ตอนที่ 1674 ดุจดั่งหุบเหวลึกเคลื่อนขวาง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

เพิ่งสิ้นเสียง พวกเจ้าคางคก อาหลู่ก็อดขมวดคิ้วมุ่นไม่ได้

เจ้าเฒ่าหน้าไม่อายนัก!

พอตระหนักได้ว่าสถานการณ์ไม่เข้าทีก็ใช้อุบายอื่น พุ่งเป้าไปที่หลินสวินเพียงคนเดียว ดูคล้ายยอมถอย อันที่จริงหมายสังหารหลินสวินด้วยการเสียค่าตอบแทนที่น้อยที่สุดชัดๆ

ส่วนผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองได้ยินเช่นนั้น ดวงตาพลันทอประกายวาววับ

“หลินสวิน เจ้าตกลงหรือไม่”

อูเหิงเทียนเอ่ยถามเสียงเข้ม

ไม่รอให้หลินสวินเอ่ยปาก อาหลู่ก็อดแหกปากด่ายกใหญ่ไม่ได้ “เจ้าเฒ่า เสียทีที่เจ้าเป็นถึงหัวหน้าเผ่าอีกาทอง ไม่รู้สึกไร้ยางอายบ้างหรือ”

เจ้าคางคกเอ่ยถามตรงๆ “พี่ใหญ่ ขอเพียงเจ้าพูดประโยคเดียว พวกเราพี่น้องจะร่วมบุกฆ่าเผ่าอีกาทองพร้อมกับเจ้า ไม่จำเป็นต้องสนใจเจ้าเฒ่าสารเลวนี่สักนิด!”

พวกเซ่าเฮ่า เยี่ยเฉินล้วนพยักหน้า

“เฮอะ! บุกฆ่าหรือ พวกเจ้าจะบ้าระห่ำเกินไปหน่อยแล้ว ต่อให้เป็นระดับกึ่งจักรพรรดิ ก็ยังต้องชั่งใจถึงผลที่ตามมาของการบุกหุบเขาตะวันคล้อยของข้า”

อูเหิงเทียนสีหน้าอึมครึมเยียบเย็น “หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าขุมอำนาจที่อยู่เบื้องหลังพวกเจ้า คิดจริงๆ หรือว่าข้าอูเหิงเทียนจะยอมถอยให้ปานนี้”

เจ้าคางคกยังอยากพูดอะไรก็ถูกหลินสวินห้ามเอาไว้ สายตาเขาลุ่มลึก มองอูเหิงเทียนพลางกล่าว “ต่อสู้สามครั้ง แต่ละครั้งล้วนชนะ เจ้าจะเป็นฝ่ายส่งตัวผู้อาวุโสเทียนเชวียมาให้หรือ”

อูเหิงเทียนพูดอย่างไม่ลังเลสักนิด “ถูกต้อง! แต่จำเอาไว้ว่าต้องเป็นเจ้าต่อสู้คนเดียว อีกทั้งห้ามพูดถึงเรื่องเป็นตาย!”

หัวคิ้วพวกเจ้าคางคกขมวดมุ่น เฒ่าสามานย์นี่ยอมถอยให้เสียที่ไหน เห็นๆ อยู่ว่าตั้งใจวางแผนฆ่ากันชัดๆ

กลับเห็นสีหน้าหลินสวินสงบนิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ กล่าวเพียงว่า “เกิดเจ้ากลับคำขึ้นมาจะทำอย่างไร”

อูเหิงเทียนอดหัวเราะลั่นไม่ได้ “เจ้าหนู เจ้าออกจะดูเบาข้าอูเหิงเทียนเกินไปหน่อย เรื่องในวันนี้ก็ให้ทุกคนในที่นี้เป็นพยานก็สิ้นเรื่อง!”

‘หลินสวิน เจ้าจะตอบตกลงเขาจริงๆ หรือ’

เซ่าเฮ่าขมวดคิ้วสื่อจิต ‘เผ่าอีกาทองโหดเหี้ยมมาช้านาน ต่อสู้สามครั้ง เพื่อฆ่าเขาพวกเขาอาจไม่สนศักดิ์ศรี เป็นไปได้สูงว่าอาจส่งพวกร้ายกาจระดับราชันอริยะออกมาก็ได้’

‘ไม่เป็นไร ข้ามีแผนอยู่’

หลินสวินระบายยิ้ม

‘แต่ถ้าสุดท้ายอีกฝ่ายกลับคำขึ้นมาเล่า’

เซ่าเฮ่ายังคงไม่วางใจ

หลินสวินกล่าวด้วยสีหน้าสงบ ‘ไม่เป็นไร พี่เซ่าเฮ่าคงไม่ได้คิดว่าข้ามุ่งหน้ามาเพียงเพราะช่วยคนอย่างเดียวหรอกกระมัง’

หัวใจเซ่าเฮ่าสะท้าน ในหัวผุดความคิดอาจหาญอย่างหนึ่งขึ้นมา สายตาที่มองไปทางหลินสวินอีกครั้งก็เปลี่ยนไปจากเดิมแล้ว

เจ้าหมอนี่ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกันแน่

“ข้าตกลง เริ่มกันเลย”

หลินสวินคร้านจะพูดมากความ เหินฟ้าขึ้นไปยืนตระหง่านกลางอากาศ เงาร่างสันโดษ หว่างคิ้วสุขุมลุ่มลึก

หากสามารถเทียนเชวียออกมาได้อย่างราบรื่น นั่นย่อมดีกว่าอยู่แล้ว

หากอีกฝ่ายกลับคำ นั่นก็ย่อมไม่สลักสำคัญ

อูเหิงเทียนอดอึ้งไปไม่ได้ เขาคิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะถึงกับตกปากรับคำหน้าระรื่นปานนี้

ไม่เพียงแต่เขา แม้แต่ผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองคนอื่นๆ ต่างก็อึ้งค้างอยู่บ้าง เจ้าหมอนี่สบายใจไร้กังวลจริงๆ หรือแค่ไม่รู้จักกลัวตายกันแน่

หากไม่มีการช่วยเหลือจากมกุฎอริยะขุมอำนาจใหญ่ต่างๆ เหล่านั้น ลำพังแค่เขาคนเดียวก็คิดอยากอาศัยการต่อสู้สามครั้งนี่ไปช่วยชีวิตคนได้หรือ

เพ้อฝันชัดๆ!

ทันใดนั้นอูเหิงเทียนก็อดส่งเสียงหัวเราะเย็นชาออกมาไม่ได้ โบกมือกล่าว “เหิงไห่ เจ้าไปจัดการเจ้าหนูนี่เสีย จำไว้ อย่าได้ปรานี”

บุรุษเงาร่างล่ำสัน ผมเคราดั่งทวน มาดนิ่งขรึมทรงอานุภาพคนหนึ่งสาวเท้าก้าวออกมา นัยน์ตาสยดสยองปานแสงอสนีพลุ่งพล่าน

ทอดสายตามองจากไกลๆ เขาก็เหมือนภูเขาสูงตระหง่าน ให้ความรู้สึกสูงลิ่วไม่อาจป่ายปีน ไม่สามารถสั่นคลอนได้แก่ผู้คน!

อูเหิงไห่ ผู้แข็งแกร่งระดับมหาอริยะ หนึ่งในผู้อาวุโสอริยะเผ่าอีกาทอง ตำแหน่งทรงคุณวุฒิ ทั่วทั้งดินแดนรกร้างโบราณก็มีชื่อเสียงอย่างมากเช่นกัน ถูกขนานนามว่า ‘นักเชือดอับดับหนึ่งระดับมหาอริยะในรอบแปดร้อยปี’!

พลังต่อสู้ของคนผู้นี้ ในระดับมหาอริยะบนโลกอาจไม่ถึงขั้นชั้นหนึ่ง แต่จำนวนคู่ต่อสู้ที่ตายด้วยน้ำมือเขามีมากมาย หากเป็นที่สองในระดับมหาอริยะ ก็ไม่มีใครกล้าเป็นที่หนึ่ง

นี่ก็คือที่มาของฉายา ‘นักเชือด’!

พวกเยี่ยเฉิน หมีเหิงเจินล้วนนัยน์ตาหดรัดอย่างอดไม่อยู่ หว่างคิ้วฉายแววเดือดดาล

“อูเหิงเทียน พวกเจ้าออกจะไร้ยางอาจเกินไปแล้วกระมัง ส่งมหาอริยะที่สองมือนองเลือดออกมาจัดการระดับอริยะแท้คนหนึ่ง ยังมียางอายอยู่หรือไม่”

เย่หมัวเฮอตะโกนลั่น

อูเหิงเทียนกล่าวยิ้มในหน้า “การต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีกฎกติกาเกี่ยวกับระดับพลัง หากพวกเจ้าคิดว่าเจ้าหลินสวินนี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ เช่นนั้นก็ให้เขาเป็นฝ่ายยอมแพ้เอง ปลิดชีพไถ่โทษก็ได้”

หัวหน้าเผ่าเก่าแก่ ผู้ควบคุมหุบเขาตะวันคล้อยแดนเร้นอริยะที่สูงส่งคนหนึ่ง กลับเอ่ยคำพูดไร้ยางอายเช่นนี้ออกมา ทำเอาพวกเย่หมัวเฮอได้เปิดโลกทัศน์ยิ่ง

“นายท่านนกอย่างข้าไม่เคยเห็นพวกหน้าหนาไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน!”

เจ้านกดำเดือดดาลแล้ว มันคิดว่าตัวมันเองหน้าไม่อายสุดๆ แล้ว แต่เมื่อเทียบกับอูเหิงเทียน กลับต่างกันราวฟ้ากับเหวอย่างสิ้นเชิง

ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองเหล่านั้น ก็ราวกับว่าแม้แต่พวกเขาก็ยังคิดไม่ถึง ว่าหัวหน้าเผ่าจะส่งคนน่าสะพรึงอย่างอูเหิงไห่นี่ออกมาตั้งแต่การต่อสู้ครั้งแรก

นี่…

แสดงให้เห็นชัดเจนว่าหมายใช้พลังเด็ดขาดฆ่าหลินสวินตั้งแต่แรก!

แน่นอนว่าการวางแผนเช่นนี้เห็นชัดว่าไม่สะอาดอยู่บ้างจริงๆ แต่ขอเพียงสังหารหลินสวินได้ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเลวร้าย

เหนือความคาดหมาย ถูกปฏิบัติเช่นนี้หลินสวินก็ยังคงเยือกเย็นยิ่ง ริมฝีปากพูดเพียงสี่คำออกมาเบาๆ

“มาสู้สักตั้ง!”

ประโยคเดียวสะเทือนฟ้าดิน กลบทุกสรรพเสียงในลาน

พวกเจ้าคางคก อาหลู่ต่างตั้งท่าจะพูดแต่ก็หยุดลง รู้ว่าหลินสวินตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ในใจล้วนอดกังวลเล็กน้อยไม่ได้

มหาอริยะทั่วไป ไม่มีคุณสมบัติให้มกุฎอริยะแท้ใส่ใจก็จริง

แต่อูเหิงไห่นั่นหาใช่มหาอริยะทั่วไป แม้จะไม่ได้เหยียบย่างมกุฎมรรคา แต่ระดับของเขาก็เหยียบอยู่เหนือหัวหลินสวินได้อย่างมั่นคงแล้ว

นี่ก็กำหนดแล้วว่าการต่อสู้ครั้งแรกนี้ ยังไม่ทันเริ่มก็ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งแล้ว!

แต่ทุกคนต่างห้ามไม่ทัน เพราะหลินสวินตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว

“อยากตายนักก็จะสนองให้เจ้า!”

อูเหิงไห่ก้าวเท้าขึ้นกลางอากาศ ห้วงอากาศล้วนพังทลายอยู่ใต้แทบเท้าเขา เงาร่างของเขาประหนึ่งภูเขาสูงชันไร้ที่สิ้นสุด สูงใหญ่โอฬารมากขึ้นเรื่อยๆ

นี่คือ ‘ความยิ่งใหญ่’ ในแง่ของกลิ่นอายอย่างหนึ่ง!

เป็นอานุภาพที่เป็นส่วนหนึ่งของระดับมหาอริยะ หากเปลี่ยนเป็นอริยะแท้คนอื่นๆ มาอยู่ตรงนี้ รังแต่จะรู้สึกเล็กจ้อยไร้เรี่ยวแรงดั่งมด อย่าว่าแต่ต่อสู้เลย แม้แต่จิตวิญญาณการต่อสู้ยังอาจถูกสั่นคลอน

ตู้ม!

เมฆสิบทิศพังครืน ฟ้าดินมืดครึ้ม

ทั่วร่างอูเหิงไห่รายล้อมด้วยเพลิงเทพสีทองที่ลุกโชน กลิ่นอายพุ่งทะยานเหมือนวัวกระทิง ครอบฟ้าคลุมดิน ทำให้คนมากมายในลานต่างกลั้นหายใจ

นี่คืออานุภาพแห่งมหาอริยะอย่างแท้จริง ยิ่งใหญ่และไร้ขีดจำกัด ดุจม่านที่ปกคลุมผืนฟ้า ภูผาธาราสรรพสิ่งยามเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาล้วนเห็นได้ชัดว่าเล็กจ้อยหาใดเปรียบ

เพียงแต่ ทั้งหมดนี้ล้วนไม่อาจส่งผลต่อจิตใจหลินสวิน

เขาหยั่งถึงแก่นอัศจรรย์แห่ง ‘ความยิ่งใหญ่’ ตั้งนานแล้ว ถึงขั้นหากพูดถึงความเข้าใจที่มีต่อ ‘ความยิ่งใหญ่’ เมื่อเทียบกับผู้แข็งแกร่งที่เหยียบย่างระดับมหาอริยะส่วนหนึ่งยังอาจจะรู้ลึกซึ้งถ่องแท้มากกว่าด้วยซ้ำ

สาเหตุที่ยังไม่ได้เหยียบย่างระดับมกุฎมหาอริยะ เพราะยังขาดแค่จุดเปลี่ยนเดียวก็เท่านั้น

ฟ้าดินหดหู่ อากาศราวกับเยือกแข็ง บรรยากาศมาคุดุดันทำให้ท้องฟ้าล้วนเปลี่ยนสี

ในลาน สายตาทุกคู่ล้วนทอดมองเข้ามาอย่างประหม่า

นี่เป็นการต่อสู้ที่ไม่ยุติธรรมอย่างหนึ่ง ขณะเดียวกันก็เป็นการเข่นฆ่าที่หายากในรอบกาลนิรันดร์ด้วยเช่นกัน

คนหนึ่งเป็นอันดันหนึ่งแห่งสมรภูมิเก้าดินแดน บุคคลแห่งยุคที่ย่างมกุฎขึ้นเป็นอริยะแท้ อีกคนคืออูเหิงไห่ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘นักเชือดอันดับหนึ่งระดับมหาอริยะในรอบแปดร้อยปี’

ทอดสายตาแลทั่วทั้งดินแดนรกร้างโบราณ นี่ถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นการต่อสู้ที่สยดสยองสะท้านโลกอย่างหนึ่ง

อาภรณ์หลินสวินโบกสะบัด นัยน์ตาดำลุ่มลึกเยียบเย็น พลังอันน่าสะพรึงประหนึ่งหืนหนืดหลอมเหลวภายในกายของเขาโคจรแผ่กว้างตั้งนานแล้ว

“ตาย!”

ไม่ได้พูดพร่ำทำเพลงแต่อย่างใด อูเหิงไห่ซัดโจมตีอย่างไม่ลังเลสักนิด

เมื่อเขาโบกมือหนึ่งครา ประหนึ่งเหวี่ยงอาทิตย์ดวงใหญ่ที่ลุกไหม้ดุเดือดดวงหนึ่งขึ้นมา ดุจดั่งเทพสังหารบรรพกาล กลิ่นอายเดือดพล่านรุนแรง มีอานุภาพแห่งการหลอมผลาญจักรวาล

แข็งแกร่งนัก!

พวกเซ่าเฮ่าล้วนนัยน์ตาหดรัด โจมตีคราเดียวก็มองออกว่าแม้จะอยู่ในระดับมหาอริยะ อูเหิงไห่ก็เป็นพวกชั้นยอดคนหนึ่ง น่ากลัวถึงขีดสุด

อูเหิงเทียนอดร้องชมไม่ได้ เขามองออกแล้ว อูเหิงไห่ไม่ได้ประมาทและออมมือ หากแต่ทำอย่างที่เขาสั่งการ ใช้อานุภาพกวาดล้างอย่างสิ้นเชิง ฝีมือทรงพลังดั่งอสนีโจมตีสังหารหลินสวินในคราเดียว!

ผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองไม่น้อยต่างก็เผยสีหน้าสะท้านสะเทือนออกมา

ในดินแดนรกร้างโบราณ การเข่นฆ่าของระดับมหาอริยะนั้นหายากอย่างยิ่ง ต่อให้ในฐานะคนร่วมเผ่า ในหมู่พวกเขาส่วนใหญ่ก็ไม่เคยเห็นฝีมือของอูเหิงไห่ เพราะฉะนั้นจังหวะแรกจึงถูกทำให้สะท้านสะเทือน

ตู้ม!

เผชิญหน้าการโจมตีนี้ รอบตัวหลินสวินพลันปรากฏหุบเหวลึกขึ้นมา กลืนฟ้าขย้อนดิน ปิดครอบสิบทิศ

ห้วงอากาศล้วนระเบิดกระจุบกระจาย พลังความว่างเปล่าโดยรอบละแวกใกล้เคียงต่างถูกดูดกลืนจมหาย ทำให้จุดที่หลินสวินยืนอยู่ ราวกับกลายเป็นหลุมดำ!

ยามเมื่อฝ่ามือนี้ของอูเหิงไห่ตบเข้ามา พลังฝ่ามือที่พร่างพราวตาดุจอาทิตย์ดวงใหญ่นั่น เมื่อเสียงชนกระแทกดังกระหึ่มสั่นสะเทือนแก้วหู ก็ระเบิดกระจุยกระจายฉับพลัน กลายเป็นเปลวเพลิงละอองแสงเดือดพล่าน ถูกหุบเหวลึกที่อยู่รอบตัวหลินสวินกลืนกินจนไม่เหลือเศษซาก

คัมภีร์กลืนกินไร้สิ้นสุด!

เจ้าแห่งกายสิทธิ์อาศัยคัมภีร์มรรคสูงสุด เคลื่อนขวางปวงสวรรค์ กรำศึกความว่างเปล่าโดยรอบ ใช้หุบเหวกลืนกินเป็นรากฐาน วิวัฒน์กำเนิดวิชาชั้นยอดอดีตกาล

ณ จังหวะนี้ เวลานี้ เบื้องหน้าหุบเขาตะวันคล้อย ระเบิดปะทุอานุภาพน่าสะพรึงไร้ที่สิ้นสุด!

“นี่……”

พวกเซ่าเฮ่าต่างพากันสะท้านสะเทือนใจ ไม่เจอกันครึ่งปี หลินสวินแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้มากโข นี่เหมือนคนละคนชัดๆ!

อูเหิงเทียนหน้าเปลี่ยนสีน้อยๆ พลังแห่งมกุฎของระดับอริยะแท้ถึงกับพลิกฟ้าปานนี้เชียวหรือ

ควรรู้ว่าอูเหิงไห่หาได้ปรานีแต่อย่างใด ที่งัดออกมาใช้คือพลังระดับมหาอริยะแท้ แต่ก็ยังคงถูกซัดสะเทือนปานกระดาษว่าวอยู่ดี!

และผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองเหล่านั้นพากันลูกตาเกือบกลิ้งหลุดออกมา เคยได้ยินมานานแล้วว่าหลินสวินพลังต่อสู้พลิกฟ้า ดุจดั่งมารปีศาจแห่งยุค ได้เห็นเองวันนี้ พวกเขาจึงค้นพบว่าเจ้าหมอนี่แข็งแกร่งยิ่งกว่าคำร่ำลือเสียอีก เหนือจินตนาการชัดๆ

“ฆ่า!”

สีหน้าอูเหิงไห่ก็เปลี่ยนไปน้อยๆ เช่นกัน แต่เขาเคยโรมรันฟันฆ่ามาช้านาน ซัดหนึ่งฝ่ามือออกไปอีกครั้งอย่างไม่ลังเลแต่อย่างใด

วู้ม!

ชั่วขณะนั้น ตะวันพันดวงห้อทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า หมายจะผลาญฟ้าดับทำลายดิน ภูผาธาราละแวกใกล้เคียงล้วนปะทุฉับพลัน กลายเป็นเถ้าถ่านจางหายไป

ห้วงอากาศล้วนถูกหลอมละลาย เป็นรูพรุนยับเยิน

มรดกตกทอดสูงสุดของเผ่าอีกาทอง…พันตะวันผลาญฟ้า!

และเวลานี้เอง เงาร่างหลินสวินเริ่มเคลื่อนขยับ ดุจดั่งหุบเหวลึกมหาห้วงอากาศเคลื่อนขวาง ฟ้าดินล้วนพังครืน บิดเบี้ยวเมื่อการย่างก้าวของเขา เกิดเสียงระเบิดน่าสะพรึง

อานุภาพเผด็จการไร้ขีดจำกัดนั่น ราวกับเทพแห่งการทำลายล้างเคลื่อนทัพชัดๆ

เพียงแค่ชั่วพริบตา ตะวันนับพันดวงก็แตกระเบิดออกบนถนนเบื้องหน้าหลินสวินดวงแล้วดวงเล่า พลังที่บรรจุอยู่ในอาทิตย์แต่ละดวงล้วนเพียงพอจะสังหารอริยะแท้คนหนึ่งได้เลย แต่อยู่ต่อหน้าหลินสวิน กลับเสมือนฟองอากาศที่แตกสลายไปทีละฟอง

เห็นได้ชัดว่าไม่เอาไหนและอ่อนปวกเปียกถึงเพียงนั้น!

ชั่วขณะนั้น อาทิตย์ดวงใหญ่ระเบิดกระจายกลางฟ้าดิน เสียงก้องกระหึ่มไม่ขาดสาย เปลวเพลิงลุกโหมไหลเวียนเดือดคลั่ง ฉายภาพเหตุการณ์น่าสยดสยองสะท้านโลก

และหลินสวิน ดุจดั่งหลุมดำในภาพวาด มุ่งเดินหน้าตลอดทาง กลืนกินกระแสเดือดเพลิงเทพทั้งหมด!

——