ตอนที่ 2819 ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียน!
แน่นอนว่าเรื่องหลังจากนั้นมันย่อมจะง่ายดายขึ้นมาก
ศิษย์นิกายยาสุดล้ำนั้นต่างแสดงท่าทีเคารพเย่หยวนออกมาอย่างสุดตัว
ไม่มีใครกล้าเถียงคำของเย่หยวนอีกต่อไป
คำพูดของเย่หยวน แม่ทัพสูงคนนี้มันหนักแน่นเสียยิ่งกว่าประกาศิตสวรรค์ ภายใต้การสั่งสอนของเย่หยวนพวกเซียวชานก็เริ่มจะฝังเข็มกดดันเลือดกัดกร่อนได้อย่างชำนาญขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายเริ่มลงสนามรักษาจริงได้
แม้ว่าคุณภาพการฝังนั้นมันจะไม่อาจเทียบเย่หยวนได้แต่มันก็เสถียรพอจะหยุดการลุกลาม
เย่หยวนนั้นรับหน้าที่ดูแลคนที่ถูกกัดกร่อนหนักหน่วง ทำให้งานของคนอื่นๆ ง่ายขึ้นมาด้วยเช่นกัน
แต่ว่าศิษย์นิกายยาสุดล้ำทุกคนนั้นต่างก็ต้องทำตามกฎที่เย่หยวนตั้งไว้ ใครก็ตามที่ไม่มั่นใจอย่าได้ออกมาลงมือฝังเข็มโดยเด็ดขาดและตอนนี้มันก็ไม่มีใครกล้าอวดอ้างตัวเองอีกแล้ว
ภายในโถงใหญ่ตอนนี้มันมีมหาจักรพรรดินับสิบกำลังนั่งประชุมกันพร้อมมองหน้าเย่หยวนอย่างแปลกประหลาด
“เย่หยวน เจ้าแน่ใจหรือว่าจะทำเช่นนี้จริง? เจ้าต้องรู้ก่อนนะว่าหากเหล่ามหาจักรพรรดิของเผ่าเลือดลงมือเจ้าและพวกคงได้ตายอย่างไร้ที่กลบฝังแน่!” มหาจักรพรรดิตานเฟยกล่าวขึ้นเตือน
เย่หยวนยิ้มตอบไป “พวกมันไม่ลงมือแน่! สำหรับเผ่าเลือดแล้วเรื่องที่สำคัญที่สุดมันก็ยังเป็นเรื่องการดูแลปกป้องเส้นทางมิติมิใช่การเข้าโจมตีไล่ล่ามนุษย์ แถมตอนนี้ไม่ว่าจะกำลังมหาจักรพรรดิหรือว่ายอดฝีมือที่ต่ำกว่านั้นของพวกมันก็ยังมีจำนวนไม่มากมายนักเทียบพวกเขาไม่ได้ ภายใต้สภาพเช่นนี้หากมันออกมาไล่ล่าข้ามันจะยิ่งเสี่ยง! หากพวกท่านใช้โอกาสนั้นลอบโจมตีทำลายเส้นทางมิติไปพวกมันคงเสียมากกว่าจะได้แน่”
“แน่นอนว่าหากมันกล้าออกมาล่าพวกข้าจริงๆ พวกท่านมหาจักรพรรดิก็ส่งคนลอบเข้าไปบุกทำลายเส้นทางมิติลงเสียเถอะ! ตอนนี้ทางเผ่าเลือดมันมีมหาจักรพรรดิอยู่สิบคน แต่แม้พวกมันจะส่งมหาจักรพรรดิที่อ่อนแอที่สุดออกมาไล่ล่าพวกเรา มันก็คงทำให้โอกาสชนะของพวกท่านเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากล้นแล้ว”
มหาจักรพรรดิตานเฟยนั้นหรี่ตาลงกล่าว “แต่หากเป็นเช่นนั้นเจ้าจะตายแน่!”
เย่หยวนตอบกลับไปอย่างหนักแน่น “นอกจากเรื่องที่ว่าโอกาสที่จะเป็นเช่นนั้นมันมีน้อยจนแทบเป็นไปไม่ได้แล้ว ต่อให้มันจะเกิดขึ้นจริง แต่พี่น้องคนอื่นๆ ยังกล้าลงไปเสี่ยงชีวิตในสนามรบ ทำไมข้าเย่หยวนคนนี้จะไม่กล้าเสี่ยงตายด้วย?”
หลายวันมานี้ที่เย่หยวนรักษาทหารที่บาดเจ็บไปเรื่อยๆ เขาก็ได้ยินเรื่องเล่าจากปากของคนมากมายที่บาดเจ็บ
แม้ว่าเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นมันจะสามารถหยุดเผ่าเลือดลงได้เป็นเวลาระยะหนึ่งแล้วแต่พวกเขาทั้งหลายต่างก็เข้าใจดีว่ามันต้องแตกลงในสักวันแน่นอน
แต่ยิ่งเป็นสถานการณ์ที่คับขันเท่าไหร่มันก็ยิ่งจะเกิดเรื่องราวของวีรบุรุษขึ้นมาได้มากเท่านั้น
อย่างเรื่องของนายกองนามเฉินเซียงผู้ที่เสียครอบครัวนับร้อยไปเพราะสงคราม
ตอนที่เกิดเรื่องขึ้นครั้งแรกนั้นเฉินเซียงยังเป็นแค่เด็กน้อย มีพลังเพียงแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่เท่านั้น
เขานั้นต้องดูปู่ย่าตายายพ่อแม่ตายลงไปเพราะสงครามครั้งนี้ต่อหน้าต่อตา วันแล้ววันเล่าที่เขาเฝ้ารอแต่ก็ไม่มีใครกลับบ้านไปหาเขา
พันธมิตรสวรรค์แรกนั้นได้ดูแลตัวเฉินเซียงอย่างดีและปล่อยให้เขาไปใช้ชีวิตสงบๆ อยู่ในแนวหลังเพื่อรักษาเชื่อสายของตระกูลเฉินเซียงไว้
แต่หลังจากที่เขาบ่มเพาะขึ้นมาถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้นั้นเฉินเซียงก็อาสาออกมาเข้าร่วมรบในทัพสวรรค์แรกทันที
ในศึกที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่วันนี้เขาเป็นหนึ่งในคนที่ถูกพิษเลือดกัดกร่อนและตายลงไปเพราะอาการบาดเจ็บสาหัสแต่ว่าใบหน้าตอนตายของเขานั้นกลับไม่มีความเศร้าเสียใจและยังยิ้มกว้างอวดว่าตัวเองสังหารเผ่าเลือดลงไปถึงสิบคน
มันอาจจะฟังดูน้อยแต่สังหารสิบเผ่าเลือดนั้นมันเป็นบันทึกที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เพราะเผ่าเลือดนั้นมันฆ่าสังหารได้ยากยิ่ง โดยเฉพาะในศึกตะลุมบอนเช่นนี้ หรืออย่างเรื่องของนิกายระดับเจ้าโลกอย่างนิกายคันฉ่องจันทร์ที่พวกเขานั้นได้ให้กำเนิดยอดอัจฉริยะไร้เทียบอย่างซือชิวหยางขึ้นมา
เขานั้นถูกยกย่องว่าไร้เทียมทานในระดับเดียวกัน!
คนที่ถูกยกย่องว่าไร้เทียมทานในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้มันย่อมจะชัดเจนแล้วว่าเขาเก่งกาจแค่ไหน!
แต่เขานั้นได้รับภารกิจให้นำกำลังหนึ่งร้อยออกไปเคลื่อนย้ายคนเจ็บกลับจากสนามรบ ไม่คิดฝันว่าทางเผ่าเลือดนั้นมันกลับจะซุ่มกำลังเข้าโจมตีหน่วยเคลื่อนย้ายคนเจ็บเข้าพอดี!
เผ่าเลือดนั้นส่งกำลังออกมาถึงสามพันที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังเป็นหน่วยเผ่าเลือดที่เก่งกาจทรงพลังอย่างมากนอกจากนั้นผู้ที่นำหน่วยเผ่าเลือดมายังเป็นถึงจักรพรรดิเที่ยง!
เพื่อที่จะช่วยให้คนเจ็บได้หนีไปตัวซือชิวหยางจึงได้เข้าต่อสู้พร้อมคนทั้งหนึ่งร้อยในหน่วย จนสุดท้ายหน่วยทั้งร้อยคนของเขานั้นได้ตายลงสิ้น
แต่ตัวซือชิวหยางนั้นก็รับมือจักรพรรดิเที่ยงถึงสามคนด้วยตัวคนเดียวและยังสังหารพวกมันลงไปถึงสองคน
กำลังสามพันที่เหลือของเผ่าเลือดนั้นมันก็เสียหายไปกว่าครึ่ง!
สำหรับพันธมิตรสวรรค์แรกแล้วเรื่องนี้มันย่อมจะไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน เขานั้นต่อสู้กับจักรพรรดิเที่ยงสามคนจนสังหารไปถึงสองคนด้วยตัวคนเดียว หมายความว่าเขาไม่มีปัญญาจะหนีหรือ?
เขามี!
การรอดชีวิตของเขานั้นจริงๆ แล้วมันมีค่ากว่าทหารที่บาดเจ็บทั้งหลายมากมาย เพราะนี่คือสุดยอดอัจฉริยะที่อาจจะขึ้นไปถึงระดับเจ้าโลกได้!
แต่เขาไม่หนี!
เรื่องราวเช่นนี้มันถูกเล่าออกมาจากปากต่อปากจนเย่หยวนได้ยินได้ฟังมานับไม่ถ้วน แม้ว่าเย่หยวนจะเจอเรื่องราวเช่นนี้มามากแต่ทุกครั้งที่ได้ยินเขาก็ต้องกัดฟันแน่นข่มอารมณ์ในใจไว้
เขานั้นเป็นแค่คนนอก แต่จะอย่างไรเขาก็เป็นคนของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด เป็นชาวมนุษย์คนหนึ่ง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้แล้วเขาย่อมจะต้องเสียสละให้มากขึ้น
เย่หยวนนั้นเป็นยอดอัจฉริยะแต่เขานั้นไม่เคยวางตัวเหนือหัวใคร
คนอื่นทำได้ เขาก็ต้องทำได้
เขานั้นเลือกที่จะทำเช่นนี้มาตลอดชีวิต
และก็มีเสียงมหาจักรพรรดิคนหนึ่งก็กล่าวขึ้นเย้ยเขา “ไอ้เด็กน้อย เจ้าคิดว่าตัวเองเก่งกาจเหนือสวรรค์หรืออย่างไร? ข้าจะบอกให้ว่าเผ่าเลือดรุ่นหลังเองมันก็มียอดฝีมือที่เหนือกว่าพันธมิตรสวรรค์แรกเราเสียอีก! ตามที่ข้าได้ยินมานั้น เหยียนเหมิง หวู่ชางและหยวนเจิ้นสามจากร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนมันได้เดินทางมาเหนือแล้วด้วย! แค่พวกเจ้าห้าคนเจ้าคิดหรือว่าจะท้าทายเผ่าเลือดได้? เช่นนั้นแล้วเจ้าคิดว่าเราเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายจะยังนั่งรออะไรกันอีกเล่า?”
มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์คนนี้มีนามว่าเว่ยเหลียง เขานั้นเป็นคนจากนิกายยาสุดล้ำ
เรื่องที่จั่วเฉินคิดรับเย่หยวนเป็นศิษย์นั้นมันย่อมทำให้เขาไม่พอใจมาก เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือจางซิ่วที่เย่หยวนสั่งประหารไปนั้นมันเป็นหลานศิษย์ของเขา
เดิมทีหลังได้ยินข่าวนั้นเขาเตรียมแผนการมากมายไว้จัดการเย่หยวนแต่เมื่อได้ยินเรื่องจั่วเฉินจะรับเขาเป็นศิษย์นั้นตัวเว่ยเหลียงก็ต้องพับแผนทั้งหมดกลับลงใต้โต๊ะไป
ตอนนี้เมื่อได้เห็นท่าทางเย่อหยิ่งของเย่หยวนเขาก็ยิ่งไม่พอใจ
“ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียน?” เย่หยวนถามขึ้นทวน
หมิงยี่จึงเป็นคนที่กล่าวขึ้นตอบแทน “ในเผ่าเลือดนั้นแต่ละชั้นบรรยากาศสวรรค์มันจะมีระดับอยู่ ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนนั้นคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนของเผ่าเลือด! แต่ละคนนั้นต่างมากฝีมือเหนือล้ำฟ้าดิน! พลังเลือดของพวกมันนั้นแข็งแกร่งกว่าเผ่าเลือดทั่วๆ ไปมากมายนักและเรียกได้ว่าไร้เทียมทานในระดับเดียวกัน เทียบกับยอดอัจฉริยะของพันธมิตรสวรรค์แรกแล้วเรายังอ่อนด้อยกว่ามากนัก!”
แน่นอนว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะพลังการฟื้นคืนชีพของเผ่าเลือด
เพราะนั่นคือไม้ตายเด็ดของเผ่าเลือด
ในระดับเดียวกันนั้น มนุษย์แทบจะไม่อาจเอาชนะเผ่าเลือดได้เลย เพราะอีกฝ่ายนั้นไม่กลัวจะตาย ต่อให้ฆ่าก็คืนชีพได้ มันจะยังสังหารได้อย่างไร?
แน่นอนว่าเรื่องนี้ยิ่งชี้ชัดว่าร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนนั้นมันแข็งแกร่งกว่าเผ่าเลือดทั่วๆ ไปแค่ไหน
เย่หยวนที่รับรู้แล้วจึงยิ้มตอบกลับไปทางเว่ยเหลียง “อย่างแรกเลยข้าไม่ได้ชื่อว่าเด็กน้อย หากนับตามอาวุโสแล้วเจ้าควรเรียกข้าว่าศิษย์น้องด้วยซ้ำ! อย่างที่สองนั้นไม่ว่าจะเป็นร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนมันก็แค่หมาแมวเมื่ออยู่ต่อหน้าข้า! ข้านั้นไม่เกรงกลัวจักรพรรดิเซียนใดๆ อีกต่อไปแล้ว!”
เว่ยเหลียงนั้นได้แต่ต้องกัดฟันทำหน้าดำคร่ำเครียดขึ้นเพราะคำของเย่หยวนนี้มันทำให้เขาแทบสำลัก
จักรพรรดิเซียนกลับจะมาเรียกเขาเป็นศิษย์พี่
แต่เขานั้นกลับไม่อาจเถียงไปได้!
“หึๆ ไอ้เจ้าโง่ไม่รู้จักฟ้าดิน! ในเมื่อเจ้าคิดเช่นนั้นก็อย่าได้หาว่าข้าไม่เตือนเจ้าแล้วกัน!” เว่ยเหลียงกล่าวขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะ
หลายวันต่อมาบนท้องฟ้าเหนือทะเลมันก็ปรากฏห้าเงาร่างยืนมองกองทัพเผ่าเลือดอยู่
หยางชิงนั้นชักหอกยาวออกมาพร้อมนั่งบนหลังเสี่ยวชิงด้วยท่าทางของจอมทัพ!
“พวกขยะเผ่าเลือด ปู่หยางเจ้ามาหาถึงที่แล้ว ทำไมยังไม่ออกมาตายกันอีก?! ปู่หยางชิงของเจ้านี้ไร้เทียมทานในระดับจักรพรรดิเซียน! มีใครกล้าออกมาประมือกับปู่หยางนี้บ้างหรือไม่?!”
หยางชิงตะโกนท้าทายลั่นด้วยท่าทางยิ่งใหญ่!
……………………………………………………