ตอนที่ 2884 ศิลาโลหิตโกลาหล

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2884 ศิลาโลหิตโกลาหล!
นี่เป็นครั้งแรกที่หยางชิงได้เห็นเจ้าโลกตัวเป็นๆ เขาย่อมจะไม่มีความมั่นใจใดๆ แม้ว่าเย่หยวนจะยืนยันว่า

โอสถเลียนโลหิตนั้นมันสามารถหลบซ่อนจากสายตาของเผ่าเลือดได้แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเจ้าโลกนั้นก็คือตัวตนที่อยู่เหนือความเข้าใจของเขา

พวกเขานั้นมีพลังเช่นไรตัวเขาไม่อาจเข้าใจได้ ที่สำคัญเย่หยวนก็ไม่ได้เล่าถึงเรื่องความตกตะลึงที่เจ้าโลกหยุนซานมี

หลังได้เห็นฤทธิ์ของโอสถเลียนโลหิตให้หยางชิงฟังด้วย

แต่ไม่นานหยางชิงก็ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก

เพราะแม้แต่เจ้าโลกเองก็ไม่อาจจะมองทะลุฤทธิ์ของโอสถเลียนโลหิตนี้ได้

แท้จริงแล้วหากเจ้าโลกเกิดสงสัยและจับพวกเขาไปตรวจสอบจริงๆ จังๆ มันก็คงสามารถตรวจถึงสิ่งแปลกปลอมได้แน่นอน

แต่ใครเล่ามันจะไปคิดว่ามนุษย์สองคนกลับปลอมตัวเป็นเผ่าเลือดได้ แถมยังเดินทางมาถึงเมืองมหาจักรพรรดิเลือดและสามารถก้าวขึ้นมาเป็นยอดอัจฉริยะของเผ่าเลือดได้อีก!

นี่มันคือช่องว่างในความคิด แม้แต่เจ้าโลกเองก็ไม่มีทางจะนึกถึงเรื่องนี้ได้แน่นอน

ยอดอัจฉริยะเช่นนี้ปรากฏขึ้นมาตัวเยียหวู่กวยย่อมจะดีใจมาก

เพราะเขานั้นรู้ถึงฝีมือของเย่หยวนมาหมดสิ้นแล้ว

แลกหนึ่งสระโลหิตกับยอดอัจฉริยะที่มีโอกาสสูงล้ำที่จะก้าวขึ้นเจ้าโลก มันย่อมจะคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม!

“แม้ได้เห็นข้าแล้วแต่เจ้ากลับดูไม่เกรงกลัวเลย?” เยียหวู่กวยถามเย่หยวนขึ้นมาอย่างสนใจ

“จะกลัวอะไรเล่า? อีกไม่นานข้าเองก็จะกลายเป็นคนระดับเดียวกับท่าน!” เย่หยวนตอบกลับไป

ทูตโลหิตจากทวีปวาโยนานร้องลั่นขึ้นมาขัดทันที “โอหัง! เจ้าโง่แสนโอหังคนนี้ เจ้าคิดว่าอาณาจักรเจ้าโลกมันบรรลุได้ง่ายๆ หรือ?”

เย่หยวนหันกลับไปมองหน้าเขาคนนั้นก่อนจะกล่าวขึ้น “ที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมามันก็เป็นหลักฐานแล้วว่าเจ้านั้นยิ่งอยู่ห่างไกลจากอาณาจักรเจ้าโลกขึ้นทุกวัน!”

“เจ้า! โอหังนัก!” ทูตโลหิตคนนั้นร้องลั่นมาด้วยหน้าดำหน้าแดง

คำพูดของเย่หยวนนี้มันจี้ใจดำของเขาเข้าอย่างจัง

มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นสุดที่มีพลังคลื่นกำเนิดนั้นกลับไม่สามารถบรรลุระดับเจ้าโลกได้เช่นนี้ยิ่งนานวันมันก็ยิ่งจะทำให้ความมั่นใจของพวกเขาทั้งหลายถดถอย

เรื่องนี้มันยากจนเกินอธิบายได้!

แต่ว่ายิ่งไม่มีความมั่นใจเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งจะอยู่ห่างไกลเจ้าโลกขึ้นไปมากเท่านั้น

เยียหวู่กวยหันมามองเย่หยวนด้วยสายตาตกตะลึงเพราะไม่นึกฝันว่าเด็กน้อยคนหนึ่งกลับจะพูดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้

หากวันหนึ่งพวกเขากลัวเจ้าโลกแล้ว มันก็จะเป็นเรื่องยากหากพวกเขาจะบรรลุอาณาจักรเจ้าโลกเอง

เยียหวู่กวยนั้นเห็นมามากและรู้ดีว่าทูตโลหิตทั้งหลายนั้นแทบไม่มีโอกาสบรรลุได้แล้ว

“ทู่ไห่ พอได้แล้ว! ทูตโลหิตอย่างเจ้ากลับลดตัวไปเถียงกับเด็กหนุ่มมันหรือ?” เยียหวู่กวยกล่าวขึ้นมา

เรื่องนี้ทำให้ทูตโลหิตคนนั้นแทบอยากจะเอาหน้ามุดดินหนีไป

เขา ทูตโลหิตผู้ยิ่งใหญ่กลับถูกด่าว่าต่อหน้าคน!

ทู่ไห่นั้นเป็นศัตรูกับเสี่ยวเฟย แน่นอนว่าเมื่อได้เห็นคนของเสี่ยวเฟยได้ดีเขาก็คิดอยากจะขัดขาเสียหน่อย สุดท้ายจึงห้ามปากตัวเองไม่ได้ต้องกล่าวขึ้นมาท้าทายเสี่ยวเฟยหลายต่อหลายครั้ง

เพียงแค่ว่าเขาเองก็ไม่นึกฝันว่าตัวเยียหวู่กวยกลับจะหันมาด่าเขาแทนที่จะด่าเด็ก

ดูท่าเจ้าโลกเยียหวู่กวยจะให้ความสำคัญกับเด็กคนนี้มาก!

เสี่ยวเฟยนั้นได้แต่ต้องยิ้มกว้างอยู่ในใจ

‘ไม่นึกเลยว่าจะมีวันที่พ่อเจ้านี้ได้พลิกสถานการณ์กลับมา!’

เยียหวู่กวยนั้นไม่คิดสนใจและหันไปกล่าวกับเย่หยวนต่อ “เฉียชิง เจ้านั้นมีพรสวรรค์ที่เหนือล้ำกว่าคนในรุ่นเดียวกันอย่างสิ้นเชิง เจ้านั้นมันคือยอดอัจฉริยะในระดับที่เผ่าเลือดเราไม่เคยมีมาก่อน! แต่ว่าตอนนี้เจ้าก็เอาชนะคนรุ่นเดียวกันได้สิ้นเชิงแล้ว การคัดเลือกร้อยบุตรครั้งนี้มันก็คงไม่มีค่าใดๆ มากมายกับเจ้าอีก นอกจากนั้นแล้วพลังเลือดของเจ้ามันยังพัฒนาไปจนถึงขีดสุดของจักรพรรดิเซียนแล้วด้วย จะพัฒนาไปกว่านี้คงยากนัก เพราะฉะนั้นศึกร้อยบุตรครั้งนี้เจ้าไม่ต้องเข้าร่วมด้วยแล้วและก็ไม่ต้องไปยังวิหารโลหิตเทวาแล้วด้วยเช่นกัน”

เย่หยวนขมวดคิ้วร้องถามกลับมาทันที “จะเป็นเช่นนั้นไปได้อย่างไร? ทำเช่นนั้นใครจะมายอมรับนับถือข้ากัน! คนอื่นเขาจะคิดว่าข้านั้นแค่ราชาที่ไร้บัลลังก์ ยกยอตัวเองว่าเป็นที่หนึ่งเท่านั้นแล้ว! ท่านเจ้าเมืองวางใจเถอะสายเลือดของข้านั้นยังสามารถพัฒนาไปได้อีกมาก และข้าต้องการไปยังสระโลหิตนี้ให้ได้! นี่มันคือรางวัลจากวิหารโลหิตเทวา ท่านเจ้าเมืองคงไม่คิดจะใช้อำนาจของท่านตัดรางวัลข้าไปเช่นนี้หรอกใช่ไหม?”

‘เจ้าหมายความว่าอย่างไร?’

‘หมายความว่าจะไม่ให้ข้าได้ฆ่าคนแล้ว?’

‘จะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร!’

‘เพราะตอนนี้มันยังมียอดอัจฉริยะมากมายที่ข้าไม่ได้สังหารลง!’

‘เป้าหมายของข้านั้นคือการล้างบางยอดอัจฉริยะจักรพรรดิเซียนของเผ่าเลือด!’

‘แล้วข้าจะไม่ไปที่สระโลหิตได้อย่างไร?’

‘หากข้าไม่สูบมันให้แห้ง แล้วพวกเจ้าจะเอาสระโลหิตนั้นสร้างยอดฝีมือขึ้นมาได้อีกเท่าไหร่?’

‘ของพวกนี้มันต้องเป็นของข้า!’

เยียหวู่กวยได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยิน “ให้เจ้าเข้าร่วมไปมันก็แทบไม่ได้อะไรแล้ว!”

เย่หยวนร้องกลับมาอย่างไม่คิดยอม “ข้านั้นยังมีจุดให้ต้องพัฒนาอีกมาก! หากท่านเจ้าเมืองคิดขัดขวางข้าจริงๆ เฉียชิงคงต้องขอให้ทางวิหารโลหิตเทวามาช่วยแล้ว!”

เยียหวู่กวยปวดหัวขึ้นมาทันที!

เจ้าบ้านี่จะไม่ยอมปล่อยผลประโยชน์ใดๆ ไปเลย?

เขานั้นกลัวอยู่ลึกๆ ในใจเช่นกันว่าหลังไปถึงสระโลหิตของวิหารโลหิตเทวาแล้วเย่หยวนจะสูบมันจนแห้งเช่นกัน

แต่สุดท้ายเยียหวู่กวยก็ได้แต่ต้องส่ายหัวขึ้นมาอย่างจนปัญญา “เอาล่ะ หากเจ้าอยากจะเข้าร่วมก็เข้าร่วมไป! แต่ว่าของพวกนั้นมันแทบจะไม่ส่งผลใดๆ ต่อเจ้าอีกต่อไปแล้ว ที่ข้าเรียกเจ้ามานี้ก็เพื่อจะบอกแค่ว่าทางตระกูลได้ให้เวลาเจ้าไปศึกษาศิลาโลหิตโกลาหลหนึ่งเดือนเต็ม! นอกจากนั้นแล้วเราจะยังมอบทรัพยากรบ่มเพาะให้เจ้าไปจนกว่าเจ้าจะบรรลุเจ้าโลก!”

เมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวเหล่ายอดคนเผ่าเลือดต่างก็ต้องอ้าปากค้าง

นี่มันจะดีเกินไปแล้ว!

เย่หยวนเองก็ต้องหรี่ตาลงอย่างตื่นเต้น “ศิลาโลหิตโกลาหล?”

เยียหวู่กวยพยักหน้าตอบกลับมา “ศิลาโลหิตโกลาหลที่เกิดจากความโกลาหลต้นกำเนิดเผ่าเลือดของเรา! เผ่าเลือดของเรานั้นเกิดขึ้นมาได้เพราะศิลาโลหิตโกลาหล! ตราบเท่าที่เจ้าสามารถเข้าใจมันได้แม้แต่น้อยมันก็คงทำให้เจ้าพัฒนาตัวเองไปได้มากล้น!”

เย่หยวนแทบลืมหายใจ

หากเขาทำลายศิลาโลหิตโกลาหลนี้ลงแล้ว มันจะถือเป็นการทำลายเผ่าเลือดลงจากแก่นกลางเลยหรือไม่?

เขานั้นรู้ดีว่าตอนนี้พรสวรรค์ของเขามันทำให้เบื้องบนของเผ่าเลือดนั้นหันมาสนใจกันสิ้นแล้ว

เผ่าเลือดนั้นไม่ลังเลที่จะเลี้ยงดูเขาให้ถึงที่สุด!

ดูจากสีหน้าท่าทางของทูตโลหิตทั้งหลายนั้น เย่หยวนพอเดาได้ว่าโอกาสเช่นนี้มันคงไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ

การออกเดินทางครั้งนี้ไม่ผิดหวังจริงๆ!

เขานั้นได้เข้าถึงความลับสุดยอดของเผ่าเลือดแล้ว!

เย่หยวนยิ้มกว้างตอบกลับไป “ขอบพระคุณท่านเจ้าเมืองมากที่ช่วยเหลือครั้งนี้! หลังจากเฉียชิงบรรลุอาณาจักรได้แล้วข้าจะขออาสาออกไปสู้ที่ด่านหน้าแน่นอน!”

เยียหวู่กวยยิ้มตอบกลับไป “ดีมาก! นี่สิถึงจะสมเป็นเผ่าเลือดของข้าหน่อย!”

ข่าวเรื่องการยอมรับตัวเย่หยวนจากทางเบื้องบนนั้นมันแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ในเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์มันมีแต่เสียงโห่ร้องดีใจ

ในที่สุดเทพแห่งความตายคนนั้นมันก็ไม่เข้าร่วมงานคัดเลือกร้อยบุตรแล้ว!

แม้แต่เหล่ายอดอัจฉริยะตัวเต็งของงานต่างก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก

เหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายนั้นต่างโอหังและหลงตัวเอง

แต่หากต้องไปเจอกับสัตว์ประหลาดที่สูบสระโลหิตจนแห้งนั้น พวกเขาก็ย่อมจะไม่กล้าอวดตัวใดๆ

เฉียชิงคนนี้มันคือนามของผู้ปกครองสวรรค์อย่างแท้จริง!

“ดีมาก! เจ้าบ้านั่นจะไม่ร่วมงานด้วยแล้ว!”

“ขอบพระคุณพระผู้เป็นเจ้า หากข้าต้องไปเจอมันข้าคงไม่มีโอกาสแม้แต่จะยอมแพ้!”

“ขอบคุณพระเจ้า! ขอบคุณท่านหวังจั่ว! ท่านช่วยเหลือพวกเราแล้ว!”

คนทั้งหลายนั้นต่างร้องลั่นขึ้นมาอย่างดีใจ

และครึ่งเดือนต่อมามันก็มีงานคัดเลือกร้อยบุตรจัดขึ้นตามกำหนดการ

แต่เมื่อได้เห็นเย่หยวนเดินยิ้มเข้ามาในลานพักมันก็ย่อมจะทำให้เกิดเสียงกรีดร้องขึ้นทั่ว!

“ไหนว่ายมทูตมันไปที่วิหารโลหิตเทวาแล้วไง? ทำไมมันถึงมาโผล่ในงานเช่นนี้เล่า?”

“ไอ้ฉิบหาย เจ้ามารังแกผู้คนหรืออย่างไร? เจ้ามันไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเราแล้ว!”

“ข้ายอมแพ้! พ่อเจ้าไม่ลงแข่งด้วยแล้ว!”

การปรากฏตัวของเย่หยวนมันย่อมจะทำให้เกิดความแตกตื่น

ยอดอัจฉริยะทั้งหลายนั้นต่างรู้สึกเหมือนฟ้ามันจะถล่มลงตรงหน้า

“สวัสดีทุกคน เราได้เจอกันอีกแล้วนะ!” เย่หยวนยิ้มกว้างกล่าวทักทายคนทั้งหลายจนพวกเขาแทบอยากจะเอาเท้าขึ้นมาถีบหน้ายิ้มๆ นั้น

แต่แน่นอนว่ามันไม่มีใครกล้าทำ!

…………………………