ตอนที่ 2823 ชนะร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนอีกครั้ง!
ฝุ่นเลือดนั้นค่อยๆ รวมกลับเข้าหากันแต่เย่หยวนกลับต่อยหมัดออกไปอีกครั้ง
ตูม!
มิติสั่นไหว ฝุ่นเลือดนั้นจางหายไปจนหมดสิ้น แต่ว่าเย่หยวนก็ได้ใช้วินาทีก่อนที่จะสังหารนั้นผนึกแก่นเลือดด้วยดาบเต๋าเข้ามาเก็บไว้
เหยียนเหมิงที่เก่งกาจเอาชนะหยางชิงอย่างง่ายดายนั้นกลับถูกเย่หยวนสังหารลงไปด้วยกระบวนท่าเดียว
เรื่องนี้ทำให้ทั้งเผ่าเลือดต้องเงียบปากลงไปทันที
เย่หยวนยิ้มขึ้นมา “พวกร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนมันมีดีแค่นี้หรือ? ข้ายังมีกำลังที่เก็บไว้ไม่ได้ใช้ออกมาอีกมากมาย!”
คำพูดของเย่หยวนนั้นมันคือความเป็นจริง
เพราะเขานั้นคิดไปว่าเหยียนเหมิงน่าจะพอรับหมัดเขาได้อยู่บ้าง ไม่นึกว่าอีกฝ่ายนั้นกลับจะแตกสลายลงไปด้วยหมัดเดียวเช่นนี้
อ่อนแอ!
จากสายเลือดระดับภูตศึกไประดับวิญญาณศึกนั้นมันเป็นการพัฒนาที่ก้าวกระโดด
พลังสายเลือดมังกรของเย่หยวนนั้นมันพัฒนาไปกว่าสิบเท่า! ที่สำคัญสายเลือดของเย่หยวนนั้นมันยังเป็นสายเลือดที่สูงส่งกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ ชัดเจน
อย่างน้อยๆ ในระดับเดียวกันนี้เหยียนเหมิงก็ไม่อาจจะใช้พลังงานเลือดของเขาทำอะไรเย่หยวนได้
“น…นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนกลับไม่อาจรับได้แม้แต่กระบวนท่า?”
“เจ้าบ้านี่มันกลับมีสายเลือดมังกรระดับวิญญาณศึก! นี่มันยังเป็นจักรพรรดิเซียนอยู่ได้อย่างไรกัน!”
“เจ้าบ้านี่ดูอย่างไรก็มนุษย์แท้ๆ ทำไมมันถึงมีสายเลือดมังกรที่บริสุทธิ์ขนาดนี้ได้?”
…
ในค่ายเผ่าเลือดนั้นมันต่างมีเสียงร้องอย่างมึนงงขึ้นมาตามๆ กัน
ภาพตรงหน้านี้ทำให้สามัญสำนึกของพวกเขาทั้งหลายแหลกสลายลง
ในความคิดของพวกเขานั้นต่อให้เย่หยวนจะเก่งกาจมันก็คงพอแค่สู้กับเหยียนเหมิงได้อย่างสูสีเท่านั้น
ใครจะไปคิดว่าเหยียนเหมิงนั้นกลับไม่อาจจะรับได้แม้แต่กระบวนท่า!
เรื่องนี้มันทำให้จิตใจของเผ่าเลือดสั่นคลอนอย่างมาก เพราะแม้แต่เซี่ยหลิงแม่ทัพใหญ่คนนี้เองก็ยังไม่อาจจะกลับมาตั้งสติได้ง่ายๆ
ในห้วงมิติไกลออกไปนั้นเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายต่างหันมามองหน้าเว่ยเหลียงเป็นตาเดียว
ตอนนี้ใบหน้าเฒ่าๆ ของเว่ยเหลียงนั้นมันแทบอยากจะมุดลงดิน ระหว่างที่เขาว่ากล่าวดูถูกไปนั้นตัวมหาจักรพรรดิตานเฟยเองก็ยังไม่กล้าเถียงอะไรออกมา
แต่ก่อนที่เสียงของเขาจะทันได้จางหายเย่หยวนก็เอาชนะเหยียนเหมิงลงไปแล้ว
ช่างเป็นการตบหน้าที่เฉียบพลันนัก!
มหาจักรพรรดิตานเฟยนั้นยิ้มขึ้นมา “ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะมีสายเลือดภูตแท้ระดับวิญญาณศึกเช่นนี้! ดูท่ามันคงได้ประโยชน์จากเจ็ดเต๋าทุกข์เก้ากฎเมื่อครั้งก่อนมามากแน่ๆ! สายเลือดเผ่ามังกรนี้ต่อให้เทียบกับสายเลือดภูตแท้อื่นๆ มันก็นับว่าสูงส่งมาก! การพัฒนาของสายเลือดนั้นเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่งแต่ข้าก็ไม่นึกเลยว่าจักรพรรดิเซียนตัวน้อยคนหนึ่งนั้นกลับจะทำได้ถึงขนาดนี้! จั่วเฉินเจ้าได้สมบัติมาครองแล้วจริงๆ!”
จั่วเฉินนั้นไม่พูดอะไรตอบกลับไป ได้แต่ต้องถอนหายใจ
คนทั้งหลายนั้นเข้าใจความหมายของเขาดี เพราะพวกเขาต่างรู้ว่าเย่หยวนคือผู้บ่มเพาะนอกรีต
ไม่ว่าเขาจะเก่งแค่ไหน ไม่ว่าจะเหนือล้ำฟ้าปานใดอนาคตของเขามันก็มืดมน
ที่สำคัญไปกว่านั้นยิ่งเขามากพรสวรรค์เท่าไหร่ มันก็จะยิ่งทำให้ต้องเจอความตายที่ทรมานมากเท่านั้น
…
เขานั้นเป็นต้นกล้าที่ดี
แต่น่าเสียดายที่เขานั้นกลับเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีต!
เขารับเย่หยวนเข้าเป็นศิษย์เพราะว่าอยากจะกู้คืนชื่อของนิกายยาสุดล้ำมากกว่าสิ่งใด ส่วนเย่หยวนเองก็ยืนใช้นามของเขาในการขึ้นครองตำแหน่งแม่ทัพสูงอย่างมั่นคง
คนทั้งสองต่างใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน
ส่วนเรื่องความเป็นศิษย์อาจารย์ใดๆ นั้นมันไม่มีอยู่เลย
แน่นอนว่าหากเย่หยวนไม่ใช่ผู้บ่มเพาะนอกรีตแล้ว ตัวจั่วเฉินย่อมจะยิ้มกว้างมองเย่หยวนแตกต่างจากนี้แน่
ยอดอัจฉริยะที่สังหารร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนลงได้ในหมัดเดียวมันย่อมจะเป็นที่ต้องการของทุกคน
หากเป็นเช่นนั้นถึงจะรับได้ว่าจั่วเฉินโชคดี
“หากพวกเจ้าทั้งสองไม่ออกมาสู้แล้วก็กลับไปดูดนมแม่เถอะ! วันหน้าอย่าได้มาพูดว่าร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนไร้เทียมทานใดอีกเล่า มันน่าอาย!” เย่หยวนมองหน้าหวู่ชางและหยวนเจิ้นพร้อมส่ายหัวขึ้นอย่างผิดหวัง
ท่าทางนี้มันทำให้จิตใจของคนทั้งสองแทบคลั่ง
หวู่ชางและหยวนเจิ้นนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นขึ้นมาทันที เพราะภาพก่อนหน้านั้นทำให้พวกเขาตกตะลึง!
ใครจะไปคิดว่ายอดฝีมือระดับเหยียนเหมิงนั้นกลับอ่อนแอราวเด็กสามขวบเมื่อต่อหน้าเย่หยวน?
ต่อให้จะเป็นหยวนเจิ้นแต่ตอนนี้เขาก็ไม่เหลือความมั่นใจใดๆ แล้ว
คนทั้งสองนั้นยืนนิ่งไม่กล้าออกตัวและก็ไม่กล้าถอยกลับ
เย่หยวนยิ้มขึ้นกล่าวอีกครั้ง “ข้าขอคำใช้คำพูดเดิมแล้วกัน ไม่ว่าจะหนึ่งต่อหนึ่งหรือหนึ่งต่อเท่าไหร่ข้าก็พร้อมรับมือพวกเจ้า! หากพวกเจ้าคิดว่าตัวคนเดียวเอาชนะไม่ได้ จะเพิ่มเข้ามาอีกสักกี่สิบข้าก็ไม่กลัว เย่ผู้นี้พร้อมจะจัดการพวกเจ้าลงพร้อมๆ กัน!”
ผัวะผัวะผัวะ!
ราวกับว่ามีเสียงตบหน้าเกิดขึ้นทั่วทั้งค่าย
คำพูดของหยางชิงที่เย่หยวนยืมมาใช้นี้มันช่างโอหังอวดดี
แต่เขานั้นไม่เหมือนหยางชิง เพราะท่าทางของเขานั้นมันนิ่งเงียบและเย่อหยิ่งอย่างถึงที่สุด!
คำพูดนี้มันแฝงมาด้วยคลื่นพลังที่เหนือล้ำฟ้า!
คนที่เก่งกาจเป็นหน้าตาของพวกเขานั้นกลับถูกเย่หยวนต่อยจนตายหายไปในพริบตา
เวลานี้พวกเขาจึงไม่กล้าจะยืดอกวางตัวเหนือท่านอีกแล้ว!
ไม่เห็นหรือว่าแม้แต่ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนทั้งสองที่เหลือเองก็ยังได้แต่ยืนนิ่ง?
หยางชิงนั้นค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นมากล่าวอย่างไม่พอใจ “ไอ้บ้า! มาขโมยความเด่นของข้าไปอีกแล้ว! มันเก่งขนาดนี้แต่กลับปล่อยให้ข้าถูกกระทืบปางตาย! วันหลังข้าบรรลุได้ข้าจะไปกระทืบเจ้าแก้แค้น!”
เขานั้นได้พบว่าช่องว่างระหว่างตัวเขาและเย่หยวนนั้นมันขยายขึ้นอีกครั้ง
แต่หยวนเจิ้นนั้นกลับต้องหรี่ตาลงร้อง “เจ้าไม่ต้องมาท้าเราหรอก ข้าไม่เชื่อหรอกว่าข้ากับหวู่ชาง สองคนร่วมมือกันแล้วจะยังเอาชนะเจ้าลงไม่ได้!”
เย่หยวนนั้นยิ้มกว้างขึ้นก่อนจะยกนิ้วมาเรียกคนทั้งสองอีกครั้ง
ท่าทางของเขานั้นมันช่างน่ารังเกียจนัก
“หยวนเจิ้น อย่าได้หลงเชื่อการยั่วยุของมัน! ไอ้เด็กนี่มันคิดจะล่อให้พวกเจ้าออกไปนั่นแหละ! พวกเจ้าทั้งสองกลับเข้าค่ายมา ไม่ต้องไปสนใจพวกมันแล้ว!” แต่ก่อนที่หยวนเจิ้นจะทันได้ออกไปพ้นเขตค่ายเสียงของเซี่ยหลิงก็ดังขึ้นมาห้าม
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหล่าเผ่าเลือดทั้งหลายก็เข้าใจทันทีว่าพวกเขาได้ยอมแพ้แล้ว!
แต่ในฐานะร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนนั้นพวกหยวนเจิ้นจะต้องรู้สึกอย่างไร?
หากตัวเซี่ยหลิงไม่พูดกล่าวอะไรมันยังจะพอกลับไปได้ง่ายกว่า
“หึ! ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนเรานั้นสูงส่ง ไม่อาจปล่อยให้ศัตรูมาหยามเช่นนี้ได้!”
หยวนเจิ้นพุ่งตัวขึ้นฟ้าไปพร้อมหยิบเอาระฆังใหญ่มาครอบตัวเย่หยวนไว้ทันที
พร้อมๆ กันนั้นหวู่ชางก็ได้เปลี่ยนร่างเป็นน้ำพุ่งเข้าใส่เย่หยวน
เมื่อระฆังเลือดนี้มันปรากฏขึ้นมาพลังงานเลือดมันก็พุ่งทะยานสูงขึ้นล้ำฟ้าทันที
สมบัติยอดหมอกระดับสอง!
พลังของมันนั้นรุนแรงกว่าดาบของเหยียนเหมิงหลายเท่า!
คนทั้งสองนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กับพลังน้ำของหวู่ชางที่มีสีเหมือนเป็นน้ำจากยมโลก
เมื่อเผ่าเลือดทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องสั่นสะท้านเริ่มรู้สึกมีความหวังขึ้นอีกครั้ง
เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจเรื่องที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวให้มากมายและยังต่อยหมัดแปลงเก้ามังกรสวรรค์ออกไป!
หมัดแปลงเก้ามังกรสวรรค์ของเขานั้นได้ฝึกฝนมาจนถึงระดับสามและมีพลังเหนือล้ำฟ้า!
เวลานี้พลังของหมัดแปลงเก้ามังกรสวรรค์นี้มันสามารถจัดการลงได้แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเที่ยงเสียด้วยซ้ำ
พลังนี้ย่อมจะไม่อาจล้อเล่นด้วยได้
เมื่อหมัดของเขากระแทกออกมาสองครั้งมันก็พุ่งเข้าใส่ร่างของคนทั้งสองทันที
ตูม!
เสียงระเบิดดังออกมากระแทก ระฆังจนทำหูคนทั้งหลายแทบดับ
หยวนเจิ้นกระอักเลือดออกมาก่อนจะปลิวถอยไปไกล
แน่นอนว่าสภาพของหวู่ชางยิ่งแย่กว่าหยวนเจิ้น
สายน้ำสีเลือดของเขามันถูกเย่หยวนปัดทิ้งจนหมดสิ้น
ร่างจริงของหวู่ชางปรากฏขึ้นมาอีกครั้งด้วยสีหน้าซีดขาวราวกับศพ ดูท่าคงบาดเจ็บไปอย่างหนักหน่วง
หมัดเดียวเอาชนะร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนได้อีกครั้ง!
หยวนเจิ้นนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก “ฝีมือของมันนี้คงอยู่ในช่วงห้าสิบอันดับแรกของร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนไปแล้ว! ต่อให้จะร่วมมือกันแต่พวกเราทั้งสองก็ไม่อาจจะเอาชนะมันได้แน่!”
……………………………………