ตอนที่ 2856 ค้างหนี้แต้มความดีมากล้น

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2856 ค้างหนี้แต้มความดีมากล้น!
ได้ยินเสียงนี้หยางชิงก็ต้องทำหน้าดำคร่ำเครียดร้องตอบกลับไปทันที “เจิ้งเฉียน เจ้าคิดว่าตัวเองเก่งกาจนัก? ถึงมาเรียกคนอื่นว่าเป็นขยะได้? จักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดแต่กลับถูกปู่หยางนี้กระทืบจนฟันร่วง ยังมีหน้ามาพูดจาเย้ยหยันคนอื่น?”

เจิ้งเฉียนนั้นไม่คิดสนใจหัวเราะตอบกลับมา “คนที่ขึ้นระดับเจ้าโลกไม่ได้มันจะไม่เรียกว่าขยะได้อย่างไร? นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าที่บรรลุระดับลึกล้ำได้แต่กลับไม่มีบรรพบุรุษคนไหนลดตัวลงมารับเป็นศิษย์! ฮ่าๆๆ น่าขันนัก! ส่วนตัวเจ้านั้นก็คงอยู่ปากมากไปได้อีกไม่กี่วันแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะอัจฉริยะแค่ไหนก็ตาม! ท่านชิง…หากมีปัญญาก็ไปอวดโม้ต่อหน้าศิษย์พี่หลัวห่าวไป!”

หยางชิงได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกเมื่อได้ยินนามนั้นจนทำให้เย่หยวนอดถามขึ้นไม่ได้ “มันเกิดอะไรขึ้นหรือหยางชิง?”

เจิ้งเฉียนนั้นเหมือนกลัวจะหมดบทรีบร้องตอบกลับมาแทน “ขยะอย่างเจ้าคงยังไม่รู้ใช่ไหม? หยางชิงนั้นมันสังหารน้องชายแท้ๆ ของศิษย์พี่หลัวห่าว ตอนนี้พวกเขาทั้งสองได้ตกลงต่อสู้เดิมพันชีวิตกันอีกในสองวัน! ศิษย์พี่หลัวห่าวนั้นเป็นจักรพรรดิเที่ยงอันดับที่สี่ของนิกาย ยอดฝีมือมหาจักรพรรดิครึ่งก้าว! เจ้าคิดว่ามันจะรอดมือเขาไปได้หรือเปล่าเล่า?”

ในนิกายยาสุดล้ำนั้นมันมีจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดอยู่เกลื่อนกลาดแต่คนที่ก้าวขึ้นถึงมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวได้นั้นมีไม่มาก

เพราะการขึ้นไปถึงมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวได้นั้นมันคือคนที่มีหวังจะบรรลุมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ไปได้!

เพราะฉะนั้นคนส่วนมากที่มาถึงนั้นจึงล้วนเป็นยอดอัจฉริยะ!

และหลัวห่าวนั้นยิ่งเป็นหัวกะทิในหมู่คนทั้งหลาย!

หยางชิงนั้นเรียกได้ว่าแทบไร้เทียมทานใต้จักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดลงมา

เพราะว่าจักรพรรดิเที่ยงที่อยู่อันดับสูงกว่าเขานั้นส่วนมากแล้วเป็นมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวทั้งสิ้น

ด้วยพลังบ่มเพาะในตอนนี้ของหยางชิงย่อมจะไม่มีทางเอาชนะพวกเขาได้

ที่สำคัญไปกว่านั้นหลัวห่าวยังเป็นถึงมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวที่อยู่ในสิบอันดับแรก!

จักรพรรดิเที่ยงอันดับสี่ ตัวตนที่สามารถขึ้นไปเหยียบอาณาจักรมหาจักรพรรดิได้ทุกเมื่อ!

เย่หยวนมองหน้าหยางชิงก่อนจะถามขึ้น “เจ้าเอาชนะมันไม่ได้?”

หยางชิงส่ายหัวตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแห้งๆ เพราะคำโม้ของเขานั้นมันคงมาได้แค่นี้

จะอัจฉริยะแค่ไหนมันก็มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะมากพรสวรรค์เพียงใดมันก็ไม่อาจจะกระโดดข้ามอาณาจักรได้อย่างไร้จำกัด

“เจ้ารับมือได้กี่กระบวนท่า?” เย่หยวนถามขึ้นอีก

“หนึ่ง!” หยางชิงนั้นตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนขมขื่น

เขานั้นเคยท้าทายพวกที่เป็นมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวมาก่อนและรู้ดีว่าช่องว่างระหว่างพวกเขามันยิ่งใหญ่จนเกินไป

และในหมู่คนที่ติดแนวหน้านั้น แค่มหาจักรพรรดิครึ่งก้าวทั่วๆ ไปย่อมไม่อาจเทียบ

ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดเองมันก็ไม่อาจจะเอาชนะมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวได้

ช่องว่างระหว่างหยางชิงและหลัวห่าวนั้นยิ่งใหญ่กว่านั้น!

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หากข้าช่วยให้เจ้าบรรลุจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดได้แล้วเจ้าจะไหวไหม?”

หยางชิงนั้นเบิกตากว้างขึ้นมาทันที “แน่นอนว่าไหว! หากข้าขึ้นไปถึงจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดได้ข้าย่อมจะเอาชนะมันได้แน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย!”

สีหน้าของเจิ้งเฉียนที่อยู่ไม่ไกลไปนั้นมันก็เปลี่ยนสีขึ้นเมื่อได้ยินแต่ไม่นานมันก็กลับมาเป็นท่าทางดูถูกอีกครั้ง

“ยอดฝีมือระดับลึกล้ำนี่มันเก่งกาจดีจริงๆ! แต่ว่านะ…ไอ้ขยะ หากข้าเดาไม่ผิดเจ้าคงยังไม่เคยหาแต้มความดีเลยตั้งแต่เข้านิกายมาใช่หรือไม่? ต่อให้เจ้าจะอยากหลอมโอสถแต่มันจะหาสมุนไพรสวรรค์โดยไม่มีแต้มความดีได้อย่างไร?”

ในตอนนั้นเองที่หวังหลินก็ปรากฏขึ้นมากล่าวเสริมอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง “มันไม่ใช่แค่ไม่มีแต้มความดี แต่เขายังติดแต้มความดีกับห้องสมุดคัมภีร์อีกถึงห้าหมื่นสี่พันสี่ร้อยห้าสิบแต้มด้วย! แม้ว่าอาจารย์ลุงจั่วเฉินนั้นจะออกหน้ารับรองให้แก่มันแต่ตอนนี้เมื่อมันออกจากการเก็บตัวมาแล้วมันก็ต้องหาทางจ่ายคืนแต้มความดีมา! เย่หยวนจากวันนี้ไปเจ้าคงต้องหลอมโอสถสวรรค์อย่างไม่พักเพื่อชดใช้แต้มความดีคืนให้แก่นิกายแล้ว!”

เย่หยวนนั้นผงะไปทันที มันกลับยังมีเรื่องเช่นนั้นด้วย?

เย่หยวนไม่รู้ถึงมันจริงๆ!

แน่นอนว่าต่อให้จะเป็นศิษย์ของนิกายยาสุดล้ำมันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะได้ทุกอย่างตามที่ต้องการมาฟรีๆ

นิกายใหญ่ที่มีสมาชิกนับแสนๆ คนเช่นนี้มันย่อมจะต้องใช้ทรัพยากรแต่ละวันอย่างมหาศาล หากไม่มีการทำงานชดใช้กลับให้นิกายบ้างมันก็ย่อมจะไม่สามารถคงอยู่กันต่อไปได้

หยางชิงนั้นเองก็รับภารกิจมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อแลกกับทรัพยากรต่างๆ ใช้ในการฝึกฝนตัวทำให้เขาพัฒนาไปได้อย่างไม่หยุดยั้ง

แท้จริงแล้วทางห้องสมุดคัมภีร์นั้นย่อมจะไม่ยอมให้ใครมาติดแต้มความดีไว้ก่อน แต่ด้วยอาวุโสของเย่หยวนนั้นมันจึงไม่มีใครคิดทวงถามอะไรกับเขาทั้งสิ้น

แต่หากดูตามอาวุโสเบื้องหน้าของเย่หยวนที่เป็นศิษย์จั่วเฉินแล้ว เขาย่อมจะมีแต้มความดีติดตัวมาสามร้อยตอนที่เข้านิกาย

ห้องสมุดคัมภีร์ชั้นหกนั้นมันต้องจ่ายสิบห้าแต้มความดีต่อวันในการเข้าอ่าน!

เพราะฉะนั้นต่อให้จะนับทั้งตัวเย่หยวนก็อยู่ได้แค่ยี่สิบวันเท่านั้น

แต่ว่าหลังจากเรื่องวันนั้นเขาได้เปิดเผยตัวต่อพวกฟานหลี่ทั้งหลายจนทำให้พวกเขาไม่คิดจะถามถึงเรื่องแต้มความดีใดๆ อีก

แต่สำหรับคนนอกนั้นพวกเขาได้ประกาศว่าตัวจั่วเฉินออกมารับรองให้ ทำให้แต้มความดีของเย่หยวนสามารถคืนชดใช้ให้ทีหลังได้

แต่ตอนนี้เมื่อเขาออกมาจากการเก็บตัวแล้วมันก็ย่อมจะต้องจ่ายคืน

จะว่าไปแล้วมันก็บังเอิญไม่น้อยเพราะหวังหลินคนนี้คือผู้ดูแลเรื่องเล็กน้อยทั้งหลายในห้องสมุดคัมภีร์ เรื่องราวเบื้องหน้าทั้งหลายเขานั้นเป็นคนจัดการโดยไม่รู้ถึงเรื่องราวเบื้องหลังใดๆ

ได้ยินว่าเย่หยวนออกมาจากการเก็บตัวเขาจึงมาเพื่อทวงถามหนี้ตามหน้าที่ของตน

ฟานหลี่และพวกนั้นย่อมจะไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้

แน่นอนว่าฐานะที่แท้จริงของเย่หยวนนั้นมันย่อมจะไม่ต้องสนใจระบบแต้มความดีใดๆ นี้เช่นกัน

แต่หากทำเช่นนั้นตัวตนของเขาก็ต้องเปิดเผยให้คนทั้งนิกายรู้

เจิ้งเฉียนที่ได้ยินนั้นก็ต้องผงะไปเช่นกันก่อนจะหัวเราะขึ้นตาม “ห้าหมื่นสี่พันแต้ม! ฮ่าๆๆ ไอ้ขยะเจ้ามันจนตรอกแล้วจริงๆ! ต่อให้เจ้าจะหลอมโอสถสวรรค์ให้นิกายอย่างไม่หยุดมือแต่อย่างน้อยๆ มันก็ต้องยี่สิบปีกว่าที่เจ้าจะชดใช้แต้มความดีทั้งหลายนั้นคืนไปได้! แค่ตัวเองเจ้ายังเอาตัวไม่รอดแล้วเจ้ายังมีหน้ามายุ่งเรื่องหยางชิงหรือ? ขยะนี่มันขยะเสียจริง!”

เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องทำหน้ามึนๆ ถามกลับไป “ห้าหมื่นแต้มมันมากหรือ?”

หยางชิงพยักหน้ารับทันที “มันมากจนเกินนับเลยเชียวล่ะ! สิบปีของข้านี้ข้าใช้เวลากว่าเจ็ดปีเต็มทำภารกิจให้นิกายและยังได้แต้มความดีกลับมาแค่ราวหมื่นเจ็ดพันเท่านั้น! แต้มความดีกว่าห้าหมื่นนั้น… เจ้าซวยแล้วจริงๆ!”

การหาแต้มความดีนั้นมันยากยิ่ง!

เหตุผลที่เจิ้งเฉียนบอกว่าใช้เวลายี่สิบปีก็เพราะว่าเขารู้ดีว่าเย่หยวนนั้นเป็นยอดฝีมือระดับลึกล้ำ!

ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้ใช้เวลาห้าสิบปีมันก็ไม่แน่ว่าชดใช้แต้มความดีจะหมด!

เจิ้งเฉียนหัวเราะลั่นขึ้นมาเสริม “หยางชิงเจ้ารอวันตายตัวเองเถอะ! ที่สำคัญไปกว่านั้นไอ้ขยะนี่มันเพิ่งบรรลุระดับลึกล้ำมาได้แค่สิบปีมันย่อมจะยังไม่อาจหลอมโอสถสวรรค์จักรพรรดิให้ถึงระดับลึกล้ำได้แน่! นอกจากนั้นสมุนไพรสวรรค์แต่ละอย่างที่ใช้หลอมโอสถสวรรค์จักรพรรดินั้นมันก็แพงหูฉี่ ไม่ด้อยไปกว่าสมุนไพรสวรรค์ระดับหกเลย! คำนวณดูแล้วอย่างน้อยๆ มันก็ต้องใช้อีกนับหมื่นแต้มความดีแน่! เพราะฉะนั้นเจ้ายอมแพ้ไปแต่แรกเถอะ!”

ความหวังที่ริบหรี่ของหยางชิงนั้นมันถูกคำพูดนี้ของเจิ้งเฉียนทำลายลงสิ้น

สิ่งที่เจิ้งเฉียนมันไม่มีอะไรผิด! สมุนไพรสวรรค์ที่ใช้หลอมโอสถสวรรค์จักรพรรดินั้นมันเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง!

หากเป็นเมื่อก่อนนั้นมันยังพอว่าแต่ตอนนี้ทวีปสวรรค์แรกกำลังอยู่ในสภาวะสงครามกับเผ่าเลือด ดินแดนกว่าหนึ่งในสามไม่อาจเข้าถึงได้อย่างปลอดภัย มันย่อมจะยากมากหากคิดเข้าไปเก็บเกี่ยวสมุนไพรสวรรค์ในดินแดนที่เสียให้กับเผ่าเลือดไป

เพราะฉะนั้นราคาของสมุนไพรสวรรค์หลายๆ ตัวมันถึงได้พุ่งสูงล้ำ

หวังหลินนั้นเองก็ยิ้มกล่าวขึ้นตาม “เย่หยวน เจ้าไปรายงานตัวที่ยอดเถ้าชะตาก่อนเถอะ ไม่เช่นนั้นข้าคงมีแต่ต้องไปเรียกโถงบังคับกฎออกมาจัดการกับเจ้า!”

เย่หยวนนั้นเป็นต้นเหตุทำให้หลู่เต้าอี้หมดอนาคตไป เวลานี้หากจะได้เห็นสหายของเย่หยวนถูกสังหารลงหวังหลินย่อมจะรู้สึกสะใจ!

หยางชิงถอนใจยาวออกมา “เย่หยวนข้ารับไว้แค่ความหวังดีก็แล้วกัน ปัญหานี้ข้าก่อขึ้นเอง ข้าต้องแก้ไขมันเอง!”

เย่หยวนตอบกลับไป “แค่กระบวนท่าเดียวยังไม่รอดได้จะมาแก้ไขอะไรได้? เรื่องนี้ให้ข้าจัดการเอง เจ้าไม่ต้องคิดให้รกสมองหรอก ไปนอนพักก่อนเถอะ เดี๋ยวถึงวันสังหารหลัวห่าวแล้วจะมาอ้างว่าได้นอนมาไม่พอ!”

เรื่องของหยางชิงนั้นเย่หยวนเชื่อใจเขาอย่างหนักแน่น

แม้ว่าเขานั้นจะดูไม่อาจพึ่งพาได้และมีปากที่เป็นภัย แต่ว่าจิตใจของเขานั้นไม่ได้เลวทรามเลย

ตอนที่พบกันครั้งแรกเขาก็เข้ามาผูกมิตรกับเย่หยวนถึงขั้นคิดอยากปกป้อง แม้แต่ตอนที่ถูกเผ่าทะเลเข้ามาถามด้วยโทนเสียงหาเรื่องเขาก็ยังคิดผูกมิตรกับอีกฝ่าย

หยางชิงนั้นย่อมจะไม่ได้สังหารน้องชายของหลัวห่าวคนนี้ลงอย่างไร้เหตุผลแน่ๆ มันต้องมีเรื่องอะไรอยู่เบื้องหลังอยู่แน่ๆ

ด้วยสายสัมพันธ์ของเขาที่มีต่อหยางชิงนั้นมีหรือที่คนอย่างเย่หยวนจะปล่อยให้สหายตายไปต่อหน้าได้?

ต่อให้จะต้องเปิดเผยตัวตน เขาก็พร้อมที่จะทำเพื่อช่วยหยางชิง!

แน่นอนว่าหากมันถึงขั้นนั้นแล้ว ชีวิตของเขาเองที่จะตกอยู่ในภัยอันตราย

การใช้ความอาวุโสของตัวเองจบเรื่องนี้ลงไปมันอาจจะนับได้ว่าเป็นชัยชนะก่อนความพ่ายแพ้!

………………………