บทที่ 1463 ตัดขาดการสนับสนุน

The king of War

หยางเฉินนำกองกำลังที่มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์สามคนตรงไปยังราชวงศ์เย่ ไม่ได้แอบๆ ไปแต่อย่างใด แต่กลับมุ่งหน้าตรงไปที่ราชวงศ์เย่อย่างยิ่งใหญ่

เพื่อทำลายกองกำลังของเมืองราชวงศ์เย่ ทำให้เขารู้ว่า มีคนต้องการจะทำอะไรบางอย่างกับราชวงศ์เย่

ข่าวเรื่องที่หยางเฉินนำกองทัพและตรงไปที่ราชวงศ์เย่ ได้ลือไปทั่วเมืองทันที

“พวกนายได้ยินมาไหมว่า? มีสี่จักรพรรดิแดนเหนือมนุษย์ นำคนที่อยู่ในระดับแดนเทพชั้นยอดและผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ ตรงไปทางราชวงศ์เย่”

“ฉันได้ยินมาว่า หนึ่งในสี่จักรพรรดิแดนเหนือมนุษย์ มีคนคนหนึ่งชื่อว่าหยางเฉินใช่ไหม? เขาจะเปิดศึกกับราชวงศ์เย่งั้นเหรอ?”

“อาทิตย์ที่ผ่านมา ราชวงศ์เย่นำผู้แข็งแกร่ง และเชิญผู้แข็งแกร่งของจิ่วโจวไปที่เมืองเยี่ยนตูเดิมทีต้องการรวมพลังกับจิ่วโจว แต่ได้ยินมาว่าถูกหยางเฉินทำลาย”

……

ในเวลาเดียวกัน แต่ล่ะที่ในเมืองราชวงศ์เย่ ก็มีข่าวลือมากมายไปทั่ว และส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องจริง

ตอนนี้เป็นยุคของอินเตอร์เนติ ข่าวต่างๆ ถูกแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว เรื่องที่เกิดขึ้นในอาทิตย์ที่ผ่านมา และยังมีเรื่องที่คนของจิ่วโจวมาเข้าร่วม ทุกอย่างถูกแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว

ในเวลาเดียวกัน ณ คฤหาสน์ราชวงศ์เย่ ในวังราชวงศ์เย่ เย่หลินนั่งอยู่หัวแถว ต่อมาคือคนสำคัญในตระกูล

เย่หลินเองก็ได้ยินข่าวเรื่องหยางเฉินนำสามจักรพรรดิแดนเหนือมนุษย์ตรงมาที่ราชวงศ์เย่แล้ว สีหน้าของเขา เต็มไปด้วยความโมโห

เขารู้แค่ว่า มีพี่น้องตระกูลซ่งสองคนที่อยู่ระดับแดนเหนือมนุษย์ แต่ว่า ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์คนที่สี่ คือใคร?

สำหรับเขา การที่มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์เกินมาคนหนึ่ง สามารถมีผลต่อการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นได้

แม้ว่าราชวงศ์เย่จะมีคนคอยปกป้องคุ้มครอง แต่ผู้ที่คอยปกป้องมีกฎอยู่ว่า จะออกมาก็ต่อเมื่อราชวงศ์ถูกทำลาย

นั่นก็หมายความว่า ตอนที่เขาตาย ถึงจะเป็นตอนที่ราชวงศ์เย่ถูกทำลาย หรือจะพูดว่า กว่าผู้ที่คอยปกป้องจะออกมา ก็ต้องรอให้เขาตายไปก่อน

หากไม่จนปัญญาจริงๆ เขาเองก็ไม่อยากให้ผู้คอยปกป้องออกมา เมื่อผู้คอยปกป้องออกมา ก็หมายความว่าราชวงศ์เย่กำลังจะพังทลาย ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วราชวงศ์เย่จะได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็จะถูกคนในจิ่วโจวหัวเราะ

ตอนนี้เขาสามารถทะลวงเขาไปอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกได้แล้ว มีความมั่นใจว่าถ้าได้เจอหยางเฉินอีก ต่อให้มีสองพี่น้องตระกูลซ่ง เขาก็สามารถฆ่าหยางเฉินได้แน่

แต่ตอนนี้ มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์อีกคนหนึ่ง อยู่กับหยางเฉิน และนี่ทำให้เขารับมือได้ยาก

“ต่อไป จะเกิดการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ของราชวงศ์เย่ขึ้น อาจจะพูดได้ว่า เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายเลยก็ว่าได้”

จู่ๆ เย่หลินก็พูดขึ้นมา คำพูดนี้ ทำให้ถูกคนวิตกกังวล และคิดว่าราชวงศ์เย่กำลังจะถูกทำลาย

“แต่ว่า ทุกท่านโปรดวางใจเถอะ ตอนนี้ผม ทะลวงเข้าไปในแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกได้แล้ว อย่างมากหยางเฉิน ก็แค่อยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า ขอแค่เขากล้าเหยียบเข้ามาราชวงศ์เย่ ที่นี่ก็จะเป็นที่ฝังศพของเขา!”

คำพูดของราชวงศ์เย่ ทำให้ความหวาดกลัวของทุกคน หายไปในทันที

“สุดยอดเลย! ฝ่าบาทแข็งแกร่งขนาดนี้แล้ว ถ้าหยางเฉินกล้าเหยียบเข้ามา เขาได้ตายอย่างทรมานแน่”

“ใช่ ใช่ ใช่ ฝ่าบาทเป็นเหมือนพระเจ้าของพวกเรา ใครที่มันกล้ามีปัญหากับราชวงศ์เย่ ก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิตของมัน!”

“ฝ่าบาทจงเจริญ”

……

สักพัก ในวังค์ก็มีเสียง ชื่นชมราชวงศ์เย่ดังขึ้น

จู่ๆ เย่หลินก็กดมือลง หลังจากทุกคนเงียบ เขาพูดต่อว่า “ฉันอยากจะบอกกับพวกแกทั้งหมดว่า แม้ว่าศัตรูของเราจะแข็งแกร่ง แต่ก็อย่าไปกลัว ฉันจะเป็นคนนำผู้แข็งแกร่งที่อยู่สูงกว่าระดับแดนเทพชั้นยอด ต่อสู้กับหยางเฉินเอง ส่วนคนอื่นๆ ให้ถอยไปหลบในสุสานใต้ดินของจักรพรรดิ”

ในคฤหาสน์ราชวงศ์เย่ มีสุสานใต้ดินที่เคยฝังศพของราชวงศ์เย่ ที่นี่เป็นที่ต้องห้ามของตระกูล นอกจากฝ่าบาท ก็ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในนั้น

ในเมื่อวันนี้ สุสานจักรพรรดิใต้ดิน ถูกเปิดออกแล้ว ไม่อยากจะบรรยายเลยว่า คนของราชวงศ์เย่จะตกใจขนาดไหนเหมือนกัน

“ฝ่าบาทครับ พวกเราขอต่อสู้เคียงข้างท่านครับ!”

คนคนหนึ่งที่อยู่ในแดนเทพขั้นปลาย ก็ตะโกนออกมา

“ใช่ แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้อยู่ในระดับแดนเทพชั้นยอด แต่พวกเราก็อยากจะสู้ ไปพร้อมๆ กับท่าน”

“ฝ่าบาท พวกเราล้วนเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล เราไม่สามารถนิ่งนอนใจได้หรอก!”

……

ในขณะเดียวกัน ผู้คนที่ระดับไม่ถึงแดนเทพชั้นยอด ต่างก็พากันตะโกนออกมา ในขณะนั้นเอง กำลังใจของราชวงศ์เย่ก็ล้นหลาม

เย่หลินก็แอบพยักหน้า และพอใจอย่างมาก สิ่งนี้คือสิ่งที่เขาต้องการ โดยใช้ราชวงศ์ เพื่อเพิ่มขวัญและกำลังใจให้กับคนในราชวงศ์เย่

ในขณะเดียวกัน ในราชวงศ์เย่ ก็ดังไปด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยขวัญและกำลังใจ ในการต่อสู้

ผู้คนในเมืองราชวงศ์เย่ ต่างพากันมองไปทางคฤหาสน์ราชวงศ์เย่ พร้อมกับใบหน้า และสายตาที่มุ่งมั่น

และเห็นว่าเหนือคฤหาสน์ราชวงศ์เย่ มีเมฆดำ พร้อมกับฟ้าแลบฟ้าร้อง ราวกับว่าต้องการทำลายคฤหาสน์ราชวงศ์เย่

จิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัว ปกคลุมไปทั่วเมืองราชวงศ์เย่

แต่สิ่งที่แปลกคือ ทั้งเมืองราชวงศ์เย่ มีแค่ท้องฟ้าเหนือคฤหาสน์ราชวงศ์เย่ ที่เป็นแบบนี้

เรื่องนี้ทำให้ ทุกคนในเมืองราชวงศ์เย่เสียกำลังใจไปตามๆ กัน

“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมท้องฟ้าเหนือคฤหาสน์ราชวงศ์เย่ ถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้?”

“นี่เป็นสารเตือนจากสวรรค์ ว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นกับราชวงศ์!”

“ตกลงเกิดอะไรขึ้นในราชวงศ์? ทำไมถึงมีสารเตือนมาจากสวรรค์แบบนี้?”

ในเมืองราชวงศ์เย่ มีกองกำลังทั่วไปอีกจำนวนมาก ที่ยังไม่รู้เรื่องความบาดหมางระหว่างราชวงศ์เย่กับหยางเฉิน

แต่ในสถานการณ์แบบนี้ คนที่รู้กลับเอาแต่นิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไร ราชวงศ์เย่จะต้องเจอกับอะไร พวกเขาล้วนรู้ดี

อาทิตย์ที่แล้ว ราชวงศ์เย่อยากที่จะฆ่าหยางเฉิน แต่ไม่เพียงจะฆ่าหยางเฉินไม่สำเร็จ แต่กลับถูกหยางเฉินขัดขวางแผนการทั้งหมดของราชวงศ์เย่

ตอนนี้ สิ่งที่ราชวงศ์เย่ต้องเผชิญคือการต่อสู้กับ สามจักรพรรดิแดนเหนือมนุษย์ และยังต้องรับมือกับผู้แข็งแกร่งที่สูงกว่าแดนเทพชั้นยอดอีกด้วย

ในตอนนี้เอง ณ คฤหาสน์แห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับเมืองราชวงศ์เย่ มีชายชราผมขาวคนหนึ่ง เงยหน้ามองไปทางคฤหาสน์ราชวงศ์เย่ สีหน้าของเขา เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“พ่อ!”

“พ่อ!”

……

ในขณะนั้นเอง มีบุคคลสามคน เดินเข้ามา

จากนั้นชายชราก็มองไปทางสามคนนั้น พร้อมกับสีหน้าที่มีความสุข

“ราชวงศ์เย่กำลังจะเกิดเรื่องใหญ่ ที่ฉันเรียกพวกแกสามพี่น้องมา เพราะอยากถามความเห็นของพวกแก ว่าพวกแกคิดว่า ตระกูลถังของเรา ควรให้การช่วยเหลือราชวงศ์เย่ไหม”

ชายชรามองไปที่ลูกชายทั้งสามคน และถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

ถ้าหยางเฉินอยู่ที่นี่ ต้องจำหนึ่งในลูกชายของชายชราได้อย่างแน่นอน เพราะคนที่ยืนอยู่ริมสุดคือพ่อของถังยี่โหรว ถังปั๋ว