มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1684

“ปัง!”

ร่างกายของผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวระเบิดแตกจนเสียงดังสนั่น กลายเป็นวงหมอกเลือด ภายใต้การกดอัดของกฎเวลาและปริภูมิ เขาไม่ทันแม้แต่จะใช้อาวุธสงครามของขลังของตนเลยด้วยซ้ำ ก็ถูกหลัวซิวสังหารคาที่แล้ว

เป็นกฎดั้งเดิมขั้น 5 เหมือนกัน การที่กฎชั้นยอดทั้งสองอย่างกฎเวลาและปริภูมิจะกดอัดกฎธาตุอัสนีนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายดั่งปอกกล้วยเข้าปากชัด ๆ

“โครมคราม……”

หลังจากผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวถูกสังหารไปแล้ว อาณาจักรที่ประกอบจากกฎอัสนีจึงสูญเสียการควบคุมไปในทันที และอัสนีก็เริ่มหยาบช้าร้ายกาจขึ้นมา

หลัวซิวยกมือขึ้นไปคว้าแหวนเก็บของของผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวมา ส่วนอสูรดูดจิตโบราณที่เกาะอยู่บนไหล่เขานั้นก็ยื่นคอมา กลืนกินช่องจิตวิญญาณของฝ่ายตรงข้ามไปในทีเดียว กัดจนเสียงดังแคว็กและแตกสลายไป

“แยก!”

หลัวซิวทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง อัสนีที่หยาบช้าร้ายกาจบริเวณรอบ ๆ เหมือนตกใจกลัวยังไงอย่างนั้น ต่างกระจัดกระจายและค่อย ๆ หายไป ดับสลายหายไปจนไร้รูป

หลังจากอัสนีสลายหายไปแล้ว หลัวซิวก็โบกมือถอนค่ายกลออกไป ทุกคนต่างพากันมองไป กลับพบว่าเงาร่างของผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวนั่นหายไปแล้ว

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

บนใบหน้าของทุกคนต่างมีรัศมีแห่งความสงสัย เนื่องจากไม่มีผู้ใดสามารถมองเห็นภาพเหตุการณ์การต่อสู้เมื่อครู่นี้ได้เลย ผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวนั่นหายไปที่ใดแล้ว?

สำหรับเรื่องที่ว่าราชาเทพขั้นปฐมภูมิคนหนึ่ง สังหารผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวที่เป็นราชาเทพขั้น 9 นั้น ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุกลับไม่มีผู้ใดเชื่อเลย

และในเวลานี้เอง ในกลุ่มคนที่อยู่ละแวกนี้ สีหน้าของผู้อาวุโสชุดคลุมยาวดำคนหนึ่งก็เปลี่ยนไปอย่างมาก พลิกฝ่ามือนำม้วกหยกชิ้นหนึ่งที่แตกสลายไปแล้วออกมาจากแหวนเก็บของ

“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? ศิษย์น้องชิงหลิงถูกมึงฆ่าอย่างนั้นหรือ?”

เมื่อผู้อาวุโสชุดคลุมยาวดำกล่าวเช่นนี้ ณ ที่เกิดเหตุก็คือฮือฮาขึ้นมา

ฟังจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์บริเวณรอบ ๆ หลัวซิวทราบมาว่าผู้อาวุโสชุดคลุมยาวดำคนนี้มาพร้อมกับผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวนั่น ถูกขนานนามว่าท่านอาวุโสรองเสวียนเขียว ผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวที่ถูกเขาสังหารคือศิษย์น้องเขา

“ในเมื่อมาด้วยกัน มึงก็ไปตายซะเถอะ”

หลัวซิวแทบจะไม่ลังเลใจเลย เงาร่างหายไปกับที่ภายในชั่วพริบตาเดียว จากนั้นก็มีหอกยุทธ์มังกรดำปรากฏในมือ คนและหอกรวมกันเป็นหนึ่ง กลายเป็นมังกรอสูรสีดำ กระโจนไปทางผู้อาวุโสชุดคลุมยาวดำพร้อมกับเสียงคำราม

สังหารผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวเพียงคนเดียว ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาระบายจิตสังหารที่อยู่ในอกออกมาได้ด้วยซ้ำ ผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวนั่นถูกเขาสังหาร ผู้อาวุโสชุดคลุมยาวดำคนนี้ไม่มีทางจบเรื่องง่าย ๆ อย่างแน่นอน เมื่อเปรียบเทียบกับการรอฝ่ายตรงข้ามมาตามล้างแค้น จะดีกว่าถ้าหากถอนรากถอนโคน เปิดฉากลงมือโจมตีก่อน

“เจ้าช่างกล้าหาญยิ่งนัก!”

ผู้อาวุโสชุดคลุมยาวดำโกรธเกรี้ยวอย่างมาก มีดาบรบเล่มหนึ่งบินออกมาจากจุดตันเถียน พร้อมกับปราณปีศาจที่มืดทึมน่ากลัว

เขาไม่ใช่นักยุทธ์กลั่นร่างแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นดาบรบจึงถูกควบคุมและกระตุ้นโดยตัวสำนึก เหมือนดังดาบบินที่มีแสงดาบที่มืดครึ้มและมีความหนาวเย็นซัดสาด

คุณภาพของดาบรบเล่มนี้ไม่ธรรมดา เป็นราชาแห่งศัสตราวุธชั้นยอด ปราณปีศาจที่กลิ้งไหลไปมาทำให้พื้นที่บริเวณรอบ ๆ ถูกกัดกร่อนจนเป็นหลุมเป็นบ่อ ดูน่าสยดสยองอย่างมาก

โครม!

แสงหอกรูปมังกรที่กลายมาจากหลัวซิวตีปราณปีศาจบริเวณรอบ ๆ จนแตกกระจาย ท่ามกลางเสียงดังสนั่นหู ดาบมารสีดำนั่นเหมือนถูกฟ้าผ่า กระเด็นลอยออกไป

และในเวลานี้เอง ผู้อาวุโสชุดคลุมยาวดำคนนั้นก็พลิกมือโยนลำแสงสามลำแสงออกไป เห็นได้ชัดเจนเลยว่านั่นคือลูกแก้วสีดำสามลูก มันระเบิดแตกออกมากะทันหัน จนกลายเป็นเปลวไฟสีดำที่รุนแรง ทำการปกคลุมร่างกายของหลัวซิวเอาไว้

ฉือฉือฉือ……

เปลวไฟสีดำเหล่านี้มีพลังการกัดกร่อนที่รุนแรงมาก ๆ ร่างยุทธ์ร่างเนื้อที่เกะกะระรานอย่างหลัวซิว ก็ถูกกัดกร่อนจนละลายอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เผยให้เห็นกระดูกขาวเผือกที่น่าสยดสยอง

อย่าว่าแต่บาดแผลเช่นนี้เลย แค่ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงจากเลือดเนื้อที่ถูกกัดกร่อนก็เป็นสิ่งที่คนทั่วไปต้านทานไม่ไหวแล้ว แต่สีหน้าของหลัวซิวกลับไม่เปลี่ยนแปลงเลย เนื่องจากต่อให้เป็นความเจ็บปวดที่รุนแรงมากเพียงใด ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการระบายจิตสังหารที่อยู่ในอกของเขาออกมาได้

เขาฝืนต้านทานการแผดเผาจากเปลวไฟสีดำ ภายใต้การโคจรกฎปริภูมิ เขาก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าผู้อาวุโสชุดคลุมยาวดำโดยตรง