ตอนที่ 1818 : เยี่ยมเยียนตระกูลหลิง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1818 : เยี่ยมเยียนตระกูลหลิง

สำหรับเหตุการณ์ที่น่าตกใจที่เกิดขึ้นในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนเมื่อไม่นานมานี้ มันมีแค่การกำเนิดของตระกูลเทียนหยางนอกจากการปรากฏขึ้นของสุสานราชาเทพต้วนมู่

แทบจะไม่มีใครรู้ความเป็นมาของเจี้ยนเฉินเลย เขาได้สู้กับขั้นเหนือเทพสองคนของแคว้นตงอัน วายเนอร์หยาน ห่างออกไปจากเมืองหลัก 100 กม.หลังจากที่ก่อตั้งตระกูลเทียนหยวนในแคว้นตงอัน แม้ว่าหัวหน้าตระกูลเทียนหยวนจะเข้าใจกฎแห่งกระบี่ที่เป็นหนึ่งในกฎที่มีพลังโจมตียอดเยี่ยมที่สุด แต่ วายเนอร์หยานของตระกูลวายเนอร์ก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน เขาเข้าใจกฎแห่งความแข็งแกร่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในกฎที่มีพลังโจมตียอดเยี่ยมที่สุดเช่นกัน

ทั้งสองมีความเข้าใจในระดับที่ทัดเทียมกันแต่ผลลัพธ์การต่อสู้กันก็ทำให้คนที่จับตาดูนี้ต้องตะลึง วายเนอร์หยานกลับพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ หัวหน้าตระกูลเทียนหยวนได้บดขยี้วายเนอร์หยันโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย

ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์การต่อสู้นี้ทำให้ทั้งแคว้นตงอันต้องสั่นคลอน แต่ยังดังไปทั่วอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์และอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ใกล้ ๆ เป็นเวลาสักพักด้วย

เจี้ยนเฉินได้แสดงความแข็งแกร่งให้โลกเห็นผ่านการต่อสู้กับวายเนอร์หยาน ในเวลาเดียวกันก็มีหลายคนได้เห็นความแข็งแกร่งของเขาอย่างชัดเจน

มีคนนับไม่ถ้วนที่บอกว่าเจี้ยนเฉินคือคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดใน 6 แคว้นใหญ่ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาหมายความว่าเขาแข็งแกร่งที่สุดใน 36 แคว้นเมื่อพูดแบบนั้น !

หัวหน้าตระกูลและสมาชิกระดับสูงของตระกูลหลิงต่างก็ตะลึงเมื่อได้ยินว่าคนของตระกูลเทียนหยวนได้มาเยี่ยม พวกเขาต่างก็พากันผงะ

ตอนนั้นหัวหน้าตระกูลหลิงเหมือนจะคิดบางอย่างอยู่ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปและมองไปที่ยามคนนั้นก่อนจะถามขึ้นมา “เจ้าว่ายังไงนะ ? ใครกันที่มา ? ”

ยามไม่มัวรีรอและตอบกลับทันที “หัวหน้าตระกูล ชายคนนั้นบอกว่าเขาคือเจี้ยนเฉินแห่งตระกูลเทียนหยวน…เจี้ยนเฉิน….เจี้ยนเฉิน…เขาใช่…” ยามเหมือนจะเข้าใจตอนที่พูดจบประโยค สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้แสดงท่าทีลนลานและเหลือเชื่อออกมาผ่านใบหน้า

ตอนนั้นเขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงท่าทีที่เขามองเจี้ยนเฉินก่อนหน้านี้

“เจี้ยนเฉิน ! ไม่ใช่ว่าเขาเป็นหัวหน้าตระกูลเทียนหยวนหรอกรึ ? เจ้ามั่นใจนะว่าได้ยินมาถูกต้อง ? ”

“หัวหน้าตระกูลเทียนหยวนมาเยี่ยมตระกูลหลิงด้วยตัวเอง ! เจ้ามั่นใจเรื่องนี้แน่นะ ? ”

“เราต่างก็รู้ว่าหัวหน้าตระกูลเทียนหยวนนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน ยิ่งกว่านั้นตระกูลหลิงของเราก็ไม่ได้มีสัมพันธ์อะไรกับตระกูลเทียนหยวน ทำไมเขาถึงต้องมาที่ตระกูลหลิงของเรา ? อีกอย่างแล้วทำไมเขาต้องมาด้วยตัวเอง ? ”

….

ตอนนั้นในห้องโถงก็ดูวุ่นวายขึ้นมา สมาชิกระดับสูงทุกคนต่างก็พากันตื่นเต้นและตกใจ ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันยากจะเชื่อได้

“ใครบ้างจะกล้าใช้ชื่อหัวหน้าตระกูลเทียนหยวน ? เร็วเข้า รีบพาตัวเขาเข้ามา แล้วก็ติดต่อไปยังผู้อาวุโสตระกูล เพราะบรรพชนไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย เราต้องต้อนรับเขาเนื่องจากหัวหน้าตระกูลนั้นได้มาด้วยตัวเอง” หลิงโม่เจียนลุกขึ้นยืนและบอกกับทุกคน

ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ติดต่อกับผู้อาวุโสทั้งหมดแบบลับ ๆ ตอนนั้นหัวหน้าตระกูลได้ติดต่อไปยังผู้อาวุโสตระกูลทั้งหมดโดยไม่สนใจว่าพวกนั้นเก็บตัวอยู่หรือไม่

เพราะแบบนั้นแค่ไม่กี่วินาทีผู้อาวุโสตระกูลทั้งหมดแม้แต่พวกที่เก็บตัวอยู่ต่างก็โผล่มาในเวลาไม่กี่วินาทีหลังจากข้อความของหัวหน้าตระกูลส่งไปถึง พวกเขาได้ไปยืนอยู่ตรงหน้าหัวหน้าตระกูลทันที

ไม่นานคนสำคัญทั้งหมดของตระกูลและผู้อาวุโสก็ได้มายังทางเข้าคฤหาสน์ พวกเขาต่างก็รีบไปให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้

มองจากไกล ๆ หัวหน้าตระกูลเห็นเจี้ยนเฉินยืนรออยู่ที่ทางเข้า เขาหรี่ตาลงและอดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าเคารพออกมา

แม้ว่า หลิงโม่เจียน จะไม่เคยเห็น เจี้ยนเฉิน ด้วยตัวเองมาก่อนแต่เขาก็ยังคงเป็นหัวหน้าตระกูลที่มีขั้นเหนือเทพ เขาได้ภาพของ เจี้ยนเฉิน มาจากเส้นทางต่างๆและเขาก็พบว่าคนที่มาเยี่ยมนี้มีหน้าตาเหมือนดังในภาพ

“หัวหน้าตระกูลหลิง หลิงโม่เจียน ขอคำนับหัวหน้าตระกูลเทียนหยวน การมาเยี่ยมของหัวหน้าตระกูลเป็นเกียรติต่อตระกูลหลิงของเรา ยกโทษให้ข้าด้วยที่มาช้าเช่นนี้ ! ” หลิงโม่เจียนโค้งคำนับให้กับเจี้ยนเฉินและพูดขึ้นมาอย่างสุภาพ ยังไงซะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็เป็นถึงขั้นเหนือเทพ

ขั้นเหนือเทพที่แข็งแกร่ง !

“ ขอคำนับหัวหน้าตระกูลเทียนหยวน ! ”

คนจากตระกูลหลิงต่างก็พากันโค้งให้กับเจี้ยนเฉิน สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพ มันมีหลายคนที่ดูหมือนจะอึดอัดด้วยเช่นกัน

เจี้ยนเฉินยิ้ม เขาไม่ได้ถือตัวแต่อย่างใด หลังจากที่ทักทายคนของตระกูลหลิงแล้ว เขาก็ถูกเชิญเข้าไปยังห้องโถง

หัวหน้าตระกูลหลินไม่ได้นั่งอยู่บนบัลลังก์หัวหน้าตระกูล เขากลับไปนั่งกับเจี้ยนเฉินและผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ของตระกูลหลิงแทน พวกนั้นต่างก็จัดผลไม้และชาที่ดีที่สุดมาต้อนรับเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินพูดคุยกับคนของตระกูลหลิงอย่างเป็นกันเอง แต่ในหมู่ทุกคนนั้นมีแค่เจี้ยนเฉินที่ยังใจเย็นอยู่ได้ หัวหน้าตระกูลและคนอื่น ๆ ต่างก็ต้องคอยระมัดระวังตอนที่พูดคุยกับเจี้ยนเฉิน ราวกับว่ากลัวจะเป็นการคุกคามขั้นเหนือเทพ

สมาชิกระดับสูงและผู้อาวุโสเองต่างก็พยายามผูกมิตรกับเจี้ยนเฉินเอาไว้

“ หัวหน้าตระกูลหลิง ข้าขอถามได้รึไม่ว่ามีข่าวเรื่องหลิงเฮ่ากงหรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินดูจริงจังขึ้นมาและถามถึง หลิงเฮ่ากง นี่คือเหตุผลหลักที่เขาได้มายังตระกูลหลิง

เจี้ยนเฉินชื่นชมหลิงเฮ่ากงอยู่บ้าง หลังจากที่แยกกันในสุสานราชาเทพต้วนมู่แล้ว เขาก็ไม่ได้เจอกับอีกฝ่ายอีกเลย ดังนั้นเขาจึงรู้สึกห่วงอีกฝ่ายขึ้นมา

สีหน้าของหลิงโม่เจียนหม่นลงเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาถอนหายใจออกมาเบา ๆ “บรรพชนยังไม่ได้กลับมาตั้งแต่ที่ไปยังสุสานราชาเทพต้วนมู่ ในเวลาเดียวกันเขาก็ไม่ส่งข่าวใด ๆ กลับมา แม้แต่เราก็ไม่รู้เรื่องบรรพชนเลย “

“ข้าได้ยินมาว่าบรรพชนนั้นล่วงเกินองค์กรใหญ่ในเรื่องกระบี่ภายในสุสาน เฮ้อ…” สีหน้าของหลิงโม่เจียนเต็มไปด้วยความกังวล ตอนที่เขารู้ว่าบรรพชนของตนได้ไปล่วงเกินองค์กรใหญ่ยังไงนั้น สีหน้าของเขาก็ซีดลงทันที