ตอนที่ 2791 บุกฝ่าวงล้อม

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2791 บุกฝ่าวงล้อม!
“ถอยไป!”

เย่หยวนร้องขึ้นมาอย่างรุนแรงพร้อมด้วยใช้ดาบบินนั้นสังหารจักรพรรดิเซียนขั้นสุดลงอีกคนหนึ่ง

ในเวลานี้ตัวเย่หยวนนั้นได้สังหารจักรพรรดิเซียนขั้นสุดลงไปแล้วถึงสามคนด้วยกัน!

แต่ระหว่างเขาที่ฆ่าไปสามนั้นมันกลับมีมาเพิ่มห้า!

และคนทั้งห้านั้นต่างก็เป็นจักรพรรดิเซียนขั้นสุดกันสิ้น!

แต่ว่าเย่หยวนนั้นก็ไม่ได้คิดเกรงกลัวใดๆ ใช้ค่ายกลดาบเอกภพต่อสู้อย่างไม่ยอมแพ้

หลังจากต่อสู้หนักหน่วงไปอีกนานในที่สุดเหล่าห้ายอดขุนศึก ก็เริ่มแสดงความเหนื่อยอ่อนออกมาจนแทบไม่อาจรับมือได้ไหวอีก

หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเย่หยวนอาจจะฆ่าลงได้สักคนสองคน

ตอนไม่ฆ่านั้นก็ไม่คิดแม้แต่จะทำร้าย แต่พอคิดเริ่มฆ่าสังหารแล้วมันย่อมจะไร้ความปรานี!

ไม่เช่นนั้นแล้วมันคงจะมีแต่ปัญหาตามมาไม่สิ้นสุด

เพราะจะอย่างไรเสียทะเลนั้นมันก็กว้างใหญ่ มียอดฝีมืออยู่มากมายเกินจะนับ!

“ไอ้มนุษย์ เจ้าฆ่าคนทะเลพันทานตะวันข้า วันนี้ข้าจะเลาะหนังตัดกระดูกเจ้าออกมาให้ได้!”

หยุนหยางร้อง เพราะพวกเขาที่ไม่อาจทำอะไรได้ ได้แต่ต้องมองดูจักรพรรดิเซียนขั้นสุดทั้งสามตายลงต่อหน้านั้นมันย่อมจะคับแค้นสุดหัวใจ

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ศึกวันนี้เย่ผู้นี้แสดงความเมตตาออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่พวกเจ้ากลับหาเรื่องไม่เลิก! เวลานี้ยังมีหน้ามาโทษข้าว่าเป็นคนสังหารอีก! หึๆ เจ้าคิดว่าข้ากลัวพวกเจ้ามากหรือ? เมื่อเริ่มสังหารแล้วมันก็จะเป็นการล้างบางต่อล่ะ!”

พูดไปเย่หยวนก็เรียกใช้พลังค่ายกลดาบเอกภพออกมาอย่างถึงที่สุด

ในหมู่คนทั้งหลายนั้นซิงเหยาเป็นคนที่บาดเจ็บหนักที่สุดและมีสภาพอ่อนแรงกว่าใครๆ

หากคิดจะสังหารใครมันก็คงต้องเป็นเขา!

แน่นอนว่าต่อสู้มาจนถึงตอนนี้เย่หยวนเองก็บาดเจ็บท่วมกาย

แต่เทียบกับศัตรูแล้ว มันยังถือว่าไม่ได้บาดเจ็บหนักหนา

“ให้ตายสิวะ! ทำไมพวกมันยังไม่มาอีก!” จิงหลานนั้นเห็นสภาพของซิงเหยาจนได้แต่ต้องร้องลั่นขึ้นมาอย่างกังวลใจ

แต่ตัวเย่หยวนในตอนนี้พร้อมที่จะแลกทุกอย่างด้วยชีวิต ต่อสู้แบบไม่สนใจป้องกันทำให้พลังโจมตีของเขาพุ่งทะยาน

การติดอยู่ในค่ายกลดาบนี้มันย่อมทำให้เขาไม่อาจหยุดมือป้องกันได้

ระหว่างที่คนทั้งหลายนั้นยังคงต่อสู้กันอย่างดุเดือดมันก็มีคลื่นพลังรุนแรงอีกหลายสายพุ่งตัวมาถึง!

เมื่อจิงหลานและพวกสัมผัสได้พวกเขาก็ยิ้มกว้างขึ้นมาสุดใจ

“ฮ่าๆๆ…ไอ้หนู หกยอดขุนศึกจากทะเลอื่นๆ มาใกล้ถึงแล้ว! ครั้งนี้ข้าขอดูหน่อยเถอะว่าเจ้าจะยังเอาอะไรมารอด!” จิงหลานนั้นหัวเราะลั่นขึ้นกล่าว

เย่หยวนนั้นย่อมจะสัมผัสได้ถึงพลังทั้งหลายสายนี้เช่นกันและก็ต้องตื่นตะลึงขึ้นมาสุดใจ

ยอดขุนศึกมากมายปานนี้เขาคงไม่อาจรับมือได้แล้ว!

หากถูกล้อมไปต่อให้จะไม่ตายเขาก็คงต้องบาดเจ็บหนักแน่นอน

“เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้น… พวกเจ้าก็ตายไปก่อนที่มันจะมาถึงแล้วกัน!”

พูดไปเย่หยวนก็ขยับฝ่ามือวาดเป็นวงพร้อมปล่อยดาบแสงมากมายพุ่งเข้ามาซิงเหยาอย่างรุนแรง!

ซิงเหยานั้นรู้สึกราวกับว่าฟ้าดินมันเปลี่ยนเป็นสีขาวสว่าง ไม่เหลือพื้นที่ให้เขาได้หลบหนีเลย!

“ซิงเหยา!”

จิงหลานนั้นร้องลั่นขึ้นมาแต่ต่อให้อยากช่วยมันก็ไม่ทันแล้ว

ในห้วงความสิ้นหวังนั้นพวกจิงหลานทั้งหลายจึงได้โจมตีเข้าใส่ตัวเย่หยวนอย่างสุดแรง

เย่หยวนนั้นรู้ดีว่ามันคงเป็นเช่นนี้และได้เตรียมมุดห้วงมิติหนีไปก่อนหน้า

แต่จะอย่างไรนี่มันก็คือการผสานพลังของสี่ยอดขุนศึก พลังย่อมจะเหนือคาดเดา

ตูม!

ตูม!

เสียงระเบิดสองครั้งดังขึ้นติดๆ กันร่างของซิงเหยาและจักรพรรดิเซียนขั้นสุดอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขานั้นแตกสลายหายลงไปสิ้นด้วยดาบของเย่หยวน

ฟุบ!

และในเวลาเดียวกันนั้นมันก็มีเงาร่างหนึ่งพุ่งไปยังขอบฟ้า ตัวเย่หยวนนั้นได้ใช้ช่องว่างที่เกิดขึ้นหนีพุ่งตัวหนีออกไป

แต่เวลานี้ช่วงท้องของเย่หยวนนั้นมันกลับเป็นรูโบ๋ ไม่มีแม้แต่เลือดจะไหลออกมา

การโจมตีก่อนหน้าแม้ว่าเขาจะหลบจุดตายมาได้แต่มันก็ยังได้รับบาดเจ็บอยู่ดี

“ให้ตายสิวะ! ไอ้เด็กนี่มันเจ็บหนักแล้ว ตามมันไปให้ได้!” หยุนหยางร้องลั่นสั่งคนทั้งหลายออกไล่ล่าเย่หยวน

ในหมู่คนทั้งห้านั้นจิงหลานเป็นผู้ที่สนิทกับซิงเหยาที่สุด

เวลานี้เมื่อต้องเห็นซิงเหยาตายลงต่อหน้าต่อตาเขาย่อมจะคับแค้นจนแทบพ่นไฟออกจากปากได้

“สารเลว! ไอ้เด็กนั่นมันเจ็บหนักแล้วแต่กลับยังหนีไปได้รวดเร็วนัก! มีปัญญาก็อย่าให้พ่อเจ้าตามไปทันแล้วกัน!”

เย่หยวนนั้นบาดเจ็บหนักหน่วงอย่างมาก ความเร็วของเขาย่อมจะตกลงไป

แต่ว่าเขานั้นพอหนีออกมาจากวงล้อมได้ก็รีบหยิบโอสถสวรรค์ระดับแท้ขึ้นมากินและปรับพลังปราณของตัวเอง

ทันที

โอสถสวรรค์ทั้งสองเม็ดนั้นมันย่อมจะเป็นโอสถระดับห้าอย่างโอสถรักษาเทพระดับแท้ ความเร็วการรักษามันย่อมจะเหนือล้ำความเข้าใจ

หลายสิบปีที่ผ่านมานี้เย่หยวนใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการศึกษาวิชาโอสถ

เขานั้นทุ่มเทเวลามากมายไปกับการอ่านและทำความเข้าใจคู่มือภาพร้อยสมุนไพรรวมถึงบันทึกเต๋าโอสถต่างๆ ที่ได้มาจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต เวลานี้วิชาการโอสถของเขามันจึงพัฒนาไปได้อีกขั้น!

แม้ว่าโอสถสวรรค์ระดับห้านั้นมันจะล้ำค่ามากแต่เย่หยวนที่คิดมุ่งหน้าออกจากทวีปพิรุณใสย่อมจะต้องเตรียมไว้ติดตัวบ้าง

ไม่เช่นนั้นแล้วในทะเลกว้างใหญ่เช่นนี้เขาก็คงได้เหนื่อยตายลงก่อนแน่

หยุนหยางและพวกนั้นต่างเป็นจักรพรรดิเซียนขั้นสุดกันสิ้น ความเร็วของพวกเขาย่อมจะเหนือล้ำ

มันดูเหมือนว่าระยะห่างระหว่างพวกเขากับเย่หยวนนั้นค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

แต่ไม่นานพวกเขาก็เริ่มสังเกตเห็นว่าคลื่นพลังจากร่างกายของเย่หยวนมันค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมาทำให้ความเร็วของเขาพุ่งทะยานล้ำขึ้น

เวลานี้พวกจิงหลานนั้นได้แต่ต้องด่าว่ากันสุดใจ

“ให้ตาย! ไอ้เด็กนี่มันเป็นอมตะหรือ? ทำไมมันฟื้นตัวได้เร็วปานนี้? ไอ้หนู มีปัญญาจริงก็อย่าได้หนีสิวะ!” จิงหลานนั้นอดไม่ได้ที่จะร้องกล่าวขึ้น

มีแต่คนโง่ที่จะอยู่นิ่ง!

อยู่ตรงนี้ต่อไปมันจะต่างอะไรจากยืนรอความตาย?

แต่เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ว่ามันมีคลื่นพลังนับสิบสายกำลังมุ่งหน้ามาจากทะเลด้านหน้าตัวเขา

ในหมู่คนนับสิบนั้นมันมียอดฝีมือหกคนที่แข็งแกร่งไม่แพ้พวกจิงหลานกำลังมุ่งหน้ามาด้วย

เย่หยวนนั้นวางแผนมาตั้งแต่ตอนที่ฝ่าวงล้อมออกมาแล้วว่าจะทำอย่างไรต่อ

บาดเจ็บขนาดนี้หากต้องถูกจักรพรรดิเซียนขั้นสุดนับสิบมาล้อมหน้าล้อมหลังแม้จะเป็นเย่หยวนมันก็คงเกินมือ

หากถูกล้อมเข้าแล้วเขาคงได้แต่ต้องรอความตายเท่านั้น

ด้านหน้านั้นมันมีคลื่นพลังรุนแรงหกสายพุ่งตัวนำเข้ามาก่อนที่จะปรากฏร่างให้เห็นในไม่ช้า

จิงหลานร้องลั่นขึ้นมาอย่างดีใจเมื่อได้เห็น “ปิงเฉิน โจวหลิน เฟยเหยี่ย หยุดมันไว้ที! อย่าให้มันได้หนีไป!”

ยอดฝีมือที่มีนามว่าปิงเฉินนั้นจึงได้ร้องตอบกลับไป “จิงหลาน ทะเลพันทานตะวันเจ้ามันอ่อนแอนัก! คนมากมายปานนี้กลับไม่อาจไล่ล่าจักรพรรดิเซียนขั้นต้นคนหนึ่งได้!”

“ฮ่าๆ คิดอยากให้เราลงมือมันก็ย่อมได้! แต่ต้องเพิ่มโอสถวิญญาณสมุทรให้อีกคนละเม็ด!” โจวหลินร้องกล่าวขึ้นมา

จิงหลานนั้นไม่มีเวลามาต่อรองใดๆ และตอบรับกลับไปทันที “ไม่มีปัญหา! โจมตีมันเลย!”

ปิงเฉินหัวเราะลั่นมาหาเย่หยวน “ไอ้เด็กมนุษย์ เจ้ากล้ามาอวดตัวในทะเลสงสัยคงเบื่อชีวิตมากแล้ว! จงนอนอยู่ตรงนี้เสียเถอะ ข้าจะใช้ศพเจ้าแลกโอสถวิญญาณสมุทร!”

พูดจบคลื่นพลังรุนแรงของคนทั้งหกมันก็ปะทุขึ้นมาพร้อมวิชาแปลงยอดเต๋ามากมายที่พุ่งเข้าใส่เย่หยวน

ยอดฝีมือแปลงยอดเต๋าหกคนลงมือพร้อมๆ กันเช่นนี้มันย่อมจะทำให้เกิดพลังรุนแรงสั่นสะท้านโลกา!

เวลานี้อาการบาดเจ็บของเย่หยวนมันดีขึ้นมากว่าหกในสิบแล้ว หน้าท้องของเขามันกลับมามีสภาพเป็นปกติ

แม้จะต้องเผชิญกับการโจมตีของยอดฝีมือทั้งหกนั้นเขาก็ไม่คิดลดความเร็วลงและอัดปราณเทวะออกมา

เพิ่มความเร็วแทน!

เมื่อจิงหลานได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างร้องขึ้น “ระวัง ไอ้เด็กนี่มันมีค่ายกลดาบที่รุนแรงล้ำ! แม้แต่ซิงเหยายังต้องตายลงเพราะมันมาแล้ว!”

ปิงเฉินและพวกนั้นย่อมจะไม่ได้โง่ ที่พวกเขาด่าว่าไปก่อนหน้านั้นก็เพื่อจะกวนประสาทพวกจิงหลานเท่านั้น

ก่อนที่จะมาพวกเขาก็เข้าใจเรื่องราวก่อนแล้วว่ามันใหญ่โตแค่ไหน

ที่สำคัญไปกว่านั้นการที่จักรพรรดิเซียนขั้นต้นคนหนึ่งจะหนีจากการปิดล้อมของห้ายอดฝีมือแปลงยอดเต๋านั้นมันย่อมจะไม่ต้องหาอะไรมาอธิบายอีก

เพราะฉะนั้นการโจมตีนี้ของพวกเขามันจึงไม่มีการออมมือใดๆ!

แต่เมื่อได้ยินคำของจิงหลานว่าแม้แต่ซิงเหยายังต้องตายลง พวกเขาต่างขนลุกขึ้นมาทั้งกายทันที

แต่ตอนนี้มันก็สายเกินกว่าจะถอนตัวแล้ว!

เย่หยวนนั้นไม่สนใจและพุ่งตัวเข้าใส่โจวหลินทันทีอย่างรวดเร็ว

เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่ตัวเขาเร่งความเร็วขึ้นมานั้น เขาสามารถหลบจุดศูนย์กลางการโจมตีของคนทั้งหกได้แล้ว

เวลานี้จึงใช้ค่ายกลดาบเอกภพออกมาอย่างสุดกำลังได้!

“ตายเสีย!”

เย่หยวนร้องลั่นพร้อมปล่อยดาบแสงมากมายพุ่งใส่โจวหลิน

“ฉิบหาย! ช่วยด้วย!”

โจวหลินนั้นหน้าซีดขาวลงทันทีคิดอยากหลบแต่มันก็สายเกินไปแล้ว

ต่างฝ่ายนั้นต่างรวดเร็ว!

อธิบายไปมันอาจจะฟังดูช้าแต่ว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นในแค่ชั่วพริบตา ต่างฝ่ายนั้นต่างเข้ามาถึงตัวกันแล้ว

ตูม!

แรงระเบิดรุนแรงล้ำกระแทกออกมาจากห้วงมิติทำลายร่างของโจวหลินจนไม่เหลือซาก!

จากนั้นดาบแสงทั้งหลายมันก็บินพล่านไล่สังหารคนเปิดทางให้เย่หยวนได้หนีออกมาจากวงล้อมของคนที่เหลือ!

แต่สภาพเย่หยวนเองก็ย่ำแย่เช่นกัน

การโจมตีผสานของยอดฝีมือแปลงยอดเต๋าหกคนนั้นมันย่อมจะรุนแรงนักและตัวเขาก็ไม่ได้ป้องกันมันด้วย

เขาแค่หลบเลี่ยงจุดที่แรงกระแทกนั้นรุนแรงที่สุดไป

แต่โชคร้ายที่มันก็ยังไม่อาจหลบได้พ้น

…………………………