บทที่ 2419 ชดเชยความผิดด้วยความดี + ตอนที่ 2420 ได้ DNA แล้ว

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2419 ชดเชยความผิดด้วยความดี

 

ป้าสะใภ้ใหญ่โม่ตกใจยกใหญ่ เธอจะรู้ได้อย่างไรว่าโม่เฉียวหลิงจะทำเรื่องที่ไร้ศีลธรรมถึงเพียงนี้ แม้แต่เด็กทารกก็ยังคิดลักพาตัว คนเลวแบบนี้ต้องไม่ตายดีแน่ ๆ!

 

ถ้าเธอรู้เรื่องนี้ก่อนย่อมต้องไม่เห็นด้วยกับความคิดไร้สาระของพี่สะใภ้อย่างแน่นอน และคงไม่พามาที่บ้านเพื่อหาเรื่องให้เหมยเหมยต้องโกรธหรอก!

 

“เหมยเหมยอย่าเพิ่งโกรธนะ ป้าจะพาพี่สะใภ้ไปเดี๋ยวนี้แหละ อย่าโกรธนะ…”

 

ป้าสะใภ้ใหญ่โม่พยายามดึงมือแม่ของหวงจื้อกวงที่ยังไม่ยอมลุกสุดแรง แต่ยังดีที่เธอมีรูปร่างสูงใหญ่ ไม่นานก็พาพี่สะใภ้เธอออกไปได้

 

เหมยเหมยโกรธจัดจนซัดน้ำอุ่นไปสองแก้วแต่ก็ยากที่จะทุเลาความโกรธได้

 

ไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่โง่เง่าเหมือนแม่ของหวงจื้อกวงมาก่อน คนบ้าอะไรกัน!

 

“แอ๊ะ…แอ๊ะ”

 

เล่อเล่อเหมือนรู้ว่าเหมยเหมยอารมณ์ไม่ดี เธอจึงฉีกยิ้มยื่นมืออวบอ้วนลูบใบหน้าเพื่อปลอบประโลมเหมยเหมย

 

ความโกรธของเหมยเหมยมลายหายไปในทันใด ขบมือป้อมของเล่อเล่อเบา ๆ “ลูกรัก แม่จะไม่ยอมปล่อยคนชั่วที่ทำร้ายลูกไปเด็ดขาด!”

 

เล่อเล่อตบมืออย่างไม่คิดใส่ใจแล้วดื่มนมต่อ บนโลกใบนี้นอกจากพ่อของเธอแล้ว เธอก็ไม่กลัวใครทั้งนั้น

 

แต่สาวน้อยตัวอ้วนกลับไม่รู้ว่ามีคนที่สามารถคุมเธอได้ดียิ่งกว่าเหยียนหมิงซุ่นเสียอีก!

 

เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้กลับมาทานมื้อกลางวันด้วย เขากำลังยุ่งอยู่กับการสืบหาประวัติของสวีหล่างกับลูกน้องอยู่ ช่วงหัวค่ำถึงจะกลับมา หลังจากเหมยเหมยทานมื้อกลางวันเสร็จเธอรู้สึกอัดอั้น ยิ่งคิดยิ่งไม่สบายใจจึงโทรศัพท์หาโม่ซิวหย่วน

 

เธอเล่าความคิดเพ้อเจ้อของแม่หวงจื้อกวงให้ฟัง “พี่ วันนี้ฉันเสียมารยาทไปหน่อย เดี๋ยวพี่ช่วยอธิบายกับป้าแทนฉันหน่อยนะว่าฉันไม่ได้จะหาเรื่องเธอ แต่ฉันไม่ชอบพี่สะใภ้ของป้าต่างหาก”

 

โม่ซิวหย่วนเองก็โกรธไม่น้อยเช่นกัน เขานึกโชคดีที่ป้าสะใภ้ใหญ่โม่ไม่ใช่แม่แท้ ๆของเขา หากมีญาติร้ายกาจเหมือนแม่ของหวงจื้อกวงเขาคงเครียดตาย!

 

พอตกเย็นเหยียนหมิงซุ่นกลับมาก็บอกว่าลุงใหญ่โม่พาป้าสะใภ้ใหญ่โม่กลับบ้านเกิดไปแล้ว ส่วนแม่ของหวงจื้อกวงก็ถูกลุงใหญ่โม่ด่าไปชุดใหญ่ ยังดีที่สมองของหวงจื้อกวงยังคิดเป็นจึงตำหนิแม่ของเขาเหมือนลุงใหญ่โม่

 

“นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นแม่แท้ ๆทำร้ายลูกตัวเอง โลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่นัก เรื่องแปลกประหลาดมีได้ทั้งนั้น!” เหมยเหมยยิ้มเยาะ

 

“วันหลังพวกเขาไม่มาที่นี่แล้วล่ะ!”

 

วันนี้เหยียนหมิงซุ่นเล่าเรื่องที่โม่เฉียวหลิวทำร้ายเล่อเล่อให้ลุงใหญ่โม่ฟัง ลุงใหญ่โม่โกรธมากบอกว่าจะไปขอให้ทางตระกูลขับไล่โม่เฉียวหลิงออกไป!

 

โธ่เอ๊ย แม้แต่เด็กทารกตัวเล็ก ๆยังทำได้ลงคอ แล้วมีคุณสมบัติอะไรมาเป็นคนในตระกูลโม่!

 

แม้ว่ากฎของตระกูลจะไม่ได้ร้ายแรงเหมือนเมื่อก่อนแต่ก็ส่งผลกระทบไม่น้อย โม่เฉียวหลิงติดคุกแล้วยังถูกขับไล่ออกจากตระกูลอีก เรื่องเสื่อมเสียก็ดังกระฉ่อนไปไกล ชาตินี้ทั้งชาติไม่มีวันได้ดีแน่นอน!

 

เหมยเหมยค่อยรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย การที่โม่เฉียวหลิงมีชีวิตย่ำแย่เธอชอบที่สุดแล้ว!

 

แต่ทางฝั่งของเหยียนหมิงซุ่นไม่ค่อยจะราบรื่นนัก พวกเขาใช้ภาพเหมือนของสวีหล่างสืบหาข้อมูลจากบรรดานักกีฬาว่ายน้ำมากมายที่ออกจากวงการไปแล้วแต่ก็ยังหาไม่เจอ

 

เหยียนหมิงซุ่นอดไม่ได้ที่จะสงสัยในการตัดสินของตัวเอง หรือว่าสวีหล่างไม่ใช่นักกีฬาว่ายน้ำอย่างนั้นเหรอ?

 

“หรือว่าไปทำศัลยกรรมมา?” เหมยเหมยคิดถึงความเป็นไปได้อีกอย่าง

 

ภาพยนตร์อาชญากรรมมากมายในชาติที่แล้วบอกว่าอาชญากรสามารถหลบหนีได้จากการเปลี่ยนใบหน้า บางทีสวีหล่างอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้!

 

ตอนนี้ธุรกิจศัลยกรรมความงามก้าวไกลไปมาก ฉะนั้นการเปลี่ยนใบหน้าโดยไม่ทิ้งเค้าเดิมไว้ไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิดเดียว!

 

เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วแน่น หากเปลี่ยนใบหน้าแล้วจริง ๆ ถ้าคิดจะหาให้เจอคงเป็นเรื่องยากสุด ๆ!

 

“ใช้การตรวจ DNA ได้ไหม?” เหมยเหมยแนะนำ

 

เหยียนหมิงซุ่นตาเป็นประกายเพราะนี่ถือว่าเป็นความคิดที่ไม่เลวเลย ถ้าสวีหล่างเป็นนักกีฬาจริง ๆ DNA ของเขาจะถูกเก็บเอาไว้ แต่ปัญหาอยู่ที่จะต้องมีเลือดหรือผมของสวีหล่างน่ะสิ

 

สีอันน่าเป็นฝ่ายเสนอตัวรับภารกิจนี้เอง “ถ้าฉันได้ DNA เขามาถือว่าชดเชยสิ่งที่ทำผิดไปได้ใช่ไหม?”

 

……………………………………….

 

ตอนที่ 2420 ได้ DNA แล้ว

 

สีอันน่ามองเหยียนหมิงซุ่นด้วยความหวัง เธอไม่อยากตาย ช่วงหลายมาวันนี้เธอคิดไตร่ตรองถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ครึ่งค่อนปีที่ผ่านมาเหมือนอยู่ในฝันร้าย อยู่ในวังวนแห่งความไม่รู้ แต่ตอนนี้…

 

ตื่นจากฝันแล้ว!

 

เธอก็เสียใจในสิ่งที่ทำลงไปเหมือนกัน!

 

เธอหวังว่าจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่!

 

“เธอไม่ได้กลัวสวีหล่างหรอกเหรอ?”เหมยเหมยถามขึ้น

 

“ฉันอยากจะชดเชยในสิ่งที่ฉันทำผิดไป อยากใช้ชีวิตแบบผู้หญิงธรรมดาทั่วไป ไม่อยากโดนยิงตาย…” น้ำตาแห่งความเสียใจของสีอันน่าไหลรินลงมา ใช่ว่าเธอจะไม่รู้เรื่องกฎหมาย ด้วยความผิดที่เธอทำเกรงว่ายากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อได้!

 

“เธอจะต้องคิดให้ดีนะ สวีหล่างอาจจะรู้ว่าเธอเปลี่ยนข้างมาช่วยพวกเราแล้วก็ได้ ถ้าเธอเอาตัวเข้าไปอีกอาจจะเสี่ยงถึงชีวิตเลยนะ!” เหยียนหมิงซุ่นกล่าวเตือน

 

สีอันน่าหวาดกลัวจนตัวสั่นเทา เกิดลังเลขึ้นมา…

 

เมื่อนึกถึงความโหดร้ายของสวีหล่างที่ปฏิบัติต่อคนทรยศ สีอันน่าก็เริ่มไม่กล้า แต่ผ่านไปสักพัก…เธอก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่อีกครั้ง บางทีสวีหล่างอาจจะยังไม่รู้ว่าเธอหักหลังเขาก็ได้ ลองเดิมพันดูสักตั้งแล้วกัน!

 

ถ้าชนะเดิมพัน เธอก็สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้!

 

ถ้าหากแพ้…

 

สีอันน่าไม่กล้าคิดต่อ เธอคิดว่าดวงของเธอไม่น่าเลวร้ายขนาดนั้น

 

“คุณช่วยส่งคนมาคุ้มกันฉันหน่อยได้ไหม?” สีอันน่าร้องขอคนคุ้มกัน

 

“สวีหล่างเจ้าเล่ห์มากนะ ถ้ามีคนติดตามเธอ เธอจะตกอยู่ในอันตรายยิ่งกว่าเดิม!” เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงเยือกเย็น

 

สีอันน่าตัวสั่นขึ้นมาอีกครั้ง นิ้วของเธอเย็นเฉียบ พยายามให้กำลังใจตัวเองว่าเธอคงไม่ซวยขนาดนั้น เธอจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปได้…

 

“คุณให้ยาพิษฉันหน่อยได้ไหม…แบบที่สามารถซ่อนไว้ในฟันได้ ถ้าหากว่า…ฉันก็ยังตายครบ 32…” สีอันน่าพูดอย่างเศร้าใจ

 

ถ้าเกิดสวีหล่างจับได้ เธอยอมฆ่าตัวตายเองดีกว่า อย่างน้อยก็ตายอย่างมีความสุขไม่ต้องทุกข์ทรมาน!

 

เหมยเหมยทอดถอนใจ ก้าวผิดหนึ่งก้าว ก้าวต่อ ๆไปก็ต้องผิดตามไปด้วย!

 

แต่ทว่าเธอก็ไม่ได้เห็นใจสีอันน่าเลยสักนิด ความลำบากในตอนนี้เป็นสิ่งที่เธอก่อขึ้นมาเองทั้งนั้น แล้วยังมีถังม่านลี่ที่น่าสงสารกว่าอีก ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรแล้วบ้าง!

 

เหยียนหมิงซุ่นตอบรับความต้องการของสีอันน่า เขาช่วยเตรียมยาพิษไว้ให้เธอจริง ๆ เพียงแค่กัดโดนเบา ๆพิษก็ซึมเข้าสู่ร่างกายถึงตายทันที แล้วจากนั้นค่อยให้ลูกน้องไปส่งเธอที่ลานไควฟงอย่างลับ ๆ

 

โชคดีที่ปกติสีอันน่าไม่ค่อยไปลานไควฟงและชอบแวบไปนู้นไปนี้บ่อย ๆ หวังว่าสวีหล่างจะไม่สงสัยในจุดนี้!

 

สามวันผ่านไปเหมยเหมยนั่งไม่อยู่สุข ก่อนที่สีอันน่าจะไปเธอบอกว่าตามนิสัยสวีหล่างจะต้องมาหาเธอภายในสองสามวันนี้ ถ้าเธอทำสำเร็จแล้วเธอจะส่งสัญญาณมาบอก แต่ถ้าไม่มีสัญญาณอะไรก็ช่วยเก็บศพเธอด้วยแล้วกัน!

 

ไม่ว่าอย่างไรเธอก็หวังว่าสีอันน่าจะมีชีวิตต่อไป!

 

ต่อให้ต้องตายก็ขอให้เป็นกฎหมายที่ลงโทษเธอ!

 

เพราะไม่อยากให้เธอมาตายด้วยน้ำมือของสวีหล่างคนเลวแบบนี้เลย!

 

ผ่านไปอีกสองวันเหมยเหมยร้อนใจสุดขีด ช่วงสองสามวันนี้เหยียนหมิงซุ่นยุ่งมาก เขาออกไปตั้งแต่เช้ากลับมาก็ฟ้ามืดแล้ว เธออยากจะถามอะไรสักหน่อยก็ไม่เคยเจอตัว แล้วก็ไม่รู้ว่าฝั่งสีอันน่าเป็นอย่างไรบ้าง แล้วยังมีถังม่านลี่อีก ตะวันออกกลางใหญ่ขนาดนั้น ฉะนั้นต้องจับตัวสวีหล่างให้ได้ถึงจะรู้ว่าถังม่านลี่ถูกขายไปที่ไหน!

 

แม้ว่าเหยียนหมิงซุ่นจะไม่ได้ส่งคนไปคุ้มครองสีอันน่าแต่เขาส่งลูกน้องไปซ่อนตัวที่ลานไควฟง หากมีความเคลื่อนไหวอะไรเขาก็จะสามารถรู้ได้ทันที ไม่แน่ว่าอาจจะจับตัวสวีหล่างได้ก็ได้

 

เพราะสีอันน่าบอกว่าทุกครั้งที่สวีหล่างมาหาเธอมักจะเจอกันที่ห้องลับในลานไควฟง แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยไปที่อื่นเลย

 

ผ่านไปอีกหนึ่งคืนแสงรุ่งอรุณทอประกายอีกครั้ง ดูท่าวันนี้ก็คงไม่น่ามีอะไรอีกเช่นเคย เหยียนหมิงซุ่นทอดถอนใจอย่างหมดหวัง

 

“ลูกพี่ มีความคืบหน้าแล้ว!” ลูกน้องรายงาน

 

ทันใดนั้นเหยียนหมิงต๋าก็อุ้มผู้หญิงที่มีเลือดชุ่มเต็มตัวพุ่งเข้ามาพร้อมตะโกนเสียงดังว่า “บนตัวของเธอมี DNA ของสวีหล่างอยู่ด้วย!”

 

………………………….