ตอนที่ 1720 : โกลาหล

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1720 : โกลาหล

ตระกูลโม่และตระกูลอันโดไม่ใช่แค่พวกเดียวที่เตรียมตัวเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับหยกราชาเทพ ตระกูลลู่เองก็เตรียมตัวเช่นกัน ไม่นานหลังจากที่ลู่เทียนตายไป ข่าวเรื่องหยกราชาเทพก็ได้แพร่ไปทั่วแคว้นตงอัน

สำหรับเมืองหลักเล็ก ๆ อย่างในแคว้นตงอันก็ไม่ได้เหนือเทพแม้แต่คนเดียว แต่ข่าวเรื่องสุสานของราชาเทพนี้ก็ทำให้หลายคนยากที่จะเชื่อได้ มันถึงกับมีหลายคนที่สงสัยเรื่องนี้และสงสัยว่าคนที่บอกเรื่องนี้คงได้แต่เล่าขานเรื่องตำนาน แต่ก็ยังมีคนที่เชื่อเรื่องนี้ที่ได้ออกจากเมืองหลักทันทีเพื่อไปยังตระกูลโม่และตระกูลอันโด

หลายคนในหมู่พวกนั้นเป็นขั้นแลกเปลี่ยน ในเวลาเดียวกันก็มีจอมยุทธขั้นศักดิ์สิทธิ์และแม้แต่ขั้นเทพด้วย

แต่ขั้นเทพเหล่านั้นไม่ได้เป็นคนของตระกูลที่แข็งแกร่งของแคว้นตงอัน พวกเขาเป็นขั้นเทพที่มาจากที่อื่น

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าพวกเขาไม่อาจจะเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อเสี่ยงโชคได้แม้ว่าสุสานราชาเทพจะมีจริงก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะกดความสงสัยที่มีและไม่อาจจะห้ามตัวเองไม่ให้มาดูได้ ในเวลาเดียวกันก็มีคนจำนวนหนึ่งในหมู่พวกนี้ที่อยากจะลองมาเสี่ยงโชค

“ข่าวเรื่องสุสานราชาเทพต้วนมู่ที่ได้ปรากฏขึ้นมาในแคว้นตงอัน ส่งต่อข่าวนี้ไปยังตระกูลทันที….”

“รายงานไปที่หัวหน้าตระกูล…”

“ราชาเทพตวนมู่คือราชาเทพขั้นสูงสุด เมื่อเจ้าได้รับมรดกจากราชาเทพต้วนมู่ ความแข็งแกร่งของเจ้าจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้ว่าจะไม่มีมรดกของเขาแต่แค่สมบัติที่เขาทิ้งไว้ก็เพียงพอจะทัดเทียบกับอาณาจักรได้…”

“ถ้าคนในแคว้นตงอันได้สมบัติไป มันต้องมีเหนือเทพปรากฏขึ้นในแคว้นตงอันและอาจจะกลายเป็นราชาเทพได้ ไม่สิ สมบตินั้นคงไม่ได้ตกเป็นของคนในแคว้นตงอันแน่…”

….

ผู้บ่มเพาะจากแคว้นอื่น ๆ ที่อยู่ในเมืองหลักนี้ต่างก็รายงานเรื่องหยกของราชาเทพตวนมู่ไปยังหัวหน้าของตน พวกเขาไม่กล้าที่จะเสียเวลาเลยแม้แต่น้อยโดยไม่สนใจว่าข่าวนี้จะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม

ในเวลาเดียวกันขั้นเทพทั้ง 18 ตระกูลของเมืองหลักต่างก็พากันออกจากการเก็บตัว แม้แต่ขั้นเทพที่เดินทางอยู่ก็ต้องรีบกลับมาเมื่อได้ยินข่าวนี้

“ส่งคนไปที่ตระกูลโม่และตระกูลอันโดเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ว่าจริงหรือไม่…”

“ตรวจสอบ ตรวจสอบเรื่องนี้ทันที มันไม่สำคัญว่าจะจริงรึไม่ ไปตรวจสอบมันมาแล้วรีบกลับมาให้เร็วที่สุด ….”

“จอมยุทธขั้นศักดิ์สิทธิ์นั้นช้าเกินไป ต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะเดินทางไปได้ ให้ขั้นเทพไปจัดการด้วยตัวเอง…”

….

โดยพื้นฐานแล้วตระกูลที่แข็งแกร่งในแคว้นตงอันต่างก็สั่งการแบบเดียวกัน แม้ว่าหลายพวกจะสงสัยในข่าวนี้แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะสงบดังเช่นแต่ก่อนได้ พวกเขาต่างก็กลัวกันว่าข่าวนี้จะเป็นจริง

มีพลังสามสายที่พุ่งเข้ามาในภูเขาเมฆดำห่อหุ้มพื้นที่เอาไว้ แต่ละอันนั้นมีพลังถึงขั้นเทพ

ตระกูลฮู, ตระกูลดงและตระกูลหนานหยุน สามตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นตงอันได้ให้ขั้นเทพ 3 คนประจำการที่นี่เอาไว้ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นแค่ขั้นเทพช่วงต้นแต่ก็ไม่มีโจรเลยแม้แต่คนเดียวที่กล้าเข้ามาที่นี่เมื่อมีพวกเขาอยู่

“หืม ? สุสานราชาเทพปรากฏขึ้นมาในแคว้นตงอันงั้นรึ ? และกุญแจกับตำแหน่งของสุสานก็อยู่ในมือของตระกูลโม่และตระกูลอันโดงั้นรึ ? ” ตอนนั้นเทพทั้งสามได้เปิดออกพร้อมกัน ชัดแล้วว่าพวกเขาได้รับข่าวนี้มาจากเมืองหลัก พวกเขาไม่ลังเลและรีบเดินทางออกไปยังตระกูลโม่และตระกูลอันโดทันที

ชายวัยกลางคนดูหงุดหงิดอยู่ในชุดหรูหรานั่งอยู่ในคฤหาสน์ภายในเมืองหลัก

“ใครกัน ? ใครกันที่เผยแพร่ข่าวสุสานราชาเทพออกมา ? บอกข้ามา ซานยี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน ? ทำไมถึงได้กลายเป็นเช่นนี้ ? สิ่งที่ข้าเตรียมมาทั้งหมดตลอดหลายปีมานี้กลับเสียเปล่า”

มีชายชุดดำยืนอยู่ต่อหน้าชายวัยกลางคน เขาดูกลมกลืนกับความมืดซึ่งทำให้ยากที่จะตรวจจับตัวตนของเขาได้หากไม่มองดูดี ๆ

“หัวหน้าตระกูล หากข้าเดาไม่ผิด มันน่าจะเป็นตระกูลลู่ที่เผยแพร่ข่าวนี้ออกมา” ชายคนนั้นพูดขึ้น

“ตระกูลลู่รึ ? เป็นไปไม่ได้ ทำไมตระกูลลู่ถึงได้เผยข่าวที่สำคัญต่อพวกเขาออกมา ? ” ชายวัยกลางคนถามขึ้นมาเสียงดังพร้อมร่างกายที่สั่น

“หัวหน้าตระกูล การร่วมมือกันของตระกูลลู่และตระกูลอันโดในการจัดการกับตระกูลโม่นั้นล้มเหลว ตระกูลลู่พ่ายแพ้และตระกูลอันโดถูกจับ ลู่เทียนได้ตายไปในการต่อสู้ ข้าเดาว่าข่าวนี้คงรั่วไหลออกมาโดยคนที่เขาเตรียมไว้ล่วงหน้า เขาทำแบบนี้เพื่อหยุดตระกูลโม่และตระกูลอันโดจากการรวมหยกของสุสานราชาเทพเข้าด้วยกัน” ซานยี่ พูดขึ้น

“อะไรนะ ? ลู่เทียนและตระกูลอันโดร่วมมือกันจัดการกับตระกูลโม่งั้นรึ ? ซานยี่ ทำไมเจ้าไม่บอกเรื่องสำคัญแบบนี้กับข้าให้เร็วกว่านี้ ? ” ชายวัยกลางคนหงุดหงิดขึ้นมา เขาไม่ได้ดูสงบดังเช่นแต่ก่อน

“ตระกูลลู่และตระกูลอันโดระวังอย่างมากกับการจัดการตระกูลโม่ คนที่เราส่งไปในตระกูลของพวกนั้นไม่ได้มีโอกาสส่งต่อข้อมูลนี้มา ข้ารู้เรื่องนี้เมื่อไม่นานมานี้เช่นกัน” ซานยี่พูดขึ้น

“บัดซบ ! ” ชายวัยกลางคนเดินไปมาในห้อง สีหน้าเขาหม่นลงและได้บ่นออกมา “ข้ารู้เรื่องหยกนี่นานแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งที่เรามีแล้ว การเอาหยกทั้งสามชิ้นจากสามตระกูลนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ข้าแค่ไม่ต้องการดึงความสนใจจากพวกตระกูลอื่นในแคว้นตงอัน ดังนั้นข้าจึงไม่ได้เด็ดขาดพอในการจัดการกับสามตระกูลอย่างเปิดเผย ข้าพยายามหาทางเอาหยกทั้งสามมาโดยไม่ให้ใครสงสัย ข้าไม่คิดว่าข่าวเรื่องหยกนี้จะรั่วไหลออกมาและลามไปอย่างกับไฟป่าซึ่งพูดถึงกันไปทั่วทั้งเมือง มันทำให้ข้าแทบบ้าตาย” ชายวัยกลางคนโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาเอามือฟาดลงไปที่โต๊ะตรงหน้าจนทำให้โต๊ะนั้นกลายเป็นผง

เขารู้สึกเสียดาย

หากเขาไม่กังวลมากนักว่าตระกูลอื่นจะรู้เรื่องหยกของราชาเทพตวนมู่ งั้นหยกทั้งสามชิ้นนี้คงตกอยู่ในมือของเขาไปนานแล้ว

“หัวหน้าตระกูล บรรพชนอยากจะพบท่าน” ตอนนั้นเองก็มีเสียงสาวใช้ดังขึ้นมา

ชายวัยกลางคนรีบกดความโกรธที่มีลงไปเมื่อได้ยินว่าบรรพชนนั้นอยากจะพบเขาและรีบออกไปจากที่นั่นทันที