ตอนที่ 2825 สำเร็จ

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2825 สำเร็จ!
“ข้านักบุญสูงฟ้าครามนั้นกวัดแกว่งหอกแทงสังหารเหล่าเผ่าเลือดจนมันแตกกระจายไปทั่วทิศ! ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนอะไรของพวกมันนั้นก็ไม่อาจจะรับมือข้าได้แม้แต่กระบวนท่า และถูกสังหารลงสิ้นในพริบตา…”

บนเนินเขาหนึ่งหยางชิงนั้นกำลังบอกเล่าเรื่องราววีรกรรมที่ ‘เขา’ ได้ก่อไว้ในค่ายเผ่าเลือด

รอบๆ ตัวเขานั้นมันมีทหารทัพสวรรค์แรกมากมายกำลังยืนล้อมฟังกันอยู่อย่างตื้นตันหัวใจ

หยางชิงนั้นมีฝีมือที่เก่งกาจจริงๆ ในหมู่นายกองทัพสวรรค์แรกเขายังไม่เคยพ่ายแพ้ให้แก่ใคร เพราะฉะนั้นแม้เรื่องราวของเขามันจะฟังดูน่าเหลือเชื่อแต่มันก็ยังพอเชื่อถือได้

แต่แน่นอนว่าเขาได้ย้ายเอาเรื่องที่เย่หยวนทำมากลายเป็นเรื่องของตัวเองไปสิ้น

“ข้านักบุญสูงฟ้าครามนั้นร้องลั่นท้าทายให้พวกมันออกมาสู้! แต่พวกเจ้าขี้ขลาดเผ่าเลือดนั้นมันกลับเอาแต่ปิดตัวเองอยู่ในค่ายไม่กล้าออกมาอีก! เฮ้อ…ความไร้เทียมทานมันช่างเดียวดายนัก!”

หยางชิงถอนใจยาวออกมาด้วยท่าทางเดียวดายของยอดฝีมือ

เขานั้นแข็งแกร่งจริงๆ ก่อนที่จะออกเดินทางลงทะเลมา แน่นอนว่าท่าทางเช่นนี้มันย่อมจะเป็นความจริงตอนที่เขาอยู่ในทวีปบ้านเกิด

หากไม่ได้ต่อสู้กับยอดฝีมือแล้วเขาก็สามารถวางท่าเป็นยอดคนได้อย่างไม่มีใครสงสัยเลย

“นักบุญสูงฟ้าครามนั้นช่างสมชื่อว่าเป็นฟ้าคราม ทำให้มนุษย์เราได้เอาคืน สร้างชื่อเสียงลือลั่น!”

“สุดยอด! เยี่ยม! ไม่นึกเลยว่าพันธมิตรสวรรค์แรกเรานั้นกลับจะเล่นงานเผ่าเลือดมันได้ถึงหน้าประตูค่ายเช่นนี้!”

“นักบุญสูงฟ้าครามจงเจริญ!”

เวลานี้ย่อมจะเกิดเสียงสรรเสริญขึ้นรอบด้าน

หยางชิงนั้นชินกับคำชมเช่นนี้จึงไม่ได้แสดงท่าทีประหลาดใดๆ ออกมา แต่แม้ว่าเขานั้นจะชินกับมันแล้วแต่เขาก็ยังรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้รับ

เขานั้นพร้อมที่จะทนความยากลำบากมากมายเพื่อจะได้รับคำชมเช่นนี้

หลังจากเย่หยวนกลับมาเขาก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องและไม่ออกมาเป็นเวลาหลายวันทำให้หยางชิงได้โอกาสออกมาโม้ให้ทหารทั้งหลายฟังไม่ขาด

เหล่ายอดฝีมือระดับจักรพรรดิเที่ยงนั้นย่อมจะไม่ว่างพอมาหยุดเขาเพราะฉะนั้นหลายวันมานี้ชื่อเสียงของหยางชิงมันจึงพุ่งทะยานขึ้นกว่าก่อนหน้าอย่างมาก

เรื่องนี้มีแต่เหล่ามหาจักรพรรดิที่ได้รู้ได้เห็นกับตา

แรกๆ นั้นคนย่อมจะไม่เชื่อ

แต่เมื่อหยางชิงเอาตรานายกองของเผ่าเลือดออกมาแสดงมันก็ย่อมจะสร้างความน่าเชื่อถืออย่างปฏิเสธไม่ได้อีกเพราะฉะนั้นนับวันมันก็ยิ่งมีคนเชื่อมากขึ้น

“หยางชิง เจ้ามียางอายบ้างหรือไม่? ข้าก็นึกว่าหายไปไหนตั้งหลายวันที่แท้หนีมาโม้อยู่นี่เอง!”

ในตอนนั้นเองที่มีเสียงแหลมเล็กหนึ่งดังขึ้นมา

เมื่อคนทั้งหลายได้ยินก็ต้องหันไปพบว่าเจ้าของเสียงคือมังกรน้อยจิงเฟย

เมื่อหยางชิงเห็นจิงเฟยนั้นเขาก็หน้าเสียไปทันที

เด็กคนนี้มันมาทำไม?

ทหารทั้งหลายที่กำลังลุ่มหลงในวีรกรรมของหยางชิงนั้นเมื่อได้ก็ต้องแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาทันที

ทหารคนหนึ่งร้องตอบกลับไปทันที “นังหนู เจ้าจะไปรู้อะไร! นักบุญสูงฟ้าครามท่านนั้นมีตรานายกองของเผ่าเลือดจริง นี่มันคือตราแสดงตัวของเผ่าเลือดไม่มีทางที่มนุษย์เราจะปลอมแปลงได้หรอก!”

จิงเฟยนั้นได้แต่ต้องกลอกตามองหยางชิง คนทั้งหลายนั้นมันได้กลายเป็นลัทธิบูชาหยางชิงไปแล้ว!

แต่ก่อนที่นางจะทันได้เปิดปากพูดอะไรมันก็เกิดเงาหนึ่งขึ้นตรงหน้าพร้อมมือของหยางชิงที่มาถึงตัวจิงเฟย

“ฮ่าๆ จิงเฟยน้อย เจ้ามาหาข้าคงมีธุระแล้ว? ไปเถอะ ไปหาที่เงียบๆ คุยกันดีกว่า!”

หยางชิงนั้นใช้มือปิดปากของจิงเฟยไว้ด้วยปราณเทวะพร้อมลากตัวนางออกจากกลุ่มทหารไป

จิงเฟยนั้นย่อมจะไม่อาจต่อต้านพลังของหยางชิงได้ ปากของนางนั้นถูกปิดไว้จนไม่อาจพูด

แต่เรื่องแค่นี้ย่อมหยุดมารน้อยคนนี้ไม่ได้

“นายกองเผ่าเลือดมันตายจริง ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนก็ตายจริง แต่พวกมันนั้นถูกพี่เย่หยวนของข้าสังหาร! เจ้าบ้านี่มันก็แค่คนบ้าที่เดินไปร้องท้าทายคนเท่านั้นแหละ!”

เสียงแหลมเล็กของนางนั้นมันไม่ได้ดังออกมาจากปากแต่ว่าดังออกมาจากหอยสังข์อันใหญ่ในมือจนดังลั่นค่าย

เหล่าทหารที่ได้ยินต่างต้องหันมามองดูตามๆ กัน

“เป็นแม่ทัพสูงเย่หยวน? แต่ท่านเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์มิใช่หรือ? ทำไมถึงจะมีวิชายุทธเก่งกาจได้ปานนั้น?”

“เด็กคนนี้เป็นน้องสาวของแม่ทัพสูงเย่หยวน นางคงยกย่องเชิดชูพี่ชายเป็นวีรบุรุษตามปกติแหละ!”

“เป็นเช่นนั้น!”

มันย่อมจะไม่มีใครเชื่อ!

จิงเฟยที่ได้เห็นเช่นนั้นต้องร้องกล่าวขึ้นมาด้วยสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกอีกครั้ง “หยางชิง เจ้ากล้าแย่งเอาความดีความชอบของพี่เย่หยวนไปหรือ นี่เจ้ายังอยากจะหายจากพิษเลือดกัดกร่อนอยู่หรือไม่?”

เมื่อหยางชิงได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องสะดุ้งตัวขึ้นทันที “เจ้าบ้านั่นหาทางได้แล้ว?”

มือของหยางชิงปล่อยจิงเฟยลงจนในที่สุดนางก็ได้พูดด้วยปาก “มันมีเรื่องใดที่พี่เย่หยวนข้าทำไม่ได้บ้าง? เขาใช้ให้ข้าออกมาเรียกเจ้าไปลองยานี่แหละ!”

หยางชิงยิ้มกว้างร้องออกมา “เช่นนั้นจะยังรออะไรกัน? ไปเถอะ!”

พูดจบเขาก็ไม่สนใจทหารและจิงเฟยพุ่งนำไปยังห้องพักของเย่หยวนก่อนใคร

จิงเฟยหันกลับมาหาทหารทั้งหลายก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจ “พวกเจ้าโง่ทั้งหลาย ถูกคนหลอกลวงด้วยคำพูดไม่กี่คำ! พี่เย่หยวนข้านั้นคือผู้บ่มเพาะนอกรีต เขาย่อมจะต้องเก่งกาจล้ำฟ้าดิน! คนอย่างหยางชิงนี้เขาเอาชนะได้ด้วยมือแค่ข้างเดียวด้วยซ้ำ! แต่พวกเจ้ากลับไปเชื่อคำพูดมันอย่างไม่คิด! ฮึ่ม!”

พูดจบจิงเฟยก็เดินทิ้งกองทหารให้อ้าปากค้างไว้ด้านหลัง

หยางชิงนั้นถูกพิษเลือดกัดกร่อน?

โดนพิษเช่นนั้นไปแล้วมันจะยังกล้าแกร่งได้เท่าเรื่องที่เขาเล่าหรือ?

ที่แท้พวกเขานั้นกลับถูกหลอกแล้ว!

“ที่แท้คนที่จัดการเรื่องราวนี้มันกลับเป็นแม่ทัพสูงเย่หยวนท่าน!”

“แม่ทัพสูงเย่หยวนท่านจะเก่งไปถึงไหน! นี่ท่านเข้าร่วมทัพสวรรค์แรกมาได้กี่เดือน? ท่านกลับสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาได้ถึงสามครั้งติดกันแล้ว!”

“ชัยชนะเช่นนี้มันย่อมจะทำให้ทัพสวรรค์แรกเราสบายในศึกต่อไปขึ้นมา! เยี่ยมจริงๆ!”

“เดี๋ยวนะ เมื่อกี้นังหนูมันบอกว่าพิษเลือดกัดกร่อนมีทางรักษาแล้ว?”

เมื่อมีคนกล่าวเช่นนี้ขึ้นมาเหล่าทหารทั้งหลายก็ต้องหยุดเสียงพูดคุยกันลงทันที!

เมื่อหยางชิงมาถึงห้องนั้นเขาก็แทบจะลืมหายใจ เพราะภายในห้องนั้นมันมีคลื่นพลังยิ่งใหญ่เกินวัดได้อยู่มากมาย

สายตาของคนทั้งหลายนั้นต่างมองมายังตัวเขาแต่มันเป็นสายตาที่แปลกไปไม่น้อย

มันเหมือนกับว่า…เขาเป็นหนูขาวๆ ตัวหนึ่ง

“เอาล่ะ เริ่มเถอะ!” ตานเฟยกล่าว

แต่เสียงของเขานั้นมันกลับแฝงไปด้วยความกังวลไม่น้อย

เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะชี้ไปยังเตียงตรงหน้าและหันบอกหยางชิง “นอนลง!”

“อ…อ่า!”

หยางชิงนอนลงบนเตียงที่ดูคับแคบผิดปกติ

ห้องนี้มันดูแคบกว่าที่ควรจะเป็นนัก!

เพราะว่าพวกเขานั้นคือเหล่ามหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่!

เมื่อนอนลงไปกลิ่นเลือดก็ฉุนเข้าจมูกเขาทันที

ข้างๆ ตัวเย่หยวนนั้นมันมีอ่างน้ำไม้วางไว้อยู่

แต่น้ำภายในมันกลับเป็นน้ำสีเลือดสด!

แดงสดใสจนน่าตกตะลึง!

เย่หยวนนั้นเตรียมตัวมาตั้งแต่แรกเมื่อหยางชิงนอนลงแล้วเขาก็สร้างเข็มขึ้นมาในมือพร้อมด้วยพลังดวงดาวของหยกมุกเก้าใบที่ส่องสว่าง

จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกมาอย่างระมัดระวังและชุบเข็มนั้นลงไปในอ่างน้ำเลือด

นั่นทำให้เข็มปราณเทวะนั้นกลายเป็นสีแดงสดในทันที!

จากนั้นวิชาการฝังเข็มที่เหมือนออกมาจากโลกนิทานมันก็เริ่มขึ้น!

การฝังเข็มนี้มันแตกต่างจากวิชาที่เขาสั่งสอนนักหลอมโอสถสวรรค์คนอื่นๆ ไปสิ้นเชิง

หลายวันมานี้เขาได้ทำการวิจัยถึงเรื่องเลือดของเผ่าเลือดอย่างไม่หลับไม่นอน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลือดของพวกหยวนเจิ้นทั้งหลายนั้นที่มีค่าให้ศึกษาอย่างมาก!

แก่นเลือดของเผ่าเลือดนั้นยิ่งมันบริสุทธิ์เท่าไหร่มันก็จะยิ่งทรงพลังเท่านั้น

เดิมทีแล้วเย่หยวนก็ได้หาวิธีสะกดอาการของเลือดกัดกร่อนได้ด้วยการใช้หยกมุกเก้าใบ ครั้งนี้เขาจึงสามารถหาทางรักษาต่อได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

เหตุผลที่เขาปล่อยให้หยางชิงถูกพิษเลือดกัดกร่อนก็เพราะว่าเขาต้องการหนูทดลอง

การใช้คนรู้จักเป็นหนูทดลองนั้นมันง่ายกว่าใช้ทหารทั่วไป

เพราะว่าเย่หยวนรู้ดีว่าหยางชิงแข็งแกร่งแค่ไหน พลังของเขานั้นมันสามารถต่อต้านเลือดกัดกร่อนได้อย่างดีกว่าทหารทั่วๆ ไปอย่างสิ้นเชิง

เขาย่อมจะเป็นหนูทดลองที่ทนทานกว่าใครๆ

อ่างเลือดตรงหน้าเย่หยวนนั้นแท้จริงแล้วมันเป็นสิ่งที่เย่หยวนนั้นสร้างขึ้นมาจากแก่นเลือดของเผ่าเลือดผสมกับสมุนไพรสวรรค์ระดับห้าหลายสิบชนิด

น้ำโอสถนี้มันสามารถใช้ร่วมกับหยกมุกเก้าใบฉบับดั้งเดิมรักษาอาการเลือดกัดกร่อนได้ไม่ยาก

ฝีมือของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำราวหลุดมาจากโลกนิทานจนแม้แต่จั่วเฉินยังต้องเบิกตากว้าง

เพราะเขานั้นคือนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับแปด สายตาของเขามันย่อมจะเฉียบคม

จะดีร้ายอย่างไรมันย่อมไม่อาจหลุดรอดจากสายตาเขาไปได้!

น่าทึ่ง!

‘เฮ้อ!’

จั่วเฉินนั้นได้แต่ต้องถอนใจยาวขึ้นมาในใจ

น่าเสียดายที่เป็นผู้บ่มเพาะนอกรีต!

อัจฉริยะโอสถเช่นนี้ย่อมจะขึ้นเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับแปดหรือเผลอๆ อาจจะถึงระดับเก้าได้ในวันหน้า!

น่าเสียดายนัก!

เข็มปราณเทวะนั้นมันค่อยๆ ไหลเข้าร่วมหยางชิงจนทำให้หยางชิงต้องร้องขึ้นในลำคอ

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใดแต่ในที่สุดเข็มปราณเทวะของเย่หยวนมันก็หยุดลงพร้อมเสียงดวงดาวที่ค่อยๆ จางหายไป

เย่หยวนยิ้มกว้างขึ้นมาด้วยเหงื่อโชกกาย “สำเร็จแล้ว!”

……………………………………………………