เล่ากันว่าพญามังกรสีเขียวเข้มตัวนั้นมีชีวิตยืนยาวมาหลายล้านปี และนอนหลับใหลเมื่อหมื่นกว่าปีก่อน มีคนเล่าว่าอายุไขของพญามังกรสีเขียวเข้มถึงจุดสิ้นสุดกำลังจะดับสลายสูญสิ้น และมีคนเล่าว่าพญามังกรสีเขียวเข้มนอนหลับใหลเพราะจะทลายพันธนาการ บรรลุสู่แดนที่สูงกว่า

เหมือนดั่งที่อิงบูเฉิงบอก ครั้นเมื่อพวกเขาทั้งสามมาถึงเมืองมังกรครามยักษ์ พบว่ามีนักยุทธ์จำนวนมากต่างมารวมตัวกัน ณ คูเมืองแห่งนี้แล้ว ไม่ต้องใช้ตัวสำนึกกวาดสำรวจ หลัวซิวก็สัมผัสได้ถึงออร่าที่แข็งแกร่งหลายออร่า ซึ่งล้วนเป็นระดับราชาเทพ!

“เมื่ออยู่ที่นี่ทุกคนระวังตัวกันหน่อย พยายามอย่าก่อเรื่องให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะบนดาราแห่งกาลเวลา ไม่ได้มีเพียงธาตุดาราคุนหลุนของเราเท่านั้น ยังมีธาตุดาราอัมพรเทวตลอดจนผู้แข็งแกร่งจากโลกาชั้นฟ้าก็จะมาที่นี่ด้วย”

หลังจากเข้ามาในเมืองมังกรครามยักษ์แล้ว อิงบูเฉิงก็พูดกับหลัวซิวและเทพธิดายู่หรงทั้งสองคน

“ก่อนดาราแห่งกาลเวลาจะปรากฎ ทุกคนพยายามอย่าเคลื่อนไหวข้างนอก ไปสำรวจดูก่อนว่าภายในเมืองมีสถานที่ฝึกตนหรือไม่ เพื่อทำการขอเช่าก่อน”

ในบรรดาทั้งสามคน มีเพียงอิงบูเฉิงเท่านั้นที่ค่อนข้างคุ้นเคยกับเมืองมังกรครามยักษ์ ภายใต้การนำพาของเขา ทั้งสามมาถึงสถานที่ที่ให้เช่าเพื่อฝึกตนโดยเฉพาะที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมือง

แม้นว่าเป็นเพราะอยู่บนดาราแห่งกาลเวลา ทำให้มีนักยุทธ์ยอดฝีมือมาเมืองมังกรครามยักษ์เป็นจำนวนมาก แต่จำนวนสถานที่ฝึกตนในเมืองมีเยอะมาก ๆ จึงยังมีที่ว่างอยู่เยอะมาก

มีนักยุทธ์จำนวนมากมารวมตัวกันอยู่ที่ฝั่งสถานที่ฝึกตน ทันทีที่พวกหลัวซิวมาถึงที่นี่ ก็มีคนเข้ามาชวนคุย: “ไม่ทราบผู้เพื่อนยุทธ์ทั้งสามสนใจเข้าร่วมงานค้าขายที่จัดขั้นฝั่งนี้หรือไม่?”

ผลการฝึกตนของผู้ที่เดินเข้ามาชวนคุยก็เป็นราชาเทพเช่นกัน และงานค้าขายที่กล่าวถึงนั้น เป็นสถานที่ที่นักยุทธ์ทั่วไปที่มีผลการฝึกตนอยู่ในแดนเดียวกัน รวมตัวกันเพื่อค้าขายแลกเปลี่ยนสมบัติและวัตถุดิบที่อมีในมือตน

เนื่องจากทุกคนล้วนอยู่ในแดนเดียวกัน ของที่ไม่มีประโยชน์ต่อตน บางทีอาจจะเป็นของที่มีประโยชน์ต่อผู้อื่น และของที่ตนต้องการนั้น บางทีอาจจะอยู่ในกำมือของผู้อื่น โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการแลกเปลี่ยนกันและกันมากกว่า ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักยุทธ์

“มีผู้เพื่อนยุทธ์จากโลกาชั้นฟ้าเข้าร่วมด้วยหรือไม่?”แววตาของอิงบูเฉิงเป็นประกายขึ้นมา ก่อนที่เขาจะรีบเอ่ยปากสอบถาม

ฐานะทางสังคมของเขาคืองานประมูลอัคคีนภา จึงค่อนข้างเข้าใจการค้าขายในทำนองนี้มากกว่า โดยทั่วไปแล้วหากมีนักยุทธ์ที่มาจากโลกาชั้นฟ้าเข้าร่วม เช่นนั้นก็จะทำให้ระดับของงานค้าขายในครั้งนี้เพิ่มขึ้นหลายระดับเลย

เนื่องจากนักยุทธ์ในโลกาชั้นฟ้าจะพกสิ่งของหรือวัตถุดิบหายากและแปลกประหลาดต่าง ๆ ติดตัวมาอยู่เสมอ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ในโลกามนุษย์

“เหอะ ๆ ผู้เพื่อนยุทธ์ท่านนี้มีประสบการณ์และความรู้ที่กว้างขวางมากเลยนะ งานค้าขายในครั้งนี้มีผู้เพื่อนยุทธ์ที่มาจากโลกาชั้นฟ้าเข้าร่วมด้วยจริง ๆ ”ผู้ชายที่เข้ามาชวนคุยยิ้มพลางตอบกลับ

เมื่อได้ยินเช่นนี้ อิงบูเฉิงก็รู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะนำสายตาจับจ้องไปทางหลัวซิวและเทพธิดายู่หรง “ทั้งสองมีความเห็นอย่างไรบ้าง?”

“ไปดูก่อนเถิด”เทพธิดายู่หรงพยักหน้าพลางพูด ดูเหมือนกับว่านางก็ดูอยากรู้อยากเห็นเหล่านักยุทธ์จากโลกาชั้นฟ้าอยู่เล็กน้อยเช่นกัน

ในเมื่อพวกเขาทั้งสองคนต่างตกลงที่จะไป หลัวซิวจึงต้องตามไปด้วยอยู่แล้ว

สถานที่จัดงานค้าขายตั้งอยู่ภายในพื้นที่ฝึกตนส่วนตัวแห่งหนึ่ง การที่สามารถจัดตั้งงานค้าขายในสถานที่เช่นนี้ได้นั้น ผู้ที่อยู่เบื้องหลังก็ต้องมีพลังอำนาจในเมืองมังกรครามยักษ์ นี้ไม่น้อยอย่างแน่นอน

สถานที่ฝึกตนแห่งนี้คือถ้ำแห่งหนึ่ง ภายในถ้ำมีห้องโถงที่กว้างใหญ่ห้องหนึ่ง เมื่อหลัวซิวทั้งสามคนถูกนำพามาถึงที่นี่ พบว่าภายในห้องโถงใหญ่มีคนนั่งอยู่ไม่น้อยแล้ว จำนวนคนมีประมาณ 30 กว่าคน

ในบรรดาทั้ง 30 กว่าคนนี้ ผลการฝึกตนของทุกคนล้วนอยู่ในระดับราชาเทพ หรือบ้างก็โฉมหน้าเลือนรางปิดบังตัวตน บ้างก็หลับตาลงทั้งสองข้างแล้วรอคอยอย่างเงียบ ๆ

ดูจากขอบข่ายของงานค้าขายในครั้งนี้ จะเริ่มต้นขึ้นหลังจากผู้เข้าร่วมครบ 50 คน หลัวซิวทั้งสามคนก็ไปหาที่นั่งนั่งลงเช่นกัน ก่อนจะหลับตาฟื้นฟูจิตพลางรองานเริ่ม

เวลาล่วงเลยไปอย่างเงียบ ๆ หลังจากไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ เสียงระฆังก็ดังก้องกังวานขึ้นมากะทันหัน