ตอนที่ 2814 ศักดิ์ศรีของหมอ

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2814 ศักดิ์ศรีของหมอ!
ในสายตาของเย่หยวนนั้นเซียวชานมีฝีมือแค่พอจะผ่านเท่านั้น

เขาทำได้แค่ร้อยละหกสิบเท่านั้นเอง!

แต่เจ้าบ้านี่กลับอ้างตัวว่าเรียนรู้ไปได้ถึงร้อยละเก้าสิบ?

ส่วนคนอื่นๆ นั้นก็มีแค่เต้าเฉินที่พอจะผ่านครึ่งไปได้ ส่วนที่เหลือเรียนรู้ไปได้ไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ

เย่หยวนนั้นอดไม่ได้ที่จะสงสัยขึ้นมาในใจ คนทั้งหลายนี้มาจากนิกายระดับเจ้าโลกจริงหรือ?

วิชาฝังเข็มนี้มันมีต้นกำเนิดมาจากหยกมุกเก้าใบก็จริง แต่ว่าเขานั้นลดทอนมันจนกลายเป็นแค่การฝังเข็มอย่างง่ายแล้ว!

ซึ่งหยกมุกเก้าใบของเย่หยวนนั้นมันได้ถูกฝึกฝนจนถึงขั้นกลายเป็นหนึ่งเดียวกับเขาไปแล้ว ถึงแม้จะลดทอนแค่ไหนมันก็จะกลายเป็นวิชาฝังเข็มทั่วๆ ไปได้จริงหรือ?

หากมันเป็นวิชาฝังเข็มทั่วๆ ไป มันจะกดดันความบ้าคลั่งของเลือดกัดกร่อนได้แบบนี้หรือ?

เซียวชานนั้นอาจจะดูทรงพลังอย่างมากแต่ว่าเขานั้นไม่เข้าใจแก่นของวิชาฝังเข็มนี้เลยทั้งๆ ที่ก็ทำตามเย่หยวนทุกอย่าง

เย่หยวนได้แต่ต้องถอนหายใจออกมา เพราะเขาหลงคิดไปว่าศิษย์ของนิกายระดับเจ้าโลกน่าจะเก่งกว่านี้

เขานั้นกลับหลงเชื่อชื่อเสียงของนิกายไปไม่ต่างจากคนอื่นๆ ทั้งๆ ที่ได้เห็นตัวอย่างมาแล้วแท้ๆ และไม่ว่าจะเป็นวิชาที่เหนือล้ำแค่ไหน สุดท้ายจะเก่งกาจหรืออ่อนแอมันก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้เรียน

แต่ดูท่าแล้วตอนนี้มันคงไม่เป็นอย่างที่หวังแน่

แม้ว่าพวกเซียวชานทั้งหลายนั้นจะยังดูเก้ๆ กังๆ อยู่และต่อให้พวกเขาฝึกจนชำนาญมือ

พวกเขาก็คงไม่อาจพัฒนามาถึงระดับของเขาได้แน่

เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างลอบหันมามองหน้าเย่หยวน เห็นเย่หยวนส่ายหัวออกมาเช่นนั้น พวกเขาต่างก็ไม่พอใจ

ดูท่าแล้วอาจารย์เย่นั้นจะเป็นคนใจแคบที่ไม่อยากเห็นคนอื่นเก่งเท่าตัวเอง?

“อึก…อ๊าก!”

จู่ๆ คนไข้คนหนึ่งก็กระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรง

คลื่นพลังของเขานั้นมันเหือดแห้งลงไปทันที คนที่อยู่ตรงนั้นต่างสะดุ้งตัวขึ้นมาพร้อมๆ กัน

เมื่อกี้ยังไม่เห็นเป็นไร มันเกิดอะไรขึ้น?

เย่หยวนหน้าซีดพุ่งตัวออกไปทันที

“ไสหัวไป!” เขาถีบร่างของศิษย์นิกายยาสุดล้ำปลิวไปติดผนังเต็นท์ก่อนจะรีบแทงเข็มลงไปอย่างรวดเร็วเข้าไปในร่างของคนไข้

เมื่อปราณเทวะของเย่หยวนพุ่งเข้าไปในร่างเลือดกัดกร่อนของคนผู้นั้นมันก็ค่อยๆ สงบลงไปได้ในที่สุด

เว้นเสียแต่ว่าสภาพของเขาตอนนี้มันหนักกว่าก่อนหน้าไปมาก

เย่หยวนนั้นหันไปตวาดใส่คนที่ถูกเตะนั้น “ก็บอกพวกเจ้าแล้วว่ามีปัญญาแค่ไหนก็ให้บอกว่าทำได้แค่นั้น อย่าได้มาอวดอ้างเกินตัว! ฝีมือแค่นี้เจ้าก็กล้าเดินออกมาฝังเข็มหรือ?”

ในความคิดของเย่หยวนนั้น นักหลอมโอสถสวรรค์ย่อมจะไม่ควรทำสิ่งที่ตัวเองไม่มั่นใจ

เขาคนนี้ดูอย่างไรก็ไม่มีฝีมือแต่กลับอวดอ้างมาทำร้ายคน!

เรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่เย่หยวนชิงชังที่สุด!

คนที่ถูกเตะไปนั้นมีนามว่าจางซิ่ว เขาเองก็เป็นหนึ่งในศิษย์หัวกะทิของนิกายยาสุดล้ำ

เมื่อถูกเย่หยวนตวาดด่าเช่นนั้นจางซิ่วก็ต้องเถียงกลับมา “ข้าเพิ่งจะเคยฝังเข็มแบบนี้ครั้งแรกมันย่อมจะต้องมีพลาดกันได้บ้าง! ข้าจะไปมั่นใจเต็มร้อยได้อย่างไร! ดูเหมือนเจ้าจะถือโกรธจากเรื่องก่อนหน้าและมาลงใส่ข้าชัดๆ!”

คนจากนิกายยาสุดล้ำนั้นมีแต่คนเย่อหยิ่งมากศักดิ์ศรี

หากไม่ใช่เพราะเรื่องที่ผ่านมานี้ พวกเขาคงไม่ลงมาเดินบนพื้นดินเสียด้วยซ้ำ

ในความคิดของพวกเขานั้นแค่ทำได้ขนาดนี้ตั้งแต่ครั้งแรกมันก็ถือว่าเก่งกาจมากแล้ว

เพราะแท้จริงตัวจางซิ่วนั้นก็รู้ดีว่าฝีมือของเขายังทำได้แค่ครึ่งๆ กลางๆ

แต่เพื่อกู้หน้านิกายยาสุดล้ำแล้ว เขาจึงก้าวออกมาอย่างไม่ลังเล

เพียงแค่ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะให้มันพลาดลงแบบนี้

เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็ยิ่งไม่พอใจ “เจ้าจะบอกว่าเพราะนี่เป็นครั้งแรกของเจ้า? เจ้าจึงสามารถใช้ชีวิตพี่น้องร่วมรบเป็นเครื่องมือทดลองได้หรือ? จะเป็นก็ดีไปจะตายก็ช่างหัวมันใช่ไหม?”

จางซิ่วหน้าซีดแต่ยังร้องกลับไป “ข้าไม่ได้พูดเช่นนั้น เจ้าใส่ความข้าแล้ว! เจ้าคนสกุลเย่ข้าจะบอกเจ้าว่า นิกายยาสุดล้ำเรานั้นไม่ได้จะรังแกกันได้ง่ายๆ!”

เซียวชานนั้นฝังเข็มเสร็จแล้วก็ต้องขมวดคิ้วแน่น

เขารู้ตัวเองว่าตัวเขานั้นโม้จนเกินตัวไป!

ก่อนหน้านี้เขาบอกไปว่าเรียนรู้ไปได้กว่าร้อยละเก้าสิบแล้ว

แต่เมื่อลองลงมือแล้วเขากลับพบว่าอาการของคนไข้นั้นมันเทียบกับคนไข้ที่เย่หยวนรักษาไม่ได้เลย

มันคงไม่ถึงครึ่งเสียด้วยซ้ำ

เขานั้นเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหก พลังของเขาย่อมจะเหนือล้ำกว่าเย่หยวนไปมาก

หากให้พูดแล้วแม้เขาจะเรียนรู้ได้แค่ร้อยละแปดสิบแต่ผลลัพธ์ที่ออกมามันก็น่าจะเท่ากับร้อยละเก้าสิบของเย่หยวน แต่นี่มันกลับไม่ถึงครึ่ง

เขานั้นจดจ่ออยู่กับคนไข้ตรงหน้าจนไม่ได้สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว

แต่ตอนนี้เมื่อเงยหน้ามาเห็นเย่หยวนด่าจางซิ่วเช่นนั้นเขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “เย่หยวน ข้าขออภัยแทนจางซิ่วด้วย เขาพึ่งลงเข็มครั้งแรกใครๆ ก็สามารถผิดพลาดกันได้”

เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็ยิ่งแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาและยิ้มเย็นตอบไป “หึๆ เจ้าคิดจะให้มันผ่านไปง่ายๆ ด้วยคำพูดเช่นนี้หรือ? ก่อนหน้านี้ตอนที่ใช้เลือดภูตแท้ก็ครั้งหนึ่งแล้ว เวลานี้ต่อให้พวกเจ้าเรียนหยกมุกเก้าใบจากข้าไปแล้วพวกเจ้าก็ยังจะทำเช่นเดิมอีก! ชีวิตคนมันคงไร้ค่ามากในสายตาของพวกเจ้าใช่ไหม? และหมอก็ไม่ใช่นักสู้ หากไม่มั่นใจจริงก็อย่าได้ลงมือเลยจะดีกว่า!”

“ข้าบอกไปแล้วว่าหากไม่มั่นใจว่าทำได้อย่าก้าวออกมา! แต่พวกเจ้าล่ะ? พวกเจ้ากลับไม่คิดสนใจและก้าวออกมาเพราะศักดิ์ศรีโง่ๆ ของตัวเอง และไม่ว่าจะเป็นเจ้าขยะนี้หรือ พวกเจ้าทั้งหมดก็ฝังเข็มได้อ่อนหัดราวกับจะสังหารคนไข้แทน!”

เพราะแท้จริงตัวเย่หยวนเองก็ไม่พอใจมาตั้งแต่แรกในเรื่องครั้งก่อนแล้ว

นิกายยาสุดล้ำนั้นมันแตกต่างกับตัวเขาอย่างสิ้นเชิง

หากคนที่คิดวิธีฉีดเลือดภูตแท้นั้นคือเย่หยวนแล้วกลับมีเดินมาบอกว่ามันมีปัญหาในวิธีการ ตัวเย่หยวนคงต้องเริ่มศึกษาหาความเป็นไปได้ของปัญหานั้นทันที

แต่คนทั้งหลายนี้มันกลับหัวเราะและไม่คิดลงมือทำอะไร

ต่อให้อีกฝ่ายที่พูดจะเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาไร้ฝีมือใดๆ แต่แล้วมันทำไม?

แม้เขาจะแสดงฝีมือไปแล้วแต่คนพวกนี้มันก็ยังวางท่าเช่นนี้อยู่

เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่พอใจคนเหล่านี้อย่างถึงที่สุด เพราะฉะนั้นคำพูดของเขามันก็ยิ่งดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ

เซียวชานนั้นหรี่ตาแล้วถาม “จางซิ่วนั้นเป็นคนนิกายยาสุดล้ำ เจ้าต้องการอะไรจากเขากันเล่า?”

คำพูดนี้มันคือการพูดโดยใช้อำนาจของนิกายยาสุดล้ำเข้าข่มคน

นิกายยาสุดล้ำนั้นมีตัวตนที่สูงล้ำเหนือสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดและเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในสงครามทวีปสวรรค์แรกนี้

เย่หยวนนั้นเป็นแค่คนผู้เดียว ย่อมจะไม่มีทางลุกขึ้นต่อสู้กับยักษ์ใหญ่เช่นนั้นได้

เย่หยวนแค่นหัวเราะขึ้นมา “ข้าก็บอกไปก่อนแล้วว่าให้ลงโทษตามกฎกองทัพ! ดูท่าพวกเจ้านั้น คิดว่าข้าแค่สั่งน้ำมูกหรือ?”

จางซิ่วนั้นไม่คิดกลัวคำพูดนั้นและตอบกลับไปด้วยความเย้ยหยัน “น่าขันนัก! นิกายยาสุดล้ำของข้าช่วยคนไว้แค่ไหนในสงครามครั้งนี้? สร้างคุณประโยชน์ให้โลกหล้าไว้เท่าไหร่! เวลานี้เจ้ากลับคิดจะโยนข้าไปรับโทษตามกฎกองทัพ?”

เซียวชานนั้นเองก็ตอบกลับไป “ไม่มีใครแตะต้องคนจากนิกายยาสุดล้ำของข้าได้ทั้งนั้น!”

สภาพในเต็นท์นั้นมันดูดุเดือดขึ้นมาทันที!

เหล่าศิษย์นิกายยาสุดล้ำแต่ละคนนั้นต่างไม่สนใจคำพูดของเย่หยวน

ความเย่อหยิ่งจองหองของพวกเขานั้นมันไม่สนใจฝีมือใดๆ ของเย่หยวน เมื่อเกิดเรื่องขัดแย้งขึ้นมา พวกเขาย่อมจะไม่เห็นหัวเย่หยวน

ไม่ว่าจะมากฝีมือแค่ไหนมันก็แค่มดตัวเดียว! ต่อหน้ายักษ์ใหญ่อย่างนิกายยาสุดล้ำแล้วมันย่อมจะไม่มีค่าใด! แต่จู่ๆ เย่หยวนก็ดึงพลังของตัวเองกลับเข้าร่างและหันไปฝังเข็มรักษาคนไข้แทน

คนไข้คนนี้ได้รับการรักษาจากศิษย์นิกายยาสุดล้ำไปก่อนหน้า ผลลัพธ์นั้น…มันแค่พอกดเลือดกัดกร่อนไว้ได้ ที่สำคัญมันยังไร้ความเสถียร

เย่หยวนนั้นช่วยชีวิตคนไข้รายต่อไปอย่างสุดกำลัง เขาไม่พูดอะไรต่อและไปรักษาคนไข้ที่ได้รับการฝังเข็มจากคนนิกายยาสุดล้ำ รวมถึงคนไข้ของเซียวชานด้วย เมื่อจางซิ่วได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “ก็นึกว่ายอดอัจฉริยะเย่มันจะแน่สักแค่ไหน ที่แท้ก็เท่านี้!”

………………………………………………….