ว่ากันว่านักยาเซียนที่ก้าวข้ามระดับที่เก้าและไปถึงระดับมกุฎ มีโอกาสประสบความสำเร็จในการกลั่นยาสูงสุดประมาณห้าส่วนเท่านั้น

“ท่านกำลังกลั่นยาหรือ?”

เดินออกจากสถานที่พักผ่อน สีหน้าของเทพธิดายู่หรงฟื้นคืนความเปล่งปลั่งเล็กน้อย นางอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นหลัวซิวกำลังกลั่นยา

เนื่องจากพลังของมนุษย์คนหนึ่งมีจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแดนของผลการฝึกตนสูงขึ้นเรื่อย ๆ การพัฒนาความแข็งแกร่งจึงยากขึ้นเรื่อย ๆ

ยกตัวอย่างแดนราชาเทพ หลังจากที่หลายๆ คนมาถึงราชาเทพขั้นปฐมภูมิแล้ว อาจใช้เวลาถึงล้านปีในการไปถึงราชาเทพช่วงกลาง มันยากยิ่งกว่า และก็เป็นยากมากนักที่อยากจะฝึกตนถึงราชาเทพช่วงปลาย หรือถึงระดับมกุฎเทพครึ่งก้าวยิ่งยากมาก หากไม่ใช่สุดยอดอัจฉริยะก็ยากที่จะทำได้

และเย่ห้าวหรานคนนี้ก็เป็นนักค่ายเทพที่เก่งกาจอยู่แล้ว และพลังการต่อสู้ของเขาก็น่ากลัวมาก เขายังสามารถกลั่นยาได้อีก?

ผู้แข็งแกร่งที่เก่งกาจทุกอย่างประเภทนี้ เป็นการดำรงอยู่ที่น่ากลัวเสียจริง

“ข้าเป็นผู้บำเพ็ญตนอิสระคนหนึ่ง ไม่มีอิทธิพลที่มีกองกำลังใหญ่หนุนหลัง ทรัพยากรการฝึกฝนของข้าพึ่งพาตัวเองได้เพียงอย่างเดียว ข้ากลั่นยาไม่เป็นจะมีชวิตอยู่ต่อไปได้อย่าวไหร่?”

หลัวซิวเพียงแค่ยิ้ม ไม่สนใจที่เปิดโปงเรื่องที่ตนเองกลั่นยาเป็น

“อาการบาดเจ็บชองเจ้าหายหรือยัง?”

หลัวซิวมองไปที่เทพธิดายู่หรงและรู้สึกได้ว่าออร่าชีวีบนร่างกายของนางกลับมาเป็นปกติแล้ว ซึ่งทำให้เขามองผู้หญิงคนนี้ด้วยความชื่นชม

ต้องรู้ว่าอาการบาดเจ็บที่เส้นลมปราณฉีกขาดจะฟื้นตัวยากมาก แต่เทพธิดายู่หรงใช้เวลาน้อยกว่าสองเดือนในการฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ ซึ่งแสดงว่าต้องมีความลับบางอย่างบนร่าวนาง

อย่างไรก็ตาม หลัวซิวไม่มีคิดที่จะอยากได้ความลับของคนอื่น เพราะเขามีความลับมากมายอยู่แล้ว แม้ว่าความลับที่เทพธิดายู่หรงมีนั้นจะเป็นโอกาสที่ดี แต่ก็สู้ของเขาไม่ได้

ความรู้สึกนี้เหมือนกับมหาเศรษฐีที่เผชิญหน้ากับเศรษฐี ความมั่งคั่งของอีกฝ่ายจะไม่อยู่ในสายตา

“ขอบใจท่านท่านที่ปกป้องข้า ข้าหายดีแล้ว” เทพธิดายู่หรงทำความเคารพต่อหลัวซิว

นางรู้สึกขอบใจคนๆ นี้จากก้นบึ้งของศีรษะใจ หากเป็นคนอื่น นางคาดว่านางคงถูกกลืนกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก

“ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ว่าอย่างไรพวกเรามาดาราแห่งกาลเวลาด้วยกัน” หลัวซิวพูดเรียบ ๆ

“สำหรับท่านชายเป็นเพียงการช่วยเหลือเล็กน้อย แต่สำหรับบยู่หรงเป็นการช่วยชีวิตที่ไม่สามารถลืมได้”

ขณะที่พูด หลัวซิวตบเตากลั่นยาอย่างแรงด้วยฝ่ามือ มีเสียงโครมดังขึ้น เตากลั่นยาเริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หยุดกะทันหันระหว่างการหมุนอย่างรวดเร็ว ฝาเปิดออก เม็ดยาหกเม็ดลอยออกมา

“นี่คือ…”

วินาทีที่ยาหกเม็ดลอยออกมา เทพธิดายู่หรงแสดงความหวาดกลัวอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนบนใบหน้าของนาง

ใช่ ไม่ใช่ตกใจและประหลาดใจ แต่สยองขวัญ!

เพราะนางรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่านี่คือยาเซียนระดับ 9 หกเม็ด!

เย่ห้าวหรานคนนี้เป็นนักกลั่นยาระดับ 9 ?

คุณค่าของนักยาเซียนระดับ 9 คืออะไร? นั่นเป็นบทบาทที่กองกำลังมกุฎเทพหลักทั้งหมดต่างแข่งขันกันเพื่อเกลี้มกล่อมให้ไปอยู่ฝ่ายตน!

หลัวซิวคาดไม่ถึงว่าปฏิกิริยาของเทพธิดายู่หรงจะรุนแรงขนาดนี้ เขาโบกมือย่างลวก ๆ เพื่อเก็บยา จากนั้นเก็บเตากลั่นยาเข้าไปในวงแหวนเก็บของพร้อมกัน

“ท่านชายเย่ ท่านเป็นนักยาเซียนระดับ 9 จริง ๆ หรือ?” หลังจากเทพธิดายู่หรงสยองขวัญเสร็จแล้วก็ตื่นเต้นเล็กน้อยด้วย

“ยู่หรงมีคำขอที่ไม่สมเหตุสมผลหนึ่ง ไม่รู้ว่าท่านจะตอบตกลงหรือไม่?” นางหยิบแหวนเก็บของหนึ่งออกมาและพูดว่า “ในนี้มียาเซียนระดับ 9 อยู่บ้าง ข้าอยากจะขอให้ท่านช่วยกลั่นโอสถเซียน หากท่านชายเต็มใจจะช่วย ยาที่กลั่นออกมายู่หรงต้องการเพียงสองส่วนก็พอ”