ตอนที่ 1662 เราพบกันอีกแล้ว

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

[เพื่อนรัก ขอบคุณมากๆ สำหรับฟอสซิลที่ให้ผมมา ถึงแม้คุณอาจจะลืมผมไปแล้ว แต่ผมต้องขอแสดงความซาบซึ้งใจ]

[งานสัมมนาที่ผมจัดเมื่อวานที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดจบลงแล้ว เบาะแสในฟอสซิลที่คุณมอบให้ผมมาได้พิสูจน์ว่ามันมีกลุ่มแมลงสาบที่แข็งแรงและมีสติปัญญาที่เคยอาศัยอยู่บนดาวอังคาร]

[พวกมันแต่งต่างจากแมลงสาบที่อยู่บนโลกของเรา พวกมันมีขนาดใหญ่กว่า มีหนวดยาวกว่า และอาศัยบนดาวที่มีออกซิเจนมากกว่าโลก… และมันยังพิสูจน์ว่าดาวอังคารเคยมีอดีตที่รุ่งเรือง และมันร่วงโรยด้วยเหตุผลบางประการ]

[อารยธรรมที่เคยอยู่บนดาวอังคาร มันมีสิ่งไหนที่เซอร์ไพรส์มากกว่านี้ไหม? การสำรวจที่ยังไม่เสร็จสิ้นเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน ได้รับคำอธิบายใหม่ตอนนี้ เราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวในจักรวาล และเศษซากของเพื่อนบ้านเราอยู่ใต้เท้าของเรา]

[ผมมีคำร้องขอจากสุดหัวใจ คุณช่วยบอกผมได้ไหมว่าคุณไปเจอฟอสซิลนี้ที่ไหน? ผมรู้ว่าเงินทองและเกียรติยศไม่อาจทำให้คุณประทับใจได้อีก แต่เพื่อเป็นการตามหาการหยั่งรู้ในอารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์ ผมขอร้องคุณจากใจจริงให้คุณแบ่งปันสถานที่ของฟอสซิล…]

ณ ดาวอังคาร

ในโรงแรมสตาร์สกาย

ลู่โจวนั่งอ่านอีเมลที่ลีโอนาร์ดส่งมาให้เขาที่ห้องทำงาน เขามีสีหน้าทุกข์ใจ

ฟอสซิลที่เขาพบในซากปรักหักพังของเดอะเกตส์ออฟเฮลล์ และตำแหน่งปัจจุบันของมันน่าจะอยู่ในส่วนลึกที่สุดของบริษัทฮิดเดลล์มายนิ่ง ซึ่งอยู่ติดกับยานของนายพลเรนฮาร์ท

แต่ว่าลู่โจวไม่อาจตอบแบบนั้นได้

เขาไม่สามารถอธิบายเรื่องพวกนี้อย่างตรงไปตรงมา อย่างน้อยก็ก่อนจะขยับยาน

เขาเข้าใจความร้อนใจและความอยากรู้ของลีโอนาร์ดในตอนนี้

มันเป็นอารมณ์ที่นักวิชาการทุกคนมีเมื่อเผชิญกับความจริง

หลังจากลังเลอยู่สักพักลู่โจวก็กดปุ่มฟังก์ชันเขียนตามคำบอกบนหน้าจอ หลังจากครุ่นคิดเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงกระจ่าง

“ผมเสียใจจริงๆ คุณลีโอนาร์ด ผมจำไม่ได้จริงๆ ว่าฟอสซิลนี้มาจากไหน ผมได้ยินมาว่าสถานการณ์วุ่นวายมากแค่ไหน และคุณได้เห็นมันในสารคดี ถ้ำกำลังถล่มและผมรีบไปหลบในห้องพักตัว ถ้าห้องพักตัวจากอารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์ไม่ได้อยู่ตรงนั้น ผมเกรงว่าผมคงไม่มีชีวิตรอดแล้ว”

“มีเพียงสองเบาะแสที่ผมสามารถให้คุณได้ จากสิ่งที่ผมได้เห็น อารยธรรมดาวอังคารที่ถดถอยซึ่งเคยรุ่งเรืองโดยไม่เคยมีมาก่อน แต่ด้วยวัฒนธรรมเก็บตัวและกายภาพที่ไร้ประสิทธิภาพ พวกเขาเลือกลงลึกใต้ดินแทนที่จะขยายออกนอกอวกาศไป”

“สำหรับอีกเบาะแสหนึ่งนั่นก็คือการล่มสลายของอารยธรรมดาวอังคารซึ่งน่าจะเกี่ยวกับการปล่อยพลังงานความร้อนมากเกินไปจากแกนกลางดาวอังคาร ซึ่งทำให้สนามแม่เหล็กของดาวอังคารหายไปและการสูญเสียชั้นบรรยากาศ…”

ลู่โจวตรวจดูข้อความบนหน้าจอโฮโลแกรมอีกครั้ง

เขาไม่ได้เช็กดูข้อผิดพลาดแต่เป็นการดูว่ามีข้อมูลสำคัญอะไรตกหล่นหรือไม่หรือเขาได้เปิดเผยข้อมูลที่ไม่ควรเปิดเผยออกไป

จากนั้นเขากดปุ่มส่งอีเมลตอบกลับไป แล้วเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้

เขาจะไปที่ยานมิลกี้เวย์ในตอนบ่ายเพื่อเจอบ้านหลังใหม่ของเขากับเสี่ยวไอ

หลังจากทำงานหนึ่งเดือน วาร์ปไดร์ฟล่าสุดได้ถูกติดตั้งโดยอีสต์เอเชียเฮฟวีอันดัสตรีส์

ยานอวกาศอาณานิคมเกือบเสร็จสมบูรณ์โดยขาดการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย

ข่าววันนี้ถูกแสดงบนหน้าจอโฮโลแกรมบนยานขนส่งที่มุ่งหน้าไปที่จอดยานของอีสต์เอเชียเฮฟวีอันดัสตรีส์

[ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ด นักวิชาการชื่อดังแห่งกลุ่มพันธมิตรทะเลเหนือใช้หลักฐานฟอสซิลเพื่อพิสูจน์ว่ามีสัตว์ที่ฉลาดคล้ายกับแมลงสาบเคยอาศัยอยู่บนดาวอังคารเมื่อหลายพันล้านปีก่อน]

[จนถึงตอนนี้การวิจัยได้สร้างกระแสโด่งดังในชุมชนวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้แสดงความเห็นกับเหตุการณ์นี้ แต่จากนักวิชาการที่ไม่ประสงค์ออกนาม หลักฐานชิ้นนี้มีแนวโน้มว่าจะเป็นจริง และงานวิจัยนี้อาจจะเปลี่ยนมุมมองกระแสหลักในเรื่องโครงสร้างธรณีวิทยาโบราณและสภาพแวดล้อมทางชีวภาพโบราณของดาวอังคาร]

เมื่อจงจื้ออวี่อ่านข่าวในหน้าจอวิดีโอ เขาอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างสะเทือนใจ

“ยอดเยี่ยมไปเลย ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าสัตว์ตัวเล็กน่ารำคาญสร้างอารยธรรมมาก่อน?”

หลังจากได้ยินที่เขาพูด ลู่โจวยิ้มให้และไม่ได้พูดอะไรตอบ

เขาเองก็รู้สึกเหลือเชื่อ

เขาไม่เคยคิดเลยว่าหินฟอสซิลที่เขาใส่ช่องกระเป๋าจะสร้างเรื่องใหญ่ขนาดนี้

เมื่อยานขับไปหลายสิบนาที ยานรีบจอดที่ท่าเทียบเรือ

ทางเดินเชื่อมต่อกันและกลุ่มคนมาถึงที่อู่ต่อเรือในอีกไม่นาน พวกเขามาถึงมิลกี้เวย์ที่ถูกดัดแปลงภายใต้การนำของวิศวกร

จงจื้ออวี่ยืนอยู่ในอาคารเทียบขนาดใหญ่และหันไปมองรอบๆ ระหว่างที่เขายิ้มให้และพูดว่า

“ผมรู้สึกว่ามันกว้างขึ้นมากกว่าครั้งที่แล้วที่ผมมา”

“มันน่าจะเป็นภาพลวงตา การปรับเปลี่ยนไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างหลักของยาน มันเป็นแค่การปรับแต่งโดยละเอียดในพื้นที่ภายใน” ลู่โจวมองดูเค้าโครงโดยรอบและพูดว่า “มันอาจจะเป็นเพราะว่าการปรับใช้พื้นที่ได้รับการพัฒนาขึ้น”

นักวิชาการหยางฉงผิงนั้นคู่ควรกับการเป็นวิศวกรนำในอุตสาหกรรมการบินดาวอังคาร ทักษะของเขาไม่อาจเทียบเท่าได้ การเลือกเขาเป็นหัวหน้าวิศวกรเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดมาก

“จริงเหรอเนี่ย? ผมนึกว่าเขาขยายขนาดยานลำนี้” จงจื้ออวี่ยิ้มและพูดต่อ “พูดถึงเรื่องนี้แล้ว วาร์ปไดร์ฟที่ยานนี้เร็วแค่ไหน?”

“ขึ้นอยู่กับว่ามวลรวมของดาวเคราะห์เป้าหมาย ระยะทาง และมวลของยานอาณานิคม” ลู่โจวคิดอยู่สักพักและพูดต่อ “ถ้าเป็นเทาเซติ มันจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน”

เอาตามตรง วาร์ปไดร์ฟที่เขาออกแบบเป็นแค่กุญแจที่ใช้เปิดช่องทางไฮเปอร์สเปซ มันไม่สามารถประเมินค่าของช่องทางได้

“ถึงเทาเซติใน 30 วัน?” สีหน้าของจงจื้ออวี่รู้สึกเปี่ยมอารมณ์เล็กน้อยระหว่างที่เขาพูดต่อ “แล้วอัลฟ่าเซนทอรี่ล่ะ?”

“ประมาณสองสัปดาห์… ทำไมล่ะ?”

จงจื้ออวี่ยิ้มด้วยความอาย เขาเกาหัวตัวเองเบาๆ

“ผมแค่ถามดูเฉยๆ… หลังจากได้ยินที่คุณพูด มันก็มีโอกาส”

ลู่โจว “…?”

โอกาสเรื่องอะไร?

ในขณะที่จงจื้ออวี่กำลังจะอธิบายแผน มีเสียงดังมาจากด้านบานของห้องโถงโล่ง

“คุณมาจริงด้วย”

ชายสองคนเงยหน้ามองพร้อมกันแต่ว่าไม่เห็นอะไร

ลำแสงโฮโลแกรมฉายลงมาจากท้องฟ้าและตกมาอยู่ตรงหน้าสองคนนี้

ลู่โจวมองดูชายหนุ่มที่ยืนตรงหน้าเขา เขารู้สึกอึ้งเล็กน้อย และเขาก็เปลี่ยนไปมีสีหน้าเคร่งขรึม

“ลอว์เรนซ์…”

“ใช่ครับ”

ลอว์เรนซ์อายุน้อยยิ้มให้และพูดด้วยเสียงนุ่มนวลแต่เยือกเย็น

“เราพบกันอีกแล้ว”

………………………………………..