มองท่าทางที่ตกใจของซ่านกวนโหรว หยางเฉินพยักหน้าแล้ว พูดตามตรง “ความจริง ผมในตอนนี้ ครอบครองแค่ร่างกายของแดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม กลับไม่มีทางรวบรวมลักษณะพลังวิถีบู๊ออกมาได้สักนิด นี่คือเหตุผลว่าทำไม ผมถึงฆ่าหลี่เป่าจุ้นได้ในเสี้ยววินาที”
พูดแบบนี้ออกมา ชั่วขณะหนึ่งซ่านกวนโหรวอ้าปากกว้าง หน้าตาดูตกใจเต็มที่
ถึงแม้เธอจะสงสัยอยู่บ้างว่า ความสามารถของหยางเฉินไม่ได้ฟื้นกลับคืนจริง แต่นี่เป็นเพียงแค่การคาดเดา ถึงจะบอกว่าบนตัวหยางเฉินไม่มีลักษณะพลังวิถีบู๊เผยมาด้านนอก แต่ฆ่าหลี่เป่าจุ้นที่อยู่แดนเทพชั้นกลางในเสี้ยววินาทีได้จริง
สถานการณ์แบบนี้ เธอยังไม่เคยได้ยินมาก่อน ว่ากันตามเหตุผล ถ้าหากว่าวิถีบู๊ของผู้แข็งแกร่งถูกทำลายลง ระดับความแกร่งของร่างกาย ก็ต้องใช้การไม่ได้ตามไปด้วย
แต่เหมือนกับหยางเฉินนี้ ครอบครองร่างกายของแดนเหนือมนุษย์ไว้ กลับไม่มีลักษณะพลังวิถีบู๊ของผู้แข็งแกร่งสักนิด เธอยังได้ยินเป็นครั้งแรก
ไม่นาน สีหน้าซ่านกวนโหรวดูแย่ขึ้นมาอย่างมาก มองหยางเฉินด้วยท่าทางกังวลแล้วพูดว่า “ก่อนหน้านี้ฉันกำลังสงสัยอยู่ว่า ทำไมตอนที่คุณจู่โจมฆ่าหลี่เป่าจุ้น บนตัวถึงไม่ปล่อยกลิ่นอายวิถีบู๊ออกมาสักนิด นึกไม่ถึงว่าเป็นเพราะสถานการณ์แบบนี้นี่เอง”
“ตอนนี้ถึงคุณจะครอบครองร่างกายและกำลังของผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ไว้ แต่ไม่มีทางรวบรวมลักษณะพลังวิถีบู๊ คุณก็ไม่มีวิธีปะทะฝีมือกับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์แท้จริงได้”
“ในเมื่อฉันสงสัยว่าวิถีบู๊ของคุณไม่ได้ฟื้นกลับมาจริง อย่างนั้นต่อให้คนอื่นๆ ยังไม่สงสัยคุณภายในเวลาสั้นๆ แต่อีกไม่นาน คงต้องมีคนเกิดความสงสัยแน่”
ขณะพูด เธอรีบลุกขึ้น บนหน้าเต็มไปด้วยแววความร้อนใจ เอ่ยปากบอกว่า “หยางเฉิน คุณออกไปจากเมืองราชวงศ์ซ่านกวนตอนนี้เลย ไม่ว่าจะโดนคนของราชวงศ์ซ่านกวนสงสัย หรือว่าคนของตระกูลหลี่สงสัย สถานการณ์ของคุณล้วนอันตรายมากทั้งนั้น”
“ฉันจะออกไปด้วยกันกับคุณเดี๋ยวนี้ บอกว่าพวกเราวางแผนไปเที่ยวต่างประเทศสักพักหนึ่งแล้วค่อยกลับมา”
เห็นซ่านกวนโหรวท่าทางร้อนใจ ในใจหยางเฉินยิ่งอบอุ่น ถึงแม้สองคนจะมีความสัมพันธ์แบบแท้จริงแล้ว แต่นั่นเพราะถูกกษัตริย์ซ่านกวนจัดฉาก ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองคน มากที่สุดเป็นได้แค่เพื่อน ถึงซ่านกวนโหรวจะรักใคร่หยางเฉิน แต่ในใจหยางเฉิน กลับมีเพียงฉินซี
ทั้งที่ซ่านกวนโหรวรู้ว่าเป็นเช่นนี้ ยังยินยอมช่วยเหลือหยางเฉิน เห็นได้ชัดว่ารักหยางเฉินจริง ถึงได้ช่วยแบบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
หยางเฉินไม่ได้ลุกขึ้น พูดด้วยท่าทางนิ่งสงบ “ตอนนี้ผมยังออกไปไม่ได้”
ชั่วขณะนั้นซ่านกวนโหรวยิ่งร้อนใจใหญ่ “ทำไมคุณออกไปไม่ได้? หรือว่าต้องรอคนของตระกูลหลี่มาจัดการคุณ?”
หยางเฉินเอ่ยปากพูดว่า “เมื่อกี้ ผมเพิ่งฆ่าหลี่เป่าจุ้นไป ถ้าเวลานี้ออกไปด้วยกันกับคุณกะทันหัน มีแต่จะดึงดูดคนอื่นให้สงสัยกว่าเดิม”
“ตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลี่เป่าจุ้นตายอยู่ในมือของผม โดยพื้นฐานทุกคนต้องคิดว่า ผมฟื้นการฝึกฝนวิถีบู๊กลับคืนแล้ว”
“ต่อให้มีคนสงสัยว่าตอนที่ผมฆ่าหลี่เป่าจุ้น ทำไมบนตัวถึงไม่ปล่อยกลิ่นอายวิถีบู๊ใดๆ ออกมาเลย ก่อนที่พวกเขายังยืนยันสภาพแท้จริงของผมไม่ได้ พวกเขาไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามหรอก”
“แต่ถ้าเกิดผมออกไปตอนนี้ จะทำให้คนเหล่านั้นที่เดิมทีแค่สงสัย แน่ใจว่าผมไม่ได้ฟื้นการฝึกฝนวิถีบู๊กลับมา ดังนั้นถึงได้รีบร้อนไปจากเมืองราชวงศ์ซ่านกวน”
พอฟังหยางเฉินวิเคราะห์ขนาดนี้ ซ่านกวนโหรวจึงค่อยๆ ใจเย็นลงมาแล้ว เมื่อสักครู่เธอเพียงแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของหยางเฉิน ดังนั้นจึงร้อนใจอยากให้หยางเฉินออกไป
โดยเฉพาะเธอเป็นผู้หญิงมีพรสวรรค์ที่สุดในบรรดาคนอายุน้อยของราชวงศ์ซ่านกวน สิ่งที่หยางเฉินวิเคราะห์มาเหล่านี้ เธอเข้าใจได้รวดเร็วมาก
“ที่คุณพูดไม่ผิด ตอนนี้คุณยังไปจากเมืองราชวงศ์ซ่านกวนไม่ได้ แต่ว่า จะเอาแต่รอแบบนี้ไปตลอดไม่ได้มั้ง? ถ้าหากคนพวกนั้นรอไม่ไหว ส่งผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ออกมาลองเชิงคุณ งั้นจะทำอย่างไรดี?” ซ่านกวนโหรวตาแดงก่ำถามขึ้น
หยางเฉินหัวเราะขมขื่นส่ายหน้าแล้ว ตอนนี้เขาก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี รู้เพียงว่าขืนออกไปตอนนี้ จะทำให้คนเหล่านั้นที่เดิมทีสงสัยอยู่แล้ว แน่ใจได้ทันทีว่าวิถีบู๊ของเขาเสียหายจริง
“ช่วงเวลานี้ คุณก็พักอยู่ที่นี่อย่างสบายใจ คุณวางใจได้ มีฉันอยู่ จะไม่ให้ใครมารบกวนคุณเด็ดขาด”
ทันใดนั้นซ่านกวนโหรวเอ่ยปากพูดขึ้น บนใบหน้าอันงดงาม เต็มไปด้วยความแน่วแน่
หยางเฉินพยักหน้า พูดปลอบใจ “คุณสบายใจก็พอ ผมจะฝึกฝนต่อไป หาวิธีทำให้วิถีบู๊ของตัวเองฟื้นกลับมา”
ปัจจุบันนี้ถึงแม้จะไม่มีทางออกไป แต่เขาก็ไม่เกรงกลัว ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหลี่หรือราชวงศ์ซ่านกวน ถ้าเกิดผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ของพวกเขาลงมือต่อเขาจริง งั้นสำหรับหยางเฉิน คงถึงช่วงจังหวะความเป็นความตายแล้ว ต่อให้สถานการณ์เป็นแบบนั้นจริง เขาคงทำได้เพียงกินยาที่เฝิงเสียวหว่านมอบให้เขาเพื่อฟื้นวิถีบู๊กลับคืน
ถึงแม้กินยาที่เฝิงเสียวหว่านเหลือไว้ให้มันจะอันตรายอย่างมาก แต่เมื่อเทียบกับถูกผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ฆ่าโดยตรงยังจะดีเสียกว่า
ในขณะเดียวกัน คฤหาสน์ราชวงศ์ซ่านกวน ในห้องของกษัตริย์ซ่านกวน
กษัตริย์ซ่านกวนรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่แล้ว เวลานี้บนใบหน้าของเขา เต็มไปด้วยความเคร่งขรึม
ซ่านกวนฟู่ก็อยู่ด้านข้าง ทำท่าทางเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
“เสด็จอา ท่านว่า หยางเฉินคนนี้ สรุปเป็นอะไรกันแน่ครับ? สามารถฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นกลางได้ในเสี้ยววินาที กลับไม่ปล่อยกลิ่นอายวิถีบู๊ใดๆ ออกมา นี่ผิดปกติมากนะครับ”
ทันใดนั้นกษัตริย์ซ่านกวนมองทางซ่านกวนฟู่ก่อนจะพูดขึ้น
ซ่านกวนฟู่พูดว่า “ผิดปกติมากจริงๆ ต่อให้เป็นฉัน ยังไม่เคยได้ยินเรื่องราวแบบนี้มาก่อน ตอนที่หยางเฉินลงมือ ใช้กำลังของผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ สั่นสะเทือนอวัยวะภายในของหลี่เป่าจุ้นจนแหลกไปโดยตรง เดิมทีไม่มีกลิ่นอายวิถีบู๊ปล่อยออกมาเลยสักนิด”
“ในสถานการณ์แบบนี้ นอกจากแดนวิถีบู๊ของหยางเฉินอยู่ห่างจากของฉันมาก อย่างน้อยต้องเกินกว่าฉันสองขั้นวิถีบู๊ ไม่อย่างนั้นเป็นไปไม่ได้ที่แม้แต่ฉัน ยังสัมผัสไม่ถึงกลิ่นอายวิถีบู๊สักนิดที่ปล่อยออกมาจากบนตัวของเขา”
“แต่ช่วงก่อนหน้านั้น เขายังเป็นแค่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม ช่วงสิบวันสั้นๆ แดนวิถีบู๊ของเขา จะแกร่งกว่าฉันอย่างน้อยสองขั้นได้อย่างไร?”
“ดังนั้นฉันสงสัยว่า รากฐานวิถีบู๊ของหยางเฉินเสียหายจริงๆ แล้ว แต่ไม่รู้เพราะสาเหตุอะไร เขากลับยังคงครอบครองร่างกายของผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ ดังนั้นถึงฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นกลางในเสี้ยววินาทีได้”
กษัตริย์ซ่านกวนทำหน้าตกใจ “รากฐานวิถีบู๊เสียหายแล้ว แต่ว่าร่างกายกลับยังคงเป็นร่างกายของผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์? นี่เป็นไปได้อย่างไร?”
เดิมที พวกเขาคิดว่าแดนวิถีบู๊ของหยางเฉินฟื้นกลับถึงที่สุดเรียบร้อย ดังนั้นกษัตริย์ซ่านกวนจึงจัดฉาก ให้ซ่านกวนโหรวกับหยางเฉินมีความสัมพันธ์กัน และถูกตระกูลหลี่รู้เข้า
ก็คือเพื่ออาศัยเรื่องนี้ มากระตุ้นความเคียดแค้นของตระกูลหลี่ที่มีต่อหยางเฉิน จากนั้นเขาดำเนินการอีกสักรอบ ก็สามารถทำให้ตระกูลหลี่ลงมือต่อหยางเฉินได้แล้ว
ตอนนั้น ราชวงศ์ซ่านกวนเพียงแค่ต้องนั่งดูเฉยๆ มองการสู้รบของหยางเฉินและตระกูลหลี่ ไม่ว่าเป็นอย่างไร สุดท้ายความสามารถของตระกูลหลี่ต้องบกพร่องลงแน่
สำหรับความเป็นความตายของหยางเฉิน ในความคิดเขานั้น จะสำคัญอะไร
ที่เขาต้องการเพียงแค่ตัดความสามารถของตระกูลหลี่ให้อ่อนลง จากนั้นหาโอกาสกำจัดตระกูลหลี่ทิ้งในทีเดียว ด้วยเหตุนี้บนความเป็นจริงในเมืองราชวงศ์ซ่านกวน ราชวงศ์จะมีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว
แต่ว่าตอนนี้ พวกเขากลับพบเข้าฉับพลันว่าหยางเฉินเป็นเพียงคนประหลาดที่ครอบครองร่างกายแดนเหนือมนุษย์ แต่รากฐานวิถีบู๊กลับถูกทำลาย
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เดิมทีหยางเฉินไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลหลี่ที่ครอบครองผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ ถ้าหากตระกูลหลี่อยากฆ่าหยางเฉิน หากไม่มีการปกป้องของราชวงศ์ซ่านกวน หยางเฉินมีเพียงตายสถานเดียว
ส่วนวันนี้ ซ่านกวนโหรวกับหยางเฉินมีความสัมพันธ์กันเรื่องนี้ ก็ดึงดูดความเป็นศัตรูของตระกูลหลี่ต่อราชวงศ์ซ่านกวนเหมือนกัน
ถ้าเกิดตระกูลหลี่มีโอกาสกำจัดราชวงศ์ จะไม่ใจอ่อนเมตตาแน่นอน
เดิมทีวางแผนทุกอย่างไว้เรียบร้อย กลับเพราะหยางเฉินไม่ได้ฟื้นแดนวิถีบู๊กลับมา จึงนำความยุ่งยากใหญ่หลวงมาสู่ราชวงศ์ซ่านกวน
“ถ้าอยากจะขจัดความแค้นที่ตระกูลหลี่มีต่อราชวงศ์ บางทียังมีอีกวิธีหนึ่ง” ซ่านกวนฟู่พูดขึ้นทันใด
กษัตริย์ซ่านกวนรีบถามว่า “วิธีอะไรครับ?”
เห็นเพียงในสายตาซ่านกวนฟู่มีจิตอาฆาตอันรุนแรงแวบผ่าน “ฆ่าหยางเฉินแล้ว นำศพของเขา ส่งไปที่ตระกูลหลี่ ถึงจะขจัดความแค้นที่ตระกูลหลี่มีต่อราชวงศ์ได้”