หลัวซิวไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับเขตห้ามกาลเวลา เพียงแค่ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในขณะที่ฉียู่หรงรู้มากกว่าเล็กน้อย นางอธิบายว่า “เขตห้ามกาลเวลาถูกกฎเวลาปกคลุม สถานที่บางแห่งอันตรายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎเร่งเวลาน่ากลัวมากที่สุด ทันทีที่สัมผัสอายุขัยก็จะหายไปด้วยความเร็วที่เร็วมาก”

กฎแห่งการเร่งเวลาอธิบายได้ไม่ยาก คือการเร่งการไหลของเวลาในพื้นที่คงที่ เป็นไปได้ว่าความคิดของเจ้ายังคงหยุดอยู่ในขณะนี้ แต่ภายใต้อิทธิพลของกฎเร่งเวลา เวลาได้ล่วงเลยมาเนิ่นนานแล้ว

ยิ่งกว่านั้น ภายใต้อิทธิพลของกฎเวลา เมื่อเข้าสู่เขตห้ามกาลเวลาก็จะหลงทาง ดาราแห่งกาลเวลาปรากฏขึ้นมาสองครั้ง ผู้ที่เคยเข้าไปในนั้นไม่เคยออกมาอีกเลย

ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้คนมากมายที่เข้าไปสำรวจไม่หยุด เพราะยิ่งอันตรายมากเท่าไหร่ โอกาสก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น การที่ผู้ที่แข็งแกร่งทุกคนจะเติบโตขึ้นมานั้นไม่ได้สะสมมาจากตบะฝึกตนและทรัพยากรแต่อย่างใด แต่เป็นการแสวงหาโอกาสและการฝ่าฟันอุปสรรคระหว่างขอบแขตความเป็นและความตายแล้วครั้งเล่า ในโลกนี้ ไม่มีเรื่องดีใด ๆ ที่จะได้มาโดยเปล่าประโยชน์ และโอกาสบนเส้นทางแห่งนักยุทธ์ ล้วนต้องต่อสู้ด้วยชีวิตของตน

เขามองไปที่ฉียู่หรงข้างๆเขา เห็นว่าสีหน้าของนางดูลังเลเล็กน้อย เพราะไม่เคยมีใครมีชีวิตรอดออกมาจากเขตห้ามกาลเวลาได้ สำหรับคนที่ค่อนข้างอ่อนแอเช่นนาง โอกาสที่จะมรณภาพเมื่อเข้าไปจะสูงมาก

เมื่อหลัวซิวคิดว่านางจะเลือกที่จะล่าถอย คาดไม่ถึงว่านางเพียงลังเลเล็กน้อย จากนั้นจึงเดินไปยังทิศทางของเขตห้ามกาลเวลา

หลัวซิวไม่ได้พูดอะไร ทุกคนมีทางเลือกของตัวเอง

หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองคนก็ได้เข้าสู่บริเวณเขตห้ามกาลเวลาแล้ว ภายใต้อิทธิพลของกฎเวลาที่แพร่หลาย ห้วงเวลาบิดเบือน และการรับรู้ทั้งหมดได้รับผลกระทบ ซึ่งทำให้รู้สึกอึดอัดใจมาก

“ตัวสำนึกของข้าสามารถขยายได้เพียงสิบกว่าเมตรเท่านั้น” ฉียู่หรงขมวดคิ้วเล็กน้อย ช่วงของตัวสำนึกถูกบีบอัดให้เล็กมากและเป็นการยากที่จะตอบสนองอย่างรวดเร็วหากมีอันตราย

เมื่อหลัวซิวเข้ามาครั้งแรก เขาก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเช่นกัน แต่เขาก็ฝึกฝนกฎเวลาด้วย และเขาก็คุ้นเคยกับมันอย่างรวดเร็ว ตัวสำนึกยังคงขยายออกไปด้านนอกอย่างต่อเนื่อง และขยายออกไปหลายร้อยลี้

“ดูเหมือนว่าแม้ข้าจะฝึกฝนกฎเวลา การปราบปรามที่ได้รับก็ไม่น้อย” หลัวซิวขมวดคิ้ว ภายใต้สภาวะปกติ ตัวสำนึกของเขาสามารถขยายออกไปได้หลายพันลี้

ในเวลาเดียวกัน หลัวซิวรู้สึกได้ถึงการสั่นไหวชิ้นส่วนใจแห่งศุภรอีกครั้งในห้วงจักรหยั่งรู้ ดูเหมือนว่ามีชิ้นส่วนอื่น ๆ ในเขตห้ามกาลเวลา ซึ่งสะท้อนกลับมา

“อยู่ที่นี่!”

ทันทีที่เขารู้สึกถึงเสียงสะท้อน หลัวซิวก็ล็อคทิศทางหนึ่งและจะเดินไปทางนั้นทันทีอย่างอดใจรอไม่ไหว

จู่ ๆ หลัวซิวก็เร่งฝีเท้าเร็วขึ้น ซึ่งทำให้ฉียู่หรงที่อยู่ข้างๆ สงสัยเล็กน้อย ทันใดนั้น ปริภูมิบิดเบือนแผ่กระจายไปทั่ว

ความรู้สึกที่อันตรายอย่างยิ่งเกิดขึ้นในใจของเขา ทำให้หลัวซิวล่าถอยอย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณ พร้อมกันนี้ เขาก็ไม่ลืมที่จะดึงมือของฉียู่หรงพานางถอยกลับไปด้วยกัน

“เกิดอะไรขึ้น?” สีหน้าของฉียู่หรงก็เปลี่ยนไปเช่นกัน นางรู้สึกได้ถึงความกังวลใจของหลัวซิว และเรื่องที่ทำให้เขากังวลใจมากเช่นนี้ ต้องมีบางสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้นแน่

ปริภูมิที่บิดเบือนนั้นแพร่กระจายเร็วมาก แม้ว่าคงามเร็วของหลัวซิวจะเร็วถึงขีดจำกัดแล้ว แต่ไหล่ซ้ายของเขาก็ถูกส่องเล็กน้อย

เห็นเพียงว่าแขนซ้ายของเขาลีบลงและชราลงอย่างรวดเร็วจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และในไม่ช้าก็เหี่ยวย่นเหมือนเปลือกไม้แก่เหี่ยวๆ