บทที่ 1429 แผนการคว้าน้ำเหลว

The king of War

รอยยิ้มบนใบหน้าต้วนหวงค้างเติ่งทันที เมื่อได้ยินสิ่งที่หยางเฉินพูด

ถ้าเป็นคนอื่น ต่อให้เป็นกษัตริย์เย่ขอให้เขาเลือกตอนนี้ เขาคงไม่ประหม่าขนาดนี้

แต่กับหยางเฉินนั้นแตกต่างกัน เขาเคยเกือบจะโค่นล้มราชวงศ์ต้วนด้วยกำลังของตัวเขาเอง

“คุณหยาง คุณพูดแบบนี้ ทำให้ผมลำบากใจ…”

ก่อนที่ต้วนหวงจะพูดจบ ก็ถูกหยางเฉินขัดจังหวะอย่างไร้ความปรานี “ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะลำบากใจหรือเปล่า วันนี้คุณจำเป็นต้องเลือก!”

“ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หวูหยา ลำพังท่าทีที่ไม่มั่นคงของคุณก็เพียงพอแล้วที่ผมจะขึ้นบัญชีดำคุณ”

“ผมให้เวลาคุณหนึ่งนาที ถ้าคุณเลือกไม่ได้หลังจากผ่านไปหนึ่งนาที ก็ถือว่าคุณเลือกราชวงศ์เย่ เริ่มจับเวลาได้!”

หลังจากได้ยินสิ่งที่หยางเฉินพูด หัวใจของต้วนหวงก็เต้นแรง ความตื่นตระหนกภายในใจพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว

คนอื่นๆ มองหยางเฉินด้วยความประหลาดใจ โดยเฉพาะคนที่ไม่รู้จักตัวตนของหยางเฉิน ก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจ

ขณะที่ต้วนหวงพูดกับหยางเฉิน เห็นได้ชัดว่าให้เกียรติอย่างมาก ใช้คำว่า “ท่าน” ด้วยซ้ำไป แต่หยางเฉินกลับไม่ไว้หน้าต้วนหวงเลย

เขาทำแบบนี้ ไม่กลัวว่าจะเป็นการผลักต้วนหวงไปหาราชวงศ์เย่เหรอ?

มีเพียงกษัตริย์ซ่านกวนและหลงหวงที่รู้ดี หยางเฉินกำลังให้โอกาสราชวงศ์ต้วน เขายังต้องการจัดการปัจจัยที่ไม่แน่นอนทั้งหมดก่อนการต่อสู้ตัดสินแพ้ชนะกับราชวงศ์เย่

สมาชิกของราชวงศ์ต้วนต่างรู้สึกกระวนกระวายอยู่ภายในใจ ต้วนหวงกำลังดิ้นรนและใช้สมองวางแผนอย่างรวดเร็ว เลือกข้อดีระหว่างราชวงศ์เย่และหยางเฉิน รวมถึงข้อเสียด้วย

กษัตริย์เย่ยิ้มเยาะ “ต้วนหวง อย่างที่คุณเห็น หยางเฉินไม่เห็นราชวงศ์ต้วนอยู่ในสายตาเลย ต่อให้คุณเลือกเขา เกรงว่าในอนาคตเขาอาจจะไม่อยากเห็นราชวงศ์ต้วนก็ได้”

“แต่ถ้าคุณเลือกราชวงศ์เย่ ผมรับรองได้เลยว่าหลังจากก่อตั้งพันธมิตรแล้ว ราชวงศ์เย่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลต้วน”

สำหรับการโน้มน้าวของกษัตริย์เย่ หยางเฉินไม่ได้ขัดขวาง และไม่เก็บมาใส่ใจด้วย

สำหรับเขาแล้ว ราชวงศ์ต้วนมีหรือไม่มีก็เหมือนกัน การให้โอกาสราชวงศ์ต้วนได้เลือก ก็เพื่อเห็นแก่ต้วนหวูหยาเท่านั้น

แน่นอน ถ้าต้วนหวงเลือกราชวงศ์เย่ ก็ไม่มีความแตกต่างอะไรมากสำหรับเขา ก็แค่มีมดเพิ่มอีกสองสามตัว

หนึ่งนาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว หยางเฉินมองดูเวลาแล้วพูดว่า “หมดเวลาแล้ว!”

“กษัตริย์เย่ ขอโทษด้วยนะ!”

ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ จู่ๆ ต้วนหวงก็มองไปที่กษัตริย์เย่ แล้วกล่าวขอโทษ จากนั้นก็มองไปที่ หยางเฉินและพูดว่า “คุณหยาง ผมเลือกคุณ!”

พอได้ยินดังนั้น ทุกคนในที่นี้ก็ถึงกับอึ้ง!

กษัตริย์เย่ก็ตกตะลึงเช่นกัน เดิมทีเขาคิดว่าถ้าหยางเฉินไม่ไว้หน้าต้วนหวง บังคับให้ต้วนหวงเลือกต่อหน้าผู้คน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ต้วนหวงต้องเลือกราชวงศ์เย่แน่นอน แต่เขานึกไม่ถึงว่าต้วนหวงจะเลือกหยางเฉิน ก้มหัวให้กับหยางเฉินเช่นกัน

เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมราชวงศ์เย่ที่ครอบครองผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์สองคน ทำให้ต้วนหวงเลือกอย่างง่ายดายไม่ได้?

ไม่ใช่แค่กษัตริย์เย่เท่านั้น แต่คนอื่นๆ ก็มีสีหน้าประหลาดใจเช่นกัน

คนที่รู้ว่าหยางเฉินเป็นคนแข็งแกร่งก็ไม่มีอะไร แต่พวกที่ไม่รู้ก็คาดเดาตัวตนของหยางเฉินมากขึ้นเรื่อยๆ

หยางเฉินเป็นใครกันแน่? กล้าดียังไงมาข่มขู่ต้วนหวงในที่สาธารณะ แถมยังจะทำให้หลงหวงและกษัตริย์ซ่านกวนสนับสนุนเขาด้วยความเต็มใจอีก?

ก่อนหน้านี้ พวกเขายังคิดว่าหยางเฉินเป็นคุณชายของกองกำลังลึกลับ เขาจะวางอำนาจเช่นนี้ก็ต่อเมื่อได้ผู้แข็งแกร่งสองคนที่ทางครอบครัวส่งมารับใช้

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น

ไม่ว่าจะเป็นหลงหวงหรือกษัตริย์ซ่านกวน หรือต้วนหวง ความเคารพที่พวกเขามีต่อหยางเฉินนั้นไม่อาจปฏิเสธได้เลย

ยังมีกษัตริย์เย่ที่ทำอะไรหยางเฉินไม่ได้อีก ซึ่งหมายความว่าหยางเฉินต้องพึ่งพาตัวเอง

ถ้าไม่อย่างนั้น ราชวงศ์เย่คงจะลงมือจัดการหยางเฉินไปนานแล้ว

“ดี! ดีมาก!”

กษัตริย์เย่โกรธจนหัวเราะประชด สองตาจับจ้องไปที่ต้วนหวงพลางพูดว่า “ในเมื่อต้วนหวงเลือกหยางเฉิน จากนี้ไปราชวงศ์ต้วนก็จะเป็นศัตรูของราชวงศ์เย่!”

“ฮึ!”

ในเมื่อต้วนหวงได้เลือกแล้ว ก็ย่อมไม่โมโหเหมือนเมื่อก่อน เขาพูดอย่างเย็นชา “ต่อให้ราชวงศ์เย่เต็มใจผูกมิตรกับราชวงศ์ต้วนเรา ทางราชวงศ์ต้วนก็จะไม่ยอมรับ”

พูดจบเขาก็มองไปที่หยางเฉินและพยักหน้าเล็กน้อย กล่าวด้วยสีหน้าขอโทษ “คุณหยาง ขอโทษสำหรับความลังเลเมื่อครู่ ท่านไม่ต้องกังวล ในเมื่อผมเลือกท่านแล้ว จะไม่มีทางทรยศอีก”

“ผมว่าคุณไม่กล้าหรอก!” หยางเฉินพูดอย่างไม่เกรงใจ

ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเขา การข่มเหงราชวงศ์ต้วนที่ไม่มีผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ในครอบครอง มันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

ถ้าอยู่ในราชวงศ์ต้วนก็ยังมีองครักษ์เฝ้ายามอยู่ แต่ที่นี่เป็นอาณาเขตของหยางเฉิน ต้วนหวงจะทำอะไรได้?

“ต่อไป ถึงเวลาที่ทุกท่านต้องเลือกแล้ว ทุกท่านควรคิดทบทวนให้ดี ราชวงศ์เย่ นั้นแข็งแกร่งมาก แต่แล้วยังไงล่ะ? ตอนนี้อีกสามราชวงศ์ที่เหลือก็ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับราชวงศ์เย่แล้ว”

“ต่อให้พวกคุณเลือกราชวงศ์เย่ ก็จะกลายเป็นเพียงเป้าปืนใหญ่ของราชวงศ์เย่ แล้วต้องเลือกยังไงกันแน่ จะให้เวลาพวกคุณสามสิบวินาทีในการพิจารณา”

หยางเฉินมองไปรอบๆ และพูดอย่างเอาแต่ใจที่สุด

ในเมื่อราชวงศ์เย่ต้องการผนวกรวมกองกำลังทั้งหมดในจิ่วโจว ดังนั้นวันนี้เขาจึงมาเป็นคนก่อกวนสถานการณ์ในวันนี้

ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ดูเหมือนจะปกคลุมไปด้วยลมปราณบูโดที่น่าสะพรึงกลัว ทุกคนล้วนมีสีหน้าหวาดกลัว ตอนนี้เป็นเรื่องยากมากที่จะให้พวกกเขาเลือก

ทางฝั่งหยางเฉิน สมาชิกของราชวงศ์ทั้งสามต่างจ้องมองมาที่พวกเขาอย่างเย็นชา ทำให้พวกเขาตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก

“หากยินดีเลือกราชวงศ์เย่ ให้พวกคุณยกมือขวาขึ้น!”

สามสิบวินาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว หยางเฉินเอ่ยปากขึ้นมา

ทันทีที่เขาพูดจบ ความเงียบก็เกิดขึ้นรอบตัว ทุกคนมองหน้ากันไปมา แต่ก็ไม่มีใครยกมือ

สิบวินาที!

สามสิบวินาที!

หนึ่งนาที!

แค่กะพริบตาก็ผ่านไปหนึ่งนาทีแล้ว แต่ก็ไม่มีคนเลือกราชวงศ์เย่เลย

กษัตริย์เย่มีสีหน้าดูน่าสะพรึงกลัวมาก เขาไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์เช่นนี้ แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นจริงๆ

สิ่งที่ทำให้หยางเฉินสับสนก็คือพระเอกของวันนี้ วันเกิดครบรอบร้อยปีของเย่หลินแห่งราชวงศ์เย่ ที่เอาแต่นั่งเงียบอยู่บนโต๊ะแปดเซียน ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา

เขาสงบเงียบอย่างไม่มีเหตุผล จนหลายคนมองข้ามการมีตัวตนอยู่ของเขา

“ดูเหมือนว่า นอกจากราชวงศ์เย่แล้ว ก็ไม่มีใครยินดีให้จัดตั้งพันธมิตรอีก”

หลี่เจียงสงได้โอกาสเหมาะ กล่าวด้วยสีหน้าประชดประชัน “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ขอแสดงความยินดีกับราชวงศ์เย่ ที่ได้จัดตั้งพันธมิตรขึ้นตามลำพังแล้ว เรียกมันว่าพันธมิตรราชวงศ์เย่แล้วกัน”

“ฮ่าๆ…”

หลงหวงและกษัตริย์ซ่านกวนหัวเราะขึ้นพร้อมกัน

หลายคนกลั้นหัวเราะ พวกเขาไม่กล้าที่จะหัวเราะในสถานการณ์เช่นนี้

สีหน้าของสมาชิกราชวงศ์เย่ซีดเผือดด้วยความโกรธ กษัตริย์เย่มองไปที่หยางเฉิน นัยน์ตาของเขาเป็นประกายที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า ราวกับว่าต้องการจะสับหยางเฉินให้เป็นชิ้นๆ

แต่เขาก็ต้องอดทน ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะลงมือ เพราะมีอีกเรื่องที่สำคัญมาก เป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของราชวงศ์เย่ในวันนี้

“ในเมื่อทุกท่านไม่ยินดีจัดตั้งพันธมิตรก็ลืมมันไปซะ!”

กษัตริย์เย่ข่มความโกรธ เหลือบมองไปรอบๆ แล้วพูดว่า “ต่อไป เรามาพูดถึงเรื่องที่สองกันในวันนี้”