พลังจุติมรณะเป็นวรยุทธ์ดั้งเดิมที่กำเนิดมาจากวัฏสงสาร การสาธกและทัศนะของวรยุทธ์ดังกล่าวที่มีต่อกฎชีวิตนั้น พอจะเรียกได้เลยว่ายอดเยี่ยมถึงขั้นสุด หากถ่ายทอดมันให้แก่หนิงหานยู่ละก็ จากพรสวรรค์ของนาง ต้องสามารถแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วได้แน่นอน กระทั่งสามารถรับมือกับทุกอย่างด้วยตนเองได้

ในขณะที่มีความคิดเช่นนี้ผุดขึ้นมาในใจหลัวซิวอยู่นั้น ฉียู่หรงเห็นว่าเงาร่างของเขาหยุดลง นางจึงเข้าใจในทันทีว่าเขากำลังจะจากไปแล้ว

“ศิษย์พี่เย่ ท่านจะไปนั่งเรืออนัตตาที่ภูเขาคุนหลุนเพื่อมุ่งหน้าไปยังมหาโลกายอดอัมพรหรือ?”ฉียู่หรงเอ่ยปากถาม

สายตาของหนิงหานยู่ก็ร่วงลงบนตัวหลัวซิวเช่นกัน ระหว่างทางนางได้ฟังเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเย่ห้าวหรานผู้นี้ผ่านปากพี่สาวตนแล้ว ความลึกลับและความแข็งแกร่งของคนดังกล่าวทำให้นางประหลาดใจต่อหลัวซิวอย่างเต็มเปี่ยม

อีกทั้งนางสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ทำให้นางรู้สึกสบายมาก ๆ และออร่าที่ดึงดูดนางจากตัวหลัวซิว นั่นคือการเกิดความรู้สึกร่วมอย่างหนึ่งในกฎชีวิต

“ใช่แล้ว ข้ามีเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ที่ต้องไปมหาโลกายอดอัมพร”หลัวซิวพยักหน้าพลางตอบกลับ

“เช่นนั้นช่วยพาข้ากับน้องสาวไปด้วยได้หรือไม่?”ฉียู่หรงเอ่ยปากถามอย่างกะทันหัน

ในความเป็นจริงการที่เสนอความคิดเห็นนี้ออกมานั้น ฉียู่หรงก็ผ่านการทบทวนตรึกตรองอย่างลึกซึ้งแล้ว เนื่องจากผู้คนในตระกูลฉีสามารถอาศัยเคล็ดวิชาสายเลือดมาตามตัวนางได้ เกิดเรื่องที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ นางเข้าใจดีมาก ๆ ว่าตัวเองหนีไม่พ้นจากการสืบร่องรอยและการจับกุมตัวของตระกูลฉีได้อย่างแน่นอน

เพราะฉะนั้นนางจึงอยากจากไปพร้อมกับหลัวซิว ตระกูลฉีที่อยู่ในโลกะดาราอัมพรเทวคือกองกำลังใหญ่ระดับชั้นยอด ทว่าหากไปถึงโลกาชั้นฟ้าแล้ว ตระกูลฉีก็จะไม่มียิ่งใหญ่อะไรแล้ว

“มหาโลกายอดอัมพร? ฟังดูน่าสนุกมาก ๆ เลยนะเจ้าคะ”เมื่อหนิงหานยู่ได้ยินคำพูดดังกล่าว สีหน้าจึงดูน่าสนใจขึ้นมา

เมื่อเปรียบเทียบกับฉียู่หรงแล้ว หนิงหานยู่ขาดความสุขุมอย่างหนึ่ง กลับมีความปราดเปรียวมากกว่าส่วนหนึ่ง

“พวกเจ้าแน่ใจหรือว่าจะไปพร้อมข้า?”หลัวซิวถาม

ฉียู่หรงพยักหน้าอย่างยืนยันมาก ๆ ก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่นพลางพูด: “อยู่ที่นี่ไม่เร็วก็ช้าก็ต้องถูกจับกุมตัวได้อยู่ดี มีมกุฎเทพคนหนึ่งและอัจฉริยะที่มากมายเช่นนั้นตายไป เฒ่าประหลาดเหล่านั้นต้องไม่มีทางปล่อยข้าและน้องสาวไปอย่างแน่นอน”

“อีกทั้งฐานร่างที่พิเศษของน้องสาวข้า เหมาะกับการฝึกกฎชีวิตตั้งแต่กำเนิดแล้ว ซึ่งเหล่าเฒ่าประหลาดในตระกูลโหยหามาก ๆ มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทันทีที่ตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกมัน ไม่แน่พวกมันอาจจะเอาน้องสาวไปกลั่นเป็นยาได้”

สำหรับฐานร่างพิเศษของน้องสาว ฉียู่หรงไม่ได้ปิดบังแต่อย่างใด เนื่องจากเมื่อผ่านพ้นเรื่องราวเหล่านี้มาแล้ว นางเชื่อใจมาก ๆ ว่าจากบุคลิกลักษณะของหลัวซิว เขาจะไม่มีจิตใจที่อยากครอบครองร่างกายของน้องสาวนาง

“ร่างเทวกฎธาตุชีวิต มันเป็นวัตถุดิบดี ๆ ในการกลั่นยาจริง ๆ ”หลัวซิวหัวเราะเบา ๆ แล้วพูด

“พี่เย่ ท่านจักไม่นำข้าไปกลั่นยาหรอกใช่ไหม?”หนิงหานยู่แสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา นางทราบมาจากปากพี่สาวตนแล้วว่าฝ่ายตรงข้ามกลั่นยาเป็น

“ไม่อยู่แล้ว อีกทั้งต่อไปข้ายังสามารถชี้แนะการฝึกตนให้แก่เจ้าได้ด้วย ใช้เวลาไม่นาน ผลการฝึกตนของเจ้าก็จะไล่ตามพี่สาวเจ้า”หลัวซิวยิ้มพลางตอบกลับ

“จริงหรือ?”แววตาของหนิงหานยู่เป็นประกายขึ้นมา

เนื่องจากฐานร่างที่พิเศษของนาง ตระกูลฉีก็ไม่มีวรยุทธ์ที่เหมาะกับการฝึกตนของนางเช่นกัน สำหรับการฝึกกฎชีวิตนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่นางสืบเสาะค้นหาในหลาย ๆ ด้านด้วยตนเองมาโดยตลอด

เพราะฉะนั้นผลการฝึกตนของหนิงหานยู่จึงไม่สูงเสมอมา มีผลการฝึกตนเพียงเจ้านภาขั้นสุดยอด ไม่ถึงแม้กระทั่งราชาเทพ เพราะฉะนั้นนางจึงถูกผู้คนในตระกูลฉีจับกุมตัวได้ง่าย ๆ

เมื่อได้ฟังคำพูดของหลัวซิวแล้ว สีหน้าของฉียู่หรงก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้เช่นกัน นางเคยเห็นหลัวซิวลงมือโจมตีกับตาตนเองมาก่อน เขายึดกุมกฎชั้นยอดสามประเภท หรือว่าเขาก็เชี่ยวชาญในด้านกฎชีวิตเช่นกันหรือ?

ต้องท้าวความก่อนว่าผลการฝึกตนของนางคือราชาเทพขั้น 7 ใช้เวลาอีกไม่นานก็สามารถบรรลุถึงขั้น 8 แล้ว หากผลการฝึกตนของหนิงหานยู่จะไล่ตามตัวเองทันนั้น มันเป็นสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย