อวี๋เหวินเกาหยางรู้สึกโกรธทันที และเขารู้สึกถึงเจตนาฆ่าที่แรงกล้าจากร่างกายของอวี๋เหวินปิง
เขานึกไม่ว่าวันหนึ่ง เลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองนั้นจะคิดฆ่าตนเอง
อวี๋เหวินปิงไม่ตอบ แต่กล่าวด้วยสีหน้าที่ราบเรียบว่า “ตอนนี้ผมขอถามพ่อเรื่องหนึ่ง พ่อคิดจะมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้ผมหรือไม่?”
“เดิมตำแหน่งนี้ก็เป็นของลูกอยู่แล้ว”
ดวงตาของอวี๋เหวินเกาหยางแดงก่ำ และกล่าวต่อไปว่า “ลูกคิดที่จะแย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูล หลังจากนั้นค่อยฆ่าพ่อใช่ไหม?”
อวี๋เหวินปิงยังคงไม่ตอบคำถามนี้ และกล่าวเยาะเย้ยว่า “อวี๋เหวินเกาหยาง อย่าหลอกผมอีกเลย เมื่อสองวันก่อนตอนที่หยางเฉินมาหาพ่อ ผมได้ยินการสนทนาทั้งหมดระหว่างพวกคุณทั้งสอง”
“พ่อต้องการมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้หยางเฉิน กระทั่งได้มอบป้ายสัญญาลักษณ์ให้หยางเฉินแล้ว แต่ตอนนี้พ่อกลับบอกว่าเดิมตำแหน่งนี้เป็นของผมอยู่แล้ว พ่อไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องน่าขันเหรอ?”
อวี๋เหวินปิงรู้สึกสะเทือนอารมณ์เป็นอย่างมากและคำรามด้วยความโมโห
อวี๋เหวินเกาหยางรู้สึกเพียงว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าพลังทั้งหมดในร่างกายของเขาจะหมดลงแล้ว
เขาต้องการมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลอวี๋เหวินให้หยางเฉิน ถึงแม้หยางเฉินจะไม่ใช่สายเลือดของตระกูลอวี๋เหวิน แต่เขาก็ยังเต็มใจที่จะทำเช่นนั้น
ไม่ใช่ว่าเขาต้องการมอบรากฐานของตระกูลอวี๋เหวินให้กับคนที่ไม่ใช่เลือดตระกูลอวี๋เหวิน แต่เขาเชื่อมั่นในตัวหยางเฉิน
เขารู้ดีว่าถึงแม้ตอนนี้เขาจะมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้หยางเฉิน และถึงแม้หยางเฉินจะยอมรับ ก็รับไว้เพียงชั่วคราวเท่านั้น และในอนาคต เมื่อคนของตระกูลอวี๋เหวินมีคุณสมบัติที่จะสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลแล้ว หยางเฉินจะส่งคืนตำแหน่งผู้นำกลับคืนมาให้คนของตระกูลอวี๋เหวินอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ หยางเฉินยังสัญญาว่าเขาจะบ่มเพาะความสามารถให้อวี๋เหวินปิงอย่างลับ ๆ แต่ตอนนี้ทุกอย่างไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว
“ลูกพูดถูก พ่อได้มอบป้ายสัญญาลักษณ์ให้หยางเฉินแล้ว พ่อต้องการให้หยางเฉินสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูล ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติหรือความสามารถของเขา ตอนนี้เขาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด การที่พ่อทำเช่นนี้มันผิดเหรอ?”
อวี๋เหวินเกาหยางระงับความโกรธ มองอวี๋เหวินปิงด้วยสีหน้าสงบและถาม
อวี๋เหวินปิงกล่าวเยาะเย้ย “เขาเป็นคนนอก มีสิทธิ์อะไรที่จะสืบทอดทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลอวี๋เหวิน?”
“ถ้าพ่อเดาถูก ลูกน่าจะได้ยินแค่คำพูดที่พ่อพูดว่าต้องการมอบตำแหน่งและป้ายสัญญาลักษณ์ให้หยางเฉินใช่ไหม?”
อวี๋เหวินเกาหยางถามขึ้นทันที
อวี๋เหวินปิงพ่นลมออกมาอย่างเย็นชา และไม่พูดอะไร สำหรับเขาแล้ว แค่เรื่องที่อวี๋เหวินเกาหยางต้องการมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้กับหยางเฉิน ก็สมควรตายแล้ว
อวี๋เหวินเกาหยางหัวเราะเยาะตนเอง “แน่นอนว่าลูกได้ยินแค่ตอนที่พ่อและหยางเฉินพูดตอนแรก แต่ลูกไม่รู้ว่าตอนหลังพวกเราพูดอะไร?”
“อวี๋เหวินปิง พ่อบอกลูกได้อย่างชัดเจนว่าการที่พ่อมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้หยางเฉิน มันเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ด้วยนิสัยของหยางเฉินแล้ว แม้ว่าเขาจะสืบทอดตำแหน่งของผู้นำตระกูล หลังจากเขาบ่มเพาะความสามารถของลูกแล้ว เขาจะส่งคืนตำแหน่งผู้นำตระกูลกลับมาให้ลูกแน่นอน”
“ถูกต้อง พ่อได้มอบป้ายสัญญาลักษณ์ให้หยางเฉินแล้ว แต่หยางเฉินไม่มีความคิดที่จะยอมรับตำแหน่งผู้นำตระกูลอวี๋เหวิน เขาแค่ช่วยพ่อเก็บรักษาป้ายสัญญาลักษณ์ไว้เท่านั้น และวันหนึ่งถ้าลูกมีคุณสมบัติที่จะสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลแล้ว เขาจะส่งมอบป้ายสัญญาลักษณ์กลับคืนมาให้แก่ลูก”
“พ่อรู้ว่าลูกไม่เชื่อ แต่ไม่ว่าลูกจะเชื่อหรือไม่ มันก็ไม่สำคัญ พ่อแค่บอกความจริงกับลูกเท่านั้นเอง”
อวี๋เหวินเกาหยางกล่าวด้วยสีหน้าสงบ
เมื่อมองท่าทางของอวี๋เหวินเกาหยางแล้ว ทันใดนั้นอวี๋เหวินปิงก็รู้สึกสงสัยว่ามันเป็นอย่างที่อวี๋เหวินเกาหยางกล่าวหรือไม่
แต่ไม่นาน เขาก็ละทิ้งความคิดทั้งหมด แล้วมองอวี๋เหวินเกาหยางด้วยสีหน้าที่โมโหและกล่าวว่า “พ่ออย่ามาหลอกผม ผมไม่ใช่เด็กอายุสามขวบ ถ้าพ่อมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้หยางเฉินจริง ๆ ด้วยความแค้นระหว่างผมกับเขา แล้วเขาจะคืนตำแหน่งผู้นำตระกูลให้ผมเหรอ?
“พ่อไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น ผมดูแค่ผลลัพธ์ ตอนนี้พ่อได้มอบป้ายสัญญาลักษณ์ให้กับหยางเฉินแล้ว นั่นหมายความว่าพ่อละทิ้งผมไปแล้ว”
“อวี๋เหวินเกาหยาง เรื่องทั้งหมดนี้ พอเป็นคนบีบบังคับผมเอง!”
อวี๋เหวินปิงรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก และตอนนี้เขารู้สึกสะเทือนอารมณ์เป็นอย่างมาก
อวี๋เหวินเกาหยางไม่ได้พูดอะไร แค่จ้องอวี๋เหวินปิงด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า มีความผิดหวังเล็กน้อยอยู่ในรูม่านตาของเขา
ผ่านไปเป็นเวลานาน เขาถึงกล่าวว่า “สิ่งที่ควรพูดก็พูดจนหมดแล้ว ลูกลงมือเถอะ!”
อวี๋เหวินเกาหยางรู้ดีว่าลูกชายของตนเองนั้นเป็นคนแบบไหน
นับตั้งแต่ตอนที่อวี๋เหวินปิงเปิดเผยเจตนาฆ่าต่อหน้าตนเอง นั่นหมายความว่าอวี๋เหวินปิงต้องการฆ่าอวี๋เหวินเกาหยางจริง ๆ
“พ่อไม่ขัดขืนเหรอ?” อวี๋เหวินปิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและถาม
อวี๋เหวินเกาหยางหัวเราะเยาะตนเอง “ในเมื่อลูกตัดสินใจจะลงมือฆ่าพ่อแล้ว ลูกคงเตรียมตัวมานานแล้ว การที่พ่อขัดขืนแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?”
เขาเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลอวี๋เหวิน หากเป็นเพียงผู้แข็งแกร่งของตระกูลอวี๋เหวิน เกรงว่าจะไม่มีใครสามารถฆ่าเขาได้
อย่างไรก็ตาม อวี๋เหวินปิงเป็นคนที่ทำอะไรระมัดระวังตั้งแต่เด็ก ในเมื่อเขาได้เปิดเผยเจตนาฆ่าต่อหน้าตนเองแล้ว นั่นหมายความว่าอวี๋เหวินปิงได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่แล้ว
เกรงว่าตอนนี้จะมีผู้แข็งแกร่งระดับสูงอย่างแท้จริงอยู่ในตระกูลอวี๋เหวินแล้ว และแม้แต่อวี๋เหวินเกาหยางก็ไม่อาจรับรู้ได้
เมื่อมองสีหน้าที่ไร้ความกลัวของอวี๋เหวินเกาหยางแล้ว อวี๋เหวินปิงรู้สึกหงุดหงิดทันทีและคำรามว่า “สำหรับพ่อแล้ว ผมแย่ขนาดนั้นเชียวหรือ? กระทั่งพ่อยอมมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้กับบุคคลภายนอก แต่ไม่ยอมมอบให้ผมใช่ไหม?”
อวี๋เหวินเกาหยางส่ายศีรษะและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “พ่อได้พูดอย่างชัดเจนแล้ว พ่อไม่ได้มอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้คนภายนอก แต่ให้หยางเฉินปกป้องรากฐานของตระกูลอวี๋เหวินแทนพ่อ และวันหนึ่งเมื่อลูกมีคุณสมบัติที่จะสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลแล้ว เขาจะมอบทุกอย่างกลับคืนมาให้ลูก”
“หุบปาก! พ่อหุบปากซะ!”
อวี๋เหวินปิงคำราม “เขาเป็นแค่คนนอกเท่านั้น ทำไมผมที่เป็นทายาทสายตรง ต้องรับมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลจากเขาด้วย?”
“ผมจะบอกพ่อว่าราชวงศ์เย่ได้เตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว วันนี้คือวันตายของหยางเฉิน พ่อวางใจเถอะ ตอนนี้ผมยังไม่ให้พ่อตาย ผมจะให้พ่อมีชีวิตอยู่ และเห็นหยางเฉินตายโดยไร้ที่ฝัง มีชีวิตอยู่เพื่อเห็นผมสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูล และนำตระกูลอวี๋เหวินไปถึงจุดสูงสุด เพื่อที่พ่อจะได้รู้ว่าใครเป็นทายาทที่เหมาะสมที่สุดของตระกูลอวี๋เหวิน!”
อวี๋เหวินปิงคำรามประโยคเหล่านี้ออกมา
และหลังจากอวี๋เหวินเกาหยางได้ยินคำพูดของอวี๋เหวินปิงแล้ว สายตาของเขานั้นมีความกังวลหยางเฉินมากขึ้นเล็กน้อย
“หยางเฉิน เขาไม่มีวันตายอย่างแน่นอน! การที่ราชวงศ์เย่ล่วงเกินเขานั้น จะเป็นความเศร้าโศกยิ่งใหญ่ที่สุดของราชวงศ์เย่!”
อวี๋เหวินเกาหยางกล่าวอย่างหนักแน่น
เขามีความมั่นใจต่อหยางเฉินอย่างเต็มเปี่ยม
“เอาล่ะ ในเมื่อพ่อมีความมั่นใจในตัวเขามากขนาดนั้น วันนี้ผมจะให้พ่อได้เห็นด้วยตาตนเองว่าหยางเฉินจะสามารถมีชีวิตรอดหรือไม่”
อวี๋เหวินปิงคำราม และทันใดนั้นพลังที่น่าสะพรึงกลัวก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าอวี๋เหวินเกาหยาง
“พาตัวไอ้แก่นี้ขึ้นไปบนภูเขาเยี่ยนซาน ผมต้องการให้เขาได้เห็นด้วยตาตนเองว่าหยางเฉินนั้นตายโดยไร้ที่ฝัง!” อวี๋เหวินปิงตะโกน