึ้นเมื่อได้ยิน “อาจารย์เย่ลองทายสิว่าตอนนี้วิหารยอดนักบุญของเรามีจักรพรรดิเซียนอยู่ทั้งหมดกี่คนแล้ว?”
เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องหัวเราะตอบกลับไป “พูดมาเถอะน่า! จะให้ข้าเดาเพื่ออะไร?”
ต้าหวงยิ้มตอบกลับไป “รวมเราทั้งเก้าไปด้วยแล้วตอนนี้เรามีจักรพรรดิเซียนอยู่ทั้งสิ้นสามสิบห้าคนด้วยกัน! เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวทั้งหลายนั้นต่างได้ก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิเซียนกันหมดสิ้นแล้ว! หลายปีมานี้ท้องฟ้าของเขาหมื่นอสูรมันไม่เคยหยุดนิ่งเลย!”
เย่หยวนย่อมจะไม่แปลกใจอะไรมากมายแต่พวกหลัวหยุนชิงนั้นรู้สึกเข่าอ่อนจนแทบจะลงไปนั่งกองกับพื้นทันที จักรพรรดิเซียนทั้งหมดสามสิบห้า เจ้าล้อกันเล่นใช่หรือไม่?
ต่อให้จะนับจักรพรรดิเซียนทั้งทวีปพิรุณใสก่อนหน้ามันก็คงไม่มีทางถึงสามสิบห้าได้หรอกมิใช่หรือ?
เจ้าหมอนี่คงโม้อวดแล้ว!
พูดไปนั้นมันก็มีหญิงนางหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเขาทั้งหลาย
ได้เห็นเย่หยวนนางก็รีบก้มหัวลงกล่าวทันที “อาจารย์เย่กลับมาแล้ว คงหลิงขอขอบคุณอาจารย์เย่ที่มอบโอสถให้!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าคือ…ราชินีคงหลิง? อ่า ไม่สิ ตอนนี้ข้าต้องเรียกเจ้าเป็นนักบุญสูงคงหลิงแล้ว!”
“หากไม่ได้อาจารย์เย่คงหลิงก็คงไม่มีโอกาสจะได้บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนไปทั้งชาติ! หากอาจารย์เย่มีเรื่องใดให้ข้ารับใช้โปรดสั่งมาได้เลย!”
“ฮ่าๆ เช่นนั้นข้าคงต้องขอรบกวนนักบุญสูงคงหลิงแล้ว!”
“อาจารย์เย่ถ่มตัวไปแล้ว เรื่องแค่นี้มันเป็นหน้าที่ของข้า!”
พูดจบคงหลิงก็เดินจากไป
ระหว่างทางนั้นเขาได้เจอเข้ากับคนรู้จักมากมาย
เย่หยวนนั้นได้เจอคนทั้งหลายตอนงานชุมนุมหมื่นภูติและตอนนั้นคนเหล่านี้ต่างยังมีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าว
เวลานี้พวกเขาได้ขึ้นมาเป็นจักรพรรดิเซียนเต็มตัวกันหมดสิ้นแล้ว
เมื่อคนทั้งหลายนั้นได้เห็นเย่หยวนเดินผ่านพวกเขาต่างก็เข้ามาทักทายด้วยท่าทางนอบน้อม
ระหว่างทางนั้นเย่หยวนจึงต้องพูดคุยกับคนมากหน้าหลายตา
เมื่อจักรพรรดิเซียนอีกคนหนึ่งเดินผ่านไปโจวหยุนเซียงก็ได้แต่ต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ถามหยูไห่เจิ้งขึ้น “นี่… คนที่เท่าไหร่แล้ว?”
หยูไห่เจิ้งนั้นสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตอบไปด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “คนที่เจ็ด!”
โจวหยุนเซียงนั้นเองก็ได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ ขึ้นมาตาม “ข้าอยู่มาตั้งนานแทบจะไม่เคยได้เห็นจักรพรรดิเซียนแม้แต่คนเดียว! แต่นี่จักรพรรดิเซียนมันกลับเป็นผักปลาเช่นนี้ไปตั้งแต่เมื่อใด?”
คนทั้งสามนั้นหันหน้ามองตากันด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
“หึๆ จักรพรรดิเซียนที่บรรลุมาในช่วงหลายปีนี้มันมีมากมาย เขาหมื่นอสูรนั้นเดิมทีมีพวกเขาคอยดูแลจึงปั่นป่วนไปหมดต้องหาคนดูแลพื้นที่ใหม่” ต้าหวงนั้นยิ้มแห้งๆ ขึ้นมาบ้าง
เย่หยวนพยักหน้ารับ “แล้วทางแดนสวรรค์ใต้เล่า?”
ต้าหวงตอบกลับไป “เรานั้นส่งโอสถสวรรค์ชุดใหญ่ไปให้พวกเขาแล้ว เวลานี้เจ้าหอทั้งสองรวมไปถึงผู้นำตระกูลใหญ่ทั้งสามและเถี่ยซินเจ้าเมืองสวรรค์ใต้ในตอนนี้ต่างบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้สิ้น! เวลานี้แดนสวรรค์ใต้จึงมีจักรพรรดิเซียนอยู่หกคนด้วยกัน!”
พวกหลัวหยุนชิงทั้งสามนั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้างจนท้องไส้เริ่มจะแห้งไป
วันที่ห้านิกายสวรรค์โดนทำลายลงนั้นพวกเขายังไม่ตกตะลึงได้เท่าวันนี้
เวลาร้อยกว่าปีมานี้พวกเขานั้นได้เดินบนเส้นทางเลือดสร้างพันธมิตรเลือดที่แข็งแกร่งขึ้น
แต่เย่หยวนทำอะไร?
เจ้าหมอนี่กลับสร้างกองทัพจักรพรรดิเซียน!
เวลานี้จากเท่าที่ได้ยินมันมีจักรพรรดิเซียนในกองทัพถึงสี่สิบเอ็ดคนแล้ว!
ไม่ว่าพันธมิตรโอสถนั้นจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็คงไม่มีทางมีจักรพรรดิเซียนได้มากถึงขั้นนี้หรอกใช่ไหม?
ผู้นำพันธมิตรเลือด?
หลัวหยุนชิงนั้นแทบอยากจะร้องไห้
และในที่สุดคนทั้งหลายนั้นก็เดินทางมาถึงที่ตั้งของวิหารยอดนักบุญด้วยจิตใจที่สั่นคลอน
เย่หยวนถามขึ้น “มันยังมีโอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์เหลือบ้างไหม?”
ต้าหวงพยักหน้ารับ “มันยังมีโอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์เหลืออยู่ เจ้าวิหารทั้งสามนั้นท่านได้ใช้สามขวดไปเพื่อการบ่มเพาะส่วนที่เหลือนั้นก็ได้แบ่งๆ ให้เหล่าจักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวทั้งหลาย ตอนนี้มันยังเหลืออยู่สองขวด เกือบๆ ยี่สิบเม็ดได้”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ให้พวกเขาสามเม็ด พี่หลัว พี่โจว พี่หยู พวกท่านนั้นพักอยู่ที่วิหารยอดนักบุญนี้เตรียมตัวบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนเถอะ! พันธมิตรโอสถมันทำลายห้านิกายสวรรค์ของเราและกดหัวคนทั้งทวีปพิรุณใสเป็นทาส อีกไม่นานเราจะทำให้มันได้ชดใช้ด้วยเลือด!”
โจวหยุนเซียงนั้นร้องขึ้นมาแทบสุดเสียง “จ-จักรพรรดิเซียน?”
เขานั้นไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งตัวเองจะกลับบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นไป
เพราะแม้เขานั้นจะบ่มเพาะมาถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวแต่เขานั้นก็ไม่รู้เลยว่าจะต้องบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนอย่างไร
มันยากเกินกว่าที่คนทั่วไปจะทำได้!
ยากจนตอนที่ได้ยินคำพูดว่าจักรพรรดิเซียนของเย่หยวนนั้น เขารู้สึกเหมือนราวกับตัวเองได้ฝันไป
หลัวหยุนชิงยิ้มแห้งๆ กล่าวขึ้นมา “ที่แท้ที่เจ้าตามข้าไปยังพันธมิตรเลือดก็เพราะเจ้าคิดจะช่วยให้เราทั้งหลายได้บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียน?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ไม่เช่นนั้นข้าจะยังไปทำไมอีกเล่า? วันนั้นข้ายังจำภาพที่พันธมิตรโอสถมันพาจักรพรรดิหยกเกือบสองร้อยมาล้อมนิกายสวรรค์ยุทธมั่นเราไว้ได้ดี! วันนี้เราจะพากองทัพจักรพรรดิเซียนไปล้างแค้นพันธมิตรโอสถมันบ้าง! ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพันธมิตรโอสถนั้นมันจะต่อต้านสวรรค์ได้จริงๆ!”
คำพูดเดียวนี้ทำให้พวกหลัวหยุนชิงทั้งสามรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาในใจ
พวกเขานั้นคิดว่าหนทางสู่การแก้แค้นในครั้งนี้มันคงต้องใช้เวลาอีกยาวนานเป็นพันๆ หมื่นๆ ปี
ใครจะไปคิดว่าความหวังของพวกเขามันกลับอยู่แค่เอื้อมแล้ว!
…………………………