ครั้งนี้ หยางเฉินไม่ได้รีบปฏิเสธทันที บนหน้าปรากฏแววความลังเลขึ้น สายตาตกอยู่บนตัวของซ่านกวนโหรวแล้ว
เห็นหยางเฉินมองทางตนเอง ชั่วขณะนั้นซ่านกวนโหรวสงสัยอยู่บ้าง จากความเข้าใจของเธอ ถึงแม้หยางเฉินจะครอบครองร่างกายของผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม แต่โดยเฉพาะวิถีบู๊ยังไม่ได้ฟื้นตัวกลับ
หรือว่า หยางเฉินคิดจะเห็นแก่หน้าของตนเอง ช่วยราชวงศ์ซ่านกวนสักครั้งจริง?
ทันใดนั้น ในใจซ่านกวนโหรวซับซ้อนขึ้นมามากๆ โดยเฉพาะเธอเป็นของราชวงศ์ซ่านกวน ในใจยังรอคอยมากว่าหยางเฉินจะสามารถร่วมมือกับราชวงศ์ได้ แต่ก็เป็นห่วงหยางเฉินมากเช่นกัน
โดยเฉพาะหลี่จ้งเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่ แม้กระทั่งเป็นไปได้มากว่า ข้างกายของเขายังมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ เก้าคนนั้นที่ห้าสิบปีก่อนจากไปด้วยกันกับเขา ปัจจุบันนี้ปรากฏตัวเพียงคนเดียว ถึงแม้ถูกหยางเฉินฆ่าแล้ว แต่ยังมีอีกแปดคน
“ได้ ถือว่าเพื่อโหรวเอ๋อร์ นี่คือครั้งสุดท้ายที่ผมรับปากช่วยเหลือราชวงศ์ซ่านกวน”
เงียบงันตั้งนาน หยางเฉินเอ่ยปากขึ้นกะทันหัน
ชั่วพริบตาสีหน้ากษัตริย์ซ่านกวนดีใจ “ช่างดีเหลือเกิน! ขอบคุณคุณหยาง ท่านวางใจได้ ต่อไปราชวงศ์ซ่านกวนจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังอีกครับ!”
ซ่านกวนไม่ได้พูดอะไร แต่ตอนที่มองทางหยางเฉิน สายตายิ่งอ่อนโยนกว่าเดิม
“ช่วงนี้ภายในสามวัน อย่าลงมือต่อตระกูลหลี่ และอย่าให้ใครมารบกวนผมด้วย สำหรับจะจัดการตระกูลหลี่อย่างไร พวกคุณปรึกษากันให้เรียบร้อย แล้วบอกผมก็พอ”
หยางเฉินพูดอีกทันใด เมื่อสักครู่ตอนที่เขาฆ่าหลี่เจียงไห่ ใช้กำลังของตนเองมากเกินไปโดยสิ้นเชิง ระเบิดการโจมตีที่แกร่งสุดใส่หลี่เจียงไห่ ถึงไม่ได้เปิดเผยข้อพิรุธ
ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันของเขา เวลาสามวัน อาการบาดเจ็บน่าจะฟื้นตัวได้
จุดหนึ่งที่สำคัญสุด เขายังคิดว่าภายในสามวันนี้ ยังให้ความหวังตนเองอีกสักครั้ง ความหวังที่จะสามารถฟื้นวิถีบู๊กลับคืนจุดสูงสุดได้
“คุณหยางสบายใจได้ ในสามวันข้างหน้า จะไม่มีใครมารบกวนท่านเด็ดขาด ท่านฝึกฝนอย่างวางใจเถอะ รอพวกผมหารือแผนการเรียบร้อย อีกสามวันจะแจ้งให้ท่านทราบอีกที”
กษัตริย์ซ่านกวนรีบพูดขึ้น จากนั้นมองทางซ่านกวนโหรวแบบแฝงความหมายลึกซึ้งบอกว่า “โหรวเอ๋อร์ ชีวิตประจำวันของคุณหยาง ปล่อยให้แกมาดูแลแล้ว”
ซ่านกวนโหรวพยักหน้า “ค่ะ คุณปู่!”
“คุณหยาง งั้นผมไม่รบกวนท่านแล้วนะครับ ท่านตามสบาย!”
กษัตริย์ซ่านกวนพูดจบ จึงหมุนตัวออกไป
จนกระทั่งกษัตริย์ซ่านกวนออกไปได้สักพักหนึ่ง หยางเฉินถึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ สีหน้าซีดเซียวครู่หนึ่ง ทั้งตัวดูอ่อนแรงขึ้นมาไร้ที่เปรียบ
“หยางเฉิน!”
ซ่านกวนโหรวร้องตกใจทีหนึ่ง รีบเข้ามาทันที พยุงหยางเฉินที่โอนเอนจะล้มมิล่มแหล่ไว้แล้ว
หยางเฉินส่ายหน้าเล็กน้อย “ไม่เป็นไร แค่เมื่อกี้เพื่อรักษาสภาพปกติไว้ เลยใช้พลังมากเกินไป”
ในสายตาซ่านกวนโหรวเต็มไปด้วยความปวดใจ อยากจะช่วยหยางเฉิน กลับไม่รู้ว่าตนเองช่วยอะไรได้บ้าง ตาแดงก่ำพูดว่า “ขอแค่ตรงไหนที่ฉันช่วยได้ คุณเอ่ยปากมาได้เลยนะ”
หยางเฉินพยักหน้า บอกว่า “พยุงผมไปนั่ง!”
เขาในตอนนี้ รู้สึกไร้เรี่ยวแรงทั้งตัว กลัวว่าคนธรรมดาคนหนึ่ง ล้วนฆ่าเขาได้อย่างง่ายดายแล้ว
ซ่านกวนโหรวรีบประคองเขาไปนั่งบนโซฟา และรีบเทน้ำอุ่นแก้วหนึ่งให้หยางเฉิน หลังจากหยางเฉินดื่มน้ำ ถึงรู้สักดีขึ้นมาหน่อย
ซ่านกวนโหรวถามอีกทันทีว่า “ยังต้องการให้ฉันช่วยคุณทำอะไรอีกไหม?”
หยางเฉินส่ายหน้า มองทางซ่านกวนโหรวด้วยท่าทางซับซ้อนพูดว่า “ความจริงคุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ คุณก็รู้ว่า ในใจผมมีเพียงฉินซี และยอมรับผู้หญิงคนที่สองอีกไม่ได้”
พอได้ยิน ซ่านกวนโหรวสั่นไปทั้งตัว ในดวงตายังมีละอองหมอกบางส่วน คำพูดประโยคนี้ของหยางเฉิน ทำให้เธอมีความรู้สึกจะหายใจไม่ออก แต่เธอเข้าใจได้เช่นกัน ตั้งแต่แรกเริ่ม เธอก็รู้ว่า หยางเฉินเป็นผู้ชายที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึก
เพราะแบบนี้เอง เธอถึงชอบหยางเฉินเข้าแล้ว
“คุณคิดอะไรกัน?”
เงียบงันอยู่นาน บนหน้าซ่านกวนโหรวเผยรอยยิ้มที่ฝืนใจออกมา แสร้งพูดแบบหยิ่งยโส “คุณอยากรับผิดชอบต่อฉัน ฉันก็ไม่ยินยอมหรอก! ฉันเป็นถึงผู้สืบทอดบัลลังก์ของราชวงศ์ซ่านกวน ผู้ชายที่ตามจีบฉัน อ้อมรอบเมืองราชวงศ์ได้รอบหนึ่งเลยนะ”
หยางเฉินสัมผัสได้ว่า เวลานี้ซ่านกวนโหรวฝืนแกล้งทำเป็นไม่สะทกสะท้าน ถึงแม้คำพูดของเขาจะไร้เยื่อใย แต่ต้องพูดว่า เพราะเขารู้แจ่มชัดมาก ในใจของตนเองมีเพียงฉินซี ยิ่งซ่านกวนโหรวมอบให้มากเท่าไร ล้วนเหนื่อยเปล่าทั้งหมด มีแต่จะเพิ่มภาระในใจของหยางเฉินยิ่งขึ้น
“พอแล้ว ฉันไม่รบกวนคุณแล้ว คุณตั้งใจฝึกฝนดีๆ ช่วงชิงฟื้นแดนวิถีบู๊กลับมาให้ไว อีกสามวัน ถ้าเกิดราชวงศ์อยากเปิดศึกกับตระกูลหลี่ ถ้าคุณฟื้นแดนวิถีบู๊กลับมาไม่ได้ จะอันตรายมาก”
ซ่านกวนโหรวลุกขึ้นฉับพลัน พูดจบ จึงหมุนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
หยางเฉินไม่ได้ไปห้าม ไม่นาน เสียงร้องไห้ที่แผ่วเบา ลอยมาจากด้านนอกประตู
หยางเฉินถอนหายใจทีหนึ่ง จากนั้นสะบัดความคิดทุกอย่างในหัวสมองออก ไม่นานก็เข้าสู่เทคนิคการหายใจขั้นหนึ่งของคัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยานแล้ว
เรื่องที่แม้แต่ซ่านกวนโหรวก็ไม่รู้คือ เมื่อสักครู่เขาเพิ่งรับปากช่วยราชวงศ์ซ่านกวนลงมือต่อตระกูลหลี่ ไม่ใช่ว่าเห็นแก่หน้าของซ่านกวนโหรวโดยสิ้นเชิง แต่ว่าเขามีแผนการอีกที
อีกอย่าง ภายใต้สถานการณ์แบบเมื่อสักครู่นั้น ตอนแรกตัวเขาใกล้จะยืนหยัดต่อไม่ไหวแล้ว ถ้าหากกษัตริย์ซ่านกวนพัวพันอีกสักพัก กลัวว่าสภาพของเขาคงถูกเปิดโปงออกมาหมด
โดยเฉพาะเขาไม่มีทางรับประกันได้เลย หลังปฏิเสธกษัตริย์ซ่านกวนไป กษัตริย์ซ่านกวนจะไม่เสี่ยงอันตรายลงมือต่อเขา
สำหรับราชวงศ์ซ่านกวนนั้น หยางเฉินก็แค่ส่วนหนึ่งที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ถ้าไม่ช่วยราชวงศ์ซ่านกวน ก็อาจจะช่วยตระกูลหลี่จัดการราชวงศ์
ถึงแม้ความเป็นไปได้แบบนี้จะน้อยมากๆ แต่ด้วยนิสัยของกษัตริย์ซ่านกวน ต่อให้ความเป็นไปได้น้อยมาก เขาก็ไม่ยอมให้ปรากฏขึ้น
ถ้าให้กษัตริย์ซ่านกวนรู้สภาพตอนนี้ของเขาเข้า กลัวว่าแค่กระดิกนิ้ว ล้วนฆ่าเขาทิ้งได้
อีกด้านหนึ่ง หลังจากกษัตริย์ซ่านกวนออกมาจากหยางเฉินทางนี้ ก็ไปเจอซ่านกวนฟู่แล้ว
“เสด็จอา หยางเฉินรับปากแล้วครับ!”
กษัตริย์ซ่านกวนพูดขึ้นแบบฮึกเหิมพอสมควร
ซ่านกวนฟู่ขมวดคิ้วแล้ว “เขารับปากแล้ว?”
กษัตริย์ซ่านกวนพยักหน้า นำบทสนทนากับหยางเฉินเมื่อสักครู่ เล่าครบถ้วนทั้งหมดไปรอบหนึ่ง
“ดังนั้น เหตุผลที่หยางเฉินรับปากช่วยเหลือราชวงศ์จัดการตระกูลหลี่ คือเห็นแก่หน้าของซ่านกวนโหรว?” ซ่านกวนฟู่ถามขึ้น
กษัตริย์ซ่านกวนพยักหน้า “ผมได้ยินมาแต่แรกว่า หยางเฉินเป็นผู้ชายที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกมาก ตอนนี้เขากับซ่านกวนโหรวมีความสัมพันธ์กันแล้ว เดิมทีพวกเขาก็เป็นเพื่อนกัน ยินยอมรับปากช่วยเหลือราชวงศ์ซ่านกวนเพื่อซ่านกวนโหรว ก็ปกตินี่ครับ”
ซ่านกวนฟู่ไม่ได้คิดมากอีก แต่ไม่รู้ทำไม เขามักจะรู้สึกว่าผิดปกติตรงไหนสักอย่าง
“เสด็จอา ท่านพยายามทำใจให้สบายก็พอครับ ในเมื่อหยางเฉินรับปากจะช่วยพวกเรา ย่อมต้องไม่คืนคำแน่ ตอนนี้พวกเราแค่ต้องหารือแผนการให้เรียบร้อย รออีกสามวัน ส่งกำลังไปตระกูลหลี่”
กษัตริย์ซ่านกวนเอ่ยปากบอกไป ในสายตายังมีแรงอาฆาตแค้นอันดุเดือด
ตระกูลหลี่กำเริบเสิบสานมาหลายปีแล้ว สำหรับเขานั้น ตระกูลหลี่ก็คือเนื้อร้ายในใจก้อนหนึ่ง ในที่สุดปัจจุบันนี้จะผ่าตัดเนื้อร้ายก้อนนี้ออกแล้ว
ทันใดนั้นซ่านกวนฟู่พูดอีกว่า “ฉันมักรู้สึกว่า มีบางอย่างไม่ปกติ ไม่ว่าอย่างไร พวกเรายังต้องเตรียมพร้อมสองทาง”
กษัตริย์ซ่านกวนถามว่า “เสด็จอา ความหมายของท่านคือ?”
ซ่านกวนฟู่ตอบ “หยางเฉินน่าจะไม่รู้ความสามารถแท้จริงของฉัน ถึงตอนนั้นปล่อยให้ฉันมาจ้องเขาไว้ ป้องกันเขาหันกลับมาลงมือต่อพวกเรากะทันหัน”