ตอนที่ 2932 ร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2932 ร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด!
คนทั้งหลายนั้นไม่อาจจะเข้าใจได้ว่าทำไมมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางถึงได้มีท่าทางเช่นนี้

เพราะแม้แต่ต้องที่ฉินซื่อเถียนบรรลุสิบรูปขึ้นมาเมื่อสักครู่เขาก็ยังแค่ร้องลั่นด้วยความดีใจเท่านั้น

แต่ตอนนี้เขากลับมีท่าทางไม่อยากเชื่อ เช่นนั้นแล้วหมอกนั้นมันหมายถึงอะไร?

แต่ฝั่งซีเฉินและหลินฟางนั้นเมื่อได้เห็นก็นึกออกทันทีและต้องอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน

“เจ้าจะบอกว่านั่น…คือร่างวิญญาณหมอกหุ้ม? นี่มัน… เป็นไปได้หรือ?” ซีเฉินกล่าวขึ้น

ตงหยางนั้นสูดหายใจเข้าลึกปรับสติตัวเองก่อนจะตอบไป “ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าจะใช้อะไรมาอธิบายเรื่องที่เต๋าไฟยังไม่หยุดปะทุ? มันไม่ผิดแน่แล้ว มันต้องเป็นร่างวิญญาณหมอกหุ้ม!”

ไม่ไกลออกไปนั้นฉินซื่อเถียนก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมาร้อง “หรือว่าอาจารย์จะพูดถึง…ร่างวิญญาณหมอกหุ้มของเจ้าโลกบู๋เมี่ย?”

ตงหยางพยักหน้ารับกลับไป “ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าคิดว่าอาจารย์จะพูดถึงร่างวิญญาณหมอกหุ้มไหนได้อีก?”

เท่านั้นคนทั้งหลายก็ต้องผงะไปจนเกิดความแตกตื่นอย่างมากล้น

“หนึ่งในสามมหาเจ้าโลก เจ้าโลกบู๋เมี่ยผู้อมตะ? จะบอกว่าร่างวิญญาณที่เย่หยวนปลุกขึ้นมานี้มันคือร่างวิญญาณเดียวกับท่านหรือ?”

“หรือจะบอกว่าเย่หยวนนั้นอาจจะกำลังเดินในเส้นทางแห่งยอดฝีมือล้ำสวรรค์หรือ?”

“ร่างวิญญาณหมอกหุ้ม! มันเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเป็นร่างวิญญาณอมตะ! เหตุผลที่ท่านเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นได้ฉายานี้มาก็เพราะว่าท่านนั้นมีร่างวิญญาณที่สุดแสนแข็งแกร่งไม่อาจถูกสังหารลงได้ เป็นอมตะอย่างแท้จริง! หรือว่า…เย่หยวนจะกลายเป็นคนระดับนั้นได้?”

“ไม่…ไม่มีทางน่า? มันจะ…เช่นนั้นแล้วฉินซื่อเถียนจะไม่กลายเป็นตัวตลกไปหรือ?”

เผ่าวิญญาณนั้นมันมียอดมหาเจ้าโลกอยู่ทั้งสิ้นสามคนคือเจ้าโลกบู๋เมี่ยผู้อมตะ เจ้าโลกหลุนฮวยแห่งวัฏสงสาร เจ้าโลกเทียนเหวินวิญญาณสวรรค์!

เจ้าโลกหลุนฮวยและเจ้าโลกเทียนเหวินนั้นเป็นเจ้าโลกโกลาหลที่เกิดขึ้นมาจากทางตระกูลวิญญาณฉี

ส่วนเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเกิดขึ้นมาจากตระกูลวิญญาณนิพพาน!

ที่เรียกว่าเป็นยอดมหาเจ้าโลกนั้นมิใช่เพราะว่าพวกเขาเก่งกาจที่สุดบนสวรรค์นี้แต่เป็นเพราะว่าพวกเขานั้นเก่งกาจที่สุดในเผ่าพันธุ์วิญญาณในทุกสวรรค์รวมกัน!

เจ้าโลกหยุนซานนั้นเก่งกาจล้ำในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด

แต่ว่าเขาย่อมจะไม่อาจติดสามอันดับยอดฝีมือแรกของทั้งเผ่ามนุษย์ได้

แต่ว่าเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเป็นหนึ่งในสามเจ้าโลกที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าวิญญาณ!

ตอนนี้เย่หยวนกลับปลุกร่างวิญญาณเช่นเดียวกับเขาขึ้นมาได้ คนทั้งหลายจะตกตะลึงมันก็ไม่แปลก

เพราะร่างวิญญาณนี้มันทรงพลังเกินไป!

ไม่มีทางถูกสังหารลงไม่ว่าจะทำอย่างไร!

มันเรียกว่าเป็นร่างวิญญาณที่ประหลาดยิ่ง

ไม่ว่าจะเก่งกาจแค่ไหนแต่หากอีกฝ่ายไม่มีวันตายแล้วจะยังสู้อะไรกันได้?

แม้ว่าทั้งร่างวิญญาณหมอกหุ้มและร่างวิญญาณสิบรูปนั้นมันจะถูกยกย่องไว้สูงล้ำไม่อาจสังหารลงได้แต่มันก็ยังแตกต่างกันอยู่มาก!

เพราะร่างสิบรูปนั้นมันยังตายได้

แต่จนถึงตอนนี้มันยังไม่มีเจ้าโลกคนใดบนสวรรค์ที่จะสังหารเจ้าโลกบู๋เมี่ยลงได้!

ฉินซื่อเถียนนั้นจ้องมองเตาหลอมวิญญาณนั้นด้วยสายตาไม่อยากยอมรับ

มันเป็นไปได้อย่างไร?

สิบรูปนั้นมันย่อมมิใช่จุดสิ้นสุดของร่างวิญญาณ

เหนือจากสิบรูปนั้นมันยังมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อีกมากมายสามารถให้กำเนิดร่างวิญญาณที่มีพลังแตกต่างกันไปหลากหลาย

เหมือนดั่งตัวเจ้าโลกฟู่เทียนเมื่อสามหมื่นปีก่อน

เขาได้ปลุกร่างวิญญาณสวรรค์ทรราชขึ้นและทำชื่อเสียงให้เขาได้อย่างมหาศาล

แต่หลายต่อหลายปีมานี้มันมีร่างวิญญาณใหม่ๆ ถูกปลุกขึ้นมากมายแต่ยังไม่เคยมีร่างวิญญาณใดที่จะเหนือกว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้ม!

และตั้งแต่เจ้าโลกบู๋เมี่ยมานั้นมันไม่มีใครสามารถปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มได้อีกเลย

นี่มันคือร่างวิญญาณที่ปลุกขึ้นได้ยากเกินไป!

คิดมาถึงตรงนี้มันก็ไม่แปลกที่เผ่าวิญญาณจะตั้งไว้ว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นคือร่างวิญญาณที่ปลุกขึ้นได้ยากที่สุด!

มิใช่แค่หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุด แต่มันคือสิ่งยากที่สุด!

แต่ว่าวันนี้เย่หยวนกลับสามารถปลุกมันขึ้นมาได้! มันย่อมจะสร้างผลกระทบใหญ่หลวงในวันหน้า!

หลังจากหายตื่นเต้นแล้วตงหยางก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมา

เพราะหากโถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบของเขาสามารถมียอดอัจฉริยะที่ปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มขึ้นมาได้แล้วมันคงจะเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ล้ำ!

อย่างที่เขาว่า หากเจ้านายได้ดีลูกน้องก็จะพลอยได้ดีตามไปด้วย

สิบรูปนั้นมันจะมีค่าใดต่อหน้าร่างวิญญาณหมอกหุ้ม?

ได้เห็นสีหน้านั้นของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางตัวฉินซื่อเถียนก็ต้องทำหน้าเหยเก

เขานั้นย่อมเข้าใจความคิดของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง

ร่างวิญญาณนั้นมันขึ้นอยู่กับความหายาก

หากเย่หยวนสามารถปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มขึ้นมาได้จริงๆ

มันคงได้กลายเป็นสมบัติล้ำค่าของโถงวิญญาณนิพพานล้วนไม้สงบนี่แน่

ส่วนตัวเขาผู้มีร่างวิญญาณสิบรูปคนนี้มันคงไม่สำคัญใดๆ อีกต่อไป

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือเย่หยวนสามารถปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มขึ้นมาได้จริงหรือ?

“อาจารย์ ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมันเป็นร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกหล้า! ผ่านมากี่หมื่นปีแล้วมันเคยมีปรากฏขึ้นหรือ? มันจะปรากฏขึ้นมาง่ายๆ ได้อย่างไร? ในความคิดข้านั้นต่อให้เย่หยวนจะปลุกร่างวิญญาณพิเศษขึ้นมาได้มันก็คงแค่ดูคล้ายแต่มิใช่ร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริงๆ หรอก!” ฉินซื่อเถียนกล่าวขึ้นขัด

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางผงะไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับขึ้นมา

‘ก็จริง มีหรือที่ร่างวิญญาณหมอกหุ้มจะถูกปลุกขึ้นมาได้ง่ายๆ ด้วยแค่เงาเตาหลอมวิญญาณนี้?’

บนสามสิบสามสวรรค์นั้นมันมียอดคนเกิดขึ้นมาเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

แต่กี่ปีมาแล้วมันกลับมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มแค่หนึ่งเดียว!

ร่างวิญญาณรูปแบบอื่นไม่ว่าจะเป็นของที่หายากแค่ไหนมันก็เคยปรากฏซ้ำขึ้นทั้งสิ้น

มีเพียงแค่ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนี้ที่ไม่ปรากฏ

ร่างวิญญาณของคนจากตระกูลวิญญาณฉีนั้นมันเกิดมาจากความโกลาหลย่อมจะแตกต่างจากตระกูลวิญญาณนิพพาน

มหาจักรพรรดิตงหยางขมวดคิ้วแน่นกล่าว “แต่สภาพในตอนนี้ของเขามันไม่ต่างจากร่างวิญญาณหมอกหุ้มในตำนานจริงๆ!”

ฉินซื่อเถียนยิ้มกล่าวขึ้น “เผ่าวิญญาณเรานั้นมีบันทึกร่างวิญญาณมากมายเก็บไว้! หลังจากผ่านมาได้หลายหมื่นหลายแสนปีนี้มันก็ได้มีร่างวิญญาณใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอๆ บางทีร่างวิญญาณของเย่หยวนมันอาจจะคล้ายร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริงแต่ว่ามันอาจจะด้อยกว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้มมากก็ได้! มีหรือที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยที่สองจะเกิดขึ้นมาได้ง่ายๆ เช่นนี้?”

เมื่อคนทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ต้องพยักหน้ารับ!

หลายต่อหลายปีมานี้มันมีเจ้าโลกเกิดขึ้นในเผ่าวิญญาณมากมายและมีอีกมากมายที่ตายตกลง

แต่คนที่ยืนหยัดอยู่อย่างมั่นคงได้บนยอดนั้นมันคือสามยอดมหาเจ้าโลก!

ตระกูลวิญญาณนิพพานนั้นย่อมจะอยากให้มีเจ้าโลกคนใหม่ที่ขึ้นไปเทียบเคียงสามมหาเจ้าโลกได้

แต่ว่าพวกเขาไม่อาจจะทำ!

คำพูดของฉินซื่อเถียนนั้นมันทำให้คนทั้งหลายได้สติขึ้นมาทันที

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นพยักหน้ารับ “ที่ซื่อเถียนว่ามามันก็ถูก! แต่ว่าหากยังยืนมองระยะนี้ต่อไปพวกเจ้าจะได้ตายกันหมดแล้ว!”

ระหว่างที่คนทั้งหลายกำลังคุยกันไปนั้นเตาหลอมวิญญาณมันก็สั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งแสดงให้เห็นถึงหมอกที่หนามากขึ้น

จนสุดท้ายก็ถึงเวลาสี่ชั่วโมง

ตูม!

เสียงระเบิดดังลั่นขึ้นมาเพราะเตาหลอมวิญญาณนั้นระเบิดออกปล่อยเศษเสี้ยวพลังกระจัดกระจายไปทั่ว

เต๋าไฟนั้นมันพลุ่งพล่านอย่างไม่อาจหยุดยั้ง!

พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีหมอกหนาลงมาท่ามกลางไฟนั้น

สีหน้าของคนทั้งหลายขาวซีดลง!

สามมหาจักรพรรดิล้ำนั้นหรี่ตาลงพร้อมแยกย้ายกันไปสกัดเต๋าไฟและดับมันลงอย่างสุดกำลัง

พร้อมๆ กันนั้นหมอกหนามันก็ค่อยๆ รวมตัวกลับเข้ามาเป็นเงาร่างของเย่หยวนอีกครั้ง

“ซีด…”

คนทั้งหลายต่างต้องสูดหายใจลึกอย่างตกตะลึง

“ไม่ตายจริงๆ! ที่สำคัญไปกว่านั้นสภาพนี้มันยังเหมือนตำนานของร่างวิญญาณหมอกหุ้มไม่มีผิด!”

“หรือว่ามันจะได้มีร่างวิญญาณหุ้มที่สองปรากฏขึ้นหลังจากเจ้าโลกบู๋เมี่ยท่านจริงๆ?”

“เดิมทีข้านั้นคิดว่าเย่หยวนเป็นแค่หินให้ฉินซื่อเถียนเหยียบ แต่ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าเขานั้นเป็นหอคอยให้ฉินซื่อเถียนปีน!”

ในโถงวิญญาณนิพพานนั้นมันมีเสียงร้องกล่าวขึ้นรอบด้าน

ไม่มีใครคิดฝันว่าการทดสอบธรรมดาๆ วันหนึ่งมันจะกลายเป็นเช่นนี้ไป

อย่างแรกนั้นคือการที่ฉินซื่อเถียนบรรลุสิบรูปตามมาด้วยการที่เย่หยวนปลุกร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด!

เย่หยวนหันมามองหน้าฉินซื่อเถียนพร้อมกล่าวขึ้นด้วยความประหลาดใจ “อ่าว? ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะรอดเต๋าไฟโกลาหลสี่สิบสองอย่างมาได้จริงๆ! เจ้านี่มันมากพรสวรรค์ดีจริงๆ!”

คนทั้งหลายได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้นพร้อมหันไปมองหน้าฉินซื่อเถียน

ตอนนี้ตัวฉินซื่อเถียนได้แต่ทำหน้าแห้ง

‘ทำไมมันฟังดูเหมือนคำเย้ยหยัน?’

‘หากข้าเรียกว่าดีแล้วเจ้าจะเป็นตัวอะไรเล่า?’

………………………..