เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไปแน่นอนว่าทั้งสวรรค์แรกมันย่อมจะเข้าสู่สภาวะเฉลิมฉลอง!
ก่อนที่ศึกนี้จะเริ่มขึ้นนั้นพวกเขาต่างสิ้นหวังเชื่อไปว่าครั้งนี้มหานครฉีใต้คงแตกแน่แล้ว
ใครจะไปคิดว่าผลลัพธ์มันกลับจะเปลี่ยนแปลงหน้ามือเป็นหลังมือได้เช่นนี้!
บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเลือดนั้นมันกลับเป็นมนุษย์!
เย่หยวน นามนี้มันดังลั่นทั้งร้อยแปดนครอีกครั้ง ลั่นไปจนทั่วทั้งทวีปสวรรค์แรก
เพราะว่าศึกนี้มันเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่พันธมิตรสวรรค์แรกเริ่มสงครามมา
“หากไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองข้าก็คงไม่เชื่อคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องเล่าโม้กันเท่านั้น!”
“มนุษย์คนหนึ่งกลับกลายเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเทวาไป! ท่านหวังจั่วมันนั้นคงกระอักเลือดตายแล้วมั้ง?”
“กองทัพหัวกะทิกว่าสองแสนนั้นตายลงสิ้น! นอกจากนั้นมันยังมีร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนและร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงที่ตายลงไปอีก! ศึกครั้งนี้มันคือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อน! เหนือล้ำประวัติศาสตร์! ยอดเยี่ยมนัก!”
…
ในมหานครฉีใต้นั้นมันมีแต่เสียงโห่ร้องดีใจดังขึ้นจากทุกมุม
ต่อให้เรื่องนี้มันจะผ่านมาได้ถึงสามเดือนแล้วแต่ชัยชนะนั้นมันก็ยังตราตรึงอยู่ในใจผู้คน
ตอนนี้เย่หยวนได้กลายเป็นดั่งเทพในใจของคนทั้งหลายแล้ว
หากมิใช่เพราะเขาคนนี้แล้วมีหรือที่พวกเขาจะเอาชัยชนะที่สดใสเช่นนี้กลับมาได้?
แต่ว่าผลของศึกนี้มันก็ส่งผลอย่างยิ่งใหญ่จริง
เย่หยวนนั้นพาร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยง จักรพรรดิเซียนมาและสังหารพวกเขาทั้งสองลงสิ้น
ทำเช่นนี้มันย่อมจะเท่ากับเขานั้นตัดยอดฝีมือเผ่าเลือดไปถึงสองรุ่น
คนที่เหนือนั้นมันไม่ได้เก่งกาจจนน่ากลัวอีก
เท่ากับว่าตอนนี้เผ่าเลือดจะต้องมีช่องว่างของยอดฝีมือเกิดขึ้นถึงสองรุ่น!
ในรุ่นทั้งสองนี้มันจะไม่มีทางได้เจอยอดอัจฉริยะใดๆ เกิดขึ้นมาอีกแล้ว
เวลาสองรุ่นนั้นมันอาจจะไม่เยอะมากสำหรับยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์แต่ว่าสำหรับเผ่าเลือดนั้น สองรุ่นมันเป็นอะไรที่เยอะมาก หากไม่มียอดฝีมือรุ่นใหม่แล้วพวกเขาก็จะไม่อาจเติมเต็มพลังเพื่อเพิ่มอำนาจ ในการโจมตีได้อีก
ศึกนี้มันคงสามารถสร้างความสงบสุขให้แก่ทวีปสวรรค์แรกได้หลายปี!
ชัยในฉีใต้นั้นมันได้ส่งผลอย่างมากมายไปทุกในสนามรบ!
ตอนนี้มิใช่แค่มหานครฉีใต้เท่านั้นที่เฉลิมฉลอง แม้แต่เหล่าเจ้าโลกเองก็ยังต้องผงะเมื่อได้ยินข่าวเช่นกัน
ตอนแรกที่เจ้าโลกหยุนซานได้ยินเรื่องนี้เขาถึงกับนั่งหยุดหายไปเป็นหลายนาที
บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นั้นคือเย่หยวน?
นี่มันจะบ้าไปแล้วหรือ?
เขานั้นรู้ถึงฤทธิ์ของโอสถเลียนโลหิตและเคยตรวจเย่หยวนหลังจากลองใช้โอสถนี้มาแล้วด้วย
ด้วยฝีมือของเขานั้นหากลองตรวจดูละเอียดๆ แล้วมันย่อมจะเจอจุดแปลกปลอมไม่น้อย
แต่มันก็ยังต้องใช้ความพยายามไม่น้อยถึงจะตรวจเจอ
มันมิใช่สิ่งที่แค่ใช้จิตศักดิ์สิทธิ์มองผ่านๆ แล้วจะตรวจเจอได้
เย่หยวนเองก็เข้าใจเรื่องนี้
โอสถเลียนโลหิตนั้นมันสามารถใช้เพื่อเข้าไปแฝงตัวในเผ่าเลือดได้แต่ไม่อาจจะเด่นมากได้
เพราะหากต้องไปยังวิหารโลหิตเทวาแล้วมันย่อมจะทำให้เสี่ยงอย่างไม่จำเป็น
ในวิหารโลหิตเทวานั้นมันมีเจ้าโลกมากมาย
เย่หยวนที่เป็นคนโดนเด่นเช่นนี้ย่อมจะไม่มีทางหลุดรอดสายตาของเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายไปได้
เพราะฉะนั้นมันจึงเสี่ยงเกินไป
นอกจากนั้นแล้วบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นี้มันยังไม่ใช่ตำแหน่งที่ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนอันดับหนึ่งจะได้รับมา!
เพราะนี่มันคือตำแหน่งที่ต้องให้หวังจั่วคนนั้นเป็นคนรับรองและแต่งตั้ง!
สุดยอด!
เหนือล้ำ!
เรื่องราวเช่นนี้อย่าว่าแต่จักรพรรดิเซียนน้อยๆ คนหนึ่งแม้แต่เจ้าโลกอย่างเขาเองก็ยังไม่กล้าจะลองทำ!
แต่นอกจากว่าเย่หยวนจะกล้าลองแล้วเขายังสามารถทำได้อีกด้วย!
สุดยอดเหนือล้ำ!
เขานั้นหมดคำพูดที่จะใช้ชื่นชมไปนานแล้ว
เจ้าโลกคนอื่นๆ นั้นนอกจากความอิจฉาแล้วมันก็มีแต่ความริษยา
แล้วเย่หยวนนั้นเก่งกาจหรือไม่?
แน่นอน!
เย่หยวนนั้นสร้างคุณให้ทวีปสวรรค์แรกอย่างไม่อาจนับได้และยังแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ที่มีด้วย
ต่อให้จะเป็นเจ้าโลกพวกเขาก็ยังรู้สึกซาบซึ้งต่อเขา
แต่ว่าตัวตนในฐานะผู้บ่มเพาะนอกรีตของเขานั้นมันได้หยุดเจ้าโลกคนอื่นๆ ไว้
ยอดอัจฉริยะเหนือล้ำฟ้าดินที่จะต้องตายเร็วก่อนถึงระดับเจ้าโลกมันย่อมไม่มีอนาคต
สำหรับสวรรค์แรกในตอนนี้หากมิใช่เจ้าโลกมันก็ไม่คุ้มค่าจะลงมือใดๆ
พวกเขานั้นต้องการเจ้าโลกเพิ่ม!
แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับได้ใช้การกระทำตบหน้าพวกเขาทั้งหลายสิ้น
ไม่ใช่เจ้าโลกแล้วทำไม?
เย่หยวนนั้นไม่ต้องเป็นเจ้าโลกก็สามารถสร้างคุณให้แก่พันธมิตรได้อย่างที่เจ้าโลกยังต้องอาย
“หยุนซาน ท่านได้ศิษย์ที่ดีมาจริงๆ!” เทพศักดิ์สิทธิ์กล่าวขึ้นมาจากส่วนลึกของเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย
เพราะตอนที่เย่หยวนปรากฏตัวขึ้นที่เมืองทัศน์เหนือนั้นเขาเองก็รู้สึกอยากเก็บเขามาเช่นกัน
แต่สุดท้ายเขาก็ล้มเลิกไป
ตอนนี้เขาจึงได้แต่ต้องอิจฉาเจ้าโลกหยุนซานที่กล้า
มีศิษย์เช่นนี้อยู่ยังจะกลัวอะไร?
“ฮ่าๆๆ ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์กล่าวเกินไปแล้ว! แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น! เจ้าเด็กคนนี้มันยังไม่เท่าไหร่หรอก! คนหนุ่มอย่าได้ไปชมมันเยอะเดียวมันจะเหลิง! มันเพิ่งจะบรรลุจักรพรรดิเที่ยงมาได้รอมันบรรลุมหาจักรพรรดิมาก่อนแล้วค่อยกล่าวชมมันก็ไม่เสียหาย!”
เจ้าโลกหยุนซานนั้นแสดงความ ‘ถ่อมตน’ ออกมา
เพียงแค่ว่าน้ำเสียงของเขานั้นมันได้ทำให้คนทั้งเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์หมั่นไส้จนถึงกระดูก!
เจ้าโลกทั้งหลายนั้นอยากจะเดินมาตบหน้าชายแก่คนนี้ให้หันกันสักทีสองที
แต่พวกเขานั้นก็อิจฉาจริง!
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียคุณประโยชน์ที่เย่หยวนทำนี้มันก็ไม่ได้เป็นแค่ประโยชน์แก่หยุนซานคนเดียว!
ตอนนี้ชื่อเสียงของนิกายยาสุดล้ำนั้นพุ่งทะยานกว่านิกายใดๆ จนกลายเป็นอันดับหนึ่งของทวีปสวรรค์แรกไปสิ้นเชิง!
เพราะว่าเย่หยวนนั้นเป็นศิษย์นิกายยาสุดล้ำ!
ด้วยชื่อเสียงมันก็ย่อมจะได้ทรัพยากรตามมาด้วย!
“พอได้แล้ว! เฒ่าหยุนซาน เจ้าเลิกโม้สักที!” เจ้าโลกเฮยหยางกล่าวขึ้นมาขัด
“เฒ่าเฮยหยาง เจ้าอิจฉาล่ะสิ!” เจ้าโลกหยุนซานถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ใครอิจฉา? แค่ผู้บ่มเพาะนอกรีตมันจะมีค่าให้ต้องอิจฉาด้วย?”
“เจ้าอิจฉาแหละ!”
“…”
‘เออ อิจฉาก็ได้!’
เทพศักดิ์สิทธิ์ยิ้มกล่าวขึ้น “อย่าว่าแต่เฒ่าเฮยหยางเลย แม้แต่ข้าเองนี้ก็ยังอดอิจฉาไม่ได้! ผลลัพธ์ของศึกนี้มันยิ่งใหญ่ล้น! ชัยชนะนี้มันยิ่งใหญ่จนทดแทนการสูญเสียสหายหวู่เฟิงไปได้ทีเดียว ตอนนี้ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนและร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงของศัตรูนั้นได้ตายลงหมดสิ้น กองทัพที่เสียไปราวสามแสนนั้นเองก็ล้วนเป็นหัวกะทิของเผ่าเลือดเช่นกัน พวกมันได้ตายลงสิ้นเผ่าเลือดคงไม่อาจจะโจมตีใหญ่ใดๆ ได้อีกเป็นระยะเวลาอย่างน้อยสิบปีแน่!”
“พวกเราทุกคนต้องใช้สิบปีนี้ให้เป็นประโยชน์ที่สุด! ไม่ว่าจะอย่างไรเราก็ต้องเลี้ยงดูเจ้าโลกขึ้นมาให้ได้สักคนสองคน! สิบปีจากนี้สิ่งที่รอเราอยู่จะเป็นสงครามที่หนักหน่วงกว่าเดิมแน่นอน!”
ในตอนนี้เหล่าเจ้าโลกทั้งหลายต่างอ้าปากค้างขึ้นพร้อมกัน
เจ้าโลกนั้นไม่เคยปรากฏขึ้นบนทวีปสวรรค์แรกในช่วงหลายพันปีมานี้มันก็เพราะว่าเผ่าเลือดที่โจมตี อย่างไม่ให้พวกเขาได้พัก
เจ้าโลกทั้งหลายนั้นถูกกดดัน มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ที่มีแววจะบรรลุก็ล้วนตายลงในสนามรบ ไม่มีใครเหลือเวลาจะไปบรรลุเจ้าโลก
การเป็นเจ้าโลกนั้นมันยากเย็นยิ่งนัก
แต่ตอนนี้ด้วยเวลาพักสิบปีมันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายเริ่มกลับมาหายใจได้อีกครั้ง
…
“อ้ากกก!”
เสียงร้องอย่างคับแค้นนั้นดังลั่นจนวิหารโลหิตเทวาสั่นสะเทือน
คลื่นพลังเจ้าของเสียงนั้นมันแผ่ออกมาจากภายในสุดของห้วงมิติ
หวังจั่วนั้นกำลังคลั่ง!
เขานั้นเป็นคนที่สั่งให้เย่หยวนขึ้นมารับตำแหน่งบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์!
ตอนนี้เขาจึงได้กลายเป็นตัวตลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!
ผู้สืบทอดที่เขาเล็งไว้นั้นมันกลับเป็นมนุษย์!
นอกจากนั้นมันยังเป็นเย่หยวน!
เย่หยวนเป็นนามที่หวังจั่วจำได้ขึ้นใจ!
ตั้งแต่ที่นามนี้ถูกรายงานเข้าวิหารโลหิตเทว่ามานั้นมันก็ไม่มีใครไหนที่แผนของเผ่าเลือดจะสำเร็จอีกเลย
แผนเส้นทางมิติ แผนทำลายกำแพงมหานครฉีใต้ แผนสังหารเจ้าโลก!
แต่ละแผนล้วนดำเนินไปได้อย่างดีจนแทบจะสำเร็จ!
แต่มันกลับกลายเป็นความหายนะทุกครั้งที่เย่หยวนมาถึง!
“เย่หยวน! เย่หยวน! ข้าจะสับร่างเจ้าให้แหลกเป็นหมื่นๆ ชิ้น!”
หวังจั่วนั้นไม่เคยเกลียดชังอะไรจนถึงขนาดนี้
เย่หยวนเป็นคนแรก!
น่าคับแค้น!
หวังจั่วผู้ยิ่งใหญ่คนนี้กลับถูกเย่หยวนตบหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
มันช่างน่าอับอาย
เจ้าโลกผู้ยิ่งใหญ่ ราชาเผ่าเลือดกลับถูกจักรพรรดิเซียนน้อยคนหนึ่งปั่นหัว!
นี่มันคือความอับอายที่จะไม่มีวันลบเลือน!
“สั่งอัศวินดำไปว่าให้ใช้ยอดฝีมือคลื่นกำเนิดออกล่าสังหารเย่หยวนให้ได้!” หวังจั่วนั้นสั่งออกมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ
แต่เยียหวู่กวยที่ได้ยินกลับต้องทำหน้าเหยเกตอบกลับไป “ท่านหวังจั่วใจเย็นๆ ก่อน! อัศวินดำนั้นเสียหายไปมากจากคำสั่งสังหารเย่หยวนเมื่อคราวก่อนแล้ว! พวกเขา…จะออกหน้าไม่ได้ง่ายๆ อีกแล้ว! ไม่เช่นนั้นน้ำพักน้ำแรงหลายพันปีที่ผ่านมาของเรามันจะสูญเปล่าสิ้น!”
หวังจั่วผงะไปและนึกขึ้นมาได้ว่าเขานั้นได้เคยสั่งให้อัศวินดำสังหารเย่หยวนและต้องเสียมหาจักรพรรดิไป มากมาย!
มารร้าย!
เจ้ามารร้ายนี้มันจะตายลงเมื่อไหร่?
เย่หยวน!
ไปไหนก็เจอแต่เย่หยวน!
แต่วินาทีต่อมาเขาก็หันมาตวาดว่าเยียหวู่กวย “เยียหวู่กวย เจ้าทำอะไรของเจ้า? แค่จักรพรรดิเซียนมนุษย์คนหนึ่งเจ้าก็มองมันไม่ออกหรือ?”
นี่มันย่อมจะเป็นการระบายแล้ว
เยียหวู่กวยต้องถอนใจยาวออกมา “ท่านหวังจั่ว เรื่องนั้น…มันหลอกได้แม้แต่ศิลามารดา!”
หวังจั่วนิ่งไปทันทีรู้สึกได้ถึงความพ่ายแพ้อย่างหมดรูปในที่สุด
ใช่แล้ว หากมิใช่เพราะศิลามารดานั้นให้เลือดต้นแก่เย่หยวน
มีหรือที่เขาจะคิดหยิบเย่หยวนขึ้นมาเป็นผู้สืบทอดจบต้องขายหน้าเช่นนี้?
แล้วจะทำอย่างไร?
ไปโทษศิลามารดา?
หวังจั่วนั้นได้แต่ต้องยืนนิ่งอย่างไม่รู้ต้องทำอย่างไรต่อไป
สิ้นหวังนัก!