ตอนที่ 1837 : การประมูล

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1837 : การประมูล

เจี้ยนเฉินออกมาจากคฤหาสน์ของซวนเตา เขาไม่ได้กลับไปที่โรงเตี้ยมทันที เขากลับไปเดินตามท้องถนนด้วยตัวเอง เขาถึงกับเข้าทุกตลาดในเมืองที่ขายของสำหรับการบ่มเพาะ

เมืองหลวงนี้ใหญ่โต แค่ตัวเมืองเองก็ใหญ่กว่าอาณาจักรเกอซุนหลายเท่า แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉิน ตอนนี้แล้วเขาใช้เวลาแค่สองวันก็เดินไปทั่วทุกร้าน

แต่การกระทำของเขาในสองวันนี้ค่อนข้างประหลาด เขาเคลื่อนที่ไปมาได้หลายร้อยเมตรหรือหลายพันเมตรในแต่ละก้าว เขาเดินไปตามถนนและซอยทุกแห่ง เขาจงใจไปยังพื้นที่ที่มีร้านค้าและตลาดอัดแน่นกันอยู่ แต่ระหว่างสองวันนี้เขาไม่ได้เข้าไปเลยสักร้าน การกระทำของเขาค่อนข้างน่าสับสน

“เฮ้อ ข้าได้ตรวจสอบทั่วทั้งเมืองแล้วแต่ก็ไม่พบวัสดุสำหรับกระบี่คู่สักชิ้น” เจี้ยนเฉินกลับไปที่โรงเตี้ยม เขายืนอยู่ในห้องเดิมแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับพึมพำออกมา

เขาทำการค้นหาวัสดุสำหรับกระบี่คู่ตลอดสองวันที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะไม่ได้เข้าไปเลยแม้แต่ร้านเดียวแต่เขาก็แอบตรวจสอบมันอยู่ เขาจะรับรู้ได้ถึงมันทันทีที่พบวัสดุที่จำเป็น

“มันยังเหลืออีกวันก่อนจะเกิดการประมูลโดยกลุ่มการค้าราชวงศ์ บัวดึงวิญญาณที่อาจจะปลุกไคยะขึ้นมาได้ แม้ว่าโอกาสจะน้อยนิดแต่ข้าก็ต้องเอามันมา” เจี้ยนเฉินพึมพำเบา ๆ พร้อมกับสายตาที่มุ่งมั่น

หลังจากนั้นเขาก็นับก้อนผลึกทั้งหมดที่มีกับตัว หลังจากที่ใช้ก้อนผลึกไปกับกระบี่สายรุ้งแล้ว เขาเหลือก้อนผลึกระดับสูง 4 ก้อนใหญ่จาก 10 ก้อนที่เขาได้มาจากราชาศักดิ์สิทธิ์

อีกอย่างแล้วเขาก็ยังมีเหรียญผลึกระดับสูงสุดในแหวนมิติของราชาเทพต้วนมู่ แม้ว่ามันจะไม่มากแต่ก็น่าจะประมาณ 1 ก้อนเหรียญผลึกระดับสูงหากเขาทลายมัน

“5 ก้อนใหญ่ แม้แต่ตระกูลที่มีเทพก็ไม่อาจจะมีมากได้เช่นนี้ มีแค่ตระกูลที่มีขั้นเหนือเทพที่จะมีได้มากเช่นนี้ได้ มันน่าจะพอที่จะซื้อบัวดึงวิญญาณได้” เจี้ยนเฉินรู้สึกมั่นใจ

….

ในพริบตาก็ถึงวันประมูล ชัดแล้วว่าเมืองนี้ดูคึกคักเป็นพิเศษ มันมีการพูดคุยเรื่องการประมูลกันทั่วทุกที่ตามท้องถนน มีหลายคนพูดถึงของมีค่าที่จะปรากฏขึ้นมาในการประมูลครั้งนี้ ไม่ก็ถอนหายใจด้วยความเสียดายที่ไม่ได้มีอำนาจพอจะเข้าร่วมการประมูลได้

พื้นที่รอบ ๆ สมาคมการค้าของราชสำนักตอนนี้อัดแน่นไปด้วยผู้คน มีหลายคนยืนต่อแถวกันพร้อมกับตั๋วในมือ พวกเขาค่อย ๆ เดินเข้าไปในอาคารหรูหราขนาดใหญ่ที่จัดการประมูลขึ้น

ในอีกด้านของทางเข้าแขกพิเศษ มันมีพรมแดงปูอยู่ที่พื้นโดยมีกลีบดอกไม้โรย มีสาวงามหลายคนยืนเรียงแถวพร้อมรอยยิ้มคอยต้อนรับแขกพิเศษ

ใครก็ตามที่เข้าผ่านทางเข้านี้ได้ถือว่ามีฐานะที่สูงส่ง ส่วนมากแล้วมาจากตระกูลที่มีขั้นเหนือเทพ ไม่ใช่แค่คนจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนแต่ยังมีตระกูลจากอาณาจักรใกล้เคียงด้วย

สมาคมการค้าของราชสำนักนั้นโด่งดังอย่างมาก พวกเขาจัดการประมูลมานับครั้งไม่ถ้วนตลอดหลายปีมานี้และแทบทุกครั้งก็มีสมบัติที่เพียงพอทำให้ตระกูลที่มีขั้นเหนือเทพสนใจได้

“ นั่นรถม้าของตระกูลกูฮัน คนจากตระกูลกู่หานมาแล้ว…”

“ เจ้าเห็นรถม้าสีขาวที่มีลายสลักหิมะหรือไม่ ? นั่นคือคนของตระกูลหยูปิงจากแคว้นหิมะเย็นเยือก…”

“คนจากคฤหาสน์แม่ทัพก็มาด้วย ผู้หญิงคนนั้นน่าจะเป็นคุณหนูซวนรั่วรั่ว…”

“รถม้าของตระกูลหยางเองก็มาเช่นกัน หืม ชายหนุ่มนั้นเหมือนกับนายน้อยหยางเทีย ไม่ใช่ว่าแขนเขาขาดไปเมื่อไม่กี่วันก่อนรึไง ? เขากลับหายดีแล้ว….”

“เจ้าเห็นธงที่มีดาวนั่นรึไม่ ? ราชวงศ์ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์นวดารา…..”

รถม้าที่หรูหราและคนจากตระกูลที่มีขั้นเหนือเทพได้ทยอยมาถึงกันทีละกลุ่ม ทางเข้าแขกพิเศษนั้นดูวุ่นวายขึ้นมาทันที สายตาคนนับไม่ถ้วนมองไปที่นั่นทำให้ที่นั่นกลายเป็นเป้าสายตา

“โอ้ พี่ซีหยู มีคนเยอะจริง ๆ มันดูวุ่นวายไปหมด” ตอนนั้นโม่หยานและซีหยูก็มาถึงเช่นกัน ใบหน้าของทั้งคู่มีผ้าบางปิดเอาไว้ดังเดิม พวกนางไม่ได้นั่งรถม้าที่หรูหรามา พวกนางกลับเดินมาที่นี่เองก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ทางเข้าที่มีพรม

“สองคนนั้นเป็นใครกัน ? ไม่ใช่ว่าดูแย่รึไงกับการมาเช่นนี้…”

“คนอื่น ๆ นั่งรถม้าหรูหรามา ส่วนสองคนนี้เดินเท้ามาเอง ชัดแล้วว่าตระกูลของสองคนนี้อ่อนแอเกินไป…”

“ นั่นเพราะพวกนางมาจากตระกูลที่มีขั้นเทพ พวกนางไม่ได้มีความมั่นใจเทียบเท่ากับตระกูลที่มีขั้นเหนือเทพ…”

หลายคนมองไปที่โม่หยานและซีหยูพร้อมกับตัดสิน พวกเขาไม่ได้มองไปที่สองคนนั้นด้วยความกลัวและอิจฉาเหมือนกับตอนที่มองดูตระกูลที่มีขั้นเหนือเทพ

โม่หยานและซีหยูไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย พวกนางพากันพูดคุยพร้อมกับเดินกกันต่อจนเข้าไปในการประมูล

หลังจากนั้นแขกจากตระกูลต่าง ๆ ก็ได้ทยอยมาถึงกันทีละกลุ่ม ส่วนมากแล้วคือตระกูลที่มีขั้นเหนือเทพจากอาณาจักรใกล้เคียงที่มีชื่อเสียง พวกเขามาด้วยรถม้าที่ดูหรูหราโดยมีสัตว์อสูรหายากคอยลากซึ่งแสดงถึงความร่ำรวยของตน

แน่นอนว่ามันมีแขกไม่กี่คนที่มาจากตระกูลที่มีขั้นเทพ เป็นธรรมดาที่จะไม่ได้แสดงความร่ำรวยมากนักแต่ก็ยังเตรียมการมาบ้างเพื่อให้ได้รับความเคารพที่สมควรได้ น้อยคนนักที่จะเข้ามาแบบซีหยูและโม่หยาน

ตอนที่ทุกคนเข้าไปในห้องประมูล มันก็มีคนอยู่ด้านนอกน้อยลงเรื่อย ๆ ตอนที่ประตูกำลังจะปิดนั้น เจี้ยนเฉิน ในชุดขาวก็ได้เดินเข้ามา เขาเข้าไปผ่านทางเข้าแขกพิเศษเป็นคนสุดท้าย

ห้องประมูลนี้ใหญ่อย่างมากและมันก็เพียงพอที่จะจุคนได้หลายหมื่นคน

ตอนนี้เจี้ยนเฉินนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวพร้อมกับหลับตาเพื่อรอการประมูล

5 นาทีต่อมาในที่สุดก็เริ่มการประมูล พิธีการในการจัดการประมูลนี้เป็นผู้หญิงรูปร่างดี ขอบเขตการบ่มเพาะของนางก็ดีเช่นกัน นางเป็นถึงขั้นเทพ

“ ข้า อู๋ตี้ พิธีกรการประมูลโดยสมาคมการค้าของราชสำนักในครั้งนี้ ขอคำนับทุกคน…” พิธีกรยิ้ม หลังจากที่แนะนำตัวแล้ว นางก็เริ่มการประมูลของชิ้นแรก

“สมบัติชิ้นแรกคือกระบี่บิน แม้ว่ามันจะเป็นวัตถุเซียนระดับกลางแต่มันก็อยู่ในขั้นสูงสุดของระดับกลาง ผลก็คือแม้แต่เทียบกับวัตถุเซียนระดับสูงขั้นต่ำแล้ว มันก็แทบจะมีพลังเท่า ๆ กัน มันมีรายละเอียดที่โดดเด่นและหายาก ทุกคน พวกท่านต้องเข้าใจว่าวัตถุเซียนระดับสูงนั้นมีค่าแค่ไหน กระบี่บินนี้มีค่าพอ ๆ กัน ข้าเดาว่าคงไม่ต้องอธิบายอะไรต่อเกี่ยวกับค่าของกระบี่บินเล่มนี้ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 10,000 เหรียญผลึกระดับสูง“ อู๋ตี้ ยกกล่องที่ประดับมาอย่างดีคอยแนะนำให้กับทุกคน กระบี่ที่วางอยู่ในกล่องนั้นส่องแสงอันหนาวเหน็บและดูน่ากลัวออกมา