ตอนที่ 2804 สถานการณ์เลวร้าย

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2804 สถานการณ์เลวร้าย!
“ตาย! ตายแน่แล้ว! เขานั้นคงต้องตายเพราะส่งข่าวให้เราด้วยทัณฑ์สวรรค์แน่แล้ว! เฮ้อ!” ซ่งเหมียวนั้นร้องถอนใจยาวออกมา

เจ็ดเต๋าทุกข์เก้ากฎนั้นมันน่ากลัวจนเกินรับสำหรับจักรพรรดิเซียน ไหนจะยังเป็นเจ็ดเต๋าทุกข์เก้ากฎที่ลงมาทีละสามสายเช่นนี้แล้วด้วย

เย่หยวนคงไม่อาจทนรับไว้ได้อีกแล้ว!

หลัวชวนหัวเราะลั่นขึ้น “เจ้าไม่มีทางทนรับเต๋าทุกข์นี้ไปได้แน่! ตายเพราะเต๋าทุกข์ไปนี้มันถือว่าเจ้าดวงดีแล้ว! ฮ่าๆๆ”

เขานั้นชิงชังเย่หยวนจนถึงกระดูก

เพราะว่าเรื่องที่เย่หยวนก่อนี้มันสร้างความเสียหายใหญ่โต!

เวลานี้ได้เห็นเย่หยวนตายลงเพราะเต๋าทุกข์มันย่อมจะเป็นสิ่งที่เขาสะใจล้ำ

พูดไปสายฟ้าเต๋าทุกข์สามสายมันก็ผ่าลงมาอีก

เย่หยวนนั้นไม่อาจจะเรียกเต๋าดาบออกมาได้อีกแล้ว!

ในความคิดของคนทั้งหลายนั้น เย่หยวนย่อมจะต้องตายลงแน่ในครั้งนี้

แต่ในตอนนั้นเองที่วิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวนมันกลับพุ่งออกมาจากกายเนื้อ

จากนั้นธนูก็ถูกง้างพร้อมศรวิญญาณ

“ธนูเทพล้าง!”

คลื่นพลังวิญญาณรุนแรงนั้นมันกระแทกกลับสายฟ้าไปด้วยธนูเทพล้าง

ธนูเทพล้างนั้นถูกปล่อยออกมาพร้อมๆ กันถึงสามดอกสวนกลับสายฟ้าแห่งเต๋าทุกข์ทั้งสามไป

ปัง! ปัง! ปัง!

คลื่นพลังรุนแรงนั้นมันซัดร่างของจักรพรรดิเซียนเผ่าเลือดรอบๆ จนลอยลิ่วไปไกล

บ้างนั้นอยู่ใกล้จนเกินไปจนร่างกายถูกบดขยี้ไปใต้พลังนี้ก็มี

เต๋าทุกข์ของเย่หยวนนั้นมันรุนแรงจนเกินไป จะอยู่ใกล้ไม่ได้เด็ดขาด

วิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวนนั้นมันก็จางลงไปมาก

หลัวชวนนั้นหน้าเปลี่ยนสีเมื่อได้เห็น เจ้าเด็กนี่มันกลับยังไม่ยอมตาย!

การโจมตีด้วยวิญญาณดั่งเดิมนั้นมันช่างรุนแรงล้ำ!

“หึๆ เจ้าคงผิดหวังแล้ว! ความดื้อด้านของสหายหนุ่มผู้นี้มันทำให้แม้แต่ข้ายังต้องยอมรับ!” ซ่งเหมียวหัวเราะลั่น

เย่หยวนในเวลานี้บาดเจ็บอย่างหนักหน่วงแต่ว่าปราณ ชีพและวิญญาณของเขานั้นมันกลับพัฒนาขึ้นไปอย่างไม่หยุดยั้ง

นี่คือผู้บ่มเพาะนอกรีตอย่างแท้จริง!

แม้จะต้องเผชิญกับเต๋าสวรรค์พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้!

เพียงแค่ว่าเย่หยวนนั้นดูเหมือนจะเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตที่อยู่นอกของนอกรีตไปอีกที

เต๋าทุกข์นี้มันตกลงมาต่อเนื่องอย่างรวดเร็วราวกับว่ามันกำลังตอบสนองต่อการต่อต้านของเย่หยวน

เย่หยวนยิงธนูเทพล้างออกไปติดๆ กันนับสิบดอกจนกายวิญญาณของเขาเลือนลางแทบมองไม่เห็นอีกต่อไป เหมือนแทบจะสิ้นวิญญาณลงได้ทุกเมื่อ

แต่เขานั้นกลับยังไม่ยอมแพ้

วิญญาณดั่งเดิมของเขาเลือนลางไปเย่หยวนจึงพุ่งตัวกลับเข้าร่างเนื้อและเปลี่ยนร่างเป็นมังกรฟ้า

พุ่งตัวขึ้นสู่สวรรค์!

แม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่มีท่าทีที่จะยอมแพ้แม้แต่น้อย

‘ดาบเต๋าพังทลาย ข้าจะใช้วิญญาณดั่งเดิม วิญญาณดั่งเดิมจางหาย ข้าจะใช้กายเนื้อ!’

‘คิดอยากให้ข้า เย่หยวนยอมแพ้นั้นมันย่อมมีแต่ต้องสังหารข้าลงเท่านั้น!’

ปัง! ปัง! ปัง!

ร่างมังกรฟ้านั้นของเย่หยวนมันพุ่งเข้าปะทะสายฟ้าเต๋าทุกข์จนร่วงตกลงจมดิน

แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่ยอมแพ้และพุ่งตัวกลับขึ้นไป

เขานั้นบินขึ้นลงอยู่อย่างนั้นนานแสนนานแต่ก็ไม่เคยจะยอมแพ้

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายที่ได้เห็นนั้นต้องอ้าปากค้าง

หลัวชวนนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่น

เขานั้นสัมผัสได้ถึงความไม่ยอมแพ้ของเย่หยวน ความไม่ยอมแพ้ที่แม้แต่เต๋าสวรรค์ยังไม่อาจสั่นคลอนได้!

นี่มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต!

เขานั้นรู้ดีว่าทัณฑ์สวรรค์ครั้งนี้มันคงไม่อาจจะเอาชีวิตเย่หยวนไปได้อีกแล้ว

แต่เวลานั้นเองที่มันมีคลื่นพลังรุนแรงอีกหลายสายพุ่งตัวเข้ามาจากทุกทิศทาง

เหล่าเจ้าเมืองรอบนอกนั้นต่างมุ่งหน้ามาเพื่อช่วยเหลือ!

เขานั้นไม่อาจจะอยู่ได้อีกต่อไป เพราะหากยังอยู่ต่อไปมันก็คงไม่อาจจะหนีกลับไปได้แน่แล้ว

“ไอ้เด็กนี่มันต้องกลายเป็นศัตรูร้ายของเผ่าเลือดเราแน่! น่าเสียดายที่ข้าไม่อาจสังหารมันได้!”

หลัวชวนนั้นถอนใจยาวก่อนจะเปล่งแสงสีแดงเลือดออกมาจากร่างพร้อมต่อยหมัดรุนแรงใส่คนทั้งเจ็ดตรงหน้า

เจ็ดจักรพรรดิเที่ยงนั้นถูกซัดจนลอยลิ่วออกไปทันที

“ถอย!”

ภายใต้คำสั่งของหลัวชวนนั้นเหล่าจักรพรรดิเซียนเผ่าเลือดทั้งหลายต่างก็พุ่งตัวหนีออกไป

ส่วนเย่หยวนนั้นยังคงต่อต้านเต๋าทุกข์อย่างไม่สนใจใคร!

เมื่อเย่หยวนได้สติขึ้นมาอีกครั้งเขาก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียง

แสงตะวันอ่อนๆ นั้นมันสาดเข้ามาจากช่องหน้าต่างของห้อง

ร่างกายของเขานั้นมันเหมือนแทบจะแตกสลายออกจากกัน แทบไม่อาจขยับได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า

การเรียกเต๋าทุกข์ทัณฑ์สวรรค์ลงมานี้มันแทบทำให้เขาเอาชีวิตไม่รอด

เพราะการเรียกทัณฑ์สวรรค์ลงมาเองนี้มันแตกต่างจากเต๋าทุกข์ทั่วไปมาก

ตอนที่เย่หยวนบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมานั้นเขาได้บ่มเพาะเตรียมตัวพร้อมรับมือมาทุกด้าน

แล้ว

แต่การเรียกทัณฑ์สวรรค์ลงมาเองครั้งนี้ เย่หยวนยังมีพลังบ่มเพาะชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นกลางที่ไม่มั่นคงเสียด้วยซ้ำ

กอปรกับเรื่องพลังของทัณฑ์สวรรค์นั้น มันคงเรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่เย่หยวนรอดมาได้

“เจ้าตื่นแล้วหรือ?” เสียงหนึ่งกล่าวถามขึ้น

เป็นเวลานั้นเองที่สายตาของเย่หยวนได้หันไปเห็นว่ามันมีอีกเงาร่างหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆ หัวเตียง

ชายวัยกลางคนผู้นี้มีท่าทางของยอดปราชญ์ ดูอ่อนโยนอย่างมาก

เย่หยวนจำเขาได้ดีเพราะว่าเขานั้นคือคนแรกที่บุกเข้าไปช่วยเหลือพวกเย่หยวนในวันนั้น เจ้าเมืองซ่งเหมียวผู้นั้น

“ผู้อาวุโส” เย่หยวนพยายามฝืนตัวลุกขึ้น

ซ่งเหมียวนั้นก้มหัวลงต่อหน้าเย่หยวนพร้อมกล่าว “ซ่งผู้นี้ขอขอบคุณน้องชายมาก ที่ช่วยรายงานข่าวเรื่องเผ่าเลือดมา ช่วยเหลือเมืองทัศน์เหนือและชาวยุทธอีกนับล้าน!”

เย่หยวนที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ผงะไปก่อนจะรีบร้องขึ้นห้าม “ท่านอย่าได้ทำเช่นนี้เลย!”

ซ่งเหมียวนั้นเงยหน้ากลับขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “การคารวะนี้น้องชายเจ้าสมควรได้รับมันไว้! เจ้าแค่ไม่รู้ว่าทัณฑ์สวรรค์ที่เจ้าเรียกลงมานั้นมันมีความสำคัญต่อทวีปสวรรค์แรกเพียงใด!”

เย่หยวนนั้นย่อมพอจะเดาสภาพของทวีปสวรรค์แรกได้บ้าง เผ่าเลือดนั้นคงมีแผนการใหญ่อะไรแน่ๆ

แต่ใหญ่แค่ไหนเย่หยวนไม่อาจคาดได้

ได้ยินคำของซ่งเหมียวนั้นมันคงจะเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายแน่ๆ

เย่หยวนจึงขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาถาม “ผู้อาวุโสท่านบาดเจ็บ?”

ซ่งเหมียวเบิกตากว้างมองหน้าเย่หยวนก่อนจะยิ้มตอบ “ไม่เป็นไรหรอก”

เย่หยวนส่ายหัวด้วยท่าทางอ่อนแอ “เม็ดเลือดของเผ่าเลือดเข้าไปในร่างกายเช่นนี้มันคงผสานเข้ากับเลือดของท่านและค่อยๆ ทำลายท่านจากภายใน! ปกติเวลาท่านอาจจะกดมันไว้ได้แต่หากต้องไปสู้กับคนอื่นแล้วเม็ดเลือดนี้มันคงสังหารท่านได้ทุกเมื่อแน่!”

ได้ยินเช่นนั้นซ่งเหมียวก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมา

เพราะเจ้าเด็กคนนี้กลับมองสภาพร่างกายของเขาออกได้ในพริบตาที่ตื่นขึ้น!

ซ่งเหมียวยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “เม็ดเลือดของเผ่าเลือดนั้นมันไร้ทางรักษา! เทียบกับคนอื่นๆ แล้วซ่งผู้นี้ยังถือว่าโชคดีมากด้วยซ้ำ”

เย่หยวนเบิกตากว้างขึ้นถาม “ข่าวนั้นก็ถูกส่งไปแล้วหรือว่าพวกท่านยังไม่อาจจัดการกำลังของเผ่าเลือดลงได้อีก?”

ซ่งเหมียวส่ายหัวออกมาด้วยใบหน้าหมองหม่น “ครึ่งเดือนมานี้เราได้ต่อสู้กับเผ่าเลือดอย่างดุเดือดไปถึงสามครั้งจนต้องเสียหายหนัก ในหมู่คนที่ไปช่วยเจ้าวันนั้น สามสหายได้ตายลงไปแล้ว อีกห้าคนเองก็บาดเจ็บไม่ต่างจากข้า”

มุมปากของเย่หยวนกระตุกขึ้นมาทันที ไม่นึกฝันว่ามันกลับจะยังมีเรื่องเช่นนี้

เผ่าเลือดนั้นมันแข็งแกร่งจนเกินไป!

เขานั้นมีฝีมือที่เอาชนะข้ามอาณาจักรได้ แต่คนทั้งหลายไม่เก่งเท่าเขา

ศัตรูที่ฆ่าไม่ตายนั้นมันยุ่งยากเกินรับมือ

“พวกเจ้าทั้งห้านั้นกลับสังหารออกมาจากวงล้อมของเผ่าเลือดได้ คงเรียกมันว่าเป็นปาฏิหาริย์ทีเดียว!” ซ่งเหมียวร้องบอก

ก่อนนั้นตอนที่เขาเห็นว่าเย่หยวนเป็นแค่จักรพรรดิเซียนขั้นกลางเขาก็แทบลืมหายใจไป

เพราะด้วยพลังบ่มเพาะแค่นี้ทำไมถึงรอดออกมาได้กัน?

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ผู้อาวุโส สภาพของทวีปสวรรค์แรกตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

ซ่งเหมียวนั้นรู้ดีว่าพวกเย่หยวนนั้นมาจากทวีปภายนอกและย่อมไม่รู้เรื่องราวของทวีปสวรรค์แรกใดๆ

แต่ก็เพราะเรื่องนั้นเองที่มันทำให้การเสียสละส่งข่าวของเย่หยวนยิ่งน่ายกย่องมากขึ้นกว่าเก่า

“สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นมันมีทวีปหลักอยู่สามทวีป ทวีปสวรรค์แรก ทวีปสายฟ้าคำรามและทวีปวาโยนาน ทั้งสามทวีปนั้นกินพื้นที่กว้างใหญ่หันหน้าเข้าหากันโดยมีทะเลขวางกั้น แต่ตอนนี้ทั้งทวีปสายฟ้าคำรามและทวีปวาโยนานต่างกลายเป็นดินแดนของเผ่าเลือดไป ยอดฝีมือหลากเผ่าพันธุ์นั้นต่างถูกจับไปเป็นทาสของพวกเผ่าเลือดสิ้น!”

“ทวีปสวรรค์แรกนี้เป็นผู้เหลือรอดสุดท้ายของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด เหล่ายอดฝีมือที่หนีจากสองทวีปใหญ่นั้นต่างมารวมตัวกันที่นี่เพื่อปกป้องทวีปสวรรค์แรกจากการบุกรุก แต่ถึงจะเช่นนั้นตอนนี้ทวีปสวรรค์แรกมันก็สูญเสียกำลังไปกว่าหนึ่งในสามแล้ว!”

เย่หยวนต้องผงะทันทีเมื่อได้ยิน

เขานั้นรู้ว่ามันคงมีเรื่องเกิดขึ้นบนทวีปสวรรค์แรกแต่ก็ไม่นึกว่ามันจะเลวร้ายได้ขนาดนี้!

……………………