ตอนที่ 1712 : การลงมือของเทพ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1712 : การลงมือของเทพ

ระเบิดเกิดขึ้นไปทั่วตระกูลโม่และมันจนถึงจุดที่รอบข้างได้เปลี่ยนเป็นสีต่างๆ คลื่นกระแทกต่างก็กระจายไปทั่ว พื้นดินมีรอยแตกยาวหลายหมื่นกิโลเมตร ถ้าไม่ใช่เพราะว่าทุกสิ่งในโลกเซียนนั้นแข็งอย่างมาก งั้นคลื่นกระแทกครั้งเดียวก็สามารถทำลายทั้งดาวเคราะห์ได้

ตระกูลลู่และตระกูลอันโดโจมตีโดยไม่หยุดพักตลอดทั้งวัน ตระกูลโม่เสียเหรียญผลึกไปจำนวนมากเพื่อรักษาค่ายกลของตนเองเอาไว้

“เราอาจจะมีเหรียญผลึกไม่พอใช้งานได้นานกว่านี้” ผู้นำตระกูลพูดด้วยสีหน้าเครียด

ผู้อาวุโสทั้งหกของตระกูลเองก็เครียดเช่นกัน พวกเขาต่างก็รู้ถึงปัญหานี้

“ท่านพ่อ ข้ายังมีเหรียญผลึกขั้นต่ำกว่าหมื่นชิ้นกับตัว หากมันไม่พอ ท่านเอามันใช้เพื่อรักษาค่ายกลเอาไว้ได้” ซีหยูพูดขึ้นมา นางเป็นคนแรกที่เสนอเหรียญผลึกที่ตนเองมี

“ข้าก็ยังมีหลายพันชิ้น….”

“ข้าเองก็มีหลายหมื่นชิ้น….”

“ข้ามี 3,000 ชิ้น….”

….

หลังจากที่ซีหยูพูดจบ ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ต่างก็เอาเหรียญผลึกที่ตัวเองมีออกมา ในฐานะผู้อาวุโสของตระกูลโม่แล้ว พวกเขาได้รับเหรียญผลึกมาจำนวนมากแต่พวกเขาได้ใช้มันไปกับการบ่มเพาะ เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แล้วพวกเขามีเหลือกับตัวไม่มาก มันถึงกับมีผู้อาวุโสที่เหลือเหรียญผลึกขั้นต่ำไม่กี่ร้อยชิ้นซึ่งถือว่าน้อยนิดอย่างมาก

เฉินเจี้ยนลังเลไปเล็กน้อยก่อนจะส่งแหวนมิติให้กับผู้นำตระกูลและพูดขึ้นว่า “ข้ามีเกือบล้านชิ้น มีหลายชิ้นที่เป็นระดับกลางและระดับสูง ใช้มันกับค่ายกลเถอะ” เหรียญผลึกส่วนมากนี้ได้มาจากเหมืองตระกูลลู่ บางส่วนได้มาจากตระกูลโม่ที่มอบให้กับเขา พวกมันเหลืออยู่หลังจากที่เฉินเจี้ยนได้ทะลวงผ่านขึ้นมา

เฉินเจี้ยนได้เอาเหรียญผลึกออกมาเกือบล้านชิ้นโดยมีระดับกลางและระดับสูงอยู่ด้วย สมบัติที่เขามีนี้ทำให้ผู้อาวุโสต้องตะลึง พวกเขาต่างก็มองไปที่เฉินเจี้ยนด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ เฉินเจี้ยนร่ำรวยขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ? แม้แต่ตระกูลโม่ของพวกเขาก็ยังไม่ได้มีเหรียญผลึกระดับสูงเลย

ผู้นำตระกูลตาเป็นประกายขึ้นมา เขาไม่คิดจะปฏิเสธเฉินเจี้ยน เขารับแหวนมิติไว้และไปเติมพลังให้กับค่ายกลด้วยตัวเอง

ลู่เทียนที่อยู่นอกค่ายกลมองไปที่ตระกูลโม่อย่างเย็นชา หากขั้นเทพทั้งสามคนโจมตีด้วย พวกเขาอาจจะทำลายค่ายกลนี้ด้วยความพยายามเล็กน้อยแต่พวกเขาไม่คิดจะใช้พลังงานไปกับเรื่องแบบนั้น พวกเขาต่างก็รักษาพลังงานให้อยู่ในสภาพพร้อมที่สุดเพื่อทำการโจมตี ทันทีที่ม่านพลังนี้แตกออก พวกเขาจะทำการโจมตีทันที

แต่เมื่อลู่เทียนเห็นว่าเหรียญผลึกส่วนมากที่มาจากแหวนของหัวหน้าตระกูลโม่นั้นเป็นเหรียญผลึกระดับกลางและระดับสูง เขาก็หน้าซีดทันที ความอาฆาตปะทุขึ้นมาจากอกและอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาก่อนจะเริ่มโจมตีม่านพลัง

เหรียญผลึกระดับกลางและระดับสูงนั้นเป็นของตระกูลลู่แต่ตระกูลโม่กลับใช้มันเพื่อรักษาค่ายกลเอาไว้ ลู่เทียน หงุดหงิดขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นแบบนั้น

ไฟปะทุออกมารอบตัวลู่เทียน ย้อมโลกให้กลายเป็นสีแดง เขาได้ระเบิดพลังของตัวเองออกมาพร้อมกับกวัดแกว่งกระบี่สีแดงเข้าโจมตีโล่พลัง

เกิดการระเบิดขึ้นจนม่านพลังของตระกูลโม่นั้นแทบจะถล่มจากการโจมตีครั้งนี้ ม่านพลังสีจางลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับเหรียญผลึกจำนวนมากถูกดึงพลังงานไปใช้จนหมดในเวลาแค่ไม่กี่วินาทีก่อนจะเปลี่ยนกลายเป็นผง

“ เร็วเข้า รีบใส่เหรียญผลึกเข้าไป ! ” ด้วยคำสั่งนี้ยามต่างก็รีบเติมเหรียญผลึกเข้าไปเพิ่มทันที

“อันโดฟู เทพพิษดาทูร่า มาร่วมมือกันจัดการกับตระกูลโม่ให้เร็วที่สุด ข้าไม่ต้องการให้ตระกูลโม่คงอยู่ต่อไปแม้แต่สักวันเดียว” ลู่เทียนพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา เขาเกลียดตระกูลโม่ “หากคนที่ชื่อว่าเจี้ยนเฉินไม่โจมตีภูเขาเมฆดำ การปรากฏตัวของเหรียญผลึกระดับสูงนี้จะรั่วไหลเร็วแบบนี้ได้ยังไงกัน ? ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลลู่แล้ว เราก็สามารถปกปิดความลับนี้ไปได้หลายปีหรืออาจจะนานกว่านั้น”

อันโดฟูและดาทูร่าต่างก็มองหน้ากัน พวกเขาไม่ได้นิ่งเฉยอีกต่อไป พวกเขาเริ่มโจมตีทันที

อาวุธของดาทูร่านั้นเป็นคทาสีเขียว มันส่องแสงสีเขียวแปลก ๆ ออกมาซึ่งเต็มไปด้วยพิษ นางยื่นคทาออกไป ก่อนที่อาวุธนั้นจะขยายตัวอย่างรวดเร็วฟาดเข้าไปยังม่านพลังด้วยซุงไม้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางหลายสิบเมตร

อันโดฟูโจมตีออกไปด้วยมือของเขา สร้างฝ่ามือขนาดใหญ่หลายร้อยเมตรเข้าฟาดใส่ม่านพลัง

ลู่เทียนเองก็โจมตีออกไปเป็นครั้งที่สอง ไฟในกระบี่ของเขาปะทุขึ้นมาพร้อมกับพลังที่เพิ่มขึ้นฟันเข้าใส่ม่านพลังอีกครั้ง

การโจมตีจากเทพทั้งสามนั้นน่าตกใจ มันทำให้เหล่าผู้อาวุโสตระกูลโม่นั้นถึงกับหายใจไม่ออก พวกเขารู้สึกราวกับว่าไม่มีทางจะสู้ได้เลย

“มันคือพลังของขั้นเทพ ต่อหน้าขั้นเทพแล้ว จอมยุทธขั้นศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ต่างอะไรจากมด” ผู้อาวุโสหน้าซีดไปเล็กน้อยและรู้สึกขมขื่นในใจ

ด้วยการโจมตีจากขั้นเทพทั้งสาม ม่านพลังของตระกูลโม่คงอาจจะทนได้ไม่นานนัก

“ลู่เทียนรับมือ” เฉินเจี้ยนพูดขึ้น เขาไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ และแผ่เจตจำนงกระบี่ออกมา เขาก้าวออกจากม่านพลังพร้อมกับกระบี่หมอกเมฆของเขา

“เฉินเจี้ยน เจ้าอย่า…”

“น้องเฉินเจี้ยนกลับมา เจ้าไม่ใช่คู่มือของขั้นเทพ…”

“เฉินเจี้ยน กลับมา….”

เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลโม่ต่างก็สีหน้าเปลี่ยนไปเมื่อเห็นว่าเฉินเจี้ยนต้องการจะออกจากม่านพลังเพื่อสู้กับลู่เทียน พวกเขาต่างก็ตะโกนกันออกมาด้วยความแปลกใจ

ร่างกายกำยำของเฉินเจี้ยนได้ออกไปอยู่นอกม่านพลัง ผมของเขาสะบัดแม้ว่าจะไม่มีลมพัดผ่าน ภาพกระบี่ไฟที่พุ่งเข้ามาได้สะท้อนในตาเขาอย่างชัดเจน แต่เขากลับไม่ได้แสดงท่าทีกลัวออกมา กลับกันแล้ว เขากลับพร้อมจะสู้ เขาได้ตะโกนออกมา “กระบี่ทำลายล้าง ! ” กระบี่หมอกเมฆแทงออกไปพร้อมกับแสงที่ส่องประกาย

“เขาจบสิ้นแล้ว เฉินเจี้ยนจบสิ้นแล้ว…”

“เขามีพรสวรรค์ยิ่งใหญ่แต่กลับต้องตายที่นี่ น่าเสียดายจริง ๆ…”

“เฉินเจี้ยน พรสวรรค์ของเจ้านั้นยอดเยี่ยม จอมยุทธขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่วงปลายนั้นไม่อาจจะเอาชนะเจ้าได้ แต่เจ้ากำลังเผชิญหน้ากับขั้นเทพ เจ้าจะเป็นคู่มือของขั้นเทพได้ยังไงด้วยความแข็งแกร่งขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่วงกลาง….”

ผู้อาวุโสต่างก็รู้สึกสงสารเฉินเจี้ยน ไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะเป็นคู่มือของลู่เทียนได้ ยังไงซะคนหนึ่งนั้นอยู่ขั้นศักดิ์สิทธิ์ อีกคนเป็นขั้นเทพ มันมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างทั้งสองคน

กระบี่หมอกเมฆได้ปะทะกับกระบี่ของลู่เทียนพร้อมกับแสงที่ส่องประกาย มันมีเสียงเหล็กเสียดสีกันดังขึ้นและกระบี่ของลู่เทียนก็ได้พ่นไฟที่มีกฎแห่งไฟออกมา อุณหภูมิโดยรอบนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและไฟอันรุนแรงนั้นก็ได้เข้ากลืนกินเฉินเจี้ยน

“ เฮ้อ นี่คือกฎของขั้นเทพและมีส่วนของกฎแห่งไฟซึ่งเป็นหนึ่งในกฎโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด ร่างของเฉินเจี้ยนคงไม่เหลือแม้แต่เถ้า..” ผู้อาวุโสตระกูลโม่ต่างก็พากันส่ายหน้า