ตอนที่ 2839 อาจารย์ดีๆ นั้นไม่มีศิษย์ไร้ความสามารถ!
เมื่อวางมือลงหยุนซานก็ต้องหันไปมองเย่หยวนที่ยืนอ้าปากค้างอยู่ด้วยความสะใจ
‘ใครสั่งให้เจ้ามาทำพ่อเจ้าตกใจเช่นนั้น? เวลานี้พ่อเจ้าจะขอเอาคืนบ้างแล้ว!’
มีฝีมือแค่นี้เจ้าก็ไม่คิดเห็นหัวคนอื่นแล้ว?
คิดว่าปรมาจารย์โอสถสวรรค์โกลาหลนั้นมันเล่นหัวด้วยได้?
เหนือจากนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับเก้าไปนั้นมันคือปรมาจารย์โอสถสวรรค์โกลาหล!
เปลี่ยนจากคำว่านักหลอมกลายเป็นปรมาจารย์มันย่อมจะชัดเจนแล้วว่านักหลอมโอสถสวรรค์ระดับเจ้าโลกนั้นแตกต่างจากนักหลอมโอสถสวรรค์ทั่วไปแค่ไหน
เมื่อขึ้นมาถึงระดับเจ้าโลกแล้วการควบคุมยอดเต๋ามันก็อยู่ที่ปลายนิ้ว แตกต่างจากโอสถทั่วๆ ไปสิ้นเชิง
เหนือฟ้าใต้สวรรค์นี้มันไม่มีใครที่จะอ่อนแอ!
สำหรับเหล่าปรมาจารย์โอสถสวรรค์โกลาหลทั้งหลายนั้นพวกเขาสามารถหลอมได้แม้แต่คนเป็นๆ ฝีมือของพวกเขานั้นมันเหนือล้ำจนน่ากลัว
แต่ว่าเจ้าโลกหยุนซานนั้นเองก็รู้สึกผิดไม่น้อย
การลงมือของเขานั้นมันอาจจะดูเหนือล้ำแต่ว่ามันก็สร้างความเหน็ดเหนื่อยให้ร่างแยกของเขามาก
เพื่อที่จะกดดันเย่หยวนให้ยอมรับนี้เขาต้องทุ่มกำลังของร่างแยกทั้งหมดออกมา
“ไอ้หนู เจ้ายอมรับหรือยัง?” หยุนซานถามขึ้น
เมื่อได้ยินคำถามนั้นเย่หยวนจึงได้สติกลับมามองดูหยุนซานอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
ที่แท้ปรมาจารย์โอสถสวรรค์โกลาหลมันกลับเก่งกาจได้ล้ำฟ้าปานนี้!
เจ้าโลกหยุนซานนั้นทำการแจงเต๋าออกมาอย่างแตกต่างไปสิ้นเชิงจากการแจงเต๋าของเย่หยวน
การแจงเต๋านี้มันเหมือนการถามคำตอบ เย่หยวนนั้นทำออกมาตามปกติแต่นอกจากหยุนซานจะตอบคำถามแล้วเขายังเชื่อมโยงมันเข้าสู่หัวข้อใหญ่ไปอีกด้วย!
นี่มันแตกต่างกันสิ้นเชิง!
ในเต๋าโอสถนั้นเย่หยวนคิดมาเสมอว่าตัวเองจะไม่แพ้ให้ใครแต่วันนี้เขากลับยอมรับหมดใจถึงความพ่ายแพ้แล้ว
ช่องว่างนี้มันใหญ่เกินไป!
“ไอ้หนู เจ้ามีพรสวรรค์มาก บางทีวันหนึ่งเจ้าอาจจะก้าวขึ้นมาถึงระดับของข้าก็ได้! แต่เต๋าโอสถนั้นมันไร้สิ้นสุด มีคนแนะนำให้มันย่อมจะดีกว่าไม่มีมิใช่หรือ?” เจ้าโลกหยุนซานถามขึ้นมา
เย่หยวนสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะเดินมากราบลงหน้าจั่วเฉิน “เป็นอาจารย์วันเดียวก็ถือเป็นอาจารย์ชั่วชีวิต! จากนี้ไปท่านก็จะยังเป็นอาจารย์ของข้า เย่หยวนคนนี้!”
เย่หยวนนั้นไม่เคยกราบอาจารย์ในวิชาการโอสถมาก่อน
หากกราบเป็นอาจารย์แล้วเย่หยวนก็ย่อมจะไม่เตะเขาทิ้งเมื่อหมดประโยชน์แน่นอน
แม้ว่าพวกเขานั้นจะไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบศิษย์อาจารย์กันอย่างแท้จริงแต่ว่าจั่วเฉินและเขานั้นก็เป็นศิษย์อาจารย์กันในนามไปแล้ว
เวลานี้การที่เขาจะไปกราบหยุนซานเป็นอาจารย์และให้จั่วเฉินมาเรียกเขาว่าเป็นปรมาจารย์นั้นเย่หยวนไม่อาจจะรับไว้ได้
จั่วเฉินนั้นพยักหน้ารับด้วยลมหายใจติดขัด “ไอ้หนู แค่คำพูดนี้ของเจ้ามันก็มากเกินพอแล้ว!”
ได้เห็นฝีมือและพรสวรรค์ของเย่หยวนนั้นจั่วเฉินก็ไม่กล้าจะทำตัวเหนือล้ำเป็นยอดคนใดๆ อีกแล้ว
การได้รับเย่หยวนเป็นศิษย์นั้นมันมิใช่บุญของเย่หยวนแต่เป็นบุญของเขา!
ได้เห็นเช่นนั้นตัวเจ้าโลกหยุนซานเองก็อดพยักหน้ารับขึ้นมาด้วยไม่ได้
เพราะดูท่าแล้วเหตุผลที่เย่หยวนไม่ยอมกราบเขาเป็นอาจารย์มันคงมิใช่แค่เพราะความโอหังอวดดีอย่างเดียว
ความรู้สึกผิดต่อจั่วเฉินนั้นคงมีส่วนด้วยอย่างมาก
เจ้าเด็กคนนี้มันมีนิสัยที่ยอดเยี่ยม!
เจ้าโลกหยุนซานนั้นให้ค่าเย่หยวนมากขึ้นไปกว่าเก่าเมื่อได้เห็นเช่นนี้
เมื่อก้มกราบจั่วเฉินครบสามครั้งแล้วเย่หยวนก็เดินมาหยุดหน้าเจ้าโลกหยุนซานก่อนจะก้มหัวลงคารวะสามครั้ง “ศิษย์เย่หยวนกราบคารวะอาจารย์!”
“ฮ่าๆ เยี่ยม! ศิษย์ที่ดี! ปกติแล้วเมื่อข้าคิดรับศิษย์ข้าย่อมจะต้องประกาศให้โลกหล้ารับรู้ ให้ยอดคนจากทั่วฟ้ามาร่วมเฉลิมฉลอง! แต่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้มันไม่สงบสุข เพื่อความปลอดภัยของเจ้านั้นเราต้องทำการโดยเงียบ! เผ่าเลือดนั้นมันมียอดฝีมือมากมายแฝงตัวมาในเขตแดนสวรรค์สมบูรณ์ หากมันรู้ถึงตัวตนของเจ้าเข้าแล้วชีวิตของเจ้าคงตกที่นั่งลำบากแน่! เพราะฉะนั้นเจ้าต้องระวังตัวไว้ให้มาก เข้าใจหรือไม่?” เจ้าโลกหยุนซานนั้นกล่าวเตือน
เย่หยวนพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
เจ้าโลกหยุนซานกล่าวขึ้นต่อ “ในเมื่ออาจารย์รับเจ้าเป็นศิษย์แล้วข้าย่อมจะต้องมอบของขวัญให้แก่เจ้าด้วยเป็นการรับเข้าสำนัก นี่เจ้าเองก็กำลังจะบรรลุระดับลึกล้ำในไม่ช้าแล้ว ข้าจะถือโอกาสนี้แสดงให้เจ้าได้เห็นว่าระดับลึกล้ำนั้นมันคืออะไร เจ้าจะได้ทำความเข้าใจได้ง่ายและบรรลุขึ้นไปอย่างรวดเร็ว!”
พูดจบเจ้าโลกหยุนซานนั้นก็ขยับแขนเริ่มทำการหลอมดอกบัวทองเปล่ากลางอากาศ
เย่หยวนนั้นต้องเบิกตากว้าง นี่ปรมาจารย์โอสถสวรรค์โกลาหลทั้งหลายหลอมสมุนไพรสวรรค์กันเช่นนี้?
ไม่นานจากนั้นเขาก็จ้องมองไปยังดอกบัวทองเปล่าด้วยกายและใจอย่างสุดตัว
เขาค่อยๆ เห็นว่าดอกบัวทองเปล่านั้นมันกลายเป็นเม็ดโอสถไปต่อหน้าต่อตา!
พร้อมๆ กันนั้นรอบๆ โอสถนั้นมันก็มีคลื่นพลังที่สุดแสนลึกล้ำอยู่
เย่หยวนเบิกตากว้างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้เห็น
เขานั้นเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจไปพร้อมๆ กัน
มันเหมือนกับว่ามีปราสาทลอยอยู่กลางฟ้า
เขานั้นรู้สึกว่าคอขวดของเขาในตอนนี้มันถูกบรรลุผ่านไปได้แล้ว!
แต่แน่นอนว่าเขายังไม่บรรลุจริงๆ
แต่ว่าเขานั้นก็ได้เห็นถึงระดับลึกล้ำผ่านช่องแคบๆ ไปแล้ว
การหลอมของหยุนซานนั้นไม่ได้เกิดขึ้นมั่วๆ แต่เกิดขึ้นมาอย่างมีลำดับและเป้าหมาย
เขานั้นทำตามรูปแบบการแจงเต๋าของเย่หยวนและค่อยๆ ชี้นำให้เย่หยวนก้าวผ่านไปด้วยตัวเอง
เขานั้นไม่ได้จูงจมูกเย่หยวนแต่แค่ปรับทิศทางสายน้ำให้เขาไหลไปตามธรรมชาติ
เพราะเต๋าของเย่หยวนนั้นก็คือเต๋าของเย่หยวน มันไม่เกี่ยวอะไรกับเขา
ไม่นานนักมันก็เกิดโอสถที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาขึ้นมาตรงหน้าเย่หยวน
“เข้าใจหรือยัง?” หยุนซานถาม
“เข้าใจแล้ว!” เย่หยวนสูดหายใจเข้าลึกก่อนตอบกลับไป
“เข้าใจอะไร?”
“ระดับลึกล้ำนั้นมันก็เป็นเต๋า! แต่ว่ามันก็คือส่วนขยายของเต๋า! สายน้ำที่ไหลไปนั้นมันย่อมจะไหลไปได้แค่ตามคลอง!”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยุนซาน
เจ้าเด็กคนนี้มันเป็นสัตว์ประหลาดโดยแท้!
สำหรับนักหลอมโอสถสวรรค์ทั่วๆ ไปแล้วฝีมือความสามารถที่เหนือล้ำโลกของหยุนซานนี้มันจะทำให้พวกเขาทั้งหลายต้องอ้าปากค้างไม่อาจตั้งสติได้!
เพราะนี่มันเป็นถึงฝีมือของปรมาจารย์โอสถสวรรค์โกลาหล!
คนทั่วๆ ไปนั้นย่อมจะไม่อาจตั้งสติกลับมาได้
ไม่เห็นหรือว่าจั่วเฉินนั้นเองจนตอนนี้ก็ยังอ้าปากค้างอยู่อย่างไม่ได้สติ?
แต่เย่หยวนนั้นไม่ได้เป็นเช่นนั้น!
เด็กหนุ่มคนนี้มีจิตใจที่หนักแน่นมั่นคง รู้ดีว่าต้องการอะไรและต้องทำอย่างไรถึงจะได้มันมา!
แม้ว่าเย่หยวนจะตกตะลึงแค่ไหนเขาก็ไม่ได้ถึงขั้นสติหลุดและยังมองดูการหลอมได้อย่างไม่พลาดรายละเอียดใดๆ
เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงเข้าใจ!
เข้าใจว่าระดับลึกล้ำมันคืออะไร!
ส่วนเรื่องการบรรลุจริงๆ นั้นมันคงเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายหลังจากนี้
หลังจากเย่หยวนไปถึงนิกายยาสุดล้ำและเข้าห้องสมุดคัมภีร์ไปเขาคงสามารถบรรลุได้แทบจะในทันที
หากมิใช่เพราะคำชี้แนะนี้เย่หยวนอาจจะต้องเสียเวลาศึกษาในห้องสมุดคัมภีร์ไปนับสิบปีก่อนที่จะบรรลุคอขวดนี้ไปได้ บางทีอาจจะนานกว่านั้น!
ระดับแท้ไประดับลึกล้ำนั้นมันยากเย็นเกินคาดเดา!
มหาจักรพรรดิหลายคนนั้นเองก็ยังไม่อาจจะก้าวข้ามระดับนี้มาได้ แต่เย่หยวนนั้นเป็นแค่จักรพรรดิเซียนคนหนึ่ง
การมาถึงคอขวดไม่ได้หมายความว่าใครจะบรรลุได้ หลายต่อหลายคนนั้นติดอยู่ที่คอขวดจนวันตายก็มีมากมาย
การบรรลุได้ในสิบปีนี้มันก็เพราะว่าเย่หยวนนั้นเป็นยอดอัจฉริยะที่ไม่เคยปรากฏขึ้นบนฟ้าดินมาก่อน
มหาจักรพรรดิหลายๆ คนติดอยู่ที่จุดนี้เป็นพันๆ ปี!
แน่นอนว่าเย่หยวนเองก็ตกตะลึงสุดใจเช่นกัน
การกราบอาจารย์ครั้งนี้มันคงไม่ผิดพลาดแน่แล้ว!
เพราะเจ้าโลกหยุนซานนั้นเป็นครูที่เก่งกาจ!
การสั่งสอนของเขานั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะแค่ตัวเองเก่งกาจเท่านั้น ต่อให้ตัวเองจะเก่งแค่ไหนมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะสั่งสอนศิษย์ให้เก่งได้…
บางคนเก่งกาจล้ำฟ้าแต่ศิษย์ในสำนักพวกเขานั้นกลับมีแต่ขยะสุดแสนอ่อนแอ
แต่บางคนนั้นไม่ได้มีฝีมือล้ำฟ้าดินแต่กลับมีศิษย์ที่ประสบความสำเร็จทั่วฟ้าดิน
การรู้วิชาและการรู้ที่จะสอนวิชานั้นมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เจ้าโลกหยุนซานนั้นนอกจากจะมีพลังบ่มเพาะสูงส่งแต่ยังมีความสามารถในการสั่งสอนที่หาใครเปรียบ
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมศิษย์ของเขาอย่างโจวซ่งฉวนนั้นถึงขึ้นมาเป็นปรมาจารย์โอสถสวรรค์โกลาหลได้ด้วย!
การสั่งสอนเล็กๆ น้อยของเขานี้ย่นเวลาฝึกตัวของเย่หยวนไปได้สิบปี นี่มันมิใช่สิ่งที่คนทั่วๆ ไปทำได้
“เอาล่ะ เรื่องมันก็คงจบกันเท่านี้แล้ว ข้าต้องกลับไปก่อนแล้ว ศึกทางใต้นั้นรุนแรงร่างแยกของอาจารย์เองก็ออกมานานไม่ได้เช่นกัน เจ้าจงไปที่นิกายยาสุดล้ำและเข้าหอสุดแสงก่อนเถอะ ทางนั้นซ่งฉวนคงเตรียมเรื่องไว้ให้เจ้าแล้ว เส้นทางที่เหลือนั้นเจ้าคงเดินต่อไปเองได้ เมื่อเจ้ามาถึงเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ข้าจะช่วยสั่งสอนให้เจ้าอีกครั้ง”
เย่หยวนนั้นรู้สึกซาบซึ้งขึ้นในใจเพราะว่าการมาของเจ้าโลกหยุนซานนี้มันถือเป็นการเสี่ยงอย่างมาก
เมื่อแยกร่างออกมาระหว่างสงครามมันย่อมจะเท่ากับการตัดกำลังตัวเอง
หากไปเจอศัตรูเก่งๆ เข้าแล้วมันก็อาจจะถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสได้
“ขอบพระคุณท่านอาจารย์หยุนซาน!” เย่หยวนกล่าว
หยุนซานนั้นยิ้มตอบ “เจ้าหนู อย่าได้ทำให้อาจารย์เจ้าผิดหวัง! การเดินทางครั้งนี้ไม่เสียเปล่าแล้ว!”
พูดจบร่างแยกนั้นของหยุนซานก็พุ่งตัวหายลับฟ้าไปทันที
เย่หยวนนั้นเดินไปเขย่าร่างของจั่วเฉินจนทำให้เขาสะดุ้งตัวขึ้นมา “บรรพบุรุษหยุนซานท่าน…ไปแล้ว?”
เย่หยวนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยหน้าเครียด “เลิกคิดถึงการหลอมนั้นเสีย! ไม่เช่นนั้นมันจะเป็นอันตรายต่อหัวใจเต๋าของท่าน!”
จั่วเฉินต้องอ้าปากค้างขึ้นมา!
………………….