“ระเบิดไป! ระเบิด! ระเบิดไป!”
ฉินซื่อเถียนนั้นร้องลั่นขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งพร้อมระเบิดวิญญาณดาราที่ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องรอบกายเย่หยวน
แต่นอกจากความบิดเบี้ยวแล้วร่างกายของเย่หยวนมันกลับไม่แสดงท่าทีว่าจะพังทลายสลายลงใดๆ
ฉินซื่อเถียนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจ หรือว่าเจ้าบ้านี่จะมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริงๆ?
“ยอดอัจฉริยะของเรามีกำลังแค่นี้หรือ? หากมีแค่นี้เจ้าก็คงไร้ปัญญาจะทำให้ข้ากลายเป็นร่างหมอกด้วยซ้ำ!”
ท่ามกลางเสียงระเบิดนั้นเย่หยวนก็ได้กล่าวขึ้นมาเย้ยหยัน
ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงพลังของวิญญาณตนเองแล้ว!
จะอย่างไรเสียการโจมตีของฉินซื่อเถียนมันก็รุนแรงล้ำจริงๆ
หากมหาจักรพรรดิมายืนให้ฉินซื่อเถียนโจมตีเช่นนี้ตรงๆ อย่างไม่ป้องกันแล้วเขาคงได้ตายอย่างไร้ที่กลบฝังแน่
แต่เย่หยวนนั้นแม้จะไม่ใช่วิชาป้องกันใดๆ ออกมาฉินซื่อเถียนก็ยังไม่อาจจะทำร้ายเขาได้
ร่างวิญญาณนี้มันช่างถึกทนอย่างน่าเหลือเชื่อ!
จนสุดท้ายฉินซื่อเถียนก็หยุดมือลงไป
กระบวนท่าแรก พ่าย!
ร่างวิญญาณของเย่หยวนนั้นกลับมาตั้งตรงได้เหมือนเดิมราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เท่านี้คนทั้งหลายก็ยิ่งตกตะลึงกันเข้าไปใหญ่!
เพราะแม้แต่มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเองก็สัมผัสได้ถึงความมั่นคงของร่างวิญญาณที่เย่หยวนมี
ความมั่นคงระดับนี้ต่อให้จะเอาสิบรูปสิบคนมารวมกันมันก็ไม่มีทางทำได้
“ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้านั้นจะมีร่างวิญญาณอมตะจริงๆ!”
ฉินซื่อเถียนนั้นร้องลั่นออกมาพร้อมปล่อยคลื่นพลังวิญญาณรุนแรงล้ำอีกครั้ง!
กระบวนท่าสังหารนี้มันรุนแรงเสียยิ่งกว่าระเบิดวิญญาณดารา!
น่าเสียดายแค่ว่าเขาก็ยังไม่อาจจะทำอะไรเย่หยวนได้
ฉินซื่อเถียนนั้นมีวิชาติดตัวมากมาย เขานั้นปล่อยเก้ากระบวนท่าออกมาอย่างติดต่อกันและแต่ละกระบวนท่านั้นทรงพลังกว่าครั้งก่อนๆ เสมอ
เพียงแค่ว่าน่าเสียดายที่เย่หยวนนั้นมีร่างวิญญาณที่หนักแน่นเหมือนเสาเหล็ก ไม่ว่าจะโจมตีไปเท่าไหร่มันก็ไม่อาจจะล้มเขาลงได้
ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมันจะแสดงพลังออกมาอย่างแท้จริงก็ตอนที่แปลงเป็นหมอก
แต่ว่าฉินซื่อเถียนนั้นใช้เก้ากระบวนท่าออกมาแล้วเย่หยวนกลับยังไม่แปลงเป็นหมอกเลยสักครั้ง
คนทั้งโถงวิญญาณนิพพานนั้นต่างอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
“แข็งแกร่งนัก! นี่มัน… มันคือร่างวิญญาณหมอกหุ้ม?”
“ไม่มีจุดอ่อนเลย! ฉินซื่อเถียนเองก็มีร่างสิบรูปกอปรกับวิชาไม้ตายที่สามารถเทียบเคียงมหาจักรพรรดิได้นั้นแต่กลับไม่อาจจะทำอะไรร่างวิญญาณหมอกหุ้มนี้ได้เลย!”
“ร่างกายเช่นนี้ใครจะฆ่ามันลงได้กัน?”
…
ฉินซื่อเถียนนั้นไม่ผิด เขานั้นแข็งแกร่งอย่างมากล้นจริงๆ!
แต่ก็เพราะว่าความแข็งแกร่งของเขา มันยิ่งทำให้ร่างวิญญาณหมอกหุ้มน่ากลัวขึ้นอีกในสายตาคนทั้งหลาย!
ในตอนนี้คนทั้งหมดแทบจะเชื่อแล้วว่าเย่หยวนนั้นปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มขึ้นมาได้จริงๆ
เก้ากระบวนท่าผ่านไป ฉินซื่อเถียนก็ย่อมจะเหนื่อยอ่อนอย่างมาก
เย่หยวนยิ้มถามขึ้น “มันยังเหลืออีกกระบวนท่าหนึ่ง หากเจ้าสังหารข้าไม่ได้ข้าจะลงมือบ้างแล้ว”
ฉินซื่อเถียนกัดฟันแน่นขึ้นมา “เย่หยวน เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไป! กระบวนท่าที่สิบนี้มันจะทำให้เจ้าต้องเสียใจที่ท้าทายเช่นนี้! จะว่าไปแล้วข้าก็ต้องขอบคุณเจ้าด้วยเพราะหากไม่ได้เจ้าข้าก็คงไม่อาจบรรลุวิชานี้ขึ้นมาได้ นี่มันคือวรยุทธวิญญาณกึ่งกำเนิดของข้า!”
บนฝ่ามือของฉินซื่อเถียนนั้นมันค่อยๆ ปรากฏดวงจันทร์ลอยขึ้นมา
คลื่นพลังเต๋านั้นมันอันแน่นรอบด้าน
เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
“นี่มันวรยุทธวิญญาณกึ่งกำเนิด! ต้นแบบของวรยุทธวิญญาณกำเนิด!”
“เจ้าหมอนี่มันจะเก่งไปไหน? หากมันบรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้แล้วกระบวนท่านี้คงได้กลายเป็นวรยุทธวิญญาณกำเนิดแน่นอน!”
“หากมีเวลาฝึกฝนแล้วมันคงเป็นเจ้าโลกได้แน่ๆ!”
…
เมื่อเผ่ามนุษย์ฝึกฝนพลังคลื่นกำเนิดได้สำเร็จมันจะถูกเรียกว่าเป็นวิถีศักดิ์สิทธิ์
ส่วนเผ่าวิญญาณนั้นเมื่อสำเร็จวิชาจากพลังกำเนิดพวกเขาจะเรียกมันว่าวรยุทธวิญญาณกำเนิด!
แน่นอนว่าตัวฉินซื่อเถียนนั้นย่อมจะยังไม่อาจเข้าถึงพลังคลื่นกำเนิดได้และย่อมจะไม่มีทางบรรลุวรยุทธวิญญาณกำเนิดที่แท้จริง
แต่วรยุทธวิญญาณกึ่งกำเนิดนี้มันก็เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของเต๋า หากวันหน้าเข้าใจพลังคลื่นกำเนิดแล้วมันย่อมจะพัฒนาขึ้นไปได้ไม่ยาก
การสามารถทำเช่นนี้ได้ตั้งแต่เป็นจักรพรรดิเที่ยงนั้นมันย่อมจะมีแค่คนระดับฉินซื่อเถียนที่ทำได้
เพราะฉะนั้นคนทั้งหลายจึงตกตะลึงสุดใจ
การทดสอบเข้าโถงครั้งนี้มันมีเรื่องราวเหลือเชื่อเกิดขึ้นมากมายจนไม่อาจจะคาดเดาใดๆ ได้อีกต่อไป!
เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ถึงพลังของกระบวนท่านี้และต้องยิ้มออกมา “ค่อยน่าสนใจหน่อย!”
ฉินซื่อเถียนยิ้มตอบกลับไป “ค่อยน่าสนใจ? เย่หยวน ข้ายอมรับนะว่าเจ้ามันเก่งกาจแต่ว่าคนที่จะชนะสุดท้ายแล้วมันก็คือข้าคนนี้! จันทร์พ้องเยือก ทำลายมันเสีย!”
มันไม่มีคลื่นพลังซัดรุนแรงใดๆ มีเพียงแค่ความเย็นเยือกสีเงินที่เกิดขึ้นใต้เงาจันทร์นั้นปกคลุมร่างของเย่หยวนไว้
ครั้งนี้ร่างกายของเย่หยวนมันก็เริ่มจะเปลี่ยนรูปร่างไป!
ร่างวิญญาณของเขานั้นมันค่อยๆ แตกสลายหายลงไป!
เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
ฉินซื่อเถียนทำได้แล้ว!
ร่างของเย่หยวนตอนนี้มันแตกออกมาเป็นล้านๆ ชิ้นอย่างไม่เหลือชิ้นดี
วรยุทธวิญญาณกึ่งกำเนิดนั้นมันคือพลังที่เกิดขึ้นจากความเข้าใจต้นกำเนิดเต๋าวิญญาณ มันย่อมจะทรงพลังล้ำ
แต่ไม่นานเศษร่างกายทั้งหลายนั้นมันก็ค่อยๆ ระเหยขึ้นมาเป็นหมอกควัน
จากนั้นหมอกก็ค่อยๆ รวมตัวกัน
หมอกนั้นไม่ได้จางหายไปไหนและมุ่งหน้ากลับขึ้นไปสู่ดวงจันทร์สีเงิน
ความเย็นเยือกนั้นมันยังตกลงมาเรื่อยๆ แต่ด้วยความที่เป็นหมอกมันจึงไม่อาจจะทำอันตรายใดๆ ได้
ตูม!
ดวงจันทร์สว่างนั้นระเบิดออกส่งร่างของฉินซื่อเถียนปลิวออกไปพร้อมจางลงอย่างมาก
จากนั้นหมอกมันก็กลับมาก่อตัวเป็นร่างเย่หยวนอีกครั้ง
ฉินซื่อเถียนนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเก
เขาแพ้!
แพ้พ่ายยับเยิน!
จันทร์พ้องเยือกนั้นมันมีพลังถึงระดับกำเนิดแต่ว่ามันกลับยังไม่อาจทำอะไรเย่หยวนได้
“กระบวนท่านี้มันพอใช้ได้ แต่มันก็แค่พอใช้เท่านั้น ข้าไม่รู้หรอกว่าร่างวิญญาณของข้านั้นมันคือร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริงๆ หรือไม่แต่ข้าว่าแค่จัดการกับเจ้านี้มันคงเกินพอแล้ว ถึงเวลาที่ข้าจะลงมือบ้างแล้วสินะ!”
เย่หยวนมองตรงไปยังฉินซื่อเถียนและทำเพียงแค่มอง
มีหรือที่ฉินซื่อเถียนจะยอมแพ้อย่างไม่ขัดขืน?
เขานั้นเตรียมตัวที่จะสวนกลับเย่หยวนไปทุกเมื่อ
แต่จู่ๆ เขาก็พบว่าร่างกายของเขามันไม่อาจขยับได้
สติของเขานั้นเริ่มเลือนหาย
ร่างวิญญาณของเขาค่อยๆ สลายลง
ตอนนี้ยอดฝีมือในโถงวิญญาณนิพพานนั้นขนลุกตั้งกันทั้งกาย
เย่หยวนนั้นแค่มองหน้าฉินซื่อเถียนเท่านั้น ไม่ได้ลงมือโจมตีใดๆ แม้แต่น้อย
แต่เพียงแค่มองหน้าเท่านั้น!
ฉินซื่อเถียนผู้มีร่างวิญญาณสิบรูปก็ค่อยๆ สลายลงไปแล้ว!
คนทั้งหลายต่างสูดหายใจเข้าลึก นั่นมันเป็นถึงร่างวิญญาณสิบรูป!
ร่างวิญญาณสิบรูปในตำนานกลับไม่อาจป้องกันได้แม้แต่การมองหน้า?
“อ้ากก!”
ฉินซื่อเถียนร้องออกมาเมื่อรู้ตัวและพบว่าเสียงของตัวเองนั้นมันค่อยๆ จางหายไป…
จนสุดท้ายก็กลายเป็นความเงียบงัน
ทั้งโถงวิญญาณนิพพานนั้นเงียบกริบจนไร้เสียงใด
“ท่านเจ้าโถง เช่นนี้แล้วร่างวิญญาณของข้าจะเป็นร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริงๆ หรือไม่?” เย่หยวนหันไปถามมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง
เพราะจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่กล้าจะยืนยันว่าตัวเองนั้นมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริงๆ
อีกฝ่ายเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ต้องสะดุ้งตัวขึ้นมายิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “เรื่องนั้น ข้าเองก็ไม่ทราบได้ เจ้าโลกบู๋เมี่ยท่านนั้นอยู่เหนือฟ้าดินข้าไม่อาจจะเข้าไปรู้ถึงเรื่องของร่างวิญญาณหมอกหุ้มได้เลย แต่ดูจากสภาพแล้วมันเหมือนที่เขาพูดเล่ากันมาไม่มีผิดจริงๆ!”
เขาสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวขึ้นต่อ “เรื่องนี้มันมิใช่เรื่องเล็กๆ ท่านเจ้าโลกหนุ่มโปรดบ่มเพาะให้สบายใจในโถงวิญญาณนิพพานไปก่อน ข้าจะรายงานเรื่องนี้กลับเผ่าไปและขอให้พวกเขาส่งคนลงมาตรวจดูอีกครั้ง”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “เช่นนั้นคงต้องรบกวนท่านเจ้าโถงแล้ว”
ได้เห็นเย่หยวนเดินหายลับไปนั้นคนทั้งหลายก็ยังไม่อาจจะหุบปากที่อ้าค้างลงได้
ไม่ว่าเย่หยวนจะมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มหรือไม่ในตอนนี้มันก็ไม่สำคัญ เพราะว่าพลังของร่างวิญญาณนี้มันทรงพลังอย่างที่พวกเขาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน!