ตอนที่ 1776: กับดักวิญญาณ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1776: กับดักวิญญาณ

“งูหลามยักษ์ตัวนี้จัดการได้ยากอย่างมาก ปรมาจารย์เฉินหลงเป็นผู้ชำนาญทักษะด้านค่ายกลที่เหนือกว่าจอมยุทธตามปกติและอยู่ในจุดสูงสุดของคนเหล่านี้ เขามีวิธีการมากมายและสามารถนำมาใช้ได้กับค่ายกลได้ทุกรูปแบบเพื่อจัดการข้า เขายังสามารถสร้างบางสิ่งที่ทรงพลังขึ้นมาได้อย่างแท้จริง” เจี้ยนเฉินคิด เขาไม่สนใจงูหลามยักษ์และบินเข้าไปหานางฟ้าเฮายู่

อย่างไรก็ตามงูหลามก็ไม่ได้ปล่อยเขาง่าย ๆ แม้ว่ามันจะมาจากค่ายกล แต่มันก็ฉลาดอย่างมาก เพียงการตวัดหางของมันทำให้เกิดภาพมัวและพุ่งโจมตีเข้ามาด้วยความเร็วสูง

ปัง !

หางของมันกระแทกเจี้ยนเฉินด้วยพลังที่มหาศาล มันทำให้เสื้อผ้าของเขากระจายเป็นชิ้น ๆ ร่างกายของเขากระเด็นออกไป ขณะที่ด้านหลังของเขามีรอยจ้ำเลือดปรากฏ

เจี้ยนเฉินจ้องมองอย่างเย็นชา เขาโคจรพลังบรรพกาลของเขาและอาการบาดเจ็บที่หลังของเขาก็หายเป็นปกติในระดับที่น่าเหลือเชื่อ มันสมานแผลได้ภายในพริบตา

“ช่างเป็นร่างกายที่แข็งแกร่งนัก นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเคยเห็นร่างกายที่แข็งแกร่งขนาดนี้” ในขณะนี้ จิตวิญญาณที่แผ่ออกมาจากงูหลามก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ประหลาดใจ

อย่าไงก็ตาม ไม่นานหลังจากที่จิตวิญญาณก็พูดขึ้นอีกครั้ง “อะไร ! เป็นไปได้อย่างไร ? เจ้าฟื้นฟูเสร็จแล้ว ? ตาของข้าฝาดหรือไร ใช่ มันต้องตาฝาด ทำให้ข้าเห็นอะไรผิด ๆ การฟื้นฟูของเจ้าจะหายสนิทได้อย่างไร ? ข้าต้องตาฝาด มันอาจจะเป็นเพราะข้ามองไม่ดี เฮ้อ ข้านี่มันอ่อนแอลงจริง ๆ ถึงได้เห็นตาฝาดไป และมันก็เหมือนจริงอย่างมาก”

ตาของเจี้ยนเฉินหรี่ลง เขาจ้องมองงูหลามที่ถูกสร้างจากธงอาคมและมีแสงแว่บเล็ก ๆ ผ่านดวงตาของเขา ทันใดนั้นเขาก็พบว่างูหลามยักษ์ตัวนี้ไม่ได้เป็นแค่ค่ายกลปกติ มันมีวิญญาณที่ทรงพลังของงูหลามยักษ์อีกด้วย

เจี้ยนเฉินคิดว่านี่น่าจะเป็นวิญญาณขั้นเหนือเทพช่วงปลาย

“ความจริงคือมันเป็นกับดักวิญญาณ ? ” เจี้ยนเฉินพูดอย่างตกใจ เขาสามารถบอกได้แล้วว่าวิญญาณของขั้นเหนือเทพช่วงปลายนั้นถูกขังอยู่ในค่ายกลที่สร้างขึ้น ในเวลาเดียวกันมันดูเหมือนว่ามันจะเป็นวิญญาณที่เกิดจากค่ายกล

อย่างไรก็ตามจากคำพูดของเจี้ยนเฉิน ดูเหมือนจะทำให้วิญญาณที่อยู่ในค่ายกลขุ่นเคือง วิญญาณที่อยู่ในนั้นตะโกน “ข้าอยู่ในกับดักนี้แล้วมันทำไม ? ไอ้หนู ข้าบอกเจ้าได้เลย อย่าดูถูกคนที่อยู่ในกับดักนี้ แม้ว่าจะเป็นวิญญาณแต่มันก็มีศักดิ์ศรี”

“เจ้าถูกขังอยู่ในกับดักในค่ายกล แล้วเจ้าก็เป็นแค่หุ่นเชิดของปรมาจารย์เฉินหลง มันไม่ใช่ความตั้งใจจริง ๆของเจ้า ไปเถอะ ข้าไม่ต้องการสู้กับเจ้า” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเย็นชา

“ห๊ะ ! ? ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เจ้าต้องการให้ข้าไป หืม ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น ข้าจะขวางทางเจ้า เจ้าจะทำอะไรได้ ? มาต่อสู้กับข้าสิ ถ้าเจ้ามีความสามารถ” วิญญาณตะโกนเสียงดัง

อีกด้าน นางฟ้าเฮายู่หลบการโจมตีของนายปรมาจารย์เฉินหลงอย่างฉิวเฉียด นางพยายามหลีกเลี่ยงการโจมตีแต่ละครั้งที่เฉียดผ่านตัวนางพร้อมกับกัดฟันแน่น นางยังอยู่ในสถานะการณ์ที่ล่มแหลมอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม นางยังคงสงบและไม่ได้ว้าวุ่นเลย นางพร้อมที่จะเผาผลาญวิญญาณของนางตลอดเวลา อย่างไรก็ตามราคาที่นางต้องจ่ายสำหรับการเผาวิญญาณของนางนั้นมากมายนัก นางไม่ต้องการทำเช่นนี้ เว้นแต่ว่านางไม่มีทางเลือก

ใบหน้าของเจี้ยนเฉินเย็นชาทันทีเมื่อเขาเห็นสถานการณ์อันตรายที่เกิดกับนางฟ้าเฮายู่ เพียงคิด ปราณกระบี่ก็ปรากฏขึ้นเหนือหัวของเขาและมันก็เปล่งประกายด้วยจิตสังหารที่ท่วมท้นซึ่งแม้แต่ขั้นเหนือเทพก็ยังตกตะลึง

ไม่นานปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉินก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นปรมาจารย์เฉินหลงหรือขั้นเหนือเทพคนอื่น ๆ ซึ่งไล่ตามนางฟ้าเฮายู่ พวกเขาเพ่งความสนใจไปที่เจี้ยนเฉิน มีความกลัวปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเขาและเตรียมพร้อมระแวดระวัง

ขั้นเหนือเทพทุกคนต่างก็กลัวปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉิน รวมไปถึงขั้นเหนือเทพช่วงปลาย แม้ว่าปราณกระบี่นี้จะไม่ทรงพลังมากพอที่จะสังหารขั้นเหนือเทพช่วงปลายได้เพียงการโจมตีเดียว แต่มันก็ยังเกิดบาดแผลปางตายได้

“สสารเลว นะ-นั่นคืออะไร ? จะ-เจ้าพยายามทำอะไร ? ถ้าเจ้าไม่อยากตาย ก็เก็บมันซะ….” วิญญาณที่อยู่ในกับดักพูดติดอ่างเล็กน้อย ทุกคนสามารถบอกได้เลยว่ามันกลัวปราณกระบี่ลึกซึ้งของเขาอย่างมาก

ท้ายที่สุดตัวมันเองก็เป็นเพียงวิญญาณที่เปราะบางอย่างมากในตอนนี้ ที่มันสามารถแสดงความแข็งแกร่งของขั้นเหนือเทพช่วงปลายได้เพราะพลังจากค่ายกล เมื่อมันสูญเสียค่ายกลไป มันจะอ่อนแออย่างมากเพราะไม่มีร่างกาย

มีแสงเย็นวาบผ่านดวงตาของเจี้ยนเฉินในขณะที่เขาจ้องไปยังงูหลามยักษ์ที่ขวางทางเขาเอาไว้ เขากำลังจะปล่อยปราณกระบี่ลึกซึ้งเส้นแรกเข้าใส่วิญญาณที่อยู่ในค่ายกลขนาดใหญ่ที่ได้สร้างงูหลามยักษ์ขึ้นมา ถ้ามันต้องการพัวพันเจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉินก็ไม่ลังเลที่จะฝ่าออกเข้าไป ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องใช้ปราณกระบี่ลึกซึ้งนี้

วิญญาณที่อยู่ในกับดักว้าวุ่นทันที อาจเป็นเพราะเห็นสายตาที่เย็นชาของเจี้ยนเฉิน มันก็กล่าวว่า “อย่ามองข้าอย่างนั้น เจ้ากำลังพยายามทำอะไร ? อย่าฟันออกมา อย่าฟันข้าเลยพี่น้อง ข้าจะให้เจ้าผ่านไป ข้าให้เจ้าผ่านไปแล้ว เข้าใจหรือไม่ ? ถ้าเจ้ายังไม่ยอม เจ้าก็ทำมันกับเฉินหลง ปล่อยข้าไป ทำเหมือนกับข้าไม่มีตัวตน” วิญญาณที่อยู่ในกับดักกลายเป็นขี้ขลาดทันทีต่อหน้าพลังที่น่าสะพรึงกลัวของปราณกระบี่ลึกซึ้ง มันหนีออกไปไกลมากและไม่ขวางทางเจี้ยนเฉินอีกต่อไป

ในเวลานี้ ฝ่ามือของปรมาจารย์เฉินหลงโจมตีนางฟ้าเฮายู่จากระยะไกล นางกระอักเลือดและได้รับบาดเจ็บสาหัส

เจี้ยนเฉินไม่สนใจงูหลามยักษ์ที่หนีไป เขามองไปที่ปรมาจารย์เฉินหลงและไม่ลังเลเลยที่จะปล่อยปราณกระบี่เส้นแรกออกไป

วูบ !

ปราณกระบี่ลึกซึ้งสีขาวเงินกลายเป็นลำแสงด้วยความเร็วอย่างไม่เชื่อ แม้แต่ขั้นเหนือเทพช่วงปลายก็ไม่อาจมองเห็นมันได้ด้วยตาเปล่า ทำให้พวกเขาต้องใช้พลังจากความรู้สึกจากวิญญาณของพวกเขาเพื่อติดตามเส้นทางของมัน

แม้แต่ขั้นเหนือเทพช่วงปลายก็ไม่หลบการโจมตีที่มีความเร็วขนาดนี้ได้ พวกเขาทำได้แค่เผชิญหน้ากับมันเท่านั้น

ปรมาจารย์เฉินหลงได้เตรียมการป้องกันตัวจากปราณกระบี่ลึกซึ้งของเจี้ยนเฉินนานแล้ว ในขณะที่มันพุ่งเข้ามาปรมาจารย์เฉินหลงก็ดึงแผ่นอาคมแปดเหลี่ยมออกมา มันส่งผลกระทบกับมิติรอบ ๆ แผ่นอาคมแปดเหลี่ยมนี้กลายเป็นเกราะป้องกันด้านหน้าของปรมาจารย์เฉินหลง

ตูม !

ปราณกระบี่ลึกซึ้งกระแทกเข้าใส่แผ่นอาคมนั้นและมันก็กระเด็นหายไปอย่างรวดเร็ว พลังกระแทกที่น่ากลัวที่ที่เกิดขึ้นหลังจากกระแทกแผ่นอาคมแปดเหลี่ยมได้พุ่งเข้าใส่ร่างกายของปรมาจารย์เฉินหลง

พรวด ! นายปรมาจารย์เฉินหลงกระอักเลือดขณะที่เขากระเด็นกลับไปพร้อมกับแผ่นอาคม

มิติได้กลับคืนมาสู่สภาพปกติทันทีหลังจากที่ไม่มีการรบกวนจากแผ่นอาคมแปดเหลี่ยม เฮายู่และแม้แต่ขั้นเหนือเทพคนอื่นก็ฟื้นฟูความเร็วกลับมา

ในขณะนั้นความกดดันที่น่ากลัวก็ได้แทรกซึมเข้าไปในบริเวณโดยรอบ ๆ ขั้นเหนือเทพทุกคนโจมตีนางฟ้าเฮายู่ กระแสพลังงานพุ่งเข้าหานาง ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ถือสมบัติไว้ในเมือเพื่อเตรียมตัวรับมือปราณกระบี่ลึกซึ้งเส้นที่สองของเจี้ยนเฉินตลอดเวลา

นางฟ้าเฮายู่นั้นไม่ยากให้เจี้ยนเฉินลำบาก ยิ่งกว่านั้นฝ่ามือที่โจมตีมาของปรมาจารย์เฉินหลงทำให้นางได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นนางจึงไม่อาจหลบการโจมตีทั้งหมดของขั้นเหนือเทพได้

นางเป็นแค่ขั้นเทพช่วงปลายเท่านั้นในตอนนี้

วูบ !

พร้อมกับแสงสีเงินขาวแว่บออกไป เจี้ยนเฉินโจมตีด้วยปราณกระบี่ลึกซึ้งครั้งที่สอง เขาไม่ได้เจาะจงเป้าหมายใดหรือคนเดียวในกลุ่ม เขามุ่งเป้าการโจมตีเพื่อเปิดทางในหมู่พวกเขา

ตูม ! ตูม ! ตูม ! ตูม …

พร้อมกับเสียงสั่นสะเทือน ทำให้ปราณกระบี่เจาะทะลุไปกว่าสิบครั้งก่อนที่จะหายไป แสงพลังจากขั้นเหนือเทพที่เหนืออยู่ 6 สายยังคงพุ่งเข้าหานางฟ้าเฮายู่อย่างจริงจัง