เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ศึกการต่อสู้ในครั้งนี้ก็จะตกสู่สภาวะชะงักงัน ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ทั้งสองต่างฝ่ายต่างไม่สามารถทำอะไรฝ่ายตรงข้ามได้

มีพลังอมตะของสรรพสิ่งอิงหยินอุ้มหยางติดตัว ไม่ว่าหลัวซิวจะกระตุ้นดาราโบราณมกุฎเทพนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย บวกกับการยึดกุมในกฎชีวิต ทำให้เขาสามารถแผดเผาพลังและเลือดครึ่งตัวของตัวเองได้โดยไม่ต้องกลัวว่าพลังและเลือดของตัวเองจะแห้งเหือด

เขา ณ วินาทีนี้เหมือนดั่งเครื่องจักรนิรันดร์ที่ไม่มีท่าทีที่หมดแรงเลยแม้แต่น้อย

ย้อนกลับไปดูฝั่งมู่ช่าวหวง การควบคุมเรือรบทองคำอย่างต่อเนื่องทำให้ผลการฝึกตนของเขาสูญเสียไปเยอะมาก ๆ เห็นเพียงเขาพลิกมือปล่อยฮู้ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลการฝึกตนที่สูญเสียไปของตัวเองฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างไม่หยุดหย่อน

ในฐานะที่เป็นตระกูลค่ายกลอันดับหนึ่ง ฮู้ในมือของมู่ช่าวหวงต้องมีไม่น้อยอยู่แล้ว มีฮู้ที่มีประสิทธิภาพต่าง ๆ ทุกรูปแบบเท่าที่ควรจะมี

ชัวะ!

ปีกเทพไร้มลทินสั่นเทิ้ม หลัวซิวพุ่งตรงไปยังเรือรบทองคำ มือข้างหนึ่งกำหอกมังกร และมีลูกแก้วความเป็นตายปรากฏบนมืออีกข้าง

ภายในเวลาชั่วขณะ มู่ช่าวหวงก็รู้สึกว่าแก่นแท้ชีวีภายในร่างกายตัวเองถูกสูบออกไป จึงทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที กลัวจนขวัญกระเจิง

“นั่นมันสมบัติอะไร!?”

มู่ช่าวหวงตกตะลึงพรึงเพริด เขาพบว่าแก่นแท้ชีวีของตัวเองที่ถูกสูบไปนั้น ล้วนถูกลูกแก้วสีขาวดำที่อยู่ในมือฝ่ายตรงข้ามดูดกลืน

การกระตุ้นเรือรบทองคำก็ทำให้มู่ช่าวหวงสูญเสียผลการฝึกตนไปเยอะมาก ๆ แต่แรกอยู่แล้ว วินาทีนี้เมื่อแก่นแท้ชีวีถูกสูบออกไป จึงทำให้สภาวะของเขายิ่งประคับประคองต่อไปได้ยาก

เขาพลิกมือปล่อยฮู้ต่าง ๆ ออกมา แต่ทว่ากลับไม่สามารถหยุดยั้งแก่นแท้ชีวีที่ไหลหายไปได้

“ไอ้สารเลว!”

มู่ช่าวหวงโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก เห็นเพียงเขากัดฟันแน่น อดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้พลางหยิบฮู้สีม่วงล้วนออกมาหนึ่งชิ้น และมีจิตสังหารอันน่าทึ่งที่มากมายมหาศาลแผ่กระจายออกมาจากฮู้ชิ้นนั้น

ฮู้เทวสรรพสิทธิ์!

รูม่านตาของหลัวซิวหดลง ดูจากจิตสังหารที่สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วพื้นปฐพีนั่น เห็นได้ชัดเจนมากเลยว่านี่คือฮู้โจมตีชิ้นหนึ่ง

ฮู้เทวสรรพสิทธิ์ที่มีจิตสังหารอันน่าทึ่งแฝงซ่อนชิ้นหนึ่ง สามารถกระตุ้นการโจมตีที่เทียบทัดผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพออกมาได้แน่นอน

ถอย!

ไม่มีความลังเลใจใด ๆ ทั้งนั้น หลัวซิวล้มเลิกแผนการที่จะสังหารมู่ช่าวหวง ปีกเทพไร้มลทินสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง แล้วถอยหลังกลับไปด้วยความเร็วที่เร็วมากที่สุด ดึงตัวจีเสี่ยวจื่อมาแล้วบินหนีออกไปภายในพริบตา มากกว่านั้นคือเขาไม่มีเวลาไปสนใจดาราโบราณมกุฎเทพสี่ดวงนั้นแล้ว

ตู้ม!

จิตสังหารที่น่าทึ่งดุจกระแสน้ำปะทุออกมาแล้ว ปราณกระบี่สีแดงเลือดเล่มหนึ่งปรากฏกลางนภา บริเวณรอบ ๆ ของแสงกระบี่เหมือนมีศพที่กองเท่าภูเขาและทะเลสีเลือดลอยขึ้น ๆ ลง ๆ

แสงกระบี่สีเลือดก้าวข้ามผ่านอนัตตา การโจมตีที่เหมือนดั่งการโจมตีหนึ่งของจักรพรรดิเทพมีอานุภาพเป็นหนึ่ง ซึ่งสามารถทำลายล้างทุกสรรพสิ่ง

แคว็ก!

หลัวซิวบีบฮู้เทวสรรพสิทธิ์ที่ได้มาจากการประลองวิถียาให้แตกสลาย

โครมคราม……

แสงกระบี่ร่วงหล่น บดขยี้ห้วงดาราบริเวณโดยรอบเกือบแสนไมล์จนแตกสลาย แสงกระบี่หนึ่งเล่มตัดสับไปทางสุดปลายของห้วงดารา ทำให้ดวงดาวดวงหนึ่งถูกผ่าออก และระเบิดกลายเป็นฝุ่นละอองที่ตลบฟุ้งไปทั่วท้องฟ้า

“ไอ้เดรัจฉานที่สมควรตาย!”

มู่ช่าวหวงคำรามตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว และเขาก็เห็นหลัวซิวกระตุ้นฮู้หลบซ่อนในเมื่อครู่นี้เช่นกัน นึกไม่ถึงเลยว่าตัวเองสิ้นเปลืองฮู้เทวสรรพสิทธิ์ที่ล้ำค่าชิ้นหนึ่งไป แต่กลับไม่สามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้

และสิ่งที่น่าเกลียดไปมากกว่านั้นคือฝ่ายตรงข้ามยังใช้ฮู้หลบซ่อนที่กลั่นโดยตระกูลมู่ของพวกเขาด้วย

“ต่อให้มึงหนีไปจนถึงสุดขอบฟ้า มู่ช่าวหวงกูก็ต้องฆ่ามึงได้อย่างแน่นอน!”

มีเสียงคำรามอย่าโกรธเกรี้ยวของมู่ช่าวหวงดังก้องอยู่ในห้วงดารา เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ฮู้เทวสรรพสิทธิ์ที่ล้ำค่าชิ้นหนึ่ง สิ่งที่เขาใส่ใจมากกว่าคือหินนิรันดร์ถูกคนดังกล่าวเอาไปแล้ว

ในฮู้หลบซ่อนมีกฎปริภูมิขั้น 10 แฝงซ่อน เสี้ยววินาทีที่ถูกหลัวซิวบีบมันแตกสลาย เขาก็รู้สึกว่าตัวเองและจีเสี่ยวจื่อถูกพลังปริภูมิที่มากมายมหาศาลจนไม่อาจคาดเดาได้พลังหนึ่งแผ่คลุม วินาทีต่อไปเขาก็หมดสติไปเลย

หลังจากสติของเขาฟื้นฟูกลับคืนมาแล้ว เขาพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แปลกหน้าแห่งหนึ่ง