ตอนเย่เฉินออกมาจากคฤหาสน์ หน้าประตูไร้ร่างของอิโตะ นานาโกะแล้ว
เขามองซ้ายแลขวาหลายรอบ ก็ไม่เห็นร่างอิโตะ นานาโกะเลย
ทำให้เย่เฉินอดเซ็งขึ้นมาไม่ได้ เมื่อกี้ตนไม่น่าจะคิดผิด ผู้หญิงคนนั้นถึงจะใส่หน้ากากปิดหน้าไว้ แต่ตนสามารถมั่นใจได้ว่า เธอคืออิโตะ นานาโกะ
ในเมื่อเธอมาที่ Tomson Riviera งั้นต้องมาหาตนแน่ ทำไมถึงหายไปดื้อๆงี้ล่ะ?
พอคิดถึงตรงนี้ เย่เฉินอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ คิดไม่ออกจริงๆว่าสาวน้อยญี่ปุ่นคนนี้คิดอะไรอยู่
อิโตะ นานาโกะตอนนี้กำลังซ่อนตัวพลางมองดูเย่เฉินอยู่ไกลๆจากในร้านชานมร้านหนึ่ง
พอเห็นเย่เฉินมีสีหน้าหม่นหมองเล็กน้อย บางพื้นที่ในใจเธอก็รู้สึกแปลกๆ
คืนนี้เธอมาหาเย่เฉินจริงๆ ใกล้จะแข่งรอบชิงแล้ว เธอรู้ดีว่าตนยากจะเอาชนะฉินเอ้าเสวี่ยนได้ บางทียังเป็นไปได้อย่างมากที่จะได้รับบาดเจ็บในการแข่งด้วย
อาจารย์ ครอบครัวของเธอต่างไม่อยากให้เธอลงแข่งต่อ
แต่เธอกลับรู้สึกว่า นักสู้ที่แท้จริง ต่อให้ฝีมือสู้อีกฝ่ายไม่ได้ แต่ความมุ่งมั่นก็ไม่สามารถโดนอีกฝ่ายโค่นลงได้ ดังนั้นเธอเลยตัดสินใจลงแข่งต่อไป ในเวลาเดียวกันก็เตรียมความพร้อมที่จะบาดเจ็บจากการแข่งด้วย
ดังนั้นพ่อของเธอเลยส่งเครื่องบินส่วนตัวมาหนึ่งลำรวมถึงทีมแพทย์มือดีของญี่ปุ่นหนึ่งทีม ทีมแพทย์นี้จะคอยเฝ้าดูเหตุการณ์ข้างสนามแข่งอย่างใกล้ชิดในรอบชิง ถ้าอิโตะ นานาโกะได้รับบาดเจ็บกลางสนามแข่ง พวกเขาจะรีบให้การรักษาทันที ในเวลาเดียวก็จะนำเธอส่งรักษาที่โตเกียวภายในสามชม.ด้วยเครื่องบินส่วนตัวนี่
ดังนั้นหลังจากตนลงแข่งรอบชิง เป็นไปได้ว่าอาจจะไม่มีโอกาสเจอหน้าเย่เฉินอีก ดังนั้นอิโตะ นานาโกะถึงได้คิดจะมาเจอเขาอีกครั้งในคืนนี้
แต่ว่าเธอไม่คิดเลยว่า เมื่อกี้ตอนตนยืนรออยู่หน้าประตูทางเข้าTomson Riviera เห็นเย่เฉินเลี้ยวรถเข้ามา แต่กลับพบว่าบนที่นั่งด้านหลังของรถกลับมีผู้หญิงสวยมากคนหนึ่งนั่งอยู่ มันทำให้เธอฉุกคิดได้ว่า ผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นภรรยาของเย่เฉินแน่
วินาทีนั้นเธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย และรู้สึกว่าตนไม่ควรมารบกวนผู้ชายที่แต่งงานแล้วคนหนึ่ง เลยเตรียมตัวกลับโรงแรม
ถึงแม้เตรียมตัวจะกลับ แต่ในใจเธอก็ยังคงอยากรู้ว่า เย่เฉินเห็นตนไหม และจะออกมาพบตนไหม
ดังนั้นเลยซื้อชานมหนึ่งแก้วนั่งลงในร้านชานมแห่งนี้
ความรู้สึกในใจอิโตะ นานาโกะที่มีต่อเย่เฉินมันซับซ้อนมาก
เพราะเขาทำอาจารย์ผู้มีพระคุณพิการ ตนรู้สึกโทษเขาอยู่บ้าง รู้สึกว่าเขาลงมือหนักเกินไป
เพราะฝีมือเขาร้ายกาจมาก ตนเลยเลื่อมใสในตัวเขา รู้สึกว่าเขานี่แหละที่เป็นปรมาจารย์นักสู้ที่แท้จริง
เพราะครั้งที่แล้วเขาด่าเธอไปยกหนึ่ง ตนรู้สึกละอายเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา หรือกระทั่งความเชื่อมั่นและความเข้มแข็งในใจตนล้วนได้รับผลกระทบจากเขา จนถึงขนาดว่าแค่คิดถึงเขา ตนมักจะใจอ่อนยวบขึ้นมา
เพียงแต่เธอไม่รู้ว่า การใจอ่อนยวบนี้เป็นการแอบรักและเลื่อมใสชนิดหนึ่ง
เธอได้รับการอบรมสั่งสอนของตระกูลสูงมาแต่เล็ก คุณภาพทางจิตใจดีมาก โตจนป่านนี้แล้ว ไม่ว่าเจอใครหรือคิดถึงใครก็ไม่เคยตื่นเต้นเลย
แต่ช่วงนี้ ทุกครั้งที่คิดถึงเย่เฉิน เธอมักรู้สึกใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ ต่อให้เย่เฉินไม่ได้ยืนอยู่ตรงหน้า ตนยังคงรู้สึกตื่นเต้นอย่างหนัก ในใจตื่นเต้นหนักเหมือนมีกวางน้อยเข้ามาวิ่งเล่น
ตอนนี้ต่อให้มองดูเย่เฉินอยู่ไกลๆ ก็ยังคงใจเต้นแรงอยู่ดี
แถมตอนเธอเห็นสีหน้าเย่เฉินมีแววเสียดายเล็กน้อย ในใจกลับผุดความดีใจขึ้นมา
เหมือนกับตนยืนอยู่บนเวทีแข่งแล้วเห็นสายตาเย่เฉินฉายแววปวดใจขึ้นมาแล้ว ทำให้เธอรู้สึกพอใจมาก