ตอนที่ 1760: ตงเทียน

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1760: ตงเทียน

ขั้นเหนือเทพไม่สามารถต่อสู้กับพายุได้ แม้แต่ขั้นเหนือเทพช่วงปลายก็ไม่ต่างจากมดตรงหน้า ไม่ว่าพวกเขาจะต่อสู้อย่างไร ไม่ว่าพวกเขาจะต่อต้านอย่างไรก็ไร้ประโยชน์

ในที่สุดพายุก็ผลักพวกเขาออกจากมิติและขั้นเหนือเทพก็หายไปต่อหน้าต่อตาพวกเขาทั้งหมด

ทันใดนั้นเสียงต่าง ๆ ก็เงียบลง ขั้นเหนือเทพคนอื่น ๆ ก็เบิกตากว้างเมื่อพวกเขาจ้องชายผู้อยู่เบื้องหลังของชายหนุ่มด้วยความตกใจ จิตใจของพวกเขาปั่นป่วน

แม้แต่บรรพชนของครอบครัวโม่ที่ยึดเอาวัตถุเทพที่ชำรุดของเจี้ยนเฉินก็ตกตะลึง เขากลัวและเขาก็โล่งใจอย่างลับ ๆ ว่าเขาไม่ใช่คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดเพื่อหยุดชายหนุ่ม

ขั้นเหนือเทพที่ปลิวจากการโบกมือ นั่นแม้แต่ขั้นเหนือเทพช่วงปลายก็ยังยากที่จะยืนได้ มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน

“ราชาเทพ เขาต้องเป็นราชาเทพ มีเพียงราชาเทพที่ทำให้ขั้นเหนือเทพช่วงปลายยังต้องลำบาก…”

“แม้แต่ขั้นเหนือเทพหลายคนก็ไม่สามารถต้านทานคลื่นลมจากการโบกมือง่าย ๆ ได้ อาจเป็นไปได้ว่าแม้กระทั่งขั้นเหนือเทพอันดับต้น ๆ ก็ไม่อาจยืนได้ เขาเป็นราชาเทพ เขาเป็นราชาเทพแน่นอน…”

“สวรรค์ จริง ๆ แล้วเขามีผู้คุ้มกันเป็นราชาเทพ เบื้องหลังชายหนุ่มนี้น่ากลัวแค่ไหน….”

ทุกคนจ้องมองไปที่ชายหนุ่มและชายกำยำด้วยสายตาที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขากลัวชายหนุ่มเพียงเล็กน้อย แต่ตอนนี้พวกเขารู้สึกกลัว มันเป็นความรู้สึกหวาดกลัวที่พวกเขาไม่เคยประสบมาก่อน

ชายหนุ่มเดินต่อไป ทำให้เขาออกไปพร้อมกับเจี้ยนเฉินที่บาดเจ็บ เขาไม่แปลกใจหรือตกใจสิ่งที่ลุงฉินทำเท่ากับบรรดาขั้นเหนือเทพ หลายครั้งที่การโบกมือของเขาก็เป็นอย่างที่เขาคาดหวังไว้

“ข้าจะออกไปแล้ว หากเจ้ายังต้องการตัวเจี้ยนเฉิน เจ้าต้องรีบ ๆ หน่อย” ชายหนุ่มยิ้มหน้าระรื่น ขณะที่กวาดตามองใบหน้าทุก ๆ คนอย่างช้า ๆ

ไม่มีขั้นเหนือเทพแม้แต่คนเดียวที่กล้าจะพูดอะไร แต่พวกเขากลับเปิดเส้นทางอย่างรวดเร็ว เมื่อชายหนุ่มก้าวเข้ามา พวกเขาไม่เต็มใจนัก พวกเขาไม่กล้าแสดงออกความไม่พอใจผ่านทางใบหน้า รวมทั้งกลัวว่าจะทำให้ชายหนุ่มขุ่นข้องหมองใจ

ชายหนุ่มออกไปกับเจี้ยนเฉินได้ตามปกติ แม้ว่าขั้นเหนือเทพจะไม่ยอม แต่พวกเขาก็ไม่อาจทำอะไรได้

“วิญญาณยังไม่ออกมา ทุกคนป้องกันที่นี่ เมื่อวิญญาณออกมา ทำลายนางทันที นางไม่อาจหนีไปได้หลังจากทำเช่นนั้น” ขั้นเหนือเทพช่วงต้นกล่าวทันทีหลังจากที่ชายหนุ่มจากไป

ดวงตาของขั้นเหนือเทพรอบ ๆ นั้นเบิกกว้างทันที พวกเขาเฝ้าดูสถานที่ขณะที่พวกเขาโจมตีชั้นพลังของกฏเพื่อให้มันหมดพลังเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่รั้งอยู่ มีขั้นเหนือเทพที่บาดเจ็บสองสามคน พวกเขารู็ว่าไม่อาจได้รับประโยชน์ใด ๆ หากพวกเขายังอยู่ต่อ พวกเขาจึงจากไปโดยไม่คิดซ้ำสอง

บรรพชนครอบครัวโม่ก็ไม่ได้อยู่เช่นกัน เขาออกจากกระท่อม เขาได้รับวัตถุเทพที่เสียหายแล้วและพอใจกับสิ่งที่เขาได้รับ เขาไม่ต้องการมีส่วนร่วมกับการต่อสู้ที่กำลังมาถึง

ในตอนนี้ร่างเงาของนางฟ้าเฮายู่ปรากฏอยู่เหนือซากศพของราชาเทพต้วนมู่ที่อยู่ภายใต้การปกคลุมของกฏ มีกฏทองที่ไม่สมบูรณ์อยู่ในหัวของราชาเทพต้วนมู่ พลังงานที่แผ่ออกมาจากมันไหลเข้าสู่วิญญาณของนางฟ้าเฮายู่อย่างไม่หยุดเหมือนลำธารเล็ก ๆ ทำให้วิญญาณของนางเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

ยังมีพลังบางอย่างของราชาเทพที่อยู่ในซากศพซึ่งมันไม่ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ หลังจากผ่านไปหลายปี นางฟ้าเฮายู่กลืนกินมันอย่างรวดเร็ว

แหวนมิติลอยอยู่ในอากาศเช่นกัน แหวนมิติเป็นแหวนที่อยู่บนนิ้วของราชาเทพต้วนมู่ ในขณะนี้ลูกบาศก์เมตรผลึกโฉบเข้าหานางฟ้าเฮายู่และถูกดูดซับอย่างรวดเร็ว

ผลึกนั้นบริสุทธิ์และปราศจากสิ่งปกเปื้อนใด ๆ ไม่แปลกใจเลยที่พวกมันจะอยู่ในระดับสูงสุดทำให้พวกมันมีค่ายิ่งว่าเหรียญผลึกระดับสูงใด ๆ

นางฟ้าเฮายู่ใช้สมบัติที่เหลืออยู่ของราชาเทพต้วนมู่เพื่อฟื้นฟูพลังและร่างกายของนาง

เจี้ยนเฉินค่อย ๆ ฟื้นสติหลังจากผ่านเวลาไป เมื่อเขาลืมตา เขาก็เห็นท้องฟ้าสีครามและเมฆสีขาว

“หืม ? เจ้าฟื้นเร็วจริง ๆ ข้าคิดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งถึงสองวัน แต่ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะฟื้นขึ้นมาหลังจากผ่านไป 2 ชั่วยาม”

มีเสียงประหลาดใจดังขึ้นจากข้าง ๆ เขา ขณะที่เจี้ยนเฉินยังคงอยู่ในความงุนงง เขาได้ยินมันชัดเจน

เจี้ยนเฉินมองออกไปและเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมสีขาวนั่งไขว่ห้างใกล้ ๆ เขา เขายิ้มแย้มขณะที่เขาจ้องมองเจี้ยนเฉินด้วยความสดใจ ใกล้ชายหนุ่มเป็นชายกำยำพร้อมกับเลยไปด้านหลังเป็นร่างของเฉินเจี้ยน เขาอยู่ที่พื้น

เจี้ยนเฉินรีบสังเกตสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ของเขาอย่างรวดเร็วและพบว่าเขาอยู่ท่ามกลางเทือกเขา พายุที่ดุร้ายรอบ ๆ นี้ทำให้ผมและเสื้อผ้าของเขาโบกสะบัดไปมา

“นี่คือที่ไหน ? แล้วเจ้าเป็นใคร ? ” เจี้ยนเฉินถามขณะที่เขาพยายามเคลื่อนไหว เขาพยายามยืนขึ้น แต่ความเจ็บปวดตามร่างกายทำให้เขาอดขมวดคิ้วไม่ได้

เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาไม่ได้ฟื้นตัวดี ดังนั้นเมื่อเขาเคลื่อนไหว มันจะส่งผลกระทบจากบาดแผลของเขา

ชายหนุ่มคิดอยู่พักหนึ่ง เขามองไปรอบ ๆ และพูดอย่างไม่แน่ใจ”นี่คือ คือ คืออาณาจักรศักดิ์สิทธิ์นวดารา ข้าคิดว่านะ ข้าจำไม่ได้จริง ๆ ส่วนข้าเป็นใคร…” ชายหนุ่มยิ้มขึ้นทันที เขายืนขึ้นอย่างช้า ๆ และมาที่ด้านหน้าเจี้ยนเฉิน ขณะที่นั่งลงข้าง ๆ เขาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าเป็นคนช่วยเจ้า หากข้าไม่ช่วยเจ้า ชีวิตและวิญญาณของเจ้าจะถูกแยกออกมาและจากนั้น จากนั้น เฮ้อ ข้าลืมชื่อของเขา แต่ข้ารู้ว่าเขาเป็นใครสักคนจากครอบครัวโม่ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ฉิงหยาง เจ้าจะต้องเจอกับชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย”

“ขอบคุณที่ช่วยชีวิตข้า ท่าน ข้าจะไม่มีวันลืมความเมตตาของท่าน” เจี้ยนเฉินพูดกับชายหนุ่ม อย่างไรก็คามเขาจดจำครอบครัวโม่แห่งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ฉิงหยางเข้าไปในหัว เจี้ยนเฉินไม่อาจยอมรับได้ถ้าเขาถูกแยกวิญญาณออกมาและทำให้เขาประสบกับความเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย

“ชื่อข้าไม่ใช่ “ท่าน” เจี้ยนเฉิน ฟังข้า ข้าชื่อ “ตงเทียน” คำว่า”ตง” ที่มาจาก “ตงเทียน” และตัว “เทียน” ที่มาจาก”ตงเทียน” เจ้าคิดว่าไง ? มันไม่ดีหรือ ? ” ชายหนุ่มพูดอย่างภูมิใจพร้อมกับยืดอกขึ้น เขาภูมิใจกับตัวเอง

“มันยอดเยี่ยมจริง ๆ ขอบคุณสำหรับการช่วยชีวิตข้า นายน้อยตงเทียน” เจี้ยนเฉินกล่าว จากการสนทนาสั้น ๆ ของพวกเขา เขาสามารถบอกได้เลยว่าตงเทียนมาจากตระกูลใหญ่ เขามีความภาคภูมิใจและมีความโอ้อวดตามธรรมชาติ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เป็นคนที่มีนิสัยแย่นัก

ตงเทียนหัวเราะเบา ๆ และพูด “เจี้ยนเฉิน เจ้าได้รับบาดเจ็บหนัก ดังนั้นเจ้าคงไม่อาจฟื้นตัวได้ในเวลาสั้นๆ ข้าชอบเจ้า ดังนั้นข้าเลยช่วยเจ้าออกมา” ในขณะที่เขาพูดอย่างนั้นก็มียาเม็ดสีดำปรากฏขึ้นในมือของเขาอย่างเงียบ ๆ เขาจ้องมองไปที่ลุงฉินที่อยู่ข้างหลังด้วยความรู้สึกผิดก่อนที่จะให้ป้อนยากับเจี้ยนเฉินอย่างรวดเร็ว

ใบหน้าของลุงฉินบิดเบี้ยวอย่างไม่ดีนัก เขาหันไปหาตงเทียนและพูดด้วยสีหน้าที่มืดครึ้ม “นายน้อย ท่านขโมยยาปรับแต่งเก้าชีวิตจากผู้อาวุโสกู่มาหรือ ? “