แม้ว่าคนส่วนใหญ่คิดว่าเย่ห้าวหรานพ่ายแพ้ แต่พวกเขาก็ต้องยอมรับความแข็งแกร่งของเขา เพราะถ้าเขาไม่ได้ครอบครองพลังและเลือดจ้าวมหาเทพ ฉินหวยอาจจะพ่ายแพ้ต่อเขา

เมื่อรู้ว่าเย่ห้าวหรานเป็นผู้คุมกฎเค่อชิงที่งานประมูลอัคคีนภา เป็นนักยุทธ์จากงานประมูลคุนหลุนในเมืองมังกรครามยักษ์ ต่างสงสัยเล็กน้อย

ในไม่ช้า อิงบูเฉิงก็ถูกเรียกตัวมา และผู้ที่เรียกเขามาเป็นบรรพจารย์มกุฎเทพคนหนึ่งแห่งงานประมูลคุนหลุน!

นอกจากอิงบูเฉิงแล้ว ผู้ดูแลงานประมูลอัคคีนภาก็ถูกเรียกตัวมาเช่นกัน ภายใต้การสอบถามของบรรพจารย์มกุฎเทพผู้นั้น เขาได้กล่าวถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเย่ห้าวหราน

“งานประมูลคุนหลุนของเราเน้นไปที่ธุรกิจมาโดยตลอด ในบรรดากองกำลังระดับมกุฎเทพในดาราจักรคุนหลุน งานประมูลของเรามีความมั่งคั่งมากที่สุด แต่ปริมาณและคุณภาพของผู้แข็งแกร่งค่อนข้างต่ำ อัจฉริยะดังกล่าวควรให้ความสำคัญและปลูกฝัง”

บรรพจารย์มกุฎเทพเสนอออกมาว่าอยากเจอเย่ห้าวหราน แต่ตอนนี้หลัวซิวกำลังปิดกั้นฝึกตน ปิดกั้นการติดต่อทั้งหมดกับโลกภายนอก

อิงบูเฉิงหมดหนทาง ในความเห็นของเขา นี่เป็นโอกาสที่จะก้าวไปถึงชั้นสูงอย่างแน่นอน ในใจเขาอดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยมีความอิจฉาริษยาต่อหลัวซิว

เรื่องที่บรรพจารย์มกุฎเทพสั่ง เขาไม่กล้าที่จะไม่ทำให้ดี หลัวซิวไม่ออกจากการปิดกั้นฝึกตน ดังนั้นเขาจึงต้องรออยู่ที่หน้าประตูของสถานที่ฝึกตน

ดาราแห่งกาลเวลาปรากฎตัวแล้ว!

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา บรรพจารย์มกุฎเทพแห่งทั้งสองดาราจักรได้คำนวณด้วยจำนวนนับไม่ถ้วน แต่เพียงสามารถคำนวณเวลาโดยประมาณได้เท่านั้น ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าดาราแห่งกาลเวลาจะปรากฎเมื่อใด

ดังนั้น ผู้เก่งกาจจากกองกำลังมากมายในดาราจักรทั้งสองแห่งจึงมาที่เมืองมังกรครามยักษ์ล่วงหน้า และในที่สุด เมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือนดาราแห่งกาลเวลาปรากฏตัวขึ้นแล้ว!

ทันทีที่มีข่าวออกมา ทั่วทั้งเมืองมังกรครามยักษ์ก็วุ่นวายทันที ผู้คนที่รู้จักกันบอกกันและกัน นักยุทธ์ที่อยู่ในสถานะปิดกั้นฝึกตนต่างก็ออกมา ท่าทางตื่นเต้น

ไม่รู้ว่าวันนี้มีคนรอมากเท่าไหร่ที่รอวันนี้อยู่ เพราะทุกคนรู้ดีว่าดาราแห่งกาลเวลามีความลับที่ยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่ มีสมบัติมากมายอยู่ข้างใน และจะมีโอกาสมากมายนับไม่ถ้วน!

ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ หลัวซิวได้ปิดกั้นฝึกตนอยู่ในสถานที่ฝึกตน ทำความเข้าใจกับความลึกลับของวิธีการที่จารึกไว้ในร่างเนื้อ

เขาพยายามนับครั้งไม่ถ้วนและในที่สุดก็ได้ข้อสรุปบางอย่าง หากต้องการจารึกค่ายกลในร่างเนื้อ สามารถทำได้ด้วยแรงภายนอก

ตัวอย่างเช่น โดยการควบแน่นค่ายกลล่วงหน้า แล้วบีบอัดด้วยแรงภายนอก ให้ยันต์ค่ายกับร่างยุทธ์ร่างเนื้อหลอมรวมเข้าด้วยกัน อย่างนี้แล้วสามารถทำให้ร่างยุทธ์ร่างเนื้อได้รับพลังจากค่ายกล และแข็งแกร่งขึ้น

บางทีอาจมีวิธีที่ดีกว่าที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ค่ายกล แต่ในคัมภีร์ค่ายกลที่ไม่สมบูรณ์ หลัวซิวไม่พบคำใบ้ใด ๆ และทุกอย่าง้องสำรวจด้วยตัวเองเท่านั้น

ในกระบวนการค้นคว้าความลึกลับของค่ายกลจารึกไว้ในร่างเนื้อ หลัวซิวยังคงวิเคราะห์ค่ายกลต่างๆ และแดนค่ายกลก็ทะลุผ่านระดับ 8 ไปโดยไม่รู้ตัวไปบรรลุถึงนักค่ายเทพระดับ 9

นักค่ายเทพระดับ 9 นั้นหายากมากนัก และแต่ละคนก็เป็นขุมทรัพย์ในกองกำลังใหญ่ของทุกฝ่าย เมื่อพวกเขาสามารถทะลุระดับ 9 ได้ และกลายเป็น ปรมาจารย์ค่ายเทพ สถานะของพวกเขาก็จะสูงขึ้นไปอีก

ตามที่หลัวซิวรู้มา สองดาราจักร อัมพรเทวและคุนหลุนรวมกัน จำนวนปรมาจารย์ค่ายเทพจะไม่เกินสาคนมอย่างแน่นอน!

สำหรับจำนวนของปรมาจารย์โอสถเซียนและปรมาจารย์หลอมอาวุธ จำนวนน้อยมากหรือไม่มีเลย

หลังจากการวิเคราะห์เชิงทฤษฎีแล้ว หลัวซิวได้ลองใช้วิธีนี้ บังคับให้ยันต์ค่ายสิบกว่าค่ายกลเข้าไปในร่างเนื้อด้วยแรงภายนอก

ยันต์ค่ายเหล่านี้ต่างมีความลับของค่ายสังหารซ่อนอยู่ ซึ่งช่วยเพิ่มพลังโจมตีของร่างยุทธ์ร่างเนื้อของเขาเป็นอย่างมาก