ตอนที่ 2863 ทะลวงทางตัน

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2863 ทะลวงทางตัน!
โอสถสวรรค์เม็ดเดียวของเย่หยวนนั้นมันทำให้หยางชิงได้กลายเป็นจักรพรรดิเที่ยงอันดับหนึ่งไป! เรื่องนี้มันยิ่งใหญ่จนทำให้ทั้งนิกายยาสุดล้ำนั้นแตกตื่นไปทุกหย่อมหญ้า

แต่ก่อนที่เรื่องราวนี้มันจะเงียบหายไปก็กลับมีเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่กว่าประกาศออกมาอย่างไม่คาดฝัน! ครั้งนี้คนที่แตกตื่นนั้นมันมิใช่แค่นิกายยาสุดล้ำเท่านั้นแต่เป็นทั้งพันธมิตรสวรรค์แรก!

นิกายยาสุดล้ำนั้นกลับคิดเปิดทรัพยากรให้แก่พันธมิตรสวรรค์แรกได้ใช้

เรื่องนี้มันทำให้คนทั้งหลายแตกตื่นไปทั่วหล้า!

แน่นอนว่าคนที่ถูกตบหน้าแรงที่สุดนั้นมันย่อมจะเป็นศิษย์นิกายยาสุดล้ำทั้งหลาย

เพราะก่อนหน้านี้พวกเขานั้นเอาแต่เย้ยหยันเย่หยวนบอกว่าเขานั้นกล่าวโม้อะไรที่ไม่มีทางเป็นไปได้

อย่าว่าแต่ผู้อาวุโสหอสุดแสง แม้แต่ท่านเจ้านิกายเองก็ยังไม่คิดสนใจ แต่พูดจาปัดความรับผิดชอบไปเท่านั้น ไม่มีทางจะไปรายงานกับหอสุดแสงใดๆ แน่นอน

ใครจะไปคิดว่าเรื่องราวมันกลับไปถึงจริง!

แต่พวกเขานั้นไม่ได้รู้เลยว่าหากเย่หยวนอยากเอาเรื่องใดเข้าไปคุยกับผู้อาวุโสหอสุดแสงทั้งหลายแล้ว เขาไม่ต้องส่งเรื่องผ่านซ่งชิงหยางใดๆ เลย

แต่เอาขึ้นไปรายงานนั้นมันยังไม่แปลกมากเพราะซ่งชิงหยางก็อาจจะเป็นแค่คนที่รักษาคำพูดมาก แต่ที่น่าตกตะลึงคือทางผู้อาวุโสหอสุดแสงทั้งหลายกลับยอมตกลง!

“บ้าแล้วมั้ง? นี่มันคือสิ่งที่จะทำให้รากฐานของนิกายสั่นคลอนเชียวนะ ผู้อาวุโสหอสุดแสงทั้งหลายกลับยอมรับหรือ?”

“บรรพบุรุษท่านเจ้าโลกทั้งหลายไปอยู่ที่ไหนกัน? เย่หยวนมาก่อเรื่องเช่นนี้มันจะไม่มีใครลงมาควบคุมหน่อยหรือ?”

“ไอ้ฉิบหาย โดยตบหน้าหันอีกแล้ว!”

เรื่องการตัดสินใจครั้งนี้ของนิกายยาสุดล้ำนั้นต่อให้จะคิดอย่างไรมันก็ไม่อาจจะหาเหตุผลได้จริงๆ

ทำไมความเห็นของจักรพรรดิเซียนตัวน้อยคนหนึ่งนี้ถึงได้ถูกให้ค่ามากนัก?

นอกจากนั้นมันยังเป็นเรื่องที่ใหญ่โตเช่นนี้ด้วย!

เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไปมันก็ย่อมจะทำให้เกิดความแตกตื่นไปทั่ว!

สำหรับนักยุทธจรและนิกายเล็กๆ ทั้งหลายแล้วนี่มันคือข่าวดีที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา!

แต่ว่าเรื่องเช่นนี้มันย่อมจะไม่มีทางเกิดขึ้นมาได้อย่างฟรีๆ

สำหรับนักยุทธจรนั้นพวกเขาคนใดที่เข้ามาใช้ทรัพยากรของนิกายยาสุดล้ำนั้นจะถูกนับเป็นทหารของกองทัพสวรรค์แรกและต้องทำตามคำสั่งเคลื่อนพลของพันธมิตรสวรรค์แรกอย่างไม่มีเงื่อนไข

ส่วนนิกายน้อยทั้งหลายนั้นเองก็ต้องเปิดให้นิกายยาสุดล้ำเข้าถึงทรัพยากรได้เช่นกัน

นอกจากนั้นหากพวกเขาคิดจะเอาทรัพยากรประเภทใช้แล้วหมดไปของนิกายยาสุดล้ำไปใช้พวกเขาทั้งหลายนั้นจะต้องไปรบศึกที่เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นานสามปี!

เหล่านิกายทั้งหลายนั้นต่างเป็นสมาชิกพันธมิตรสวรรค์แรกทั้งสิ้น

แต่บนทวีปสวรรค์แรกนั้นมันยังมีนักยุทธจนอยู่อีกนับไม่ถ้วนและนี่มันคือกองกำลังที่ไม่อาจจะมองข้ามได้เลย

ในหมู่คนทั้งหลายนั้นมันมีคนที่กล้าบ้าบิ่นอาสาไปรบที่เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ตลอดปี

แต่คนส่วนใหญ่นั้นยังไม่คิดจะเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงเช่นนั้น

การประกาศของนิกายยาสุดล้ำนั้นมันทำให้นักยุทธจรมากมายต่างเดินทางมุ่งหน้ามายังนิกายยาสุดล้ำทันที

เพราะไม่มาไม่ได้!

นักยุทธจรนั้นขาดอะไร?

ทรัพยากร!

ในหมู่นักยุทธจรนั้นมันมียอดอัจฉริยะมากมายแต่พวกเขานั้นขาดแคลนทรัพยากรทำให้ยากที่จะบรรลุใดๆ

ได้มีแต่ต้องตั้งหน้ารับเต๋าทุกข์ไปเรื่อยๆ!

วันหนึ่งหากมันเกินมือไปแล้วจริงๆ มันก็มีแต่ต้องตาย!

เมื่อนิกายยาสุดล้ำเปิดทรัพยากรให้ใช้เช่นนี้มันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายนั้นมีความหวังที่จะบรรลุขึ้นมา

และในเรื่องทรัพยากรการบ่มเพาะนั้นมันคงไม่มีนิกายไหนอุดมสมบูรณ์เท่านิกายยาสุดล้ำแล้ว!

พวกเขานั้นคือนิกายที่ใหญ่ที่สุดในทวีปสวรรค์แรกนี้

อีกสองนิกายระดับเจ้าโลกนั้นยังไม่อาจจะเทียบชั้นกับนิกายยาสุดล้ำได้

เพราะฉะนั้นทรัพยากรของนิกายยาสุดล้ำนั้นมันจึงเป็นที่ดึงดูดอย่างมาก!

เรื่องราวเช่นนี้มันคงยากเกินปฏิเสธได้

เพราะฉะนั้นตอนนี้มันจึงมียอดฝีมือมากล้นมารวมตัวกันที่นิกายยาสุดล้ำ

ที่สำคัญไปกว่านั้นการทำเช่นนี้มันยังทำให้คนทั้งหลายชื่นชมนิกายยาสุดล้ำอย่างสุดหัวใจ!

“นิกายยาสุดล้ำนั้นสมเป็นนิกายยอดวิชาโอสถจริงๆ พวกเขานั้นช่างกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง!”

“นิกายยาสุดล้ำนั้นมีความรับผิดชอบสูงล้ำนัก! หลังจากข้าบรรลุได้แล้วข้าจะไปแสดงฝีมือที่เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ให้หนำใจเลย!”

“ทิ้งความเห็นแก่ตัวและทำลายทางตันที่คนเราติดมากว่าล้านๆ ปีให้เห็นกับตา นิกายยาสุดล้ำนั้นช่างมีจิตใจที่กว้างใหญ่เสียจริงๆ!”

ในหมู่คนทั้งหลายนั้นมันย่อมจะมีคนที่มากประสบการณ์และฉลาดหลักแหลมมากมาย

การกระทำนี้ของนิกายยาสุดล้ำมันทำให้พวกเขานั้นรู้สึกอับอายอย่างมาก ได้แต่ต้องสาบานในใจว่าจะต้องไปรบที่เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์เพื่อตอบแทนคุณนี้

ทุกวี่วันนั้นจะมียอดฝีมือมากมายมารวมตัวกันที่หน้าประตูขึ้นเขา

และมันยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนนิกายยาสุดล้ำนั้นเกลียดชังเย่หยวนไปถึงกระดูก

เพราะจากวันนี้ไปศิษย์นิกายยาสุดล้ำทั้งหลายนั้นต้องออกไปรบที่เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ด้วย!

ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนพวกเขาก็จะถูกบังคับให้ไปรบที่แนวหน้าทุกคน

ฮั่วจงที่ได้ยินข่าวนั้นต้องอ้าปากค้าง

เพราะคำโม้ของเย่หยวนที่ให้ไว้ตอนเข้านิกายนั้นมันได้กลายเป็นจริงแล้ว!

ศิษย์น้องของเขาคนนี้จะเก่งกาจเกินไปแล้ว!

ทำไมจักรพรรดิเซียนตัวน้อยคนหนึ่งถึงได้เก่งกาจล้ำฟ้าปานนี้?

แล้วถามว่าฝ่ายอนุรักษ์นั้นจะยอมปล่อยเรื่อยนี้ผ่านไปหรือ?

ไม่มีทาง!

เมื่อข่าวนี้ถูกประกาศออกมานั้นฝ่ายอนุรักษ์ต่างทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อกดดันทางนิกายมากมาย

พวกเขานั้นเรียกได้ว่าลงมือเต็มกำลังเพื่อจะกดดันให้นิกายเปลี่ยนใจ!

ฝ่ายอนุรักษ์นั้นมันมีจำนวนมากกว่าครึ่งของนิกายยาสุดล้ำที่เหลืออยู่

หากพวกเขาร่วมมือกันจริงๆ แล้วมันย่อมจะสร้างแรงกดดันได้มหาศาล

แต่ว่าในตอนนั้นเองที่มันได้ปรากฏกฎหนึ่งขึ้นมาบนท้องฟ้าของนิกายยาสุดล้ำทำให้คนทั้งหลายแทบไม่อาจหายใจ!

กฎนี้มันสามารถเห็นได้จากทุกมุมของนิกาย

เจ้าโลกทั้งสี่ของนิกายยาสุดล้ำนั้นได้ร่วมมือกันลงชื่อเขียนกฤษฎีกาลงมารับรองว่าการตัดสินใจของหอสุดแสงนั้นคือการตัดสินใจของเจ้าโลกทั้งสี่!

ได้เห็นเช่นนั้นนิกายยาสุดล้ำมันก็แทบแตกทันที!

เจ้าโลกทั้งสี่นั้นปกติแล้วไม่ค่อยยุ่งเรื่องภายในนิกายมากมายและย่อมจะไม่เคยลงนามรับรองคำสั่งใดๆ เช่นนี้มาก่อน

แต่ครั้งนี้พวกเขานั้นกลับร่วมมือกันลงนามในกฤษฎีกานี้!

ไม่มีใครขัดเจ้าโลกได้

เพราะฉะนั้นด้วยเหตุนี้ฝ่ายอนุรักษ์นั้นก็ต้องกลับไปหดหัวรับคำสั่งอย่างไม่อาจขัดขืนได้อีก

“ฮ่าๆๆ…ไอ้เด็กนี่มันช่างทำอะไรได้ถูกใจเสียจริง! การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของมันทำได้สวยงามนัก! สิ่งที่แม้แต่ข้ายังคิดทำไม่ได้มันกลับทำให้สำเร็จขึ้น!”

ในเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นเจ้าโลกหยุนซานกำลังหัวเราะลั่นขึ้นมาอย่างสะใจ

แต่ว่าเสียงของเขานั้นมันไม่ดังไปถึงหูของเจ้าโลกคนอื่นๆ

เพราะว่าเขานั้นใช้พลังปราณตัดขาดเสียงของตัวเองไว้

แต่เทพศักดิ์สิทธิ์นั้นย่อมจะยังได้ยินเขา

“ข้าไม่นึกเลยจริงๆ ว่าเจ้าหนุ่มคนนี้มันจะเก่งกาจได้ปานนี้ ทำลายทางตันที่ติดขัดมานานถึงหลายพันปีได้ในพริบตาเช่นนี้! เท่านี้เฒ่าทั้งหลายมันก็คงแทบกระอักเลือดตายแน่แล้ว! จะว่าไปเรื่องนี้ก็ต้องขอบคุณเย่หยวนมันจริงๆ!” เทพศักดิ์สิทธิ์นั้นกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

“หึๆ ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ ท่านอย่าเอาแต่พูดแล้วกัน! ข้านั้นจะจำคำท่านไว้แน่นอน!” เจ้าโลกหยุนซานนั้นยิ้มขึ้นมาอย่างมีเลศนัย

เมื่อเทพศักดิ์สิทธิ์ได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดหัวเราะลั่นขึ้นไม่ได้ “เจ้าเฒ่านี้ เจ้าจะบอกว่าข้านั้นติดค้างเด็กหนุ่มจักรพรรดิเซียนคนหนึ่ง? ครั้งนี้ได้เย่หยวนช่วยไว้มากจริงๆ! แต่พวกเฒ่าทั้งหลายมันคงมาหาเรื่องเจ้าแน่นอนไม่ต้องห่วงเลย!”

หยุนซานยิ้มตอบกลับไป “พ่อเจ้ากลัวพวกมันหรือ? หากมิใช่เพราะพวกมันเข้ามาขวางทุกทางแล้วกฎใหม่ของเราก็คงได้ใช้ไปตั้งแต่แรก ทำไมเราต้องมาเอาแต่นั่งตั้งรับเช่นนี้? หึ! ถึงขั้นจะเป็นจะตายกันอยู่ทุกวี่วันแล้วพวกมันนั้นกลับยังมีหน้ามาหวงความรู้วิชาใดๆ อีก! สมควรแล้วที่นิกายของพวกมันจะถูกทำลายลง!”

แน่นอนว่าเจ้าโลกในเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นย่อมจะไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกัน

เหตุผลที่มันกลายมาเป็นเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์อย่างทุกวันนี้ได้มันก็เพราะว่าสถานการณ์บีบบังคับทั้งสิ้น

ทำไมฝ่ายอนุรักษ์มันถึงยังมีหลักให้ยืนกันอย่างมั่นคง?

หากไม่มีเจ้าโลกหนุนหลังแล้วพวกเขาจะอยู่ได้?

ในหมู่เจ้าโลกทั้งหลายนั้นพวกเจ้าโลกหยุนซานนั้นนับว่าเป็นกลุ่มคนที่หัวสมัยใหม่คิดการณ์ไกล

พวกเขานั้นคิดจะทำลายกำแพงระหว่างนิกายและรวมให้พันธมิตรสวรรค์แรกเป็นหนึ่งกองทัพอย่างแท้จริง!

แต่เจ้าโลกคนอื่นๆ นั้นย่อมจะไม่มีทางยอมรับเรื่องเช่นนี้!

เหล่าเจ้าโลกทั้งหลายนั้นยังต้องการให้แต่ละนิกายมีอิสระต่อกัน

ไม่เช่นนั้นแล้วตำนานความรู้ของพวกเขาทั้งหลายมันก็คงจะกลายเป็นแค่หนังสืออ่านเล่นของผู้คนและในหมู่คนทั้งหลายนั้นเหล่าเจ้าโลกจากทวีปอื่นนั้นยิ่งมีความคิดนี้ที่รุนแรง!

เพราะนิกายของพวกเขานั้นมันแหลกสลายลงไปแล้ว

เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงยิ่งหวงความรู้

เทพศักดิ์สิทธิ์นั้นคิดอยากจะลายกำแพงระหว่างนิกายแต่เขาเองก็ต้องยืมมือเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายต่อต้านเผ่าเลือดทำให้จนทุกวันนี้ก็ยังไม่อาจหาโอกาสทำอะไรได้

แต่การลงมือนี้ของเย่หยวนมันทำให้ทางตันนี้ถูกทะลวงลงทันที

ในเมื่อสถานการณ์มันดำเนินขึ้นแล้วเทพศักดิ์สิทธิ์เองก็จะไม่อยู่เฉยอีก!

เช่นนั้นแล้วเย่หยวน จักรพรรดิเซียนตัวน้อยคนนี้มันมีดีอะไรถึงทำเรื่องที่แม้แต่เจ้าโลกยังทำไม่ได้?

เหตุผลหลักๆ มันก็เพราะว่าของจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้น

ตั้งแต่ที่เย่หยวนเข้านิกายมานั้นเย่หยวนก็ค่อยๆ สร้างชื่อเสียงขึ้นมาอย่างไม่มีหยุด

ในวินาทีสุดท้ายนั้นเขาได้โยนสมบัติจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตออกมามหาศาล ภายใต้สภาพเช่นนี้ฝ่ายอนุรักษ์เองก็จึงไม่กล้าจะพูดขัดอะไรมากมาย

เพราะว่าพวกเขาเองก็ต้องการสมบัติ! พวกเขานั้นอยากจะเก่งขึ้น!

ในตอนนี้เมื่อได้เห็นกฤษฎีกาจากพวกหยุนซานแล้วพวกเขาจึงยอมที่จะถอยกลับไปแต่โดยดีเช่นนี้

……………………………………………………