บทที่ 1456 ความเพ้อฝันของคนโง่เขลา

The king of War

เมื่อเห็นสีหน้าที่คาดหวังของหยางเฉิน ซ่งจั่วส่ายศีรษะและกล่าวขอโทษ “คุณหยาง ขอโทษด้วย ผมไม่รู้นามสกุลของตระกูลสายเลือดคลั่ง และไม่รู้ว่าตระกูลนี้อยู่ที่ไหน?”

ซ่งโหย่วกล่าวเสริมว่า “คุณหยาง คุณอย่าเข้าใจผิด ไม่ใช่ว่าพวกเราเจตนาปิดบัง เพราะทุกอย่างเกี่ยวกับตระกูลนี้เป็นเพียงตำนานเล่าขานเท่านั้น บางทีแม้แต่ผู้อาวุโสของตระกูลบู๊โบราณที่มีชีวิตอยู่เป็นร้อยปีก็ไม่รู้จักตระกูลนี้”

“ถูกต้อง เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ว่ากันว่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับตระกูลนั้นถูกสืบทอดมาหลายร้อยปีแล้ว และไม่มีใครเคยติดต่อกับคนในตระกูลนั้นจริง ๆ” ซ่งจั่วกล่าว

หลังจากฟังคำพูดของสองพี่น้องแล้ว นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของหยางเฉินก็ค่อย ๆ หรี่ลง

“ไม่เป็นไร เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของพวกคุณ” หยางเฉินกล่าว

เนื่องจากเป็นตระกูลในตำนานเล่าขาน การที่ซ่งจั่วและซ่งโหย่วไม่รู้จักทายาทสายตรงของตระกูลมันก็เป็นเรื่องปกติ

“เหตุผลที่พวกเราต้องการบอกคุณ นั่นก็คือตอนนี้คุณได้ปลุกสายเลือดคลั่งตื่นแล้ว และอนาคตของคุณนั้นไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน ด้วยพลังความแข็งแกร่งในตอนนี้ของคุณ ไม่มีทางที่จะช่วยพวกเราล้างแค้นได้ แต่ถ้าให้เวลาคุณอีก คุณจะต้องแข็งแกร่งพอที่จะทำให้โลกบู๊โบราณตกตะลึงอย่างแน่นอน”

“เมื่อถึงตอนนั้น ด้วยพลังความแข็งแกร่งของคุณ บางทีคุณอาจไม่จำเป็นต้องลงมือเอง แค่คุณพูดประโยคเดียว ก็จะมีกองกำลังระดับสูงมากมายที่เต็มใจจะช่วยคุณ”

“คุณหยาง แม้ว่าพวกเราสองคนจะไม่มีพรสวรรค์ด้านบูโด แต่หลังจากพวกเราสองคนร่วมมือกันแล้ว สามารถระเบิดพลังความแข็งแกร่งเทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่ได้ หากคุณยินยอมให้พวกเราติดตามคุณ ต่อไปพวกเราจะสามารถช่วยคุณได้ไม่น้อย โปรดให้พวกเราติดตามคุณด้วยเถอะ!”

ท่าทีของสองพี่น้องมีความจริงใจอย่างยิ่ง และสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอ้อนวอน

พวกเขายังรักษาท่าทางถ่อมตน และแสดงท่าทีว่าจะติดตามหยางเฉินเสมอตลอดไป และช่วยหยางเฉินทำสิ่งต่าง ๆ จนกระทั่งหยางเฉินมีความแข็งแกร่งที่จะทำให้โลกโลกบู๊โบราณตกตะลึง แล้วค่อยช่วยพวกเขาแก้แค้น

อาจกล่าวได้ว่าพวกเขายังเชื่อมั่นในตัวหยางเฉินเป็นอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจะตัดสินใจเช่นนั้น

ในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้นหยางเฉินไม่มีกำลังที่จะล้างแค้นให้กับพวกเขา ส่วนในอนาคตหยางเฉินจะสามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกบู๊โบราณได้หรือไม่นั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดหยางเฉินก็พยักหน้า “เอาล่ะ เมื่อเป็นเช่นนั้น นับจากวันนี้เป็นต้นไป พวกคุณติดตามผมเถอะ ถ้าวันหนึ่ง ถ้าผมมีแข็งแกร่งพอที่จะช่วยแก้แค้นให้พวกคุณได้ ผมก็จะช่วยพวกคุณแก้แค้นอย่างแน่นอน”

“ขอบคุณครับคุณหยาง ขอบคุณครับคุณหยาง!”

เมื่อเห็นหยางเฉินรับปาก สองพี่น้องรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากจน และกล่าวขอบคุณอย่างรวดเร็ว

หยางเฉินโบกมือ หรี่ตาลงแล้วกล่าวว่า “พวกคุณรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเจ็ดวันก่อนแล้ว เย่หลินแห่งราชวงศ์เย่สมรู้ร่วมคิดกับหลิวเหล่าก้วยแห่งเมืองเหมียว และต้องการจะฆ่าผม แม้แต่พ่อบุญธรรมของผมก็เสียชีวิตในเหตุการณ์ความวุ่นวายคราวนี้ ไม่ว่าจะเป็นเย่หลินแห่งราชวงศ์เย่หรือหลิวเหล่าก้วยแห่งเมืองเหมียว พวกเขาต้องชดใช้อย่างสาสม!”

“คุณหยางพูดถูก ราชวงศ์เย่จะต้องถูกทำลาย และหลิวเหล่าก้วยแห่งเมืองเหมียวต้องตายเช่นกัน พวกเราจะช่วยคุณหยางปราบราชวงศ์เย่และฆ่าหลิวเหล่าก้วย!”

สองพี่น้องตระกูลซ่งแสดงจุดยืนของตนเองอย่างต่อเนื่อง

หยางเฉินพยักหน้า เจตนาฆ่าประกายอยู่ในดวงตาของเขา “ไปเมืองราชวงศ์เย่ก่อน แล้วค่อยไปที่เมืองเหมียว!”

“ครับ!”

สามคนออกเดินทางจากเมืองเยี่ยนตู โดยขึ้นเครื่องบินไปยังเมืองราชวงศ์เย่โดยตรง

ขณะเดียวกัน ห้องลับในคฤหาสน์ราชวงศ์เย่ของเมืองราชวงศ์เย่

เย่หลินนั่งขัดสมาธิ พลังบูโดบนร่างกายของเขาแผ่ซ่านออกมา ทำให้ห้องลับเต็มไปด้วยพลังบูโดที่ทรงพลัง

“หืม!”

เย่หลินลืมตาขึ้นทันที พลังบูโดบนร่างกายของเขาลดลง ดวงตาที่เหมือนนกอินทรีคู่นั้นประกายแสงที่เยือกเย็น

“นึกไม่ถึงว่าการไปเมืองเยี่ยนตูคราวนี้ หลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่เพียงไม่ได้ทำร้ายฐานบูโดของผมเท่านั้น แต่เป็นทุกขลาภ แดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าของผมที่หยุดนิ่งไปหลายปีได้ทะลวงไปสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหกแล้ว

เย่หลินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้าหยางเฉินกล้ามาที่เมืองราชวงศ์เย่ ผมจะไม่ปล่อยให้เขากลับไปได้อย่างแน่นอน!”

ขณะนี้ พลังบูโดที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างของเย่หลินนั้นเป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นหก

สำหรับเมืองจิ่วโจวแล้ว คนที่เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกอย่างแท้จริงนั้นมีไม่มาก เพราะหลังจากแดนบูโดทะลวงสู่แดนเหนือมนุษย์แล้ว การทะลวงแต่ละครั้งนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก

กระทั่งมีคนมากมายที่อาจไม่สามารถทะลวงแม้แต่หนึ่งแดนไปตลอดชีวิต

และแดนบูโดของเย่หลินได้หยุดนิ่งอยู่ที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นห้ามานานกว่าสิบปีแล้ว เดิมทีเขาคิดว่าชีวิตนี้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะปรับปรุงแดนบูโดให้สูงขึ้นได้อีก แต่นึกไม่ถึงว่าคราวนี้ไม่เพียงสามารถมีชีวิตรอดกลับมาจากเมืองเยี่ยนตูได้ แต่ยังสามารถทะลวงไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกได้

“อดีตฝ่าบาท”

และขณะนี้ ผู้อาวุโสผมขาวอายุหกสิบกว่าปี วิ่งเข้ามาในห้องลับอย่างรวดเร็ว

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

เย่หลินขมวดคิ้ว

ผู้อาวุโสกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “อดีตฝ่าบาท เมื่อสักครู่สายลับจากเมืองเยี่ยนตูรายงานว่าหยางเฉินขึ้นเครื่องบินมายังเมืองราชวงศ์เย่แล้ว และอีกสามชั่วโมงเขาจะมาถึงเมืองราชวงศ์เย่”

เย่หลินซึ่งเดิมสงบมาก หลังจากได้ยินว่าหยางเฉินอยู่บนเครื่องบินที่บนมายังเมืองราชวงศ์เย่แล้ว เขาลุกขึ้นทันที และมีความตื่นตระหนกเล็กน้อยอยู่บนใบหน้าของเขา

ถึงแม้เขาจะทะลวงผ่านไปยังแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกแล้ว แต่เขาจำสิ่งที่เกิดขึ้นบนภูเขาเยี่ยนซานเมื่อเจ็ดวันก่อนได้ติดตา

เขารู้ดีกว่าใคร ๆ ว่าหยางเฉินนั้นแข็งแกร่งเพียงใด เขาและหลิวเหล่าก้วยร่วมมือกันแล้ว แต่ยังไม่สามารถฆ่าหยางเฉินได้

แต่ความตื่นตระหนกนั้นอยู่เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็กลับมาสงบลง และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “หยางเฉินช่างจองหองจริงๆ กล้ามาเมืองราชวงศ์เย่ ในเมื่อเขากล้ามา ผมจะทำให้เขากลับไปไม่ได้!”

“แจ้งคำสั่งลงไป ให้ผู้แข็งแกร่งทุกคนที่สูงกว่าแดนเทพชั้นยอดในเมืองราชวงศ์เย่มารวมตัวที่คฤหาสน์ราชวงศ์เย่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้!”

“น้อมรับคำสั่ง! อดีตฝ่าบาท”

ขณะที่ผู้อาวุโสของราชวงศ์เย่กำลังจะเดินจากไป ทันใดนั้นเย่หลินก็กล่าวว่า “เดี๋ยวก่อน!”

“อดีตฝ่าบาท คุณมีอะไรจะสั่งอีกครับ?” ผู้อาวุโสถาม

เย่หลินถามว่า “หยางเฉินมาคนเดียวเหรอ?”

ผู้อาวุโสกล่าวว่า “เขาพาสองพี่น้องตระกูลซ่งมาด้วย”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่หลินขมวดคิ้ว เพียงแค่หยางเฉินคนเดียว ได้สร้างภาระทางจิตใจให้กับเขามากแล้ว ตอนนี้เขายังพาสองพี่น้องตระกูลซ่งมาด้วย

ถ้ามีเพียงแค่หยางเฉินคนเดียว เขายังคงมีความมั่นใจที่จะฆ่าหยางเฉินได้ แต่ตอนนี้มีสองพี่น้องตระกูลซ่งที่สามารถระเบิดพลังความแข็งแกร่งเทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่ ซึ่งทำให้เขารู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก

“คุณออกไปเถอะ”

สุดท้ายเย่หลินก็ไม่ได้พูดอะไรอีก และให้ผู้อาวุโสของราชวงศ์เย่ออกไปทันที

หลังจากผู้อาวุโสจากไปแล้ว เย่หลินได้โทรศัพท์และกล่าวว่า “อีกสามชั่วโมงหยางเฉินจะมาถึงเมืองราชวงศ์เย่ นี่เป็นโอกาสดีที่สุดของพวกเราที่จะฆ่าเขา”

ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร สีหน้าของเย่หลินหยุดนิ่งทันที

“ไอ้สารเลว!” เย่หลินคำรามและขว้างโทรศัพท์ทิ้ง

เห็นได้ชัดว่าคำร้องขอความช่วยเหลือของเขาเมื่อสักครู่นั้นถูกปฏิเสธ

“ถึงแม้จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอก แต่ราชวงศ์เย่จะเป็นสถานที่ฝังศพของคุณอย่างแน่นอน!”

เย่หลินกัดฟันด้วยความแค้นและกล่าวว่า “คิดจะฆ่าผมในราชวงศ์เย่ มันเป็นแค่ความเพ้อฝันของคนโง่เขลา!”