ตอนที่ 1707 : ปล้น

ผู้อาวุโสที่ประจำที่เหมืองได้มองดูอันโดฟูจากไปและสีหน้าที่สุภาพของเขาก็หายไป เขาได้ฮึดฮัดออกมาแทน “บรรพชนของตระกูลอันโดนี้โลภมาก เขาบ่มเพาะที่นี่ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องการเหรียญผลึกของเรากว่าครึ่งหนึ่ง แม้ว่ามันจะเป็นเหรียญผลึกครี่งหนึ่งที่เราขุดมาในไม่กี่เดือน คนงานเหมืองก็ไม่ใช่เซียนเหมือนแต่ก่อนแต่เป็นยามขอบเขตดั้งเดิมของตระกูลลู่ ชัดแล้วว่ามันเร็วกว่ามาก ข้าสงสัยจริง ๆ ว่าทำไมหัวหน้าตระกูลถึงได้ตกลงเช่นนี้ ในความเห็นของข้าแล้ว ควรให้เขาไปเพียง 1 ใน 3 ก็ถือว่ามากพอแล้ว”

ผู้อาวุโสถอนหายใจออกมา เขาแสดงสีหน้าเสียดายออกมา “มันน่าเสียดายที่ชายลึกลับที่โจมตีเราไม่กี่เดือนก่อนนั้นไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นอีก เราปล่อยให้ตระกูลอันโดได้รับผลประโยชน์กลับไปง่ายดายเช่นนี้ “

ไม่นานก็มีชายแก่บินเข้ามา เขาโค้งให้กับผู้อาวุโสและพูดขึ้น “ผู้อาวุโสลู่หยุน เราเก็บเหรียญผลึกได้มากกว่าเดิมเมื่อไม่นานมานี้ ผู้อาวุโสลู่หยุน ดูนี่” ชายแก่รีบดึงเอาเหรียญผลึกขนาดเท่ากับหัวคนออกมาจากแหวนมิติ มันคือเหรียญผลึกระดับสูง

แม้แต่สำหรับผู้อาวุโสลู่หยุน มันก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเหรียญผลึกระดับสูงมากมายเช่นนี้ เขาแปลกใจแต่ก็สลดทันที เขาถอนหายใจออกมา “นี่ไม่ต้องนับว่ามันเป็นเหรียญผลึกระดับสูง เราไม่อาจจะทำอะไรเรื่องนี้ได้แม้ว่ามันจะเป็นระดับสูงสุดก็ตาม มันจะไม่เป็นของเราในเร็ว ๆ นี้ สิ่งเดียวที่เราต้องโทษคงเป็นการขาดพลังในการปกป้องสมบัตินี้ สั่งให้ทุกคนขุดให้เร็วกว่าเดิม ขั้นเทพของแคว้นตงอันได้ปรากฏตัวในตระกูลแล้ว ดังนั้นพวกเขาคงจะมาที่นี่ในไม่ช้า เราต้องขุดเอาเหรียญผลึกให้ได้มากที่สุดก่อนที่เรื่องนั้นจะเกิดขึ้น”

“ได้ ผู้อาวุโสลู่หยุน ข้าจะสั่งการทันที” ชายแก่เองก็เริ่มเครียดเช่นกันและเขาก็รีบออกไปทันที ชายแก่ผู้นี้เคยเป็นหัวหน้าคนงานของเหมืองมาก่อนแต่ตั้งแต่ที่ผู้อาวุโสได้มาประจำการที่นี่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เขาจึงกลายเป็นคนงานเหมืองไปแทน

นอกจากเขาแล้วแม้แต่ยามก็กลายเป็นคนงานเหมืองเช่นกัน ไม่มีใครนั่งเฉยนอกจากผู้อาวุโส

ไม่นานก็มีสองคนมุ่งหน้าเข้ามายังภูเขาเมฆดำ พวกเขาเคลื่อนที่กันอย่างรวดเร็วด้านบนเหวพร้อมกับแผ่พลังอันแข็งแกร่งออกมา

เหวแห่งนี้คือเหมืองเหรียญผลึกระดับสูง

สีหน้าของผู้อาวุโสเปลี่ยนไปทันที เขาหันกลับไปมองท้องฟ้าและเห็นสองร่างที่ค่อยลอยลงมา หนึ่งในนั้นดูเหมือนจะอายุ 20 ปีในชุดขาวและผมที่ปลิวไปตามลม ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขานั้นมีความกดดันหนักหน่วง สายตาของเขานั้นเฉียบคมราวกับกระบี่

อีกคนใส่ชุดสีเทาเป็นชายวัยกลางคน หน้าตาของเขาไม่ได้พิเศษอะไรและเขาก็เป็นที่ไม่ได้ดูน่าสนใจอะไร แต่แม้ว่าจะหน้าตาธรรมดา แต่เขาก็ยังแผ่ปราณกระบี่ออกมาที่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้ลู่หยุนสั่นกลัวได้ มันถึงกับทำให้ลู่หยุนไม่ได้รู้สึกว่าเขาเผชิญหน้ากับคนแต่เป็นกระบี่แทน

ทั้งสองคนนี้คือเจี้ยนเฉินและเฉินเจี้ยน

“เจ้านี่เอง ! ” สีหน้าของลู่หยุนเปลี่ยนไปเมื่อเห็นเจี้ยนเฉินและเฉินเจี้ยน แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับทั้งสอง แต่เขาก็รู้จักพวกนี้ดี ตระกูลลู่ใช้ความพยายามอย่างมากในการค้นหาสองคนนี้และได้รู้มานานแล้วว่าพวกนี้อยู่กับตระกูลโม่ บรรพชนนั้นกลัวพวกนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจจะทวงหนี้แค้นกับตระกูลโม่ได้

ในเวลาเดียวกันตอนที่เหมืองนั้นโดนโจมตีเมื่อหลายเดือนก่อน พวกเขาก็พบว่ามันเป็นเจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉินและ เฉินเจี้ยนได้กลายเป็นศัตรูกับตระกูลลู่มานานแล้ว

“พวกเขามาพร้อมกับจุดประสงค์ร้าย พวกนั้นจะมาปล้นเหรียญผลึกของเราอีกแล้วรึ ? บัดซบ ทำไมพวกนั้นไม่มาให้เร็วกว่านี้อีกนิด ? พวกนั้นคงเลือกเวลามาแล้วอย่างดี เจ้าแก่บัดซบอันโดฟูรู้ว่าพวกนี้จะมาจึงรีบกลับไปงั้นรึ ? ไม่ ข้าต้องรายงานเรื่องนี้ให้กับบรรพชนให้เร็วที่สุด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดทั้งสองคนหากไม่มีขั้นเทพ” ลู่หยุนสีหน้าหม่น เขาพลิกมือพร้อมกับเครื่องรางหยกที่โผล่มาในมือ เขาได้ใช้งานมันทันที

แต่ตอนนั้นเองอุณหภูมิรอบ ๆ กลับลดลง หิมะได้ก่อตัวไปทั่วท้องฟ้า ลู่หยุนเห็นแค่แสงส่องประกายก่อนที่ข้อมือจะถูกตัดออกพร้อมกับเลือดที่กระจายไปทั่วราวกับน้ำพุ

เจี้ยนเฉินโผล่มาตรงหน้าของลู่หยุนพร้อมกระบี่หิมะบิน เขาได้จับเครื่องรางของลู่หยุนเอาไว้ด้วยมือซ้ายของเขา

ลู่หยุนร้องออกมา เขามองไปที่เจี้ยนเฉินที่เหมือนกับหายตัวมายังตรงหน้าเขาด้วยความตะลึง เขาอดทนต่อความเจ็บปวดที่ข้อมือพร้อมกับถอยกลับ ในเวลาเดียวกันใจของเขาก็ต้องหล่นวูบ

“ขั้นเทพ เขาต้องเป็นขั้นเทพแน่ ๆ มีแค่ขั้นเทพที่ทำให้ข้ามีสภาพเช่นนี้ได้ เราจบสิ้นแล้ว เราจบสิ้นแล้ว” ใบหน้าของลู่หยุนเคร่งเครียด เขารู้ว่าเขาต้องย่ำแย่เมื่ออยู่ต่อหน้าขั้นเทพ แม้ว่าเขาจะทุ่มเทสุดตัวแต่เขาก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้

เจี้ยนเฉินมองไปที่ลู่หยุนและพูดขึ้นมา “เจ้าคงเป็นผู้อาวุโสของตระกูลลู่ เห็นจากการบ่มเพาะของเจ้าที่ไม่ง่ายเลย ข้าไม่ต้องการจะฆ่าเจ้า ส่งแหวนมิติมา เจ้าควรเข้าใจว่าอะไรที่สำคัญมากกว่ากันระหว่างชีวิตกับสมบัติ เจ้าควรคิดให้ดี ๆ ”

“ข้าจะออกไปดูด้านนอก ข้าจะลงไปดูที่เหมือง” เฉินเจี้ยนพูดขึ้นก่อนจะหายไปในพริบตา ไม่กี่วินาทีต่อมามันก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากในเหมือง

ลู่หยุนเศร้ามากกว่าเดิมเมื่อรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเหมือง เขารู้ว่าเฉินเจี้ยนนั้นได้เก็บแหวนมิติจากคนในเหมืองพวกนั้นมา

“ เอาไป ข้าหวังว่าเจ้าจะรักษาคำพูด” ลู่หยุนหลับตา จากนั้นเขาก็ถอดแหวนของตัวเองและโยนมันให้กับเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินรับแหวนมา เขามองไปที่ลู่หยุนด้วยรอยยิ้ม “แล้ววงที่อยู่บนหัวเจ้าล่ะ ? ”

ใบหน้าของลู่หยุนนิ่งไปเมื่อได้ยินแบบนั้น เขามองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความตกตะลึงและไม่ได้พูดอะไรออกมาก่อนจะแก้มวยผมและส่งแหวนมิติให้กับเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินเล่นกับแหวนทั้งสองก่อนจะส่งวิญญาณเข้าไปตรวจสอบของด้านใน เขาเผยสีหน้ายินดีออกมา แค่เหรียญผลึกในแหวนทั้งสองวงนี้ก็มากกว่าที่เขาได้มาในครั้งที่แล้วเพราะเหรียญผลึกเหล่านี้ส่วนมากแล้วเป็นระดับกลางและระดับสูง

ไม่นานเฉินเจี้ยนก็กลับมาจากเหมืองและพยักหน้าให้กับเจี้ยนเฉินด้วยสีหน้าพอใจ

เจี้ยนเฉินพลิกมือก่อนที่แหวนที่ได้มาจากลู่หยุนจะหายไป จากนั้นเขาก็ได้กลับไปพร้อมกับเฉินเจี้ยน

ทั้งสองคนได้มาและกลับไปอย่างรวดเร็ว ยังไงซะการปล้นแหวนมิตินี้ก็ง่ายกว่าครั้งก่อนอย่างมาก พวกเขาไม่ได้เสียเวลาพูดคุยเลยด้วยซ้ำ

หลังจากที่ทั้งสองคนจากไป คนงานเหมืองทุกคนก็รีบออกมาจากเหมืองด้วยท่าทีลนลาน

“ไม่นะ ! ผู้อาวุโสลู่หยุน มีคนเข้าไปในเหมืองและขโมยแหวนมิติของเรา พวกเขาได้ขโมยเหรียญผลึกที่เราขุดด้วยความยากลำบากไป”