บทที่ 1454 หยางเฉินจากไป

The king of War

การตายของอวี๋เหวินเกาหยาง ทำให้คนทั่วเมืองเยี่ยนตูรู้สึกตกใจ

ขณะเดียวกัน สิ่งที่น่าตกใจก็เกิดขึ้นที่เมืองเยี่ยนตู กองกำลังระดับสูงที่ตั้งรกรากอยู่ในเมืองเยี่ยนตู ได้อพยพออกไปทีละคน

และกองกำลังพวกนั้นละทิ้งแม้แต่ธุรกิจของตนเองในเมืองเยี่ยนตู

และตอนนี้ไม่มีแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูดำรงอยู่อีกต่อไปแล้ว มีเพียงสามตระกูลแห่งเมืองเยี่ยนตูเท่านั้น มีตระกูลอวี๋เหวิน ตระกูเย่ และตระกูลหวงที่ยอมจำนนต่อหยางเฉิน

เจ็ดวันต่อมา งานศพเจ็ดวันของอวี๋เหวินเกาหยางสิ้นสุดลง หลังจากหยางเฉินจัดการวางแผนเรื่องของตระกูลอวี๋เหวินอย่างเหมาะสมแล้ว จึงได้เตรียมจากไป

“คุณหยาง คุณจะจากไปแล้วเหรอ?”

ตระกูลอวี๋เหวิน ห้องโถงบรรพบุรุษของตระกูล ผู้อาวุโสผมขาวคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลังหยางเฉิน และถามด้วยสีหน้าอาลัย

หานเทียนเฉิงซึ่งเป็นพ่อบ้านเก่าแก่ของตระกูลอวี๋เหวิน เริ่มแรกตอนที่หยางเฉินเพิ่งมาจากชายแดนเหนือและกลับไปที่เจียงโจว หานเทียนเฉิงเป็นคนไปเจียงโจวด้วยตนเอง และอวี๋เหวินเกาหยางแสดงเจตจำนงว่าต้องการมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้หยางเฉิน แต่ถูกหยางเฉินปฏิเสธ

ตอนนี้อวี๋เหวินเกาหยางเสียชีวิตไปแล้ว ทำให้หานเทียนเฉิงรู้สึกโศกเศร้าเป็นอย่างมาก

หยางเฉินพยักหน้า ดวงตาของเขาสงบราวกับน้ำ และกล่าวว่า “ยังมีหลายสิ่งที่รอให้ผมไปจัดการ ถึงเวลาที่ผมต้องไปแล้ว”

ถึงแม้ตอนนี้เขาจะพยายามระงับความโกรธของตนเอง แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเจ็ดวันก่อน และความโกรธที่อยู่ในใจของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

เย่หลินแห่งราชวงศ์เย่ ต้องตายอย่างแน่นอน!

นอกจากเย่หลินแล้ว ยังมีหลิวเหล่าก้วยแห่งเมืองเหมียวที่ต้องตายด้วยเช่นกัน!

นอกจากนี้ ยังมีหม่าชาวสหายของตนเอง ซึ่งตอนนี้เขาถูกขังอยู่ที่ราชวงศ์เฝิง และต้องการให้เขาไปช่วยเขา

อาจกล่าวได้ว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก และยังเป็นปัญหาที่หยางเฉินจำเป็นต้องจัดการอย่างเร่งด่วน

“หาอวี๋เหวินปิงพบหรือไม่” หยางเฉินถามทันที

เมื่อมีการกล่าวถึงชื่ออวี๋เหวินปิงอีกครั้ง เจตนาฆ่าที่น่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา

เมื่อเปรียบเทียบกับเย่หลินและหลิวเหล่าก้วยแล้ว หยางเฉินต้องการฆ่าอวี๋เหวินปิงมากกว่า

ถ้าอวี๋เหวินปิงไม่ได้ใช้อวี๋เหวินเกาหยางข่มขู่ตนเอง แล้วอวี๋เหวินเกาหยางจะเลือกฆ่าตัวตายได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตาม หลังจากการต่อสู้บนภูเขาเยี่ยนซานเมื่อเจ็ดวันก่อน อวี๋เหวินปิงเหมือนได้หายตัวไปจากโลก

หานเทียนเฉิงกล่าวอย่างรวดเร็ว “ยังไม่มีข่าวใด ๆ ดูเหมือนว่าไอ้สัตว์เดรัจฉานตัวนั้นจะหายตัวไปจากภูเขาเยี่ยนซาน แต่จากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใต้ภูเขาเยี่ยนซาน พบว่าขณะที่คนลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำเดินผ่านภูเขาเยี่ยนซาน เขาแบกคนคนหนึ่งไว้บนบ่า บางทีคนคนนั้นอาจจะเป็นไอ้สัตว์เดรัจฉาน”

เมื่อกล่าวถึงอวี๋เหวินปิง หานเทียนเฉิงกัดฟันด้วยความแค้นเช่นกัน

“คนลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำ?”

หยางเฉินขมวดคิ้ว และทันใดนั้นเขาก็นึกบางเรื่องขึ้นมากได้

คืนก่อนงานเลี้ยงวันเกิดของตระกูลเย่ ในงานเลี้ยงที่จัดโดยราชวงศ์หลง มีผู้แข็งแกร่งที่สวมชุดคลุมสีดำปรากฏตัวขึ้น และช่วยฟางหรูซึ่งเป็นผู้นำตระกูลฟางแห่งเมืองราชวงศ์หลง

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายตอนที่หยางเฉินตามทัน ฟางหรูถูกอีกฝ่ายฆ่าปิดปากแล้ว

หรือว่าคนที่พาตัวอวี๋เหวินปิงไปจากภูเขาเยี่ยนซาน เป็นผู้แข็งแกร่งที่สวมชุดคลุมสีดำคนนั้นเช่นกัน?

“ถูกต้อง เป็นผู้แข็งแกร่งที่สวมชุดคลุมสีดำ แม้กระทั่งศีรษะของเขาก็ยังคลุมด้วยเสื้อคลุมสีดำ ดังนั้นจึงไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจน”

หานเทียนเฉิงกล่าวอย่างรวดเร็ว

หยางเฉินไม่พูดอะไรอีกต่อไป สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้น

วันนั้นตอนที่เขาไล่ตามผู้แข็งแกร่งที่สวมชุดคลุมสีดำคนนั้น เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย ประเด็นสำคัญคือบนร่างกายของอีกฝ่ายไม่มีพลังบูโดต่อสู้ใด ๆ

ทั้งสองคนไม่ได้ต่อสู้กัน แต่ดูจากความเร็วของอีกฝ่ายหนึ่งแล้ว อย่างน้อยอีกฝ่ายนั้นอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า หรือแม้แต่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหก

เพียงแต่ ทำไมผู้แข็งแกร่งระดับนี้ถึงได้ช่วยอวี๋เหวินปิงไปจากภูเขาเยี่ยนซาน?

แล้วผู้แข็งแกร่งที่สวมชุดคลุมสีดำคนนั้นเป็นใครกันแน่?

หยางเฉินล่วงเกินคนไว้มากมาย แต่ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้มีไม่มากนัก ไม่นานร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในสมองของเขา

“ดอกเตอร์แบล็ก!”

หยางเฉินกัดฟันและกล่าวด้วยความแค้น

“ดอกเตอร์แบล็ก เขาเป็นใคร?” นี่เป็นครั้งแรกที่หานเทียนเฉิงได้ยินชื่อดอกเตอร์แบล็ก เขาจึงถามตามสัญชาตญาณ

หยางเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “นักวิทยาศาสตร์ที่บ้าคลั่งได้เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดครึ่งมนุษย์ครึ่งหุ่นยนต์ ที่มีพลังมหาศาล”

“ยังมีคนแบบนั้นอยู่อีกด้วยเหรอ?” หานเทียนเฉิงตกตะลึง

เดิมหยางเฉินสงสัยว่าหลังจากอาจารย์ฆ่าดอกเตอร์แบล็กแล้ว ไม่รู้ว่าดอกเตอร์แบล็กชุบชีวิตตนเองด้วยวิธีใด คราวนี้ เขามั่นใจการคาดเดานี้มากขึ้น

เนื่องจากดอกเตอร์แบล็กไม่มีพื้นฐานการฝึกฝนบูโด แต่เขาใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อสร้างตัวเองให้กลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่เทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ ดังนั้นบนร่างกายของดอกเตอร์แบล็กจึงไม่มีพลังพลังบูโดใด ๆ

ผู้แข็งแกร่งลึกลับที่ช่วยฟางหรูจากหยางเฉินในวันนั้น ไม่มีพลังบูโดใด ๆ

การต่อสู้บนภูเขาเยี่ยนซานเมื่อเจ็ดวันก่อน ตอนที่หยางเฉินปลุกสายเลือดคลั่ง อวี๋เหวินปิงอยู่ที่นั่นด้วย หากมีใครปรากฏตัวออกมา เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่สามารถรับรู้ได้ แต่คราวนี้เขาไม่สามารถรับรู้ได้จริง ๆ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง คนที่พาตัวอวี๋เหวินปิงไป เป็นคนเดียวกับคนลึกลับที่สวมชุดคลุมสีดำที่ช่วยฟางหรู

สรุปแล้ว ผู้แข็งแกร่งที่สวมชุดคลุมสีดำที่พาอวี๋เหวินปิงไปนั้น น่าจะเป็นดอกเตอร์แบล็ก

“นี่คือป้ายสัญลักษณ์ผู้นำตระกูลอวี๋เหวิน ต่อไปเรื่องของตระกูลอวี๋เหวินนั้นขอมอบให้คุณเป็นคนดูแล”

หยางเฉินหยิบป้ายสัญลักษณ์ผู้นำตระกูลที่อวี๋เหวินเกาหยางมอบให้เขาก่อนเสียชีวิต แล้วมอบให้หานเทียนเฉิง

“คุณหยาง นี่มัน……”

ขณะที่หานเทียนเฉิงกำลังจะปฏิเสธ แต่เขาถูกหยางเฉินขัดจังหวะ “ตอนแรก พ่อขอให้ผมเก็บรักษาป้ายสัญลักษณ์ผู้นำตระกูลนี้ไว้ชั่วคราว และรอจนกระทั่งตอนที่อวี๋เหวินปิงมีความสามารถที่จะสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลแล้ว ค่อยมอบป้ายสัญลักษณ์ผู้นำตระกูลนี้ให้อวี๋เหวินปิง”

“แต่ตอนนี้ อวี๋เหวินปิงเป็นคนทำให้พ่อตาย ผมจะตามหาเขาและฆ่าเขาด้วยมือตนเองอย่างแน่นอน!”

เสียงของหยางเฉินเย็นชามาก

หานเทียนเฉิงสั่นสะท้านและกล่าวด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “แล้วผมจะมอบป้ายสัญลักษณ์ผู้นำตระกูลให้แก่ใคร?”

แม้ว่าตระกูลอวี๋เหวินจะมีทายาทสายตรงมากมาย แต่คนที่มีความสามารถอย่างแท้จริงนั้นมีไม่มากนัก

มิฉะนั้น เมื่อก่อนอวี๋เหวินเกาหยางคงไม่พยายามหาทางมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้หยางเฉินแล้ว

หยางเฉินกล่าวว่า “คุณวางใจเถอะ มีผมอยู่ ไม่มีใครกล้าละโมบตำแหน่งผู้ตระกูลอวี๋เหวินหรอก ผมจะวางแผนคนมาบ่มเพาะความสามารถให้รุ่นน้องของตระกูลอวี๋เหวินอย่างลับ ๆ เมื่อถึงเวลานั้นก็จะคัดเลือกผู้นำตระกูลใหม่ที่เหมาะสมออกมา”

“ครับ!” หานเทียนเฉิงไม่ปฏิเสธอีกต่อไป และเก็บป้ายสัญลักษณ์ผู้นำตระกูลอย่างระมัดระวัง

เขารู้อย่างชัดเจนว่าด้วยสถานะของหยางเฉิน ตระกูลอวี๋เหวินที่เป็นตระกูลเล็ก ๆ ไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้

หลังจากจัดการวางแผนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว หานเทียนเฉิงเดินไปส่งหยางเฉินออกจากตระกูลอวี๋เหวิน

“คุณหยาง!”

หลังจากหยางเฉินออกจากตระกูลอวี๋เหวินไม่นาน มีร่างคนสองคนปรากฏอยู่ตรงหน้าหยางเฉิน ซึ่งก็คือสองพี่น้องซ่งจั่วและซ่งโหย่ว

“ขอบคุณพวกคุณสองคนสำหรับที่ผ่านมา!”

เมื่อหยางเฉินเห็นสองพี่น้องตระกูลซ่ง เขารู้สึกซาบซึ่งสองพี่น้องตระกูลซ่งเป็นอย่างมาก

วันนั้นตอนที่เขาอยู่บนภูเขาเยี่ยนซาน และตอนที่เขาเกือบจะสูญเสียการควบคุม สองพี่น้องตระกูลซ่งเสี่ยงชีวิตพยายามป้อนยาผนึกจิตอันล้ำค่าให้แก่เขา และเกือบจะถูกเขาฆ่าตาย

การที่สองพี่น้องตระกูลซ่งช่วยเหลือเขา ถึงแม้จะเป็นการตอบแทนน้ำใจไมตรีของตระกูลอู่หวง แต่พวกเขาสองคนนั้นเป็นคนดี

“ตุ๊บ!”

ทันใดนั้น สองพี่น้องตระกูลซ่งก็คุกเข่าลงบนพื้น