บทที่ 2295 สวรรค์ลิขิตชะตาเอาไว้ + ตอนที่ 2296 กลับมาแล้ว

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2295 สวรรค์ลิขิตชะตาเอาไว้

คุณหมอกลับทำท่าลังเลใจแล้วถามด้วยความแปลกใจว่า “เหมยซูหานได้เซ็นหนังสือบริจาคร่างกายแล้วเหรอ?”

ถ้าไม่มีหนังสือรับรองทางโรงพยาบาลก็ไม่มีอำนาจใช้ร่างกายของผู้ตาย นี่มันผิดกฎหมาย ถ้าเกิดญาติคนไข้ฟ้องโรงพยาบาลเขาต้องขึ้นศาลแน่ ๆ

เหมยเหมยใจกระตุกวูบ ตอนนั้นสถานการณ์ของเหมยซูหานเองก็เร่งรีบเหลือเกินเธอจะคิดเรื่องให้เซ็นหนังสือบริจาคนี้ได้ที่ไหนกันล่ะ เธอเอ่ยต่อคุณหมอว่า “ผู้ตายกับคนไข้มีความสัมพันธ์สนิทสนมกันมาก ต่อให้เขามีชีวิตอยู่ก็ยอมบริจาคร่างกายช่วยเหลือคนไข้”

“ไม่ได้ ถ้าไม่มีหนังสือบริจาคร่างกาย ผมจะ…” คุณหมอเป็นตาแก่หัวรั้นที่ยืนกรานว่าจะไม่ยอมทำสิ่งที่ผิดกฎหมายเด็ดขาด

เหมยเหมยรู้ว่าคุณหมอคนนี้ไม่ได้ทำผิดแต่เธอก็โมโหจะแย่ คร้านจะเสียเวลาพูดกับคุณหมอเลยไปหาผู้อำนวยการโรงพยาบาลแทนก่อนจะอธิบายเรื่องราวคร่าว ๆให้ฟัง

ผู้อำนวยการเองก็ทำหน้าลังเลใจจนเหมยเหมยบันดาลโทสะในชั่วขณะแล้วตะคอกใส่ว่า “ต้องให้ฉันไปขอเอกสารจากนายใหญ่พวกคุณถึงจะยอมผ่าตัดใช่ไหม?”

“ไม่ต้อง…ไม่ต้อง…ผมจะสั่งการลงไปเดี๋ยวนี้เลย!” ผู้อำนวยการยังเจรจาได้อยู่บ้างเพราะเขารู้สถานะของเหมยเหมยดีจึงไม่กล้าล่วงเกินเธอ แล้วรีบให้คุณหมอหัวรั้นคนนั้นทำการผ่าตัดทันที

“พวกคุณวางใจได้ ไม่ว่าจะเกิดเหตุอะไรขึ้นฉันจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบเอง ทางโรงพยาบาลไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น!”

เหมยเหมยได้พูดสร้างความมั่นใจให้แก่ทางโรงพยาบาลอีกที เธอเข้าใจถึงความกลัวของทางโรงพยาบาลดีมาก ๆ หากเธอเป็นคุณหมอเธอก็คงลังเล แต่สถานการณ์ตอนนี้เร่งด่วนมาก ล่าช้าต่อไปเฮ่อเหลียนเช่ออาจตายได้

เรื่องเร่งด่วนจึงต้องใช้วิธีพิเศษอย่างการใช้อำนาจข่มขู่แล้วล่ะ

ผิวหนังบนร่างกายของเฮ่อเหลียนเช่อแทบจะเสียไปทั้งหมดเลยต้องทำการผ่าตัดหลายครั้ง หลังการผ่าตัดเฮ่อเหลียนเช่อจะหน้าตาเป็นเช่นไรไม่มีใครรู้ ดีที่ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว นับว่าเป็นเรื่องโชคดีในความโชคร้าย

เวลาผ่านไปสามวันหลังเกิดเหตุระเบิด เหยียนหมิงซุ่นก็กลับมาอย่างปลอดภัย

เขาไปรายงานสถานการณ์ให้นายใหญ่ทราบก่อน “กัมมันตภาพรังสีแพร่กระจายในขอบเขตขนาดเล็กคาดว่าราวสิบตารางกิโลเมตร ซึ่งได้ทำการตรวจสอบพื้นที่บนภูเขาสือว่านแล้วว่าทุกอย่างเป็นปกติดี”

“ทำได้ดีมาก!” นายใหญ่มองผู้ช่วยคนเก่งตรงหน้าอย่างพึงพอใจ

แค่ทำลายพื้นดินระยะทางสิบตารางกิโลเมตรก็บ่งบอกได้ว่าผลลัพธ์นี้สมบูรณ์แบบมากแล้ว ทีนี้กลุ่มอิทธิพลในต่างประเทศก็ไม่สามารถทำข่าวอะไรได้อีก!

“ไม่ใช่คุณงามความดีของผมคนเดียว มีเฮ่อเหลียนเช่อแล้วก็ลูกน้องอีกหลายคนร่วมด้วยช่วยกันครับถึงได้สำเร็จ” เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้อยากถือตนว่ามีความดีความชอบแต่เพียงคนเดียวเพราะถือว่าเป็นคุณงามความดีของทุกคน หากจะวิพากษ์กันจริง ๆ คนที่สร้างความดีความชอบไว้มากที่สุดก็คือเฮ่อเหลียนเช่อ

นายใหญ่รู้เรื่องนี้ดี เขาถอนหายใจอ่อน ๆ การกระทำของเฮ่อเหลียนเช่อในครั้งนี้อยู่เหนือความคาดหมายของเขาจริง ๆ ถึงขนาดยอมฆ่าคนในครอบครัวเพื่อส่วนรวม ไถ่โทษความผิดด้วยการสร้างคุณงามความดี

แต่หนิงเฉินเซวียนเขายังต้องกำจัดทิ้งอยู่ดี!

หากไม่กำจัดคนคนนี้ทิ้งหนึ่งวันเขาก็คงไม่สบายใจเพิ่มขึ้นไปอีกหนึ่งวัน

“สามวันหลังจากนี้ให้ตัดสินประหารหนิงเฉินเซวียน ถ่ายทอดคำสั่งฉันไปที่โรงพยาบาลทหารว่าให้พยายามช่วยเฮ่อเหลียนเช่ออย่างสุดความสามารถ ขาดเหลืออะไรก็ไปขอจากกระทรวงสาธารณสุขเอา” นายใหญ่ออกคำสั่ง

ผู้ช่วยพิเศษส่วนตัวได้จดบันทึกไว้ทุกอย่าง

เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้รู้สึกเหนือคาดกับผลลัพธ์นี้เลยสักนิด หนิงเฉินเซวียนได้ก่อความผิดมหันต์ด้วยการก่อกบฏ นายใหญ่ยอมปล่อยเขาไปสิแปลก!

เหยียนหมิงซุ่นรีบเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมเยียนเฮ่อเหลียนชิงกับเฮ่อเหลียนเช่อ สองพ่อลูกในอดีตอยู่ในห้องพักผู้ป่วยติดกัน ชะตาชีวิตช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดาได้จริง ๆ

พอเขาได้ฟังจากคุณหมอถึงการจัดการของเหมยเหมยเลยรู้สึกปลื้มใจอย่างมาก เหมยเหมยของเขาสามารถรับมือเหตุการณ์ได้เองแล้ว

ส่วนการตายของเหมยซูหานเขาก็รู้สึกเสียดายยิ่งนัก บางทีคงเป็นสวรรค์ลิขิตชะตาเอาไว้สินะ ถ้าเหมยซูหานไม่ตายก็คงไม่อาจช่วยเฮ่อเหลียนเช่อไว้ได้ บางทีสวรรค์อาจกำหนดชะตาไว้แต่แรกแล้วว่าพวกเขาสองคนมีชีวิตอยู่ได้แค่คนเดียว!

เพียงแต่ไม่รู้ว่าถ้าเฮ่อเหลียนเช่อรู้ความจริงแล้ว เขาจะเป็นบ้าเสียสติไปหรือเปล่า?

………………………

ตอนที่ 2296 กลับมาแล้ว

หลายวันมานี้เหมยเหมยทั้งตกใจทั้งหวาดระแวงทั้งมัวแต่วิ่งวุ่นเรื่องเหมยซูหานกับเฮ่อเหลียนเช่อจนเจ้าตัวผอมซูบลงไปมาก ขนาดอายุครรภ์สี่เดือนก็ยังดูไม่ออกเลยสักนิด

“วันนี้ลูกอย่าคิดจะไปไหนเชียว อยู่บ้านเฉย ๆไปเลยนะ!” เหยียนซินหย่าทนดูต่อไปไม่ไหว ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ไหวทั้งแม่ทั้งลูก

ฝั่งเหยียนหมิงซุ่นสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ แต่ถ้าเหมยเหมยเป็นอะไรไปอีกคน เธอจะบอกปู่ย่าตระกูลเหยียนทั้งสองท่านว่าอย่างไร!

“แต่หนูต้องไปโรงพยาบาล…”

เหยียนซินหย่าพูดขัดเธอ “ถ้าไปอีกลูกคงต้องเข้าโรงพยาบาลแทนแล้วล่ะ ฟังแม่นะ พักผ่อนอยู่บ้าน แม่จะไปช่วยเฝ้าที่โรงพยาบาลแทนลูกเอง”

เหมยเหมยเถียงแม่ไม่ได้เลยต้องจำยอมแต่เธอก็ไม่ได้ให้เหยียนซินหย่าไปโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลมีพยาบาลคอยดูแลอยู่แล้ว เหยียนซินหย่าไปก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี

“คุณหนู คุณชายหมิงกลับมาแล้ว…” ป้าฟางวิ่งเข้ามาบอกอย่างดีใจ

เหมยเหมยเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ เธอยังไม่ทันพุ่งออกไปหาร่างของเหยียนหมิงซุ่นก็ปรากฏตรงหน้าประตูพร้อมอมยิ้มส่งให้เธอแล้ว

“อา…”

เหมยเหมยกรีดร้องด้วยความตื่นเต้นแล้วพุ่งตัวเข้าไปหาอย่างลืมตัว เหยียนหมิงซุ่นรีบก้าวไปรับตัวเธอไว้

“พี่กลับมาแล้ว…” เหยียนหมิงซุ่นกระชับกอดเหมยเหมยแน่นแล้วเอ่ยกระซิบข้างหูเธอ เขาไม่ได้ผิดคำพูดเพราะเขากลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว

เหมยเหมยหัวเราะทั้งน้ำตาดีใจเป็นบ้าจนพูดอะไรไม่ออก เหยียนซินหย่ากับป้าฟางเองก็แอบหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา โล่งอกไปที!

กลับมาอย่างปลอดภัยก็น่ายินดีแล้วล่ะ!

“ฉันจะไปเตรียมอาหารมื้อใหญ่เป็นการฉลอง!” ป้าฟางเข้าครัวไปอย่างดีใจแล้วเตรียมโชว์ฝีมือทำอาหารให้เต็มโต๊ะใหญ่ไปเลย

เหยียนหมิงซุ่นเห็นเหยียนซินหย่าจึงผละออกจากเหมยเหมยแล้วเอ่ยอย่างขอบคุณ “ขอบคุณแม่ที่มาอยู่เป็นเพื่อนเหมยเหมยครับ”

“เหมยเหมยคือลูกสาวฉันก็ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนสิ เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ช่วงนี้ก็อยู่บ้านไปก่อน อยู่เป็นเพื่อนเหมยเหมยให้มาก ๆหน่อยแล้วกัน” เหยียนซินหย่าพูดเสียงอ่อนโยน

“ครับ ผมจะไม่ไปไหนก่อนเหมยเหมยคลอดอีกแล้ว” เหยียนหมิงซุ่นรับปาก

เขาบอกนายใหญ่อย่างชัดเจนแล้วว่าจะไม่ยอมหนีห่างจากเมืองหลวงในระยะครึ่งปีหลังจากนี้ หากมีธุระอะไรให้ไปหาคนอื่น อย่ามาหาเขาเลย!

ไม่ใช่แค่เพื่ออยู่เป็นเพื่อนเหมยเหมยแต่ก็เพื่อตัวเขาเองด้วย

พอเฮ่อเหลียนเช่อล้มก็เป็นการทำลายสองขั้วอำนาจเดิมและกลายเป็นเขาที่มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีนัก ผู้ปกครองคงไม่อยากเห็นขั้วอำนาจใหญ่เพียงฝ่ายเดียว ฉะนั้นเขาได้เวลาถอนตัวแล้ว

ต้องให้คนอื่นมีโอกาสเฉิดฉายต่อหน้านายใหญ่บ้าง!

หลังทานมื้อเย็นเสร็จเหยียนซินหย่าก็กลับบ้านตัวเองไป ช่วงนี้เธอเองก็สั่งสมงานเป็นกองใหญ่จึงต้องรีบกลับไปสะสาง อีกอย่างสองสามีภรรยาที่ห่างกันนานคงคิดถึงกันแย่ เธอไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอหรอกนะ

ป้าฟางกับลุงเหลาเองก็หลีกเลี่ยงอย่างรู้หน้าที่ ทิ้งไว้เพียงเหมยเหมยกับเหยียนหมิงซุ่น

เหมยเหมยน้ำตาไหลอย่างอดไม่ได้อีกครั้ง “ฉันร้อนใจแทบตาย ฝันร้ายอยู่บ่อย ๆ…”

เธอบ่นเสียงเล็กเสียงน้อยปนออดอ้อน เธอกังวลใจมาตั้งหลายวันในที่สุดก็กลับมาสักที งั้นก็ขอบ่นสักหน่อยเถอะ

เหยียนหมิงซุ่นลูบหลังเธอเบา ๆเป็นการปลอบ “พี่ไม่ดีเอง…”

เหมยเหมยร้องไห้ไปครู่หนึ่งแล้วฉุกนึกถึงเรื่องสำคัญมาก ๆขึ้นได้เลยถามด้วยความตื่นตระหนกว่า “ฉิวฉิวกับฉาฉาล่ะ? ทำไมพวกมันไม่กลับมาด้วย?”

เหยียนหมิงซุ่นกลับมาเพียงคนเดียวโดยไม่มีเจ้าตัวเล็กพวกนั้นมาด้วย หรือว่า…

เหมยเหมยสีหน้าเปลี่ยนฉับพลัน ใจหล่นตุบ กลัวจะได้ยินข่าวร้ายจากปากเหยียนหมิงซุ่น

“อย่าเพิ่งตื่นตูมไป พวกมันไม่เป็นไร แค่ต้องอยู่ในภูเขาสือว่านอีกสักระยะ ถึงเวลานั้นพี่จะส่งคนไปรับพวกมันกลับบ้านเอง” เหยียนหมิงซุ่นรีบอธิบาย

………………………….