“เจ้าให้เข้าไสหัวไปหรือ?”

สีหน้าของชายหนุ่มชุดน้ำเงินหม่นหมองลง ในฐานะที่เป็นอัจฉริยะคนหนึ่งที่มีคุณสมบัติเข้ามาในแดนเทวนิรันกาล เขาพิจารณาตัวเองแล้วว่าตนไม่ได้อ่อนกว่าผู้ใด

ยิ่งไปกว่านั้นคือเจ้าหมอนี่ที่บอกให้ตนเองไสหัวไปนั้น ยังเป็นผู้ที่ผลการฝึกตนเทียบเคียงกับตนไม่ได้ด้วยอย่างนั้นหรือ?

“เจ้ามาจากมหาโลกาใด? หรือว่ามหาโลกาของพวกเจ้าไม่มีผู้คนแล้วหรือ? ถึงกับให้ราชาเทพขั้น 7 กระจอก ๆ อย่างเจ้าเข้ามาในแดนเทวนิรันกาล?”

ในระหว่างที่พูด ชายหนุ่มชุดน้ำเงินก็ปลดปล่อยจิตสังหารของตัวเองออกมาแล้ว ภายใต้ผลกระทบจากจิตสังหารที่รวดเร็วและดุดันนี้ ทำให้อากาศบริเวณรอบ ๆ กลายเป็นระลอกคลื่น แล้วปกคลุมร่างหลัวซิวเอาไว้

หลัวซิวเบื่อที่จะพูดจาไร้สาระกับฝ่ายตรงข้าม อสูรดูดจิตก็ปลดปล่อยพลังดูดจิตออกมาเช่นกัน ทำให้ชายหนุ่มชุดน้ำเงินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสัมผัสได้ว่าผลการฝึกตนและพลังเวทย์ล้วนถูกกดอัด

สีหน้าของชายหนุ่มชุดน้ำเงินเปลี่ยนไปเล็กน้อย “มิน่าล่ะถึงกล้าจองหองเช่นนี้ ถึงแม้ศักยภาพของข้าจะถูกกดอัดเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ราชาเทพขั้น 7 เล็กน้อยอย่างเจ้าจะสามารถต่อกรได้”

ในฐานะที่เป็นผู้ภาคภูมิของสวรรค์ในมหาโลกาใบหนึ่ง ผลการฝึกตนของชายหนุ่มชุดน้ำเงินคนนี้แข็งแกร่งมาก เห็นการกดอัดจากพลังดูดจิตได้ไม่ชัดเจนมากนัก

“อาณาจักรโน้มถ่วง!”

ชายหนุ่มชุดน้ำเงินตะคอกเสียงดังลั่น แรงกดอัดที่มากมายมหาศาลที่วิวัฒนาการมาจากกฎธาตุดินคำรามแล้วแผ่ขยายออกมา เขาวางแผนที่จะอาศัยแรงกดอัดจากกฎธาตุดิน กดอัดเจ้าหมอนี่ที่สมควรตายโดยสิ้นเชิง จากนั้นค่อยบดขยี้เขาให้ตายเหมือนบดขยี้มดตัวหนึ่ง ทำให้เจ้าหมอนี่ได้สัมผัสกับรสชาติแห่งความเจ็บปวดทรมานแล้วค่อยสังหารเขา

แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือความคิดของเขานั้นดีเยี่ยมมาก ๆ แต่การที่จะทำให้มันเป็นจริงนั้นกลับไม่ต่างอะไรจากการเพ้อฝัน เนื่องจากเขาไม่มีศักยภาพที่จะทำเช่นนี้ได้เลยด้วยซ้ำ

อาณาจักรแรงตรึงปะทะเข้ากับอาณาจักรกฎปริภูมิของหลัวซิว สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มชุดน้ำเงินตะลึงคืออาณาจักรโน้มถ่วงที่วิวัฒนาการมาจากกฎธาตุดินขั้น 5 บริบูรณ์ของตัวเองถูกทลายไปภายในชั่วพริบตาเดียวอย่างนั้นหรือ

และในเวลานี้เอง วิกฤตการณ์แห่งความตายก็ปกคลุมหัวใจ กรงเล็บที่ใหญ่โตของอสูรดูดจิตมาถึงตรงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ปัง!”

ชายหนุ่มชุดน้ำเงินเรียกของขลังคุ้มกันชิ้นหนึ่งออกมาในช่วงเวลาที่สำคัญ ของขลังคุ้มกันชิ้นนี้คือศัตราวุธราชา กรงเล็บของอสูรดูดจิตไม่สามารถทำให้มันแตกสลายได้

แม้ชายหนุ่มชุดน้ำเงินจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เขาก็ตกใจจนสะดุ้งเช่นกัน สีหน้าดูย่ำแย่ลงไปภายในพริบตา

“อัจฉริยะที่สามารถอยู่อันดับหนึ่งในสิบของมหาโลกาใบหนึ่งนั้น ศักยภาพก็ไม่อ่อนเลยนี่”

หลัวซิวดูออกแล้วว่าศักยภาพของชายหนุ่มชุดน้ำเงินคนนี้ไม่อ่อน ผลการฝึกตนกึ่งมกุฎเทพ ศักยภาพสามารถเทียบทัดมกุฎเทพขั้นปฐมภูมิ

แต่ถ้าเกิดเปรียบเทียบกับเยาเย่นั่นจากโลกาบรรพมารแล้ว คนดังกล่าวกลับแตกต่างจากเยาเย่ไม่น้อยเลย หลัวซิวประเมินว่าศักยภาพที่แท้จริงของเยาเย่น่าจะสามารถเคียงบ่าเคียงไหล่กับมกุฎเทพช่วงกลางจนถึงช่วงปลาย

จีเสี่ยวจื่อกำลังตระหนักรู้ในกฎปริภูมิ ซึ่งชายหนุ่มชุดน้ำเงินคนนี้มาด้วยความประสงค์ร้าย หลัวซิวจึงไม่มีความคิดที่จะออมมือ ยื่นมือออกไปคว้าทีหนึ่ง หอกมังกรแดงมืดก็ปรากฏในมือแล้ว

“เวิง!”

มีการเพิ่มเสริมจากกฎใหญ่ทั้งสองอย่างความตายและปริภูมิ ทำให้หอกมังกรที่อยู่ในมือหลัวซิวกลายเป็นเศษเงา คมหอกที่เฉียบคมถึงขีดสุดพุ่งไปถึงหน้าชายหนุ่มชุดน้ำเงินภายในชั่วลมหายใจเดียว

นี่จึงทำให้ชายหนุ่มชุดน้ำเงินตะลึงมากจนหน้าถอดสี เห็นได้ชัดเจนเลยว่าทันทีที่ฝ่ายตรงข้ามลงมือ การโจมตีก็ก้าวข้ามผ่านปริภูมิมาถึงตรงหน้า หรือว่านี่คือกฎปริภูมิ?

เนื่องจากมีเพียงการใช้กฎปริภูมิ ถึงจะสามารถทำให้การโจมตีของ นักยุทธ์ข้ามผ่านการขวางกั้นของปริภูมิได้

ชายหนุ่มชุดน้ำเงินไม่พูดพร่ำทำเพลง อยากหยิบฮู้ชิ้นหนึ่งออกมาบีบให้แตก ถึงแม้จะไม่ใช่ฮู้ระดับมกุฎอย่างฮู้เทวสรรพสิทธิ์ แต่ก็เป็นฮู้หลบซ่อนที่กลั่นโดยปรมาจารย์ค่ายกลระดับเจ้ายุทธจักรอยู่

แต่ทว่าหลัวซิวไม่ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสบีบทำลายฮู้เพื่อหลบหนีเลยด้วยซ้ำ หลัวซิวโคจรกฎลดเวลาอีกครั้ง หอกมังกรก็ทิ่มแทงลงไปจนเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่นก่อนฝ่ายตรงข้ามจะบีบทำลายฮู้