ตอนที่ 1642 คุณถูกจับแล้ว

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

ขณะที่ศาลากลางถูกกองพลอากาศวงโคจรที่สามยึดครอง ในที่สุดการต่อสู้แห่งอิสรภาพนี้ก็มาถึงจุดจบ

นายกเทศมนตรีเสี่ยวและคนของเขา เการุ่ยหมิงรวมทั้งเหล่าผู้นำอาวุโสของศาลากลางซึ่งรอดชีวิตจากนักฆ่าที่องค์กรส่งมาถูกนำตัวขึ้นยานลาดตระเวนฉินหลิ่ง และพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังท่าอวกาศยานเทียนโจวในระบบระหว่างโลกกับดวงจันทร์

ในฐานะอาชญากรสงครามตัวหลักของสงครามครั้งนี้ พวกเขาน่าจะถูกสอบสวนในกลุ่มเมืองปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ย ศูนย์กลางการปกครองของสหการพาน-เอเชียน

เพื่อช่วยให้อาณานิคมกู้คืนความเป็นระเบียบเรียบร้อยกลับมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ กองพลอากาศวงโคจรที่สามจึงอยู่เบื้องหลัง

ศาลากลางในตอนนี้ถูกควบคุมโดยกรรมาธิการฝ่ายบริหารที่ได้รับการแต่งตั้งโดยสหการพาน-เอเชียน ในขณะเดียวกันสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะที่ได้รับความเสียหายในสงครามก็ได้เริ่มสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งเช่นกัน

แต่เมื่อกรรมาธิการฝ่ายบริหารที่ได้รับแต่งตั้งโดยสหการพาน-เอเชียนทำการตรวจสอบบัญชีต่างๆ ของศาลากลาง เขาก็พบบางอย่างที่น่าสนใจ ‘โดยบังเอิญ’…

มันเป็นบัญชีกองทุน

เหมือนอย่างที่อดีตนายกเทศมนตรีเสี่ยวหงได้สารภาพไว้ มูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรีได้ให้การสนับสนุนการกบฏผ่านการโอนเงินทุนอยู่แบบอ้อมๆ…

ในพื้นที่อยู่อาศัยของเมืองเทียนกง…

ประตูของคฤหาสน์ย่านชานเมืองอันมั่งคั่งถูกล้อมไปด้วยกองกำลังตำรวจติดอาวุธ

ตอนที่หวังเผิงกดกริ่ง แกล็ดสโตนกำลังออกกำลังกายยามเช้าอยู่ในสนามหญ้าด้านหน้า

หลังจากได้ยินเสียงกริ่ง เขาก็ไปที่โถงด้านหน้าแล้วเปิดประตู

เมื่อมองใบหน้าคนที่ยืนอยู่หน้าประตู แกล็ดสโตนก็มีสีหน้างุนงงสับสน

“สวัสดีครับ คุณคือ…”

อย่างไรก็ตามความงุนงงนี้ไม่ได้อยู่บนใบหน้าของเขานานนัก เพราะไม่นานคนตรงหน้าเขาก็แสดงบัตรประจำตัวโฮโลแกรม

เมื่อมองตราบนบัตรนั้นและข้อความต่างๆ ที่พิมพ์อยู่ด้านล่างตรา สีหน้าของแกล็ดสโตนก็ตึงไปเล็กน้อย

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คนที่ไม่คุ้นกับสิ่งที่หวังเผิงถืออยู่

“หวังเผิงครับ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานความมั่นคง” หวังเผิงเก็บบัตรประจำตัวโฮโลแกรมกลับไป หวังเผิงมองมาที่แกล็ดสโตนแล้วพูดต่อไปด้วยใบหน้าที่เฉยเมยว่า “ยินดีที่ได้พบคุณครับคุณแกล็ดสโตน”

“ยินดีเช่นกันครับ… ผมรู้ว่าในช่วงเวลาที่วุ่นวายและไม่ปกติเช่นนี้ คงจะไม่มีอะไรน่าดีใจไปกว่าการได้เห็นตราของสหการพาน-เอเชียน” สีหน้าของเขาเห็นได้ชัดเลยว่าไม่พอใจ แกล็ดสโตนแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรเลยและพูดว่า “เอาล่ะ คุยทักทายกันพอแล้ว ผมเชื่อว่าคุณมาติดต่อธุระของทางการ ถ้าอย่างนั้นผมขอถามได้ไหมว่า… คุณต้องการอะไรจากผม?”

หวังเผิงไม่อยากพูดไร้สาระกับชายผู้นี้ เขาถามออกไปตรงๆ เลยว่า “มิสเตอร์แกล็ดสโตน คุณไม่คิดเหรอว่าคุณควรจะอธิบายด้วยตัวเอง?”

“ขอโทษนะครับ ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าคุณหมายความว่ายังไง”

“อย่าแกล้งทำเป็นโง่เลย” หวังเผิงดันหน้าจอโฮโลแกรมตรงหน้าเขาออกไปแล้วพูดต่อแบบนิ่งๆ ว่า “นี่คือบัญชีการเงินของศาลากลางเมือง มีเงินทุน 5 พันล้านเครดิตมาจากบัญชีบริษัทของคุณ มันถูกโอนเข้าบัญชีของศาลากลางโดยตรง เงินนี้ถูกใช้เพื่อซื้ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัย… คุณน่าจะรู้ว่าผมกำลังสื่ออะไร”

เมื่อมองหน้าจอโฮโลแกรมตรงหน้าเขา บนใบหน้าของแกล็ดสโตนปรากฏความแข็งทื่ออย่างประหลาดขึ้นมาแวบหนึ่ง

แต่ไม่นานเขาก็ปกปิดสีหน้าผิดปกตินั้นไว้เบื้องหลังรอยยิ้มอันเฉลียวฉลาด

“โอ้ ถูกจับได้แล้วเหรอ? อันที่จริง… เราถูกบังคับให้ทำ”

หวังเผิงเลิกคิ้ว มองมาที่เขาด้วยความอยากรู้ และโบกมือให้เขาพูดต่อ

เฟืองในหัวของแกล็ดสโตนเริ่มหมุนขณะที่เขาปกป้องตัวเอง

“คุณก็รู้ว่าเมืองเทียนกงทั้งหมดตกอยู่ในมือของนายกเทศมนตรีเสี่ยว นับตั้งแต่เขาได้รับเลือกให้เป็นนายกเทศมนตรี เขาก็แย่ลง นักธุรกิจที่ไร้อำนาจอย่างเราไม่มีทางจะไปรับมือกับความต้องการที่หยิ่งยโสของเขาได้ แน่นอนว่าผมไม่อยากจะใช้เงินของนักลงทุนไปจ่ายหนี้สินให้ศาลากลาง…”

“ไร้อำนาจเหรอ?” หวังเผิงเลิกคิ้วเล็กน้อย “มิสเตอร์แกล็ดสโตน คุณน่ะถ่อมตัวเกินไป”

“ถ่อมตัวเหรอ? เปล่า ผมกำลังพูดถึง—”

“เอาล่ะ หยุดแสดงได้แล้ว ผมรู้ว่าคุณเป็นสมาชิกขององค์กรจิตวิญญาณแห่งจักรวาล” เพราะเขาขี้เกียจจะฟังเรื่องของแกล็ดสโตนแล้ว หวังเผิงจึงพูดแทรกขึ้นมาว่า “ส่งตัวนักวิชาการลู่มา นี่เป็นโอกาสรอดโอกาสเดียวของคุณ”

ส่งตัวนักวิชาการลู่มา?

พวกแกไม่ได้เอาตัวนักวิชาการลู่ไปนานแล้วหรอกเหรอ?

แกล็ดสโตนอึ้งไป แต่เขาตระหนักได้ว่านี่อาจจะเป็นกับดัก

“ขอโทษนะ ผมไม่เข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร…”

“ผมจะทำให้คุณเข้าใจเอง”

หวังเผิงโบกมือแล้วพูดคำคำหนึ่งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิเศษด้านหลังเขา

“ค้น”

ตำรวจติดอาวุธหนักหลายนายพุ่งเข้ามาในบ้าน

“เดี๋ยว พวกคุณทำอะไร?!”

แกล็ดสโตนพยายามจะเอื้อมมือมาขวางพวกเขาอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ถูกผลักออกไป

“เฮ้ คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้นะ!”

หวังเผิงไม่สนใจชายที่กำลังโกรธจัดและตะโกนอยู่ เขาไม่แม้แต่มองด้วยซ้ำ

ไม่นานนักตำรวจพิเศษก็พลิกบ้านหา

อย่างไรก็ตามเขาก็ต้องแปลกใจที่พวกเขาไม่เจอเบาะแสที่มีประโยชน์อะไรเลยในบ้านของแกล็ดสโตน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเบาะแสเกี่ยวกับที่อยู่ของนักวิชาการลู่…

“ท่านครับ นักวิชาการลู่ไม่ได้อยู่ที่นี่”

เมื่อฟังรายงานของลูกน้องของเขาแล้ว หวังเผิงก็ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณได้ไปตรวจดูห้องใต้ดินหรือเปล่า? มีประตูลับหรือเปล่า?”

“เราตรวจดูทุกอย่างแล้วครับ ผมรับรองกับคุณได้เลยว่าไม่มีที่ซ่อนลับ”

เมื่อมองมาที่ผู้ตรวจสอบตรงหน้าเขา คิ้วของหวังเผิงก็ขมวดเข้าหากันนิดๆ

อาคารของมูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรีก็ถูกค้นแล้ว รวมถึงบริษัทต่างๆ ที่เป็นหุ้นส่วนของพวกเขาด้วย แต่กลับไม่มีร่องรอยของนักวิชาการลู่

บางที…

เขาอาจจะถูกส่งไปนอกดาวอังคาร?

นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย…

ท่าอวกาศยานในวงโคจรยังอยู่ภายใต้การควบคุมของกองพลอากาศวงโคจรที่สาม ลืมคนเป็นๆ ไปได้เลย แม้แต่แมลงวันก็ไม่สามารถจะออกไปจากอาณานิคมได้

เมื่อเห็นว่าสองคนนั้นกำลังกระซิบกัน แกล็ดสโตนก็ก้าวออกมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า

“ไม่ว่าจะองค์กรอะไรที่คุณกำลังพูดถึงหรือนักวิชาการลู่ ผมก็ไม่รู้อะไรทั้งนั้น! ทั้งหมดที่ผมรู้คือคุณบุกรุกบ้านของผมโดยไม่มีหมายค้นของศาล และคุณสร้างความวุ่นวายให้ที่นี่… ฟังนะ สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผมต้องการคำอธิบาย!”

หวังเผิงเหลือบมองเขาและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในจังหวะนั้นเองเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของสำนักงานความมั่นคงก็เข้ามาพร้อมกับของบางอย่าง

มันคือหมวก VR สไตล์ของมันค่อนข้างเก่า และเมื่อพิจารณาจากร่องรอยของสีหลุดลอกออกจากพื้นผิวแล้ว มันน่าจะต้องถูกส่งต่อกันมาหลายทศวรรษแล้ว

“ท่านครับ! เราพบสิ่งนี้ในห้องทำงานของเขาครับ”

แกล็ดสโตนมองไปทางคนคนนั้น และในนาทีที่เขาจ้องไปที่หมวก ใบหน้าของเขาก็ถอดสีในทันที

นี่เป็นกุญแจไปยัง ‘ห้องประชุม’!

บัตรผ่านประตูไปยังระดับสูงสุดขององค์กรจิตวิญญาณแห่งจักรวาล!

แต่ว่า…

ทำไมมันถึงอยู่ที่นี่?

เป็นไปไม่ได้ เขาจำได้แม่นว่าเขาซ่อนมันไว้ในสถานที่ลับแล้ว ที่แห่งนี้อยู่ในพื้นที่ลับของออฟฟิศของเขาแทนที่จะเป็นบ้านของเขา

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

หลังจากจับความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเขาได้ หวังเผิงก็เลิกคิ้ว

“นี่ของคุณใช่ไหม?”

แกล็ดสโตนฝืนยิ้มออกมาแล้วอธิบายอย่างแข็งทื่อว่า “นี่มันก็แค่หูฟังสำหรับเล่นเกม… ส่วนตัวแล้วผมชอบเล่นเกมน่ะ ดังนั้นผมก็เลยเก็บอุปกรณ์รุ่นแรกนี่ไว้ มันไม่ใช่ถูกๆ นะ ระวังหน่อย…”

“ผมจะระวัง แต่อย่างไรก็ตามนี่เป็นหลักฐานทางกายภาพที่สำคัญ”

แกล็ดสโตนกังวลสุดขีดเมื่อหวังเผิงยิ้มออกมานิดๆ เพราะหน่ายที่จะจัดการกับแกล็ดสโตนแล้ว เขาจึงยื่นมือไปทางเจ้าหน้าที่โดยตรง

“ส่งมันมาให้ผม”

หวังเผิงรับหมวกมาถือในมือแล้วประเมินน้ำหนักของมัน จากนั้นเขาก็สวมมันที่หัวของเขาโดยไม่ลังเล

เพราะการกระทำของหวังเผิงเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ถึงแม้ว่าแกล็ดสโตนอยากจะหยุดยั้งเขา แต่เขาก็ไม่มีเวลาที่จะทำเช่นนั้น เขาได้แต่มองดูความลับของเขาถูกเปิดโปงต่อหน้า…

ไม่นานนักหวังเผิงก็ถอดหมวกออกแล้วโยนมันกลับไปให้สายสืบ

เมื่อมองแกล็ดสโตนที่ใบหน้าซีดเผือดสนิท หวังเผิงก็ยิ้มออกมาทันที

“คุณถูกจับแล้ว”