บทที่ 2213 ใช้แผนชั่วร้าย + ตอนที่ 2214 ถูกผลักหนึ่งที

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2213 ใช้แผนชั่วร้าย

คุณแม่ฉางนั่งอยู่บนพื้นร้องคร่ำครวญประโยคแล้วประโยคเล่าเสียงสูงเสียงต่ำราวกับกำลังแสดงละครเวทีอยู่อย่างไรอย่างนั้น ทำเอาคนที่สัญจรตรงระเบียงทางเดินได้ยินกันถ้วนหน้า และนับว่าโชคดีที่ลุงปาเกินจัดให้อยู่ห้องผู้ป่วยวีไอพีไม่ได้วุ่นวายอย่างห้องพักผู้ป่วยทั่วไป ไม่อย่างนั้นต้องน่ารำคาญกว่านี้แน่

“เห็นแล้วใช่ไหม นี่ไงเอกการแสดง เธอยืนอยู่ตรงนี้แหละอย่าเข้าไป”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกในท้องเหมยเหมยจึงให้เธอยืนอยู่ห่าง ๆ

“ไม่เป็นไร ฉันเข้าไปทักทายลุงปาเกินดีกว่า” เหมยเหมยไม่สนใจ คุณแม่ฉางไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเธอ ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเธอ!

ลุงปาเกินเห็นพวกเหมยเหมยก็เค้นรอยยิ้มส่งให้ สายตามีความรู้สึกผิดและความเครียดอย่างหนัก ฉีฉีเก๋อเป็นลูกสาวที่เขารักมากที่สุด ตอนนี้คนที่เจ็บปวดที่สุดก็คือเขาล่ะ

“ฉีฉีเก๋อไม่เป็นไรแล้วใช่ไหมคะ?” เหมยเหมยถาม

“จะไม่เป็นไรได้อย่างไรล่ะ? หลานฉันเกือบตาย คุณหมอบอก…” คุณแม่ฉางที่นั่งอยู่บนพื้นชิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

เหมยเหมยมุ่นคิ้ว เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอดพูดแดกดันตอกกลับไปไม่ได้ “หลานป้าหลานป้า? วัน ๆก็คิดแต่หลานป้า ทำไมถึงไม่เป็นห่วงบ้างว่าสุขภาพฉีฉีเก๋อเป็นอย่างไรบ้าง อีกอย่างตอนนี้ฉีฉีเก๋อก็ยังไม่ใช่คนตระกูลฉางของพวกป้า ป้าอย่ามานับญาติไวขนาดนี้!”

รำคาญแม่สามีเห็นแก่ตัวแบบนี้ที่สุด ในสายตาพวกเธอลูกสะใภ้ก็คือหุ่นยนต์ผลิตลูก วัน ๆคิดแต่จะอุ้มหลาน ส่วนความเป็นความตายของลูกสะใภ้ไม่เคยถามไถ่สักคำ

คุณแม่ฉางชะงักไป พอเห็นชัดว่าเป็นเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็ลอบด่าในใจว่าทำไมยัยอ้วนนี่โผล่มาอีกแล้ว ใบหน้าแสร้งทำหน้าน่าสงสารพลางปาดน้ำตาเอ่ย “ฉีฉีเก๋อท้องลูกของชิงซงแล้ว…จะไม่ใช่คนตระกูลเราได้อย่างไร…”

ขณะที่เอ่ยเช่นนี้ในสายตาของคุณแม่ฉางฉายแววได้ใจชั่ววูบแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว

มีลูกในท้องแล้ว ถ้าฉีฉีเก๋อไม่แต่งงานกับลูกชายเธอแล้วจะแต่งงานกับใครกัน?

เหอะ!

เธอรู้อยู่แล้วว่าลูกชายเก่ง ขอเพียงเธอยุยงสักหน่อยก็รู้แล้วว่าควรทำอย่างไร ทีนี้ละดีเลย แม่ไก่ที่ฟักไข่ทองคำได้อย่างฉีฉีเก๋อต่อให้มีปีกสิบคู่ก็บินไปไหนไม่รอด หากหล่อนไม่ซื้อบ้านในเมืองหลวงให้ลูกชายเธอ เธอก็จะไม่อนุญาตให้แต่งงาน!

ผู้หญิงที่เสียพรหมจรรย์ไปแล้วใครจะอยากได้?

ลุงปาเกินทำหน้าถมึงทึง เขาฟังออกถึงนัยยะที่คุณแม่ฉางจะสื่อพลันก็เกิดบันดาลโทสะ พูดเสียงขรึม “ลูกสาวฉันกับหลานฉันฉันเลี้ยงได้ ไม่ต้องให้บ้านพวกคุณมาคอยกังวลหรอก!”

“เด็กนั่นเป็นของชิงซงนะ…ชิ่นเจีย[1]…” คุณแม่ฉางทำท่าน่าสงสาร คนไม่รู้ความคงหลงคิดว่าคนตัวใหญ่อย่างลุงปาเกินกำลังรังแกเธอเสียอีก

“อย่ามาเรียกฉันว่าชิ่นเจีย ฉันไม่มีวันนับญาติกับครอบครัวอย่างพวกคุณ” ลุงปาเกินทำหน้าเย็นยะเยือก หากตอนนี้เขายังไม่รู้ทันความคิดของคนตระกูลฉางอีก งั้นก็เสียแรงที่เขาล้มลุกคลุกคลานในวงการค้าขายมาหลายสิบปีแล้ว

มีเพียงลูกสาวแสนโง่ของเขาที่ความรักบังตายินยอมให้คนกลุ่มนี้หลอกลวง

ฉางชิงซงพูดด้วยเสียงขุ่นเคือง “คุณลุง ผมกับฉีฉีเก๋อเรารักกันจากใจจริง ทำไมท่านต้องใจร้ายขนาดนี้ด้วย?”

“รักกันจากใจจริงเหรอ? แกไม่คู่ควรพูดคำว่ารัก แกกล้าสาบานกับตัวเองไหมล่ะว่าที่ฉีฉีเก๋อท้องเป็นอุบัติเหตุ?” ลุงปาเกินจ้องเขานิ่ง

ฉางชิงซงทำหน้าไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ใจแป้วขึ้นมา

ใช่แล้ว เรื่องที่ตั้งครรภ์เขาทำไปตามแผนที่วางไว้

นั่นเพราะเขารักฉีฉีเก๋อมากเกินไป เขาไม่อยากพรากจากฉีฉีเก๋อ หลังจากเปิดอกคุยกับแม่ของเขา ฉางชิงซงก็คิดแผนทำให้ท้องขึ้นมาได้ อย่างไรเสียเขาจะดีกับฉีฉีเก๋อไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว มีลูกเร็วหรือช้ามันแตกต่างกันอย่างไรเล่า?

ฉางชิงซงไม่คิดว่าตัวเองทำผิดเลยสักนิด แต่ยามเผชิญหน้าลุงปาเกินเขากลับรู้สึกผิดอยู่ดี

[1] ชิ่นเจีย สรรพนามของพ่อแม่คู่สมรสใช้เรียกขานพ่อแม่อีกฝ่าย

…………………….

ตอนที่ 2214 ถูกผลักหนึ่งที

ลุงปาเกินแค่นหัวเราะทีหนึ่ง ความรักที่แท้จริงแบบนี้เขาไม่ต้องการ!

ฉางชิงซงเรียกขวัญกำลังใจแล้วเอ่ย “คุณลุง ผมสัญญาว่าจะดีกับฉีฉีเก๋อตลอดไป…ขอร้องละอนุญาตให้เราคบกันเถอะ”

“สัญญา? ฉันไม่เชื่อในคำสัญญาของแก แกไม่ต้องมาสัญญากับฉัน”

ลุงปาเกินไม่สนใจฉางชิงซงอีกต่อไป เขากำลังรอลูกชายคนรองกับลูกสะใภ้คนรองมา เรื่องแบบนี้ครอบครัวลูกคนรองถนัดรับมือเชียว เขาคร้านจะเสียเวลากับคนตระกูลฉางไปมากกว่านี้

คุณแม่ฉางอดพูดไม่ได้ “ฉีฉีเก๋อท้อง เธอไม่แต่งงานกับชิงซงแล้วจะทำอย่างไร…ชิ่นเจียคุณจะทำร้ายเด็กไม่ได้นะ…”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกล่าวด้วยเสียงโมโห “ป้า ผู้ชายบนโลกนี้ไมได้มีแค่ลูกชายป้าคนเดียวนะ ฉีฉีเก๋อมีพื้นหลังครอบครัวที่ดีทั้งสวยทั้งเก่ง มีตัวเลือกเยอะจะตายไป”

เกลียดผู้หญิงที่ชอบเอาเด็กกับชื่อเสียงมาข่มขู่ที่สุดเลย!

“แม่หนู ฉีฉีเก๋อท้องแล้ว…” คุณแม่ฉางย้ำเรื่องฉีฉีเก๋อตั้งครรภ์ซ้ำ ๆจนเหมยเหมยทนฟังไม่ได้ เดินเข้าไปหา

“มีลูกแล้วอย่างไร ตอนนี้ยังไม่ถึงสามเดือนสามารถทำแท้งได้ทุกเมื่อ” เหมยเหมยพูดเสียงเย็นชา

มีแม่สามีอย่างคุณแม่ฉาง ต่อให้การทำแท้งจะทำให้เสียสุขภาพเพียงใดก็ดีกว่าต้องแต่งงานกับฉางชิงซงร้อยเท่า

“โอ้…แม่หนูพูดแบบนี้ไม่ได้นะ เด็กน่าสงสารจะตาย เขาเป็นหลานของตระกูลฉางเราเชียว พวกเธอบอกให้ทำแท้งแล้วจะทำแท้งเลยคงไม่ได้มั้ง อีกอย่างฉีฉีเก๋อยังเป็นสาวอยู่เลยจะไปทำแท้งได้อย่างไร ถ้าให้คนอื่นรู้เข้าก็คงไม่ดีต่อชื่อเสียงของฉีฉีเก๋อนะ…”

คุณแม่ฉางเอ่ยวาจาน่ารังเกียจด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยถึงขั้นข่มขู่ลุงปาเกิน

“เธอ…คิดจะใส่ร้ายลูกสาวฉันเหรอ?” คุณแม่ฉีฉีเก๋อที่สงบเสงี่ยมไม่พูดไม่จามาตั้งแต่ต้น พอได้ยินประโยคนี้ก็พุ่งไปตรงหน้าคุณแม่ฉางด้วยความโกรธ เธอไม่ถนัดพูดภาษาจีนกลางเลยพูดเสียงติด ๆขัด ๆด้วยใบหน้าที่กำลังหน้าดำหน้าแดงขึ้นเรื่อย ๆ

คุณแม่ฉางตกใจจนถอยหลังหลายก้าว “ฉัน…ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น…ฉันแค่สงสารหลานของฉัน…”

“เธอกล้า…ทำร้ายลูกสาวฉัน…ฉันจะฆ่า…ฆ่าเธอ!”

คุณแม่ฉีฉีเก๋อคว้าคอเสื้อคุณแม่ฉาง เธอสูงกว่าคุณแม่ฉางกว่าคืบเลยยกขึ้นได้อย่างง่ายดาย ฉางชิงซงรีบพุ่งเข้าไปหมายจะแยกพวกเธอออกจากกัน

“คุณป้า แม่ผมสุขภาพไม่ดี รีบปล่อยมือเถอะครับ!”

“สุขภาพไม่ดีก็อยู่บ้านเฉย ๆสิ อย่าวิ่งแจ้นไปสร้างปัญหานอกบ้านบ่อยนัก” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอดตอกกลับไม่ได้ พลางสะบัดสีหน้าใส่ฉางชิงซง

ฉางชิงซงสีหน้าไม่สู้ดีนัก เขาไม่คิดว่าเรื่องราวจะมาถึงจุดนี้ได้ เขาแค่ต้องการแต่งงานกับหญิงที่เขารักเท่านั้น ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ?

คุณแม่ฉีฉีเก๋อปล่อยตัวคุณแม่ฉางลงแล้วถลึงตากลับไปอย่างดุดัน พอนั่งลงที่เดิมก็ใช้ภาษามอลโกลคุยกับลุงปาเกินว่า “จะให้ฉีฉีเก๋อแต่งงานเข้าตระกูลนี้ไม่ได้ เราเลี้ยงหลานเองก็ได้”

ในเมื่อลูกสาวยืนกรานไม่ยอมเอาเด็กออกก็ให้พวกเขาเลี้ยงเถอะ อย่างไรเสียบ้านพวกเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนเงินแค่นี้อยู่แล้ว!

ลุงปาเกินพยักหน้า เมื่อครู่เขาก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน ถือว่าเขารู้ธาตุแท้ตระกูลฉางแล้ว ลูกสาวแต่งเข้าบ้านนั้นไปต้องลำบากแน่นอน!

คุณแม่ฉางโดนเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเถียงหลายทีก็ทำเอาเธอแค้นใจนัก หากไม่ใช่ยัยอ้วนนี่มาป่วน ไม่แน่ฉีฉีเก๋ออาจจะจดทะเบียนสมรสกับลูกชายเธอไปตั้งนานแล้ว

“ฉันว่าแม่หนูสอดมือเข้ามายุ่งมากเกินไปหรือเปล่า นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวฉัน ผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงานอย่างเธอมายุ่งอะไรด้วย?” คุณแม่ฉางไม่แสร้งทำตัวน่าสงสารอีกต่อไป

“ฉีฉีเก๋อเป็นเพื่อนฉันแล้วทำไมฉันจะยุ่งไม่ได้ ป้าทำผิดแล้วรู้สึกกลัวสินะ?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่เคยกลัวที่จะต่อปากต่อคำ เธอกำลังรออยู่เชียว

ทั้งคู่โต้กันไปโต้กันมาลามไปใหญ่โต คุณแม่ฉางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเลยได้แต่ด่ากลับไป “ฉันว่าเธอคงอิจฉาเพื่อนที่หาคู่ดี ๆได้ถึงจงใจมาป่วน คนอ้วนอย่างเธอต่อให้ผู้ชายตาบอดก็คงไม่ถูกใจ”

เหมยเหมยตีหน้านิ่งพูดเสียงเย็นชา “พูดจาให้เกียรติกันด้วย!”

“ฉันไม่ให้เกียรติอย่างไร ฉันพูดความจริงทั้งนั้น…”

คุณแม่ฉางพูดไปก็ผลักเหมยเหมยแรง ๆไปทีหนึ่ง ยัยตัวแสบนี่ก็ไม่ใช่คนดีอะไร ทั้งหมดเป็นเพราะเธอกับยัยอ้วนนั่นเป่าหูฉีฉีเก๋อ

“ป้าคิดจะทำบ้าอะไรฮะ…” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตกใจยกใหญ่รีบเข้าไปประคองเหมยเหมยไว้

………………………..