ตอนที่ 2802 เรียกทัณฑ์สวรรค์เพื่อส่งข่าว

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2802 เรียกทัณฑ์สวรรค์เพื่อส่งข่าว!
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

เงาร่างกลุ่มหนึ่งพุ่งออกไปจากม่านหมอก ก่อนที่หลัวชวนนั้นต้องหรี่ตาลงถาม “พวกมันอยู่ที่ไหน?”

เพราะชายหาดด้านหน้าของพวกเขานั้นมันว่างเปล่า

ฮันกวงนั้นหรี่ตาลงร้องอย่างคับแค้น “ให้ตายสิ! ไอ้พวกนั้นมันคงฝ่าวงล้อมออกไปได้แล้วแน่!”

“ขยะเอ๊ย!”

หลัวชวนนั้นร้องลั่นขึ้นอย่างคับแค้นใจ “เผ่าเลือดเรานั้นต้องทุ่มแรงกายเหนื่อยยากกันแค่ไหนกว่าที่จะทำให้แผนนี้เป็นจริงได้? แม้แต่เจ้าโลกโลหิตฟ้ายังต้องลงมือเอง! แต่เวลานี้มันกลับมาพลาดเพราะเรื่องโง่ๆ ได้!”

ฮันกวงนั้นรีบคุกเข่าลงด้วยความกลัวและคับแค้นใจ

มีหรือที่เขาจะไม่รู้ว่าเรื่องนี้สำคัญแค่ไหน? แต่มีหรือที่เขาจะคิดฝันว่าจักรพรรดิเซียนขั้นกลางคนหนึ่งจะทำร้ายเขาจนมีสภาพเช่นนี้ได้ด้วยดาบเดียว?

เรื่องนี้มันเหนือเกินใครจะคาดถึงได้!

“หมิงซู เจ้าตั้งทัพรอไว้ตรงนี้ ข้าจะออกไปล่ามนุษย์พวกนั้นก่อน หวังว่าจะยังตามทัน!” หลัวชวนนั้นพุ่งตัวหายไปจากชายหาดทันที

พวกเย่หยวนทั้งห้านั้นฆ่าเปิดวงล้อมออกมาและพุ่งหนีขึ้นทวีปไป

ฉื่อเลอนั้นกลัวดาบเต๋าของเย่หยวนจึงไม่กล้าจะตามไล่ล่าไปคนเดียว มีแต่ต้องสั่งทหารทั้งหลายในกองทัพให้ออกไปพร้อมๆ กัน

แต่ยิ่งเข้าไปใกล้ทวีปมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเสี่ยงจะถูกเปิดเผยมากเท่านั้น

เพราะว่าตอนนี้เผ่าเลือดยังเตรียมการไม่เสร็จสิ้น!

หากถูกคนทางเหนือพบเจอเข้าแล้ว ความพยายามที่ผ่านๆ มามันคงเปล่าประโยชน์ไป

แค่พวกเขาเหล่าจักรพรรดิเซียนและจักรพรรดิเที่ยงนั้นมันย่อมจะไม่มีทางยึดครองทวีปสวรรค์แรกไว้ได้

หากคิดอยากจะยึดดินแดนทางตอนเหนือมาพวกเขาก็ยังต้องรอกำลังของเหล่ามหาจักรพรรดิและเจ้าโลกทั้งหลายด้วย

เพราะหากไม่มียอดฝีมือระดับนั้นอยู่แล้วมหาจักรพรรดิชาวมนุษย์คนเดียวก็คงพอจะกวาดล้างพวกเขาได้สิ้น

“ยังจะตามอีก? เจ้ายังตามมาอีกข้าจะสังหารเจ้าลงจริงๆ แล้ว!” เย่หยวนหัวเราะขึ้นมาจากด้านหน้า

ฉื่อเลอนั้นหน้าเครียดร้องตอบกลับไป “หากเจ้ามีปัญญาก็ลองสังหารข้าดูให้ได้เถอะ!”

“เช่นนั้นหรือ? งั้นข้าลุยล่ะ!”

พูดจบเย่หยวนก็ง้างดาบเต๋าขึ้นมาจนทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี!

คลื่นพลังรุนแรงล้ำนั้นมันทำให้สีหน้าของฉื่อเลอเปลี่ยนสีก่อนจะหยุดร่างของตัวเองและพุ่งถอยไปทันที

แต่ดาบนั้นกลับไม่ถูกฟันลงมา

เย่หยวนพุ่งตัวออกไปพร้อมเสียงหัวเราะ “ฮ่าๆๆ ข้าหลอกเจ้าอีกแล้ว!”

มันกลับเป็นลูกหลอกอีกครั้ง!

ฉื่อเลอนั้นแทบอยากจะกระอักเลือดออกมา!

เพราะระหว่างทางที่ผ่านมานี้เย่หยวนใช้ลูกหลอกเช่นนี้ใส่เขามาแล้วถึงสามสี่ครั้ง

แต่ละครั้งที่เขาเข้าไปใกล้ได้เย่หยวนก็จะหลอกออกมา

แต่เขานั้นก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหยุดตัวลง

เพราะหากเย่หยวนคิดลงมือจริงๆ แล้วเขาคงต้องตายลงแน่

ดาบของเย่หยวนนั้นมันทำให้แม้แต่แม่ทัพฮันกวงยังบาดเจ็บสาหัส ฝีมือของฉื่อเลอนั้นอ่อนแอกว่าฮันกวงไปมาก หากโดนเข้าต่อให้ไม่ตายก็คงต้องพิการไป

ในเผ่าเลือดนั้นผู้อ่อนแอมันไม่มีที่อยู่

ฉื่อเลอนั้นไม่มีทางเลือดอื่นนอกจากต้องตามๆ หยุดๆ เย่หยวนไปอย่างนี้

เขานั้นได้แต่หวังว่าท่านหลัวชวนนั้นจะตามมาสังหารเจ้ามารร้ายนี้ลงโดยเร็ว

เจ้าเด็กนี่มันน่าชังนัก!

“ยังตามมาอีก? ข้าจะถึงบ้านแล้วนะ!” เย่หยวนยิ้มตอบ

แน่นอนว่าไกลออกไปลิบสุดสายตานั้นมันปรากฏเงาของกำลังเมืองขึ้นมาแล้ว

ระหว่างที่ไล่หนีไล่ตามกันมานี้พวกเขาก็เข้ามาลึกในทวีปสวรรค์แรกแล้ว

ระหว่างทางมันย่อมจะมีมนุษย์อยู่มากมาย

แต่ฉื่อเลอนั้นได้สั่งกองทัพให้ออกไปจัดการปิดปากคนทั้งหลายลงอย่างรวดเร็ว!

เพื่อที่จะเก็บรักษาความลับไว้

เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับทวีปสวรรค์แรกเลย แต่การปรากฏตัวขึ้นของเผ่าเลือดนี้มันทำให้เขาเข้าใจอะไรได้บ้างไม่น้อย

ดูท่าแล้วสภาพของทวีปสวรรค์แรกมันก็คงไม่ดีนัก!

เผ่าเลือดปราฏขึ้นเหนือทวีปสวรรค์แรกอย่างไม่มีใครรู้ตัวได้เช่นนี้ มันคงจะเป็นแผนการที่ใหญ่ยิ่งแน่นอนแล้ว

เขานั้นแค่บังเอิญเดินผ่านมาเจอเข้าเท่านั้น!

ตอนนี้เป้าหมายที่สำคัญที่สุดจึงเป็นการส่งข่าวนี้ให้คนบนทวีปได้รับรู้

ไม่เช่นนั้นแล้วนอกจากว่าเขาจะต้องตายแล้วทวีปสวรรค์แรกเองก็คงตกอยู่ในมือของศัตรูเข้าแน่ๆ!

หมี่เทียนนั้นบอกไว้แล้วว่าเผ่าเลือดนั้นเป็นเผ่าที่น่ากลัวมาก พวกเขานั้นจะดื่มเลือดของศัตรูและแข็งแกร่งขึ้นได้เรื่อยๆ ตราบเท่าที่มีเหยื่อ

หากพวกเขาบุกขึ้นมาบนทวีปได้แล้ว เผ่าเลือดมันคงจะให้กำเนิดยอดฝีมือขึ้นมาอีกหลายคนทีเดียว!

แต่ในตอนนั้นเองที่มันมีคลื่นพลังรุนแรงสายหนึ่งพุ่งตามหลังคนทั้งหลายมา!

นี่ทำให้เย่หยวนหน้าซีดลงทันที

เพราะมันช่างเป็นคลื่นพลังที่รุนแรงนัก!

เจ้าของคลื่นพลังนี้คงเป็นตัวตนที่ไม่เกรงกลัวดาบเต๋าของเขาเลย!

ฉื่อเลอนั้นเองก็ย่อมจะสัมผัสได้และหัวเราะลั่นขึ้นมา “ไอ้หนู เจ้าคง…กลับบ้านไม่ได้แล้ว! แม่ทัพหลัวชวนผู้มีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดท่านมาถึงแล้ว เจ้าได้ตายแน่!”

อีกฝ่ายนั้นรวดเร็วจนเกินไป!

พวกเขานั้นไม่มีเวลาเหลือจะเข้าเมืองใดๆ แล้ว!

เย่หยวนหรี่ตาลงกล่าวสั่งไป “หยางชิง เจ้าไปถ่วงเวลามันไว้!”

หยางชิงนั้นย่อมจะไม่อาจเทียบฝีมือกับฉื่อเลอได้

แต่หากคิดแค่ถ่วงเวลานั้น มันคงพอทำได้บ้าง

แต่ว่าอย่างไรเสียคนทั้งห้านั้นก็ต้องหยุดตัวลงปล่อยให้ศัตรูปิดล้อม!

เย่หยวนนั้นไม่สนใจเหล่าเผ่าเลือดที่เข้ามาล้อมรอบทิศ เรียกดาบเต๋ามาถือขึ้นชี้ฟ้า

ดาบเต๋าของเย่หยวนนั้นขยายใหญ่ขึ้นในพริบตาพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า!

เหล่าจักรพรรดิเซียนที่เข้ามาใกล้เย่หยวนนั้นถูกพลังของดาบเต๋านี้ทำลายจนสลายไปสิ้น

ครืน

ราวกับว่ามันตอบสนองของดาบเต๋าของเย่หยวนนั้น บนท้องฟ้าก็ได้เกิดเมฆดำขึ้นมาพร้อมสายฟ้าที่พุ่งผ่าน

เย่หยวนยกดาบขึ้นชี้ฟ้าอีกครั้งหนึ่ง!

ที่สำคัญไปกว่านั้นยิ่งเย่หยวนมีพลังมากขึ้นเท่าไหร่ อำนาจของสวรรค์ที่ลงมาจัดการเขามันก็ยิ่งหนักหน่วงขึ้นเท่านั้น!

ท้องฟ้าในระยะกว่าหมื่นกิโลเมตรรอบๆ ตัวเขานั้นมันกลายเป็นสีดำสนิทไป

แน่นอนว่าตอนนี้เหล่ายอดฝีมือรอบๆ ต้องตกตะลึง!

และนั่นคือเป้าหมายของเย่หยวน!

ไกลออกไปนั้นหลัวชวนเองก็หน้าซีดขาวลงทันที รู้ดีว่าเรื่องครั้งนี้มันคงไม่อาจปิดบังได้อีกแล้ว!

บนกำแพงของเมืองทัศน์เหนือมีหลายเงาร่างกำลังเงยหน้าขึ้นมองฟ้าอย่างตกตะลึง

เมืองทัศน์เหนือนั้นเป็นเมืองที่ใกล้กับเย่หยวนในตอนนี้ที่สุด

ซ่งเหมียวนั้นเป็นเจ้าเมืองทัศน์เหนือ

ลูกน้องของเขาร้องกล่าวขึ้น “ท่านเจ้าเมือง ผู้อาวุโสท่านใดกันที่มาเรียกเต๋าทุกข์จักรพรรดิเที่ยงลงตรงนี้? ช่างทรงพลังนัก!”

เขานั้นเคยเห็นเจ้าเมืองของเขานี้บรรลุเต๋าทุกข์จักรพรรดิเที่ยงมาก่อนและย่อมรู้ดีว่าสิ่งนี้มันทรงพลังกว่ามากนัก

และตัวเจ้าเมืองของเขานี้ก็เป็นถึงจักรพรรดิเที่ยงขั้นปลาย!

แต่ซ่งเหมียวนั้นกลับขมวดคิ้วแน่นตอบกลับไป “มันมิใช่เต๋าทุกข์จักรพรรดิเที่ยง! นี่มันคือ…ทัณฑ์สวรรค์! คนที่กำลังเรียกเต๋าทุกข์ลงมานั้นคือผู้บ่มเพาะนอกรีตแน่แล้ว! แต่ทำไม…มันถึงเลือกจะมาเรียกเต๋าทุกข์ลงตรงนั้นกัน? เรื่องนี้มันดูแปลกๆ แล้ว”

ลูกน้องของเขาจึงกล่าวขึ้นมาอย่างไม่มั่นใจ “ก็จริง ทิศนั้นมันมีมนุษย์และภูติแท้อยู่ไม่น้อย มันมิใช่ที่ที่เหมาะจะใช้บรรลุเต๋าทุกข์เลย ทำไมถึงเลือกที่จะเรียกมันลงมาตรงนั้นกันเล่า?”

เพราะคนทั้งหลายนั้นต่างจะต้องเรียกเต๋าทุกข์ลงมาในจุดที่เงียบสงบและไม่มีใครรบกวน

เพราะว่าการบรรลุเต๋าทุกข์นั้นมันคือความอันตรายอย่างยิ่งยวด พลาดไปนิดก็อาจถึงตายได้หากมีใครเข้ามายุ่งมันคงถึงตายแน่แล้ว

สถานที่ที่มีแต่คนอื่นมากมายเช่นนั้นมันย่อมจะไม่เหมาะเรียกเต๋าทุกข์ลงมา

แต่มันกลับมีคนกำลังเรียกเต๋าทุกข์ลงมาจนทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้ขึ้น

“ข้าจะออกไปดูเสียหน่อย เจ้าดูเมืองไว้และปรับระดับการป้องกันให้สูงที่สุด!” พูดจบซ่งเหมียวนั้นก็พุ่งตัวออกไปยังจุดศูนย์กลางของเต๋าทุกข์

เขานั้นเป็นจักรพรรดิเที่ยงขั้นปลาย ย่อมจะมีความเร็วล้ำ

แต่ไม่นานใบหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนสี!

เผ่าเลือด!

มันกลับมีเผ่าเลือดมากมายอยู่ที่ใจกลางของพายุใหญ่นี้!

เอกลักษณ์ของเผ่าเลือดนั้นมันชัดเจน หากพวกเขาต่อสู้แล้วมันก็จะต้องปล่อยพลังเลือดออกมาทำให้ง่ายจะแยกแยะมาก

“นี่มัน…ที่แห่งนี้มันแดนเหนือสุดแท้ๆ ทำไมถึงได้มีเผ่าเลือดอยู่ได้?

หรือว่า…พวกมันลอบเปิดทางมิติเตรียมแผนบุกทวีปสวรรค์แรกจากทะเล?”

ซ่งเหมียวนั้นเดาถึงที่มาได้ทันทีจนต้องเหงื่อไหลท่วมกาย

ข่าวนี้มันใหญ่จนเกินกว่าจะปล่อยไว้!

…………………………