นับจากวันนั้น หยางเฉินก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องทั้งวันทั้งคืนและฝึกฝนคัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยานอย่างบ้าคลั่ง
เพียงแค่ห้าวันสั้นๆ นี้ เขาสามารถใช้เทคนิคการหายใจขั้นหนึ่งของคัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยาน
ตอนนี้ อาการบาดเจ็บของเขา เกือบจะหายดีแล้ว
อย่างไรก็ตาม ระดับบู๊ของเขาก็ยังฟื้นกลับมาไม่ได้ อีกอย่างเทคนิคการหายใจขั้นสองของคัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยานก็ยังใช้ไม่ได้
ทุกครั้ง ที่เขาพยายามจะใช้เทคนิคการหายใจขั้นสอง ก็จะรู้สึกว่าเลือดในร่างกายพลุ่งพล่านไปทั้งตัว ราวกับว่าร่างกายจะระเบิดออกมาอะไรอย่างนั้น
“หากยังฟื้นพลังกลับมาไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าถึงจะขัดขวางการแต่งงานของซ่านกวนโหรวกับตระกูลหลี่ได้เลย”
หยางเฉินหยุดฝึก และเดินไปเดินมาในห้อง พร้อมกับสีหน้าที่ตึงเครียด
ในขณะที่เขากำลังหาวิธีฟื้นพลังวิถีบู๊กลับมาภายในสองวันที่เหลืออยู่ อีกด้านหนึ่งในห้องของกษัตริย์ซ่านกวน
“เวลาอย่างนี้ หยางเฉินกำลังทำอะไรอยู่นะ? ”
กษัตริย์ซ่านกวนมองไปที่ซ่านกวนจื่อฉินที่ยืนอยู่ข้างหน้าแล้วถาม
ซ่านกวนจื่อฉินก็พูดต่อว่า “ห้าวันที่ผ่านมานี้ เขาเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องไม่ยอมออกไปไหนเลยครับ”
กษัตริย์ซ่านกวนขมวดคิ้ว “ยังไม่ออกไปไหนเลยงั้นเหรอ?”
ซ่านกวนจื่อฉินพยักหน้า “นอกจากเวลาอาหารสามมื้อต่อวัน เขาให้คนเข้าไปส่งอาหาร นอกจากนั้นก็ไม่ยอมออกมาจากห้องและก็ไม่ยอมให้ใครเข้าไปรบกวนเลยครับ”
เมื่อฟังจากซ่านกวนจื่อฉินพูดแล้ว กษัตริย์ซ่านกวนก็ยิ่งงงมากขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่า ตกลงหยางเฉินกำลังทำอะไรอยู่กันแน่
เท่าที่เขารู้เกี่ยวกับตัวของหยางเฉินมา หลังจากเขารู้เรื่องที่ซ่านกวนโหรวจะแต่งงานกับตระกูลหลี่ เขาควรจะออกมาขัดขวาง หรืออย่างน้อยๆ ก็น่าจะออกมาพูดอะไรบางอย่างกับเขาแล้ว
แต่ตอนนี้ หยางเฉินกลับไม่ทำอะไร เอาแต่ทำเรื่องของตัวเอง เหมือนกับว่าเรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับเขาอย่างนั้น
“เสด็จพ่อครับ เขาอาจจะฝึกอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้นะครับ” จู่ๆ ซ่านกวนจื่อฉินก็พูดขึ้นมา
กษัตริย์ซ่านกวนไม่ได้พูดอะไร เพราะกำลังคิดอยู่ว่าบางทีอาจจะเป็นไปได้ เขาจึงส่งผู้แข็งแกร่งไปสังเกตใกล้ๆ ที่พักของหยางเฉิน แต่ตามที่รายงานมา ก็ไม่เคยได้ยินเรื่องออร่าของวิถีบู๊มาก่อนเลย
เป็นไปไม่ได้ที่ผู้แข็งแกร่งวิถีบู๊จะสามารถปกปิดออร่าวิถีบู๊ของตัวเองในขณะที่ฝึกได้หมดแบบนี้
สิ่งที่เขาสงสัยในตอนนี้คือ ผู้แข็งแกร่งที่เขาส่งไป อาจจะสัมผัสไม่ได้ถึงออร่าวิถีบู๊ของหยางเฉินเลยด้วยซ้ำ แต่หยางเฉินไม่ยอมออกจากห้องตั้งห้าวันเต็มๆ ถ้าไม่ได้ฝึกวิชา แล้วจะทำอะไรได้อีก?
“นายไปเถอะ!” กษัตริย์ซ่านกวนพูด
หลังจากที่ซ่านกวนจื่อฉินออกไป ชายชราที่ใส่เสื้อธรรมดาก็เดินออกมา
กษัตริย์ซ่านกวนถามว่า “เสด็จอา ท่านคิดว่าหยางเฉินคนนี้กำลังทำอะไรอยู่กันแน่ครับ?”
ซ่านกวนฟู่ส่ายหัวไปมา “ในสถานการณ์แบบนี้ นอกจากจะฝึกวิชาก็ไม่น่าจะทำอย่างอื่นไปได้หรอก แต่ประเด็นคือ ไม่มีการแผ่ออร่าออกมาจากตัวของเขาเลย แม้แต่ฉันที่เคยแอบไปหลายรอบ ก็สัมผัสออร่าวิถีบู๊ที่ออกมาจากตัวของเขาไม่ได้เลย”
กษัตริย์ซ่านกวนพูดอย่างประหลาดใจว่า “แม้แต่ท่านก็สัมผัสไม่ได้งั้นเหรอครับ? หรือว่าวิถีบู๊ของเขาจะถูกทำลายแล้วจริงๆครับ?”
ซ่านกวนฟู่พยักหน้า “ก็เป็นไปได้ที่จะเป็นอย่างนั้น หรือบางที ที่เขาไม่ยอมออกจากห้องก็เพราะกำลังคิดหาวิธีฝึกฝนวิชา แต่ทว่าวิถีบู๊ของเขาถูกทำลายแล้ว ก็ไม่สามารถฟื้นฟูความสามารถได้”
เมื่อฟังจากซ่านกวนฟู่พูดแล้ว กษัตริย์ซ่านกวนดูเหมือนจะผิดหวังเล็กน้อย หลังจากตระกูลหลี่มาสู่ขอ วันนี้ก็เป็นวันที่ห้าแล้ว วันมะรืนซ่านกวนโหรวก็จะแต่งงานแล้ว ถ้าถึงเวลาแล้ว หยางเฉินยังไม่ยอมออกมาจากห้องซ่านกวนโหรวคงต้องแต่งงานกับตระกูลหลี่จริงๆ
แม้ว่านี่จะอยู่ในแผนที่เขาวางไว้ แต่เขาก็พอใจกับตระกูลหลี่ เมื่อเทียบกับการที่ให้ซ่านกวนโหรวแต่งงานกับตระกูลหลี่ และที่ยิ่งไปกว่านั้นเขาเองก็หวังว่าหยางเฉินจะสามารถกำจัดตระกูลหลี่ได้
ในเมื่อเขาเป็นถึงผู้พิทักษ์ของเมืองราชวงศ์ซ่านกวน ตอนนี้ตระกูลหลี่มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่อยู่คนหนึ่ง แน่นอนว่าเขาคงไม่อยากให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
และยังมีเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ ซ่านกวนโหรวถูกสั่งสอนมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเขา มีความสามารถโดดเด่นทุกด้าน แม้ว่าจะเป็นผู้หญิงและยังอายุน้อยขนาดนี้ แต่ซ่านกวนโหรวเองก็มีคุณสมบัติพอที่จะมารับตำแหน่งจักรพรรดิต่อ
เมื่อเทียบกับลูกชายสามคนของเขาแล้ว ก็มีแต่ซ่านกวนโหรวคนเดียวที่เหมาะจะมารับตำแหน่งต่อ
ถ้าต้องรอวันที่ลูกชายทั้งสามคนก้าวข้ามซ่านกวนโหรว เขาเองก็เกรงว่าคงจะไม่ได้เห็น หรืออาจจะไม่มีวันนั้นก็เป็นได้
“ดูเหมือนว่า ครั้งนี้เราคงต้องให้โหรวเอ๋อร์แต่งงานกับตระกูลหลี่แล้วจริงๆ ”
ผ่านไปสักพักใหญ่ กษัตริย์ซ่านกวนก็ถอนหายใจและพูดออกมา
ซ่านกวนฟู่พูดว่า “แกเองก็อย่ามองโลกในแง่ร้ายมากเกินไป เรื่องมันยังไม่จบ ใครจะไปรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
กษัตริย์ซ่านกวนพยักหน้า “ผมก็ไม่มีเรื่องให้มองโลกในแง่ร้ายนะครับ ถ้าพลังของหยางเฉินหมดแล้วจริงๆ ก็ให้โหรวเอ๋อร์แต่งงานกับตระกูลหลี่ ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี”
แม้ว่าความสามารถด้านต่างๆ ของซ่านกวนจื่อฉินจะไม่โดดเด่นเท่าซ่านกวนโหรว แต่เขาก็เป็นพ่อของซ่านกวนโหรว ถ้ายกตำแหน่งจักรพรรดิให้ซ่านกวนจื่อฉิน ซ่านกวนโหรวต้องยอมช่วยอย่างสุดความสามารถอย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นตระกูลหลี่ทั้งตระกูลต้องสนับสนุนซ่านกวนจื่อฉิน
ถ้าระดับบู๊ของหลี่จ้งไม่ทะลวงผ่านไปอีกระดับ อย่างนั้นตระกูลหลี่ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวอีกแล้ว ในเมื่อราชวงศ์ซ่านกวน ยังมีซ่านกวนฟู่ และยังมีผู้พิทักษ์ที่คอยปกป้องซ่านกวนฟู่อยู่
อีกด้านหนึ่งตระกูลหลี่
ในห้องห้องหนึ่ง หลี่จ้งที่มีสีหน้าเคร่งขรึมก็มองไปที่หลี่เจียงสงและพูดว่า “ไม่กี่วันมานี้ ฉันคิดอะไรหลายๆ อย่าง รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ เกี่ยวกับการที่ราชวงศ์ซ่านกวนยอมแต่งงานกับเรา”
หลี่เจียงสงตะลึงไปสักครู่พร้อมกับพูดต่อว่า “ท่านพ่อครับ ท่านคิดว่านี่เป็นแผนของกษัตริย์ซ่านกวนใช่ไหมครับ?”
หลี่จ้งพยักหน้า “แค่สงสัยเท่านั้น”
“ท่านคิดว่าอย่างไรครับ? ให้ผมช่วยคิดไหมครับ?” หลี่เจียงสงถาม
หลี่จ้งไม่ได้ปิดบัง พร้อมกับพูดไปว่า “ซ่านกวนโหรวเป็นทายาทที่ถูกกษัตริย์ซ่านกวนสั่งสอนมากับมือ ลูกชายทั้งสามคนของกษัตริย์ซ่านกวน ไม่มีใครมีความสามารถโดดเด่นเท่าซ่านกวนโหรว แล้วทำไมกษัตริย์ซ่านกวนถึงยอมให้ซ่านกวนโหรวแต่งงานกับตระกูลหลี่ของเราล่ะ?”
“กว่าจะได้บทสรุปอย่างนี้ ผมใช้เวลาคิดนานมาก เขาอยากให้หยางเฉินใช้โอกาสในการแต่งงานครั้งนี้กำจัดเรา”
ทันทีที่พูดเรื่องนี้ออกมา สีหน้าของหลี่เจียงสงก็เปลี่ยนไปทันที “จะเป็นไปได้ยังไง?”
หลี่จ้งถอนหายใจพร้อมกับพูดว่า “จนถึงตอนนี้พวกเราก็ไม่มั่นใจว่า วิถีบู๊ของหยางเฉินนั้นถูกทำลายแล้วจริงๆ แล้วแกคิดว่า กษัตริย์ซ่านกวนจะมั่นใจงั้นเหรอ?”
“เพราะฉะนั้น ที่เขาบอกให้เราปล่อยหยางเฉินไป ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าแม่งก็เป็นเพื่อนหมาๆ คนหนึ่ง ถ้าวิถีบู๊ของหยางเฉินถูกทำลายแล้วจริงๆ เขาจะยังอยากเป็นเพื่อนกับหยางเฉินอยู่อีกเหรอ?”
หลี่เจียงสงส่ายหัวไปมา “ไม่มีทางครับ! และยิ่งไปกว่านั้นกษัตริย์ซ่านกวนคนนี้เป็นคนฉลาดมากๆ ก่อนจะมั่นใจว่าวิถีบู๊ของหยางเฉินถูกทำลาย เขาไม่มีทางลงมือกับหยางเฉินแน่นอนครับ”
“ใช่แล้ว!”
หลี่จ้งพยักหน้าและพูดต่อว่า “ดังนั้นจึงพูดได้ว่า ตอนนี้เขาเองก็ไม่มั่นใจว่า ตกลงแล้ววิถีบู๊ของหยางเฉินนั้นถูกทำลายแล้วจริงๆ ดังนั้นจึงใช้งานแต่งในการบังคับหยางเฉิน เพราะความสัมพันธ์ระหว่างหยางเฉินกับซ่านกวนโหรวนั้นดีมาก และประเด็นที่สำคัญที่สุดคือหยางเฉินเป็นคนให้ความสำคัญกับเรื่องอย่างนี้มาก ถ้าเขารู้ว่าซ่านกวนโหรวถูกบังคับให้แต่งงานกับตระกูลหลี่แล้วล่ะก็ แกคิดว่ามันจะทำยังไง?”
หลี่เจียงสงสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ แล้วพูดว่า “เขาต้องเข้ามาขัดขวางการแต่งงานครั้งนี้แน่นอน ขอแค่เขาเข้ามาแทรก ก็แปลว่าวิถีบู๊ของเขายังไม่หมด”
“เมื่อถึงตอนนั้น ตระกูลหลี่ของเราคงต้องรับมือกับความโกรธของเขา ส่วนราชวงศ์ซ่านกวนคงจะมองตระกูลหลี่ของเราเป็นเสี้ยนหนามทันที โดยเฉพาะหลังจากที่ท่านพ่อเสียไปแล้ว คงไม่มีทางทนต่อตระกูลหลี่แน่”
“ด้วยวิธีนี้ กษัตริย์ซ่านกวนสามารถยืมมือของหยางเฉินเพื่อกำจัดตระกูลหลี่ของพวกเรา จากนั้นในเมืองราชวงศ์ซ่านกวนก็จะไม่มีใครกล้าคุกคามราชวงศ์ซ่านกวนอีก”