ในฐานะที่เป็นศิษย์ใจกลางของกองกำลังระดับจ้าวมหาเทพในมหาโลกายอดอัมพร หลิวเทียนลู่มีท่าทางที่โอหังอวดดีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ในสายตาเขานักยุทธ์ในโลกามนุษย์ล้วนเป็นมนุษย์ระดับต่ำ มาตรแม้นว่าเป็นผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเทพเหล่านั้น จะมีผู้ใดกล้าแตะต้องแม้แต่ปลายเล็บของเขาบ้าง?

เขาเริ่มฝึกวรยุทธ์ระดับจ้าวมหาเทพตั้งแต่แรกแล้ว ตระหนักรู้พลังอมตะระดับจ้าวมหาเทพ ผลการฝึกตนอยู่ที่ราชาเทพขั้น 9 ศักยภาพสามารถต่อกรกับผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพโดยตรง ขอถามหน่อยซิว่านักยุทธ์คนใดในโลกามนุษย์จะมีศักยภาพระดับนี้ได้?

อย่าว่าแต่ไอ้หมอนี่ที่เป็นเพียงราชาเทพขั้นปฐมภูมิกระจอก ๆ คนหนึ่งเลย ต่อให้เป็นเหล่ากึ่งมกุฎเทพที่อยู่ในงาน หลิวเทียนลู่ก็ไม่นำไปไว้ในสายตาเช่นกัน

“จักรวาลนี้กว้างใหญ่ไพศาลอย่างไร้ขอบเขต เจ้าถือดีเกินไปแล้ว”คิ้วอันงดงามคู่นั้นของผู้บำเพ็ญเซียนหญิงขมวดลงเล็กน้อย นางไม่ชอบลักษณะท่าทางที่ดูโอหังอวดดีเช่นนี้ของหลิวเทียนลู่มาก ๆ

หลิวเทียนลู่เบ้ปาก “หยุนไฉยี เจ้าต้องเข้าใจในตัวตนของเจ้าด้วย แม้ว่าเจ้าจะเป็นคู่หมั้นของข้า ทว่าเจ้าไม่มีสิทธิ์มาอบรมสั่งสอนข้า”

ผู้บำเพ็ญเซียนหญิงผู้มีนามว่าหยุนไฉยีนั่นไม่พูดอะไรอีก แต่กลับมีรังสีแห่งความดูหมิ่นเคลื่อนผ่านไปในแววตานางอีกครั้ง

ผ่านไปอีกพักหนึ่ง นักยุทธ์ส่วนมากที่อยู่ในงานต่างนำสมบัติของตนออกมาค้าขายซึ่งกันและกันแล้ว นอกเหนือจากการใช้แก้วเทวห้าร้อยล้านชิ้นซื้อยาเซียนระดับ 9 มาได้หนึ่งเตา หลัวซิวก็ไม่ได้ซื้อของชิ้นอื่น ๆ อีกเลย

“สมกับที่เป็นนักยุทธ์โลกาชั้นฟ้าจริง ๆ สมบัติที่นำออกมาโดยไม่คิดอะไรมาก ก็เป็นวรยุทธ์ระดับจักรพรรดิเทพแล้ว ช่างน่าอิจฉาเสียจริง”

งานค้าขายในครั้งนี้ หากบอกว่าสิ่งที่ทำให้ผู้คนจับจ้องมากที่สุดละก็ คงต้องเป็นข่าวคราวที่หลิวเทียนลู่ปล่อยออกมาอยู่แล้ว ทันทีที่มีคนสามารถเสนอข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่เขาตามหาให้แก่เขา ก็จะได้รับวรยุทธ์ระดับจักรพรรดิเทพฉบับไม่สมบูรณ์ครบถ้วน สำหรับทุกคนแล้ว นี่ถือเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่เลย

ทันทีที่ข่าวคราวแพร่งพรายออกไป ยิ่งกว่านั้นคืออาจารย์มกุฎเทพเหล่านั้นคงรู้สึกหวั่นไหวไปด้วยแน่นอน นักยุทธ์จำนวนมากจากกลุ่มดาวฤกษ์ทั้งสองจะถูกระดมกำลัง เพื่อตามหาร่องรอยของคนคนนั้น

และทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็คือจุดประสงค์ของหลิวเทียนลู่ มีเพียงตามหาผู้ที่ถ่ายทอดบำเพ็ญพลิกทมิฬให้เด็กผู้ชายคนนั้นให้เจอ เขาถึงจะมีโอกาสได้รับภาคต่อของวรยุทธ์ระดับจักรพรรดิเทพนี้

หากเป็นวรยุทธ์ระดับจักรพรรดิเทพฉบับสมบูรณ์ แม้แต่กองกำลังระดับจ้าวมหาเทพที่เขากำเนิดก็ไม่มีเช่นกัน ยิ่งกว่านั้นคือกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังเขาอาจจะอาศัยวรยุทธ์นี้เจริญรุ่งเรืองขึ้นในรวดเดียว กลายเป็นกองกำลังระดับจักรพรรดิเทพที่ปกครองดาราจักรวาลของยุคต่อไป!

ไม่แน่จักรพรรดิเทพผู้สูงส่งไร้เทียมทานในยุคต่อไป อาจเป็นตัวเขาเองก็เป็นได้

หลังจากการแลกเปลี่ยนค้าขายของแต่ละคนเสร็จสิ้นไปแล้ว ตัวแทนของผู้จัดงานค้าขายในครั้งนี้ หรือชายชุดแพรที่มีระฆังใหญ่สีทองลอยอยู่เหนือศีรษะ ก็เดินออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

งานค้าขายในทุก ๆ ครั้ง สิ่งที่ทำให้ผู้คนตั้งตารอคอยมากที่สุด นั่นก็คือสมบัติที่ผู้จัดนำออกมาขาย

“ก่อนอื่นใดข้านั้นรู้สึกดีใจมาก ๆ ที่ทุกท่านโปรดให้เกียรติเข้าร่วมงานประมูลในครั้งนี้ หวังว่าสิ่งของที่เรานำออกมาในครั้งนี้จะทำให้ผู้เพื่อนยุทธ์ทุกท่านพึงพอใจ”

หลังจากสิ้นเสียง ระฆังสีทองใหญ่ที่อยู่เหนือศีรษะชายชุดแพรก็สั่นสะเทือน และมีแสงสีทองพุ่งออกมาจากระฆัง

ทุกคนต่างจ้องมองไปทางแสงสีทองนั่น ก่อนจะพบว่าภายในแสงสีทองที่สะดุดตานั่น มีอสูรพิลึกรูปงูตัวหนึ่ง ยาวประมาณสองเมตร ซึ่งอยู่ในสภาวะหลับใหล

“สมบัติชิ้นแรกคือลูกงูมังกรนภาเสวียน เพิ่งกำเนิดเมื่อไม่นานมานี้ ยังไม่ลืมตามองโลก ข้าคิดว่าทุกท่านน่าจะเข้าใจดีว่าเมื่อมันลืมตาขึ้นมาแล้วทำสัญญาวิญญาณกับทุกท่านละก็ มันก็จะกลายเป็นสหายร่วมสงครามที่ซื่อสัตย์ที่สุดของท่าน ราคาขั้นต่ำของลูกอสูรตัวนี้ที่ทางผู้จัดเราเสนอให้เริ่มต้นที่แก้วเทวชั้นกลางหนึ่งพันล้านชิ้น ผู้ที่เสนอราคาสูงสุดจะได้ครอบครองไป!”

งานค้าขายที่ทางผู้จัดจัดตั้งขึ้นมานั้น แท้จริงแล้วเมื่อถึงช่วงเวลาสุดท้ายมันก็เหมือนงานประมูลขนาดเล็กเช่นกัน ซึ่งแตกต่างจากงานค้าขายใหญ่ ๆ ในงานค้าขายขนาดเล็กเช่นนี้ก็มีสมบัติล้ำค่าปรากฏได้ อีกทั้งผู้ที่เข้าร่วมการแข่งประมูลล้วนเป็นยอดฝีมือระดับสูง ต่างมีทรัพย์สินหนาและแน่นอย่างไม่ธรรมดา