บทที่ 1483 ส่งทหารไปตระกูลหลี่

The king of War

“เสียวหว่าน คุณรีบพาเสี่ยวจิ้งอันหนีไปตั้งแต่ตอนนี้เถอะ”

หลังจากที่อ้ายหลินพูดจบ เธอก็อุ้มเสี่ยวจิ้งอันเข้าไปให้เฝิงเสียวหว่าน อุ้มไว้ หลังจากนั้นเธอมองหน้าเสี่ยวจิ้งอันด้วยความรักและพูดเบา ๆ ว่า “จิ้งอัน แม่รักลูกนะ!”

เธอโน้มตัวและจูบหน้าผากของเสี่ยวจิ้งอันเบาๆ เธอไม่สามารถกั้นน้ำตาของตัวเองได้ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา

“เสียวหว่าน ฉันฝากเสี่ยวจิ้งอันด้วยนะ”

อ้ายหลินมองดูเฝิงเสียวหว่านที่กำลังตกใจและพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า “ถ้าฉันตาย แล้วคุณเจอสามีของฉัน ฝากบอกเขาว่าฉันรักเขา!”

เฝิงเสียวหว่านเริ่มร้อนใจ “พี่อ้าย อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ เสี่ยวจิ้งอันยังเด็กมากจะขาดแม่ไม่ได้เด็ดขาด คุณพาเสี่ยวจิ้งอันหนีไป แล้วฉันจะล่อพวกมันให้เอง”

“ไม่ได้!”

อ้ายหลินรีบปฏิเสธทันที “ต่อให้คุณล่อพวกมันได้ แต่เสี่ยวจิ้งอันกับฉันก็หนีไม่พ้นอยู่ดี เพราะฉันไม่มีพลัง มีเพียงคุณเท่านั้นที่จะพาเสี่ยวจิ้งอันหนีไปได้”

เมื่อเห็นว่าเฝิงเสียวหว่านตัดสินใจไม่ได้ อ้ายหลินก็ขอร้องด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา “เสียวหว่าน ถือว่าฉันขอร้องคุณล่ะนะ อย่าลังเลอยู่อีกเลยได้มั้ย? นายคิดแค่ว่าช่วยฉันพาเด็กหนีไป และไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรหรอก”

เฝิงเสียวหว่านไม่สามารถทิ้งให้อ้ายหลินได้จริงๆ แต่เธอก็รู้ดีว่าถ้าให้เธอเป็นคนที่พาเสี่ยวจิ้งอันหนีไป มีโอกาสที่จะหนีออกไปไม่ได้ ในทางกลับกันหากให้อ้ายหลินเป็นคนพาหนีออกไป แทบไม่มีหวังเลยด้วยซ้ำ

“ตกลง ฉันรับปากคุณ!”

เฝิงเสียวหว่านร้องไห้และตอบตกลง

อ้ายหลินยิ้มอย่างสดใส “ขอบคุณ!”

หลังจากพูดจบ เธอก็มองดูเสี่ยวจิ้งอันเป็นครั้งสุดท้าย และหันกลับมาแล้วรีบวิ่งไปอีกทางหนึ่ง

“ไม่ได้การละ เธอจะหนี! รีบตามไป!”

หลี่เป่าจุ้นที่แอบอยู่เมื่อเห็นอ้ายหลินวิ่งออกไป ก็รีบสั่งคำสั่งให้ผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นต้นได้ไล่ตามอ้ายหลินไปทันที

การวิ่งครั้งนี้ของอ้ายหลินดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที เมื่อหลี่เป่าจุ้นตั้งสติได้ และหันไปหาเฝิงเสียวหว่าน ก็พบว่าเฝิงเสียวหว่านหายตัวไปนานแล้ว

“เฝิงเสียวหว่านล่ะ?” หลี่เป่าจุ้นดูโกรธมาก

เมื่อกี้เฝิงเสียวหว่านที่อยู่ตรงนั้น ได้หายตัวไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเธอนั้นหายตัวได้

หลี่เป่าจุ้นรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา และสั่งว่า “ล้อมสนามบินไว้ และหาตัวเฝิงเสียวหว่านให้เจอให้ได้!”

แม้ว่าสถานะของตระกูลหลี่จะเทียบราชวงศ์ซ่านกวนไม่ได้ แต่ตอนนี้ตระกูลหลี่มีเหล่าจู่ที่ก้าวเข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ ดังนั้นแม้แต่ราชวงศ์ซ่านกวนก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลหลี่

เรื่องที่ตระกูลหลี่ได้ล้อมสนามบินไว้ ไม่นานราชวงศ์ซ่านกวนก็รู้

“ทำไมจู่ๆ ตระกูลหลี่ถึงมาล้อมสนามบินไว้ล่ะ?”

ในวังของราชวงศ์ซ่านกวน กษัตริย์ซ่านกวนซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา

“เสด็จพ่อ ตอนนี้ตระกูลหลี่ชักจะเหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วครับ เขาไม่เห็นหัวราชวงศ์ของเราอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ ปิดล้อมสนามบินไว้โดยไม่แม้แต่จะบอกจะกล่าวกันสักคำแบบนี้”

ภายในห้องโถง บุคคลวัยกลางคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

คนที่พูดคือซ่านกวนจื่อฉิน องค์ชายสามของราชวงศ์ซ่านกวน และเป็นพ่อของซ่านกวนโหรว

หลังจากที่เขาพูดประโยคนี้ ก็มีใครบางคนพูดขึ้นทันที “ฝ่าบาท องค์ชายสามพูดถูก ในตอนนี้ตระกูลหลี่หยิ่งผยองมากขึ้นเรื่อยๆ หากปล่อยให้พวกเขาทำแบบนี้ต่อไป เกรงว่ามันจะเป็นหายนะต่อเมืองราชวงศ์ซ่านกวนนะครับ”

“ในตอนนี้ ตระกูลหลี่เหล่าจู่หลี่จ้งยังมีชีวิตอยู่ และระดับบู๊ของเขาทะลวงไปสู่แดนเหนือมนุษย์แล้ว เกรงว่าเคงต้องการเข้ามาแทนที่ราชวงศ์ซ่านกวนเป็นแน่!”

“ฝ่าบาท ถึงเวลาระงับความเย่อหยิ่งของตระกูลหลี่แล้ว ไม่เช่นนั้นคนราชวงศ์ซ่านกวนของเราจะไม่สามารถเงยหน้าขึ้นได้ในเมืองราชวงศ์”

……

ในวัง สมาชิกราชวงศ์หลายคนต่างก็ออกความเห็น ทุกคนต่างไม่พอใจตระกูลหลี่ที่ทำแบบนี้

ยังไงราชวงศ์ซ่านกวนก็เป็นเจ้าของเมืองราชวงศ์ซ่านกวนที่แท้จริง แต่ตระกูลหลี่นั้นไม่ไว้หน้าราชวงศ์ซ่านกวนเลยแม้แต่น้อย จึงทำให้ราชวงศ์เกิดความไม่พอใจมาเป็นเวลานาน

กษัตริย์ซ่านกวนขมวดคิ้ว เขาเองก็เข้าใจที่ทุกคนไม่พอใจในตระกูลหลี่ เพียงแต่ว่า ตระกูลหลี่ยอมจำนนต่อหยางเฉินแล้ว และยังมีหลี่จ้งอีกคน ราชวงศ์จึงไม่กล้าแตะต้องตระกูลหลี่

“พักเรื่องนี้ไว้ก่อน เรามาคุยเรื่องที่สนามบินถูกปิดล้อมกันก่อน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” กษัตริย์ซ่านกวนถาม

ในเวลานี้ ทายาทสายตรงของราชวงศ์ลังเลขึ้นมาในทันที เหมือนว่ามีอะไรจะพูด แต่ไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่

“ซ่านกวนเหอ คุณมีอะไรจะพูดหรือเปล่า?” กษัตริย์ซ่านกวนถาม

ซ่านกวนเหอจึงพูดต่อว่า “ฝ่าบาท คือแบบนี้นะครับ ผมมีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เป็นคนที่ตระกูลหลี่เคารพนับถือ เขาบอกว่า เมื่อสามวันก่อน คุณหยางพาผู้แข็งแกร่งของตระกูลหลี่ไปที่ราชวงศ์เย่ เดิมทีวางแผนที่จะปล่อยให้ตระกูลหลี่เข้ามาแทนที่ราชวงศ์เย่ และด้วยเหตุนี้ ผู้พิทักษ์ของราชวงศ์เย่จึงปรากฏตัว คุณหยางได้รับบาดเจ็บสาหัส ว่ากันว่าวิถีบู๊เขาถูกทำลายแล้วครับ”

“ว่าไงนะ?”

กษัตริย์ซ่านกวนตกใจขึ้นมาในทันที

เรื่องที่หยางเฉินพาคนของตระกูลหลี่ไปราชวงศ์เย่ ข่าวนี้ได้ถูกปิดโดยราชวงศ์เย่แล้ว เพราะไม่ว่ายังไงมันก็เป็นเรื่องน่าอายสำหรับราชวงศ์เย่ ดังนั้นจนถึงตอนนี้แล้ว คนที่รู้เรื่องนี้ยังมีไม่มากนัก

ในเวลานี้ กษัตริย์ซ่านกวนเมื่อได้ยินข่าวนี้ก็ตกใจอย่างมาก โดยเฉพาะ แม้แต่ผู้พิทักษ์ของราชวงศ์เย่ก็ยังปรากฏตัวออกมาในเรื่องนี้

ในฐานะเจ้าของของราชวงศ์ซ่านกวน เขารู้ดีว่าการปรากฏตัวขึ้นของผู้พิทักษ์ราชวงศ์นั้นหมายความว่าถึงช่วงเวลาที่ราชวงศ์จะถูกทำลายแล้ว

นั่นก็แปลว่า หากไม่ใช่เพราะผู้พิทักษ์ของราชวงศ์เย่ ตระกูลหลี่ได้เข้าไปแทนที่ราชวงศ์เย่แล้ว

ข่าวนี้ทำให้เขาตกใจมาก แต่มีอีกข่าวหนึ่งที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าก็คือ วิถีบู๊ของหยางเฉินถูกทำลาย

“คุณแน่ใจเกี่ยวกับข่าวนี้มากแค่ไหน?” กษัตริย์ซ่านกวนถาม

ซ่านกวนเหอรีบตอบทันที “ฝ่าบาท เรื่องที่คุณหยางนำผู้แข็งแกร่งของตระกูลหลี่ไปเมืองราชวงศ์เย่ มีความเป็นไปได้สูงว่าคือเรื่องจริง ส่วนวิถีบู๊ของคุณหยางถูกทำลายหรือไม่นั้น แม้แต่ตระกูลหลี่ก็ยังไม่แน่ใจครับ”

“ถ้าคุณหยางถูกทำลายวิถีบู๊จริงๆ สถานการณ์ในตอนนี้ ถือว่าอันตรายอย่างมาก!” กษัตริย์ซ่านกวนกล่าวด้วยเสียงเบาๆ

ที่ผ่านมาเขาได้จับตาดูหยางเฉิน มาตลอด และคิดไว้ว่าจะให้ซ่านกวนโหรวหลานสาวของเขาแต่งงานกับหยางเฉิน เพียงแต่ว่าหยางเฉินแต่งงานมีลูกแล้ว เรื่องนี้ก็เลยจบ

ตอนนี้ได้รู้แล้วว่า วิถีบู๊ของหยางเฉินอาจถูกทำลายไปแล้ว

และในเวลานี้ มีคนใช้คนหนึ่งรีบเร่งเข้ามาคุกเข่าลงกับพื้นแล้วพูดว่า “ฝ่าบาท เรารู้สาเหตุที่ตระกูลหลี่ปิดล้อมสนามบินแล้วครับ เป็นเพราะว่าเพื่อนผู้หญิงสองคนของคุณหยาง ได้หนีออกจากตระกูลหลี่ไปที่สนามบิน หลังจากนั้นหลี่เป่าจุ้นของตระกูลหลี่ได้นำคนไปไล่ตามผู้หญิงสองคนนั้น ในตอนนี้ถูกจับได้คนหนึ่งแล้ว ส่วนอีกคน ตระกูลหลี่กำลังตามหาอยู่ครับ”

ข่าวนี้ทำให้ทุกคนในราชวงศ์ซ่านกวนตะลึง

เมื่อสักครู่กษัตริย์ซ่านกวนเพิ่งจะถามถึงว่าเรื่องวิถีบู๊ของหยางเฉินถูกทำลายแล้วหรือยัง แต่ในไม่ช้าก็มีข่าวมาว่าผู้หญิงสองคนของหยางเฉินได้หนีออกจากตระกูลหลี่ คนของตระกูลหลี่เลยไปตามจับ

เมื่อพูดเช่นนี้ มีความเป็นไปได้ว่าวิถีบู๊ของหยางเฉินถูกทำลายไปแล้วจริงๆ ไม่เช่นนั้นตระกูลหลี่จะกล้าไปตามจับผู้หญิงสองคนนั้นได้อย่างไร?

“ท่านปู่ ได้โปรดส่งผู้ที่แข็งแกร่งไปตามหาผู้หญิงที่ตระกูลหลี่กำลังตามหาอยู่เถอะค่ะ” ซ่านกวนโหรวรีบก้าวไปข้างหน้าและพูด

ซ่านกวนจื่อฉินตกใจและรีบพูดว่า “โหรวเอ๋อร์ ถอยออกไป!”

ตอนนี้ตระกูลหลี่ได้รับการปกป้องโดยแดนเหนือมนุษย์ เว้นแต่ว่าผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวนจะปรากฏตัว มิเช่นนั้นจะไม่มีใครสามารถรับมือตระกูลหลี่ได้

กษัตริย์ซ่านกวนโบกมือหยุดซ่านกวนจื่อฉิน และมองไปที่ซ่านกวนโหรวแล้วถามว่า “เธอขอให้ฉันส่งคนไปตามหาผู้หญิงคนนั้น เธอคงคิดแผนไว้แล้วสินะ? ”

ซ่านกวนโหรวพยักหน้าและพูดอย่างรวดเร็ว “เท่าที่ฉันรู้จักคุณหยาง เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสูญเสียวิถีบู๊ของเขาไปง่ายๆ และถึงแม้เขาจะสูญเสียวิถีบู๊ของเขาจริงๆ เขาก็ต้องมีวิธีในการฟื้นตัวอย่างแน่”

“ตระกูลหลี่หยิ่งผยองมากขึ้นเรื่อยๆ หากยังคงเป็นเช่นนี้ เมืองราชวงศ์ซ่านกวน ราชวงศ์ของเรา ก็จะกลายเป็นเรื่องน่าขันเช่นกัน”

“ถ้าคุณหยาง สูญเสียวิถีบู๊ของเขาจริงๆ และติดอยู่ในตระกูลหลี่ แต่เมื่อไหร่ที่วิถีบู๊ของเขาฟื้นกลับมาแล้วล่ะก็ มันจะเป็นจุดจบของตระกูลหลี่”

“คุณหยางเป็นผู้ชายที่มีศีลธรรมอย่างมาก หากครั้งนี้เรายื่นมือเข้าไปช่วยเพื่อนของเขา แม้ว่าเราจะไม่ไปช่วยเขา แต่ในอนาคตเขาจะรู้สึกขอบคุณและยอมรับใช้ราชวงศ์ซ่านกวน”

“แต่ว่า ฉันมีความคิดว่า ราชวงศ์ซ่านกวนควรส่งทหารไปยังตระกูลหลี่ เพื่อช่วยคุณหยางออกมาจากตระกูลหลี่”

ทันทีที่พูดเช่นนี้ ทุกคนก็ถอนหายใจ สมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของราชวงศ์ซ่านกวนคือกษัตริย์ซ่านกวน แต่พลังของเขาก็อยู่แค่กึ่งแดนเหนือมนุษย์เท่านั้น

ตอนนี้ส่งทหารไปที่ตระกูลหลี่ ก็มีแต่ส่งไปตาย?

เหล่าจู่ของตระกูลหลี่ หลี่จ้งคือผู้แข็งแกร่งของแดนเหนือมนุษย์